Saturday, December 30, 2017
Friday, December 29, 2017
Thursday, December 28, 2017
Wednesday, December 27, 2017
ดร. เพียงดิน รักไทย เข็มทิศประเทศไทย ๒๗ ธ.ค.๒๕๖๐ บทสรุปส่งท้ายปีเก่า เห...
หนึ่ง การกระชับระบอบ (การเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม)
สอง นับวันยิ่งเสียหาย และยิ่งรัดบด
สาม นักการเมืองโกง แต่ทหารโกงมากกว่า
สี่ สถาบันกษัตริย์พยายามรวบอำนาจและทรัพย์สิน เตรียมเผ่น
ห้า ทหารและเครือข่ายกำลังฝังราก
หก ไม่มีพระเอกหรือนางเอกมาช่วยได้ แต่จะเกิดผู้นำจากทุกสาขาอาชีพแทน
เจ็ด เอกภาพทางความคิดเกิดแล้ว แต่วีรบุรุษเอกชนจะมองไม่เห็น
แปด ให้ระวังแผนขวาพิฆาตซ้าย
เก้า ยุทธการไอโอและการข่าวแบบทหารถูกนำมาใข้อย่างเต็มรูปแบบ
สิบ การแก้ปัญหาไม่มีทางใช้แนวทางปฏิรูปได้อีกแล้ว ไม่ไล่ ไม่ล้ม แล้วสร้างใหม่ ไม่มีทางได้ประชาธิปไตย
Monday, December 18, 2017
Sunday, December 17, 2017
บิตคอยล์กลายเป็นสิ่งผิดกฏหมายในกะลาแลนด์
บิตคอยล์กลายเป็นสิ่งผิดกฏหมายตามบุหรี่ไฟฟ้าในกะลาแลนด์ไปแล้ว https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_670114
เพราะธุรกิจผูกขาดตัวหลักหนึ่งของไทย คือ ธนาคารนั่นเอง
Saturday, December 16, 2017
Thursday, December 14, 2017
Wednesday, December 13, 2017
Tuesday, December 12, 2017
Sunday, December 10, 2017
Saturday, December 9, 2017
Wednesday, December 6, 2017
Sunday, December 3, 2017
Thursday, November 30, 2017
Saturday, November 25, 2017
Thursday, November 23, 2017
Wednesday, November 22, 2017
Thailand 4.0 ตำนานการสิ้นชาติ และราชสกุล
**************************************
๐ ภาพเด็กไทย ในสังคม ระทมทุกข์
ทูตเถลิงสุข สนุกกระไร ฤาไม่เห็น
เด็กซูบแห้ง แล้งปัญญา ล้าลำเค็ญ
ชูประเด็น จนเข็ญใจ Thailand 4.0 ไทยแลนด์โฟร์ ฯ
๐ จัดงานเลี้ยง ก้องเกรียงไกร ในต่างชาติ
แต่ลูกหลาน อาหารขาด อนาถนัก...โถ
กงสุลเพลิน เดินเมืองนอก ออกใหญ่โต
แต่ภาพโชว์ ..เด็กโซทรุด ชุดขาดดำ ฯ
๐ เยาวชน ทุกหนแห่ง แกร่งกล้าหาญ
ข้าวก้นจาน ทานคลุกขยะ พระไม่ขำ
จงท่องบ่น สวดมนตร์ไป ใจจงจำ
ข้าวทุกคำ น้ำพระทัย ท่านให้มา ฯ
๐ เมื่อเติบใหญ่ ให้หมอบกราบ อย่างซาบซึ้ง
กะละมัง ลังถึง นึ่งข้าวหมา
ของฟูฟู ยังอยู่ดี มีราคา
กว่าข้าวปลา อาหารสมอง ของเด็กไทย ฯ
๐ หมดถ้อยคำ พร่ำรำพัน สวรรค์คงทราบ
ใครเห็นภาพ มือทาบอก ตกใจไหม
ฤาอนาคต หมดต้นกล้า ปัญญาไกร
คงเหลือไว้ เพียงไพร่บาป กราบธุลี ฯ
๐ ประชาชน อยู่ข้นแค้น แสนสาหัส
เด็กยากจน ทนอัตคัต รัฐเมินหนี
ส่งทูตมา ทำท่ากร่าง อย่างผู้ดี
รอพันปี อาจมีโชว์ ปิ่นโตทอง ฯ
๐ ปล่อยลูกหลาน คลานโหยหิว ท้องกิ่วกรอบ
ใต้ระบอบ ขอบพระคุณ การุณย์สนอง
ขอบคุณทูต พูดสมานสมัคร รักปรองดอง
ในขณะทึ่ พี่เพื่อนพ้อง ตัองขอทาน ฯ
๐ เอาเข้าไป ไทยแลนด์โฟร์ โชว์ทุกสิ่ง
แต่ยกเว้น ประเด็นจริง ผีสิงทหาร
ในภพหน้า ถ้าภาพนี้ มีวิญญาณ
คือตำนาน การสิ้นชาติ และราชสกุล ฯ
Created by Hands of the truth-holder.
22 November 2017
Thailand 4.0 ตำนานการสิ้นชาติ และราชสกุล
**************************************
๐ ภาพเด็กไทย ในสังคม ระทมทุกข์
ทูตเถลิงสุข สนุกกระไร ฤาไม่เห็น
เด็กซูบแห้ง แล้งปัญญา ล้าลำเค็ญ
ชูประเด็น จนเข็ญใจ Thailand 4.0 ไทยแลนด์โฟร์ ฯ
๐ จัดงานเลี้ยง ก้องเกรียงไกร ในต่างชาติ
แต่ลูกหลาน อาหารขาด อนาถนัก...โถ
กงสุลเพลิน เดินเมืองนอก ออกใหญ่โต
แต่ภาพโชว์ ..เด็กโซทรุด ชุดขาดดำ ฯ
๐ เยาวชน ทุกหนแห่ง แกร่งกล้าหาญ
ข้าวก้นจาน ทานคลุกขยะ พระไม่ขำ
จงท่องบ่น สวดมนตร์ไป ใจจงจำ
ข้าวทุกคำ น้ำพระทัย ท่านให้มา ฯ
๐ เมื่อเติบใหญ่ ให้หมอบกราบ อย่างซาบซึ้ง
กะละมัง ลังถึง นึ่งข้าวหมา
ของฟูฟู ยังอยู่ดี มีราคา
กว่าข้าวปลา อาหารสมอง ของเด็กไทย ฯ
๐ หมดถ้อยคำ พร่ำรำพัน สวรรค์คงทราบ
ใครเห็นภาพ มือทาบอก ตกใจไหม
ฤาอนาคต หมดต้นกล้า ปัญญาไกร
คงเหลือไว้ เพียงไพร่บาป กราบธุลี ฯ
๐ ประชาชน อยู่ข้นแค้น แสนสาหัส
เด็กยากจน ทนอัตคัต รัฐเมินหนี
ส่งทูตมา ทำท่ากร่าง อย่างผู้ดี
รอพันปี อาจมีโชว์ ปิ่นโตทอง ฯ
๐ ปล่อยลูกหลาน คลานโหยหิว ท้องกิ่วกรอบ
ใต้ระบอบ ขอบพระคุณ การุณย์สนอง
ขอบคุณทูต พูดสมานสมัคร รักปรองดอง
ในขณะทึ่ พี่เพื่อนพ้อง ตัองขอทาน ฯ
๐ เอาเข้าไป ไทยแลนด์โฟร์ โชว์ทุกสิ่ง
แต่ยกเว้น ประเด็นจริง ผีสิงทหาร
ในภพหน้า ถ้าภาพนี้ มีวิญญาณ
คือตำนาน การสิ้นชาติ และราชสกุล ฯ
Created by Hands of the truth-holder.
22 November 2017
Saturday, November 18, 2017
วิสัยทัศน์ ดร.เพียงดิน รักไทย ว่าด้วย เป้าหมายการเปลี่ยนระบอบ 15 ข้อ (2...
ปฏิญญาปวงชน ว่าด้วยรัฐประธิปไตยไทย
ปฎิญญาแห่งชาติของประชาชน
ว่าด้วยรัฐประชาธิปไตยแห่งประเทศไทย
ว่าด้วยรัฐประชาธิปไตยแห่งประเทศไทย
The People’s National Declaration of a Democratic State of Thailand
ร่างฉบับแก้ไขครั้งที่สอง
ประเทศไทยในยุคศตวรรษที่ 21 มีองค์ประกอบทางเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม การศึกษา และการเมือง ที่พร้อมสำหรับการเป็นรัฐประชาธิปไตยสมบูรณ์อย่างถาวร เพราะปวงชนชาวไทย ส่วนใหญ่เข้าใจในหลักการพื้นฐานสำหรับการปกครองแบบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ว่าอำนาจอธิปไตย อันเป็นอำนาจสูงสุดนั้นเป็นของประชาชน หาใช่ของกษัตริย์หรือกลุ่มอภิสิทธิชนใด ๆ ไม่ นอกจากนี้ มหาประชาชนยังได้รับรู้ถึงปัญหาเชิงโครงสร้าง ภายใต้ระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ที่มีพัฒนาการไปในทางทำลายล้าง และนำไปสู่ความตกต่ำของประเทศ จนกลายไปสู่การปกครองแบบเผด็จการซ่อนรูปดังที่ประจักษ์แก่สายตาประชาชนทั่วไปในศกนี้ โดยสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่สามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงและความต้องการของประชาชนได้ แถมถูกมองว่าเป็นศูนย์กลางของปัญหาความขัดแย้งเสียเอง โดยมีสถาบันทหารและตำรวจ สถาบันการเมือง กลุ่มผลประโยชน์ทางธุรกิจและสื่อ กลุ่มนักวิชาการและหน่วยงานอิสระหัวเอียงขวา และชนชั้นศักดินาหรืออภิสิทธิชน ผู้ซึ่งได้ปรากฎชัดออกมาจากการเลือกตั้งในระยะสองทศวรรษหลังนี้ ว่าเป็นคนส่วนน้อยของประเทศนั้น สามารถใช้อำนาจพิเศษ แย่งชิงหรือปล้นอำนาจ ของประชาชนส่วนใหญ่ ของประเทศไปใช้เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวและพรรคพวก ทำให้ประเทศชาติเสียหายอย่างมหาศาล ดังเห็นได้จากหนี้สินที่รัฐบาลเผด็จการซ่อนรูปของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งอยู่ภายใต้ การเป็นประมุขของกษัตริย์ภูมิพลและพระราชินีสิริกิตต์ ที่สร้างหนี้สินให้กับประเทศ เกือบหนึ่งล้านห้าแสนล้านล้านบาท (1,500,000,000,000 บาท) ภายในเวลาแค่สองปีกว่า ๆ โดยหว่านเงินไปกับโครงการที่หาประโยชน์ อันจับต้องได้หรือมีผลระยะยาวไม่ได้ และได้ทุ่มงบประมาณให้กับงานของกองทัพ ที่สร้างความวุ่นวายในประเทศและกับประเทศข้างเคียงบังหน้า แต่โดยเนื้อแท้แล้ว เพื่อตอบสนองต่อการปันผลประโยชน์จากเงินภาษีอากรของปวงชน และเพื่อการสร้างสถานการณ์ อันนำไปสู่บิดเบือนความจริงของการลุกฮือขึ้นมาทวงอำนาจของประชาชนหัวก้าวหน้า และการให้โอกาสกองทัพในการใช้สถานการณ์เข่นฆ่าประชาชนจากช่องโหว่ในกฎหมายที่อาศัยความสงบแห่งชาติมาอ้าง เพื่อใส่ร้ายให้ปวงชนผู้บริสุทธิ์กลายเป็นผู้ก่อการร้าย และภายในสถานการณ์ที่ชาติเสียหายแสนสาหัสเหล่านี้ กษัตริย์ไทยกลับกลายเป็นราชวงศ์ที่รวยที่สุดในโลก มีทรัพย์สินถึงสามหมื่นล้านเหรียญ หรือประมาณเก้าแสนล้านล้านบาท (900,000,000,000 บาท) ติดต่อกันหลายปี โดยมีทรัพย์สินรวมห่างจากอันดับสองถึงหมื่นล้านเหรียญ หรือประมาณสามหมื่นล้านบาท พร้อมกันนี้ ช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนส่วนใหญ่ก็ได้ถ่างออกไปอย่างมหาศาล สร้างความเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า จากการที่รายได้หดหาย แต่รายจ่ายเพิ่มขึ้น และที่สำคัญที่สุดคือ เกิดการแตกแยกของประชาชนในชาติ โดยการโหมกระพือของสื่อแห่งรัฐและสื่อเอกชนที่ไร้จรรยาบรรณ ที่ได้่สร้างกระแสความเกลียดชัง และต่อต้านความเจริญงอกงามของระบอบประชาธิปไตย โดยที่กลไกของรัฐที่ดูแลสื่อสารมวลชนก็รู้เห็นเป็นใจ ด้วยการปล่อยให้สื่อฝ่ายขวา เพาะเชื้อมะเร็งร้าย ให้กับสังคมโดยสะดวก ในขณะเดียวกันกับที่ พวกเขาใช้อำนาจจากกฎหมายหมิ่นกษัตริย์ และ พรบ. ว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ เพื่อปิดหูปิดตาประชาชนอย่างบ้าคลั่งในการไล่ปิดสื่อทุกรูปแบบ ของฝ่ายประชาชนหัวก้าวหน้าหรือเหล่าเสรีชน ผู้ต้องการเสรีประชาธิปไตยอันสมบูรณ์
บัดนี้เหล่ามหาประชาชนต้องการแสดงออกถึงเจตนารมย์อันชัดแจ้งว่า ได้เข้าใจปัญหาของชาติ ตามประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาหลายทศวรรษ อันถูกทำให้เกิดขึ้นโดยการกระทำของกลุ่มคนข้างต้น ที่ทำตัวเป็นปฎิปักษ์ต่อการพัฒนาเสรีประชาธิปไตยทุกรูปแบบ และเป็นการขัดกับหลักสากล แห่งความมีเสรีภาพ เสมอภาค และบรรยากาศแห่งการมีสันติสุขร่วมกันฉันท์พี่น้องร่วมชาติ รวมถึงการอยู่ดีกินดี ของมวลมหาประชาชนไทย โดยพวกเขาได้ปล้นอำนาจอธิปไตยไป ด้วยอำนาจสั่งการที่อยู่ เหนือระบบกฎหมายและศีลธรรม จนทำให้กลายเป็นการปกครองที่ ไม่ใช่ของประชาชนที่เอื้อประโยชน์แก่มหาชนอย่างแท้จริง ดังปรากฎชัดว่า คณะผู้ทรยศต่อระบอบ ประชาธิปไตยเหล่านี้ ได้ดำเนินการปล้นอำนาจจากประชาชนด้วยการรัฐประหาร แล้วเขียนกฎหมายกบถ พร้อมตั้งคณะกรรมการต่าง ๆ ขึ้นมาสานต่อการบีฑาและย่ำยี ทุกความพยายาม และทุกตัวแทนของประชาชนที่ใฝ่ประชาธิปไตยอันสมบูรณ์ ทำให้ตัวแทนประชาชน และประชาชนทั้งหลาย ที่ลุกขึ้นมาต่อสู้ด้วยมือเปล่า ถูกกดขี่และฆ่าฟันในระบอบปัจจุบัน และผลของระบอบเผด็จการซ่อนรูปนี้ ก็ไม่ได้ให้คุณประโยชน์แก่ประชาชนแต่ประการใด
ด้วยเหตุดังกล่าวทั้งหมด ปวงชนชาวไทยทั้งหลาย จึงได้ลงนามต่อท้ายปฎิญญาฉบับนี้ เพื่อแสดงให้เห็นถึงเจตนารมย์ในการวางหลักการสำหรับการก้าวไปข้างหน้าของประเทศไทย
โดยมีรายละเอียดที่จักขอประกาศให้คนไทยรุ่นปัจจุบันและรุ่นลูกหลานสืบต่อไป เพื่อได้รับรู้ และรับเอาไว้เป็นหลักการสำหรับการจัดการบริหารอำนาจอธิปไตยและกลไกของรัฐไทย สืบต่อไปชั่วกัลปาวสานต์ ดังนี้
- พลเมืองทุกหมู่เหล่าของชาติไทย ต้องอยู่รวมกันแบบรัฐชาติเดียว และถึงแม้จะมีความหลากหลายด้านชาติพันธุ์กำเนิด ศาสนาหรือลัทธิความเชื่อ ฯลฯ คนทุกหมู่เหล่าต้องได้รับการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพโดยรัฐ ภายใต้กฎหมายเดียวกัน ด้วยมาตรฐานความเป็นธรรม เพื่อสร้างความผาสุกร่วมกัน โดยไม่มีการแตกแยกหรือล่วงเกินระหว่างกัน หรือใช้ความรุนแรงเหนือกฎหมาย สำหรับการแก้ปัญหาหรือข้อขัดแย้งใด ๆ ทั้งสิ้น
- ในกิจการปกครองประเทศทุกด้าน จักต้องผ่านกระบวนการของอำนาจอธิปไตย ที่เป็นของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชนอย่างสมบูรณ์ ปราศจากการแทรกแซง หมกเม็ดโดยสถาบันหรือองค์กรใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งในตัวบทกฎหมายและการปฎิบัติ
- บ้านเมืองต้องได้รับการประกันให้เกิดเสรีภาพและความเสมอภาค บนบรรยากาศแห่งความเป็นพี่น้องภายใต้วัฒนธรรมอันดีงามของไทย และวัฒนธรรมใหม่อันเป็นอารยะสากล ที่เคารพหลักสิทธิมนุษยชนสากล พร้อมกับความเป็นนิติรัฐ ที่ทุกคนเท่าเทียมกันในฐานะมนุษย์และพลเมืองภายใต้กฎหมาย
- การพัฒนาของประชาธิปไตยไทย ต้องให้ผ่านขั้นตอนทางประชาธิปไตยภายใต้กฎหมาย ที่อยู่ในกรอบของรัฐธรรมนูญที่เป็นไปตามเจตนารมย์ในปฎิญญkนี้ โดยไม่มีข้อยกเว้นหรือ การบิดเบือนในรูปแบบใด ๆ ทั้งสิ้น อำนาจและผลประโยชน์ต้องเป็นของและเป็นไปเพื่อประชาชนโดยแท้จริง
- สถาบันกษัตริย์ต้องหลุดพ้นจากการเกี่ยวข้องกับอำนาจอธิปไตย หรือมีอิทธิพลใด ๆ ต่อระบบหรือกลไกทุกอย่างในสังคมอย่างสิ้นเชิง และจะมีตัวแทนใด ๆ ไปยุ่งเกี่ยวกับอำนาจอธิปไตย และกิจกรรมของประชาชนไม่ได้โดยเด็ดขาด ระบบทุนผูกขาดและกลไกอันไม่เป็นประชาธิปไตยที่ครอบงำประเทศ ต้องถูกทดแทนด้วยระบบที่ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุดจากทรัพยากร การบริหารเงินภาษี และจากการใช้อำนาจของตัวแทนประชาชนสูงสุดด้านบริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการ
- การปฎิวัติหรือรัฐประหารโดยกำลังกองทัพเป็นสิ่งต้องห้าม จะต้องไม่เกิดขึ้นอีกด้วยเหตุใด ๆ ทั้งสิ้น ผู้ก่อการจะต้องโทษในฐานะกบถ และไม่สามารถอ้างการเป็นรัฐถาธิปัตย์ ด้วยวิธีหรือเหตุใด ๆ ทั้งสิ้น
- การยุบพรรคการเมืองจะกระทำไม่ได้ด้วยวิธีการใดทั้งสิ้น และการตั้งกรรมการอิสระใด ๆ จะกระทำโดยบุคคลผู้ใช้อำนาจ ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชนมิได้ ผู้เข้ารับตำแหน่งทางการเมืองและกิจการของรัฐ กินเงินเดือนภาษีประชาชน ที่มียศขั้นตั้งแต่ระดับเก้าหรือเทียบเท่าขึ้นไป ต้องผ่านการตรวจสอบและยอมรับ จากตัวแทนจากรัฐสภาก่อนรับตำแหน่ง
- ประมุขสูงสุดผู้ใช้อำนาจอธิปไตยทั้งสามฝ่าย ต้องมาโดยการเลือกตั้ง ของประชาชนโดยทางตรงหรือทางอ้อมเท่านั้น จะใช้วิธีการอื่นใดมิได้ และบุคคลในตำแหน่งสำคัญ ๆ ต้องได้รับการตรวจสอบ และอนุมัติจากตัวแทนประชาชนก่อนเสมอ
- สื่อสารมวลชน คือแสงไฟที่ส่องสว่างสะท้อนภาพความจริงของสังคม เพื่อเสริมให้ประชาชนและกลไกต่าง ๆ ในประเทศเกิดปัญญา สื่อสารมวลชนที่ดีต้องถือหลักแห่งการเสนอข้อมูลจากทุกด้าน ไม่มีอคติ ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด หรือถูกกลุ่มผลประโยชน์ใดบงการ รัฐจักต้องประกันความมีเสรีภาพในการนำเสนอข้อมูล แต่ให้มีการควบคุมโดยกลไกของรัฐและประชาชน ที่ถือจรรยาบรรณอันชัดเจนเป็นหลัก สำหรับการพิจารณา ควบคุม และกำกับการทำงานของสื่อ
- การศึกษาและการวิจัยเพื่อพัฒนาบุคลากรและประเทศชาติ เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง สำหรับการเป็นรากฐาน และหัวใจของการก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง และท้นต่อโลก รัฐจะต้องเน้นการจัดการศึกษาและส่งเสริมการวิจัยให้มากกว่าการลงทุนด้านการ ทหาร
- ทหารมีหน้าที่ปกป้องประเทศเป็นหลัก ไม่มีหน้าที่ยุ่งเกี่ยวกับกิจการพลเรือน ทหารเป็นอาชีพที่มีเกียรติและบุญคุณกับประเทศ ต้องมีการพฤติกรรมให้สมกับเกียรติ แต่ทหารกินเงินเดือนจากประชาชน ดังนั้น ทหารจะต้องรับใช้ประชาชนเป็นหลัก ไม่ใช่กลุ่มผลประโยชน์กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ทหารต้องอยู่ใต้การบังคับบัญชา ของนายกรัฐมนตรี หรือประมุขฝ่ายบริหาร ผู้เป็นจอมทัพในระหว่างที่ดำรงตำแหน่งด้วย และการจะประกาศศึกใด ๆ กับประเทศเพื่อนบ้าน จะต้องได้รับการเห็นชอบของประมุขสามฝ่าย คือฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ และตุลากรก่อน
- ตำรวจ เป็นผุ้ดูแลใกล้ชิดกับประชาชน และพิทักษ์ภัยให้ประชาชนในทุกอนูของประเทศ อาชีพตำรวจเป็นอาชีพมีเกียรติ และควรได้รับเกียรติเช่นเดียวกับทหาร แต่ผู้สั่งการตำรวจในทุกอำเภอและจังหวัด ต้องได้ผ่านการเลือกตั้งโดยตรง โดยประชาชน
กฎหมายรัฐธรรมนูญ และการตรากฎหมายอื่นใด ตลอดจนการดำนเนินการของรัฐ และหน่วยงานรัฐใด ๆ จักขัดแย้งหรือทำให้เกิดผลอันขัดกับหลักเบื้องต้นนี้ไม่ได้โดยเด็ดขาด เจตนารมย์ของประชาชนไทยผู้ได้ลงชื่อไว้เป็นหลักฐานต่อท้ายปฎิญญาฉบับนี้ี้ ถูกร่างและขัดเกลาด้วยเจตนาบริสุทธิ์ของตัวแทนปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า เพื่อวางรากฐานประเทศ เพื่อการวัฒนาถาวรของชาติ และเพื่อให้สืบเป็นมรดกถาวรไปยังลูกหลานไทยในอนาคต เพื่อเป็นหางเสือและเสาหลักสำหรับการพัฒนาประเทศตลอดไปตราบนานแสนนาน
เมื่อได้อ่านทำความเข้าใจในเนื้อหาสาระข้างต้น และเห็นด้วยกับข้อความดังกล่าวทุกประการแล้ว บรรดาข้าพเจ้าทั้งหลาย จึงขอลงลายมือชื่อไว้เป็นประจักษ์พยานสืบต่อไป
ปวงชนชาวไทย
วิสัยทัศน์ ดร.เพียงดิน รักไทย ว่าด้วย เป้าหมายการเปลี่ยนระบอบ 15 ข้อ (2...
ปฏิญญาปวงชน ว่าด้วยรัฐประธิปไตยไทย
ปฎิญญาแห่งชาติของประชาชน
ว่าด้วยรัฐประชาธิปไตยแห่งประเทศไทย
ว่าด้วยรัฐประชาธิปไตยแห่งประเทศไทย
The People’s National Declaration of a Democratic State of Thailand
ร่างฉบับแก้ไขครั้งที่สอง
ประเทศไทยในยุคศตวรรษที่ 21 มีองค์ประกอบทางเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม การศึกษา และการเมือง ที่พร้อมสำหรับการเป็นรัฐประชาธิปไตยสมบูรณ์อย่างถาวร เพราะปวงชนชาวไทย ส่วนใหญ่เข้าใจในหลักการพื้นฐานสำหรับการปกครองแบบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ว่าอำนาจอธิปไตย อันเป็นอำนาจสูงสุดนั้นเป็นของประชาชน หาใช่ของกษัตริย์หรือกลุ่มอภิสิทธิชนใด ๆ ไม่ นอกจากนี้ มหาประชาชนยังได้รับรู้ถึงปัญหาเชิงโครงสร้าง ภายใต้ระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ที่มีพัฒนาการไปในทางทำลายล้าง และนำไปสู่ความตกต่ำของประเทศ จนกลายไปสู่การปกครองแบบเผด็จการซ่อนรูปดังที่ประจักษ์แก่สายตาประชาชนทั่วไปในศกนี้ โดยสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่สามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงและความต้องการของประชาชนได้ แถมถูกมองว่าเป็นศูนย์กลางของปัญหาความขัดแย้งเสียเอง โดยมีสถาบันทหารและตำรวจ สถาบันการเมือง กลุ่มผลประโยชน์ทางธุรกิจและสื่อ กลุ่มนักวิชาการและหน่วยงานอิสระหัวเอียงขวา และชนชั้นศักดินาหรืออภิสิทธิชน ผู้ซึ่งได้ปรากฎชัดออกมาจากการเลือกตั้งในระยะสองทศวรรษหลังนี้ ว่าเป็นคนส่วนน้อยของประเทศนั้น สามารถใช้อำนาจพิเศษ แย่งชิงหรือปล้นอำนาจ ของประชาชนส่วนใหญ่ ของประเทศไปใช้เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวและพรรคพวก ทำให้ประเทศชาติเสียหายอย่างมหาศาล ดังเห็นได้จากหนี้สินที่รัฐบาลเผด็จการซ่อนรูปของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งอยู่ภายใต้ การเป็นประมุขของกษัตริย์ภูมิพลและพระราชินีสิริกิตต์ ที่สร้างหนี้สินให้กับประเทศ เกือบหนึ่งล้านห้าแสนล้านล้านบาท (1,500,000,000,000 บาท) ภายในเวลาแค่สองปีกว่า ๆ โดยหว่านเงินไปกับโครงการที่หาประโยชน์ อันจับต้องได้หรือมีผลระยะยาวไม่ได้ และได้ทุ่มงบประมาณให้กับงานของกองทัพ ที่สร้างความวุ่นวายในประเทศและกับประเทศข้างเคียงบังหน้า แต่โดยเนื้อแท้แล้ว เพื่อตอบสนองต่อการปันผลประโยชน์จากเงินภาษีอากรของปวงชน และเพื่อการสร้างสถานการณ์ อันนำไปสู่บิดเบือนความจริงของการลุกฮือขึ้นมาทวงอำนาจของประชาชนหัวก้าวหน้า และการให้โอกาสกองทัพในการใช้สถานการณ์เข่นฆ่าประชาชนจากช่องโหว่ในกฎหมายที่อาศัยความสงบแห่งชาติมาอ้าง เพื่อใส่ร้ายให้ปวงชนผู้บริสุทธิ์กลายเป็นผู้ก่อการร้าย และภายในสถานการณ์ที่ชาติเสียหายแสนสาหัสเหล่านี้ กษัตริย์ไทยกลับกลายเป็นราชวงศ์ที่รวยที่สุดในโลก มีทรัพย์สินถึงสามหมื่นล้านเหรียญ หรือประมาณเก้าแสนล้านล้านบาท (900,000,000,000 บาท) ติดต่อกันหลายปี โดยมีทรัพย์สินรวมห่างจากอันดับสองถึงหมื่นล้านเหรียญ หรือประมาณสามหมื่นล้านบาท พร้อมกันนี้ ช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนส่วนใหญ่ก็ได้ถ่างออกไปอย่างมหาศาล สร้างความเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า จากการที่รายได้หดหาย แต่รายจ่ายเพิ่มขึ้น และที่สำคัญที่สุดคือ เกิดการแตกแยกของประชาชนในชาติ โดยการโหมกระพือของสื่อแห่งรัฐและสื่อเอกชนที่ไร้จรรยาบรรณ ที่ได้่สร้างกระแสความเกลียดชัง และต่อต้านความเจริญงอกงามของระบอบประชาธิปไตย โดยที่กลไกของรัฐที่ดูแลสื่อสารมวลชนก็รู้เห็นเป็นใจ ด้วยการปล่อยให้สื่อฝ่ายขวา เพาะเชื้อมะเร็งร้าย ให้กับสังคมโดยสะดวก ในขณะเดียวกันกับที่ พวกเขาใช้อำนาจจากกฎหมายหมิ่นกษัตริย์ และ พรบ. ว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ เพื่อปิดหูปิดตาประชาชนอย่างบ้าคลั่งในการไล่ปิดสื่อทุกรูปแบบ ของฝ่ายประชาชนหัวก้าวหน้าหรือเหล่าเสรีชน ผู้ต้องการเสรีประชาธิปไตยอันสมบูรณ์
บัดนี้เหล่ามหาประชาชนต้องการแสดงออกถึงเจตนารมย์อันชัดแจ้งว่า ได้เข้าใจปัญหาของชาติ ตามประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาหลายทศวรรษ อันถูกทำให้เกิดขึ้นโดยการกระทำของกลุ่มคนข้างต้น ที่ทำตัวเป็นปฎิปักษ์ต่อการพัฒนาเสรีประชาธิปไตยทุกรูปแบบ และเป็นการขัดกับหลักสากล แห่งความมีเสรีภาพ เสมอภาค และบรรยากาศแห่งการมีสันติสุขร่วมกันฉันท์พี่น้องร่วมชาติ รวมถึงการอยู่ดีกินดี ของมวลมหาประชาชนไทย โดยพวกเขาได้ปล้นอำนาจอธิปไตยไป ด้วยอำนาจสั่งการที่อยู่ เหนือระบบกฎหมายและศีลธรรม จนทำให้กลายเป็นการปกครองที่ ไม่ใช่ของประชาชนที่เอื้อประโยชน์แก่มหาชนอย่างแท้จริง ดังปรากฎชัดว่า คณะผู้ทรยศต่อระบอบ ประชาธิปไตยเหล่านี้ ได้ดำเนินการปล้นอำนาจจากประชาชนด้วยการรัฐประหาร แล้วเขียนกฎหมายกบถ พร้อมตั้งคณะกรรมการต่าง ๆ ขึ้นมาสานต่อการบีฑาและย่ำยี ทุกความพยายาม และทุกตัวแทนของประชาชนที่ใฝ่ประชาธิปไตยอันสมบูรณ์ ทำให้ตัวแทนประชาชน และประชาชนทั้งหลาย ที่ลุกขึ้นมาต่อสู้ด้วยมือเปล่า ถูกกดขี่และฆ่าฟันในระบอบปัจจุบัน และผลของระบอบเผด็จการซ่อนรูปนี้ ก็ไม่ได้ให้คุณประโยชน์แก่ประชาชนแต่ประการใด
ด้วยเหตุดังกล่าวทั้งหมด ปวงชนชาวไทยทั้งหลาย จึงได้ลงนามต่อท้ายปฎิญญาฉบับนี้ เพื่อแสดงให้เห็นถึงเจตนารมย์ในการวางหลักการสำหรับการก้าวไปข้างหน้าของประเทศไทย
โดยมีรายละเอียดที่จักขอประกาศให้คนไทยรุ่นปัจจุบันและรุ่นลูกหลานสืบต่อไป เพื่อได้รับรู้ และรับเอาไว้เป็นหลักการสำหรับการจัดการบริหารอำนาจอธิปไตยและกลไกของรัฐไทย สืบต่อไปชั่วกัลปาวสานต์ ดังนี้
- พลเมืองทุกหมู่เหล่าของชาติไทย ต้องอยู่รวมกันแบบรัฐชาติเดียว และถึงแม้จะมีความหลากหลายด้านชาติพันธุ์กำเนิด ศาสนาหรือลัทธิความเชื่อ ฯลฯ คนทุกหมู่เหล่าต้องได้รับการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพโดยรัฐ ภายใต้กฎหมายเดียวกัน ด้วยมาตรฐานความเป็นธรรม เพื่อสร้างความผาสุกร่วมกัน โดยไม่มีการแตกแยกหรือล่วงเกินระหว่างกัน หรือใช้ความรุนแรงเหนือกฎหมาย สำหรับการแก้ปัญหาหรือข้อขัดแย้งใด ๆ ทั้งสิ้น
- ในกิจการปกครองประเทศทุกด้าน จักต้องผ่านกระบวนการของอำนาจอธิปไตย ที่เป็นของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชนอย่างสมบูรณ์ ปราศจากการแทรกแซง หมกเม็ดโดยสถาบันหรือองค์กรใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งในตัวบทกฎหมายและการปฎิบัติ
- บ้านเมืองต้องได้รับการประกันให้เกิดเสรีภาพและความเสมอภาค บนบรรยากาศแห่งความเป็นพี่น้องภายใต้วัฒนธรรมอันดีงามของไทย และวัฒนธรรมใหม่อันเป็นอารยะสากล ที่เคารพหลักสิทธิมนุษยชนสากล พร้อมกับความเป็นนิติรัฐ ที่ทุกคนเท่าเทียมกันในฐานะมนุษย์และพลเมืองภายใต้กฎหมาย
- การพัฒนาของประชาธิปไตยไทย ต้องให้ผ่านขั้นตอนทางประชาธิปไตยภายใต้กฎหมาย ที่อยู่ในกรอบของรัฐธรรมนูญที่เป็นไปตามเจตนารมย์ในปฎิญญkนี้ โดยไม่มีข้อยกเว้นหรือ การบิดเบือนในรูปแบบใด ๆ ทั้งสิ้น อำนาจและผลประโยชน์ต้องเป็นของและเป็นไปเพื่อประชาชนโดยแท้จริง
- สถาบันกษัตริย์ต้องหลุดพ้นจากการเกี่ยวข้องกับอำนาจอธิปไตย หรือมีอิทธิพลใด ๆ ต่อระบบหรือกลไกทุกอย่างในสังคมอย่างสิ้นเชิง และจะมีตัวแทนใด ๆ ไปยุ่งเกี่ยวกับอำนาจอธิปไตย และกิจกรรมของประชาชนไม่ได้โดยเด็ดขาด ระบบทุนผูกขาดและกลไกอันไม่เป็นประชาธิปไตยที่ครอบงำประเทศ ต้องถูกทดแทนด้วยระบบที่ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุดจากทรัพยากร การบริหารเงินภาษี และจากการใช้อำนาจของตัวแทนประชาชนสูงสุดด้านบริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการ
- การปฎิวัติหรือรัฐประหารโดยกำลังกองทัพเป็นสิ่งต้องห้าม จะต้องไม่เกิดขึ้นอีกด้วยเหตุใด ๆ ทั้งสิ้น ผู้ก่อการจะต้องโทษในฐานะกบถ และไม่สามารถอ้างการเป็นรัฐถาธิปัตย์ ด้วยวิธีหรือเหตุใด ๆ ทั้งสิ้น
- การยุบพรรคการเมืองจะกระทำไม่ได้ด้วยวิธีการใดทั้งสิ้น และการตั้งกรรมการอิสระใด ๆ จะกระทำโดยบุคคลผู้ใช้อำนาจ ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชนมิได้ ผู้เข้ารับตำแหน่งทางการเมืองและกิจการของรัฐ กินเงินเดือนภาษีประชาชน ที่มียศขั้นตั้งแต่ระดับเก้าหรือเทียบเท่าขึ้นไป ต้องผ่านการตรวจสอบและยอมรับ จากตัวแทนจากรัฐสภาก่อนรับตำแหน่ง
- ประมุขสูงสุดผู้ใช้อำนาจอธิปไตยทั้งสามฝ่าย ต้องมาโดยการเลือกตั้ง ของประชาชนโดยทางตรงหรือทางอ้อมเท่านั้น จะใช้วิธีการอื่นใดมิได้ และบุคคลในตำแหน่งสำคัญ ๆ ต้องได้รับการตรวจสอบ และอนุมัติจากตัวแทนประชาชนก่อนเสมอ
- สื่อสารมวลชน คือแสงไฟที่ส่องสว่างสะท้อนภาพความจริงของสังคม เพื่อเสริมให้ประชาชนและกลไกต่าง ๆ ในประเทศเกิดปัญญา สื่อสารมวลชนที่ดีต้องถือหลักแห่งการเสนอข้อมูลจากทุกด้าน ไม่มีอคติ ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด หรือถูกกลุ่มผลประโยชน์ใดบงการ รัฐจักต้องประกันความมีเสรีภาพในการนำเสนอข้อมูล แต่ให้มีการควบคุมโดยกลไกของรัฐและประชาชน ที่ถือจรรยาบรรณอันชัดเจนเป็นหลัก สำหรับการพิจารณา ควบคุม และกำกับการทำงานของสื่อ
- การศึกษาและการวิจัยเพื่อพัฒนาบุคลากรและประเทศชาติ เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง สำหรับการเป็นรากฐาน และหัวใจของการก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง และท้นต่อโลก รัฐจะต้องเน้นการจัดการศึกษาและส่งเสริมการวิจัยให้มากกว่าการลงทุนด้านการ ทหาร
- ทหารมีหน้าที่ปกป้องประเทศเป็นหลัก ไม่มีหน้าที่ยุ่งเกี่ยวกับกิจการพลเรือน ทหารเป็นอาชีพที่มีเกียรติและบุญคุณกับประเทศ ต้องมีการพฤติกรรมให้สมกับเกียรติ แต่ทหารกินเงินเดือนจากประชาชน ดังนั้น ทหารจะต้องรับใช้ประชาชนเป็นหลัก ไม่ใช่กลุ่มผลประโยชน์กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ทหารต้องอยู่ใต้การบังคับบัญชา ของนายกรัฐมนตรี หรือประมุขฝ่ายบริหาร ผู้เป็นจอมทัพในระหว่างที่ดำรงตำแหน่งด้วย และการจะประกาศศึกใด ๆ กับประเทศเพื่อนบ้าน จะต้องได้รับการเห็นชอบของประมุขสามฝ่าย คือฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ และตุลากรก่อน
- ตำรวจ เป็นผุ้ดูแลใกล้ชิดกับประชาชน และพิทักษ์ภัยให้ประชาชนในทุกอนูของประเทศ อาชีพตำรวจเป็นอาชีพมีเกียรติ และควรได้รับเกียรติเช่นเดียวกับทหาร แต่ผู้สั่งการตำรวจในทุกอำเภอและจังหวัด ต้องได้ผ่านการเลือกตั้งโดยตรง โดยประชาชน
กฎหมายรัฐธรรมนูญ และการตรากฎหมายอื่นใด ตลอดจนการดำนเนินการของรัฐ และหน่วยงานรัฐใด ๆ จักขัดแย้งหรือทำให้เกิดผลอันขัดกับหลักเบื้องต้นนี้ไม่ได้โดยเด็ดขาด เจตนารมย์ของประชาชนไทยผู้ได้ลงชื่อไว้เป็นหลักฐานต่อท้ายปฎิญญาฉบับนี้ี้ ถูกร่างและขัดเกลาด้วยเจตนาบริสุทธิ์ของตัวแทนปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า เพื่อวางรากฐานประเทศ เพื่อการวัฒนาถาวรของชาติ และเพื่อให้สืบเป็นมรดกถาวรไปยังลูกหลานไทยในอนาคต เพื่อเป็นหางเสือและเสาหลักสำหรับการพัฒนาประเทศตลอดไปตราบนานแสนนาน
เมื่อได้อ่านทำความเข้าใจในเนื้อหาสาระข้างต้น และเห็นด้วยกับข้อความดังกล่าวทุกประการแล้ว บรรดาข้าพเจ้าทั้งหลาย จึงขอลงลายมือชื่อไว้เป็นประจักษ์พยานสืบต่อไป
ปวงชนชาวไทย
Friday, November 17, 2017
Thursday, November 16, 2017
Wednesday, November 15, 2017
ล่าแม่มดภาคใต้ ความป่าเถื่อนบ้าคลั่งของคนรักเจ้า เหยื่อสุภาพสตรีรายนี้ เ...
ล่าแม่มดภาคใต้ ความป่าเถื่อนบ้าคลั่งของคนรักเจ้า เหยื่อสุภาพสตรีรายนี้ เป็นอย่างไรบ้าง?
https://youtu.be/eDxKrIunbyI
ล่าแม่มดภาคใต้ ความป่าเถื่อนบ้าคลั่งของคนรักเจ้า เหยื่อสุภาพสตรีรายนี้ เ...
ล่าแม่มดภาคใต้ ความป่าเถื่อนบ้าคลั่งของคนรักเจ้า เหยื่อสุภาพสตรีรายนี้ เป็นอย่างไรบ้าง?
https://youtu.be/eDxKrIunbyI
จะโทษใคร? สังคมตกต่ำ เยาวชนจิตใจโหดเหี้ยมรุนแรง ขาดคุณภาพอารยชน
จะโทษใคร? สังคมตกต่ำ เยาวชนจิตใจโหดเหี้ยมรุนแรง ขาดคุณภาพอารยชน
https://youtu.be/Z10hGaxxuqQ
****************************
หากท่านคิดดี หวังดี และมั่นใจในความดีของท่าน ขอให้ปาวารณาตัว ร่วมเป็นมดแดงล้มช้าง ได้ที่
http://tinyurl.com/o2rzao8
หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt
หากลิ้งค์ข้างบนถูกบล็อก ให้ส่งรายละเอียดไปที่ 4everche@gmail.com โดยระบุ 1. ชื่อ (จัดตั้งหรือชื่อกลุ่ม) 2. จำนวนสมาชิกในเครือข่าย 3. จังหวัดและอำเภอ 4. อีเมล์ 5. ไลน์หรือเบอร์โทรศัพท์ 6. อาชีพของท่านหรือสมาชิก
จะโทษใคร? สังคมตกต่ำ เยาวชนจิตใจโหดเหี้ยมรุนแรง ขาดคุณภาพอารยชน
จะโทษใคร? สังคมตกต่ำ เยาวชนจิตใจโหดเหี้ยมรุนแรง ขาดคุณภาพอารยชน
https://youtu.be/Z10hGaxxuqQ
****************************
หากท่านคิดดี หวังดี และมั่นใจในความดีของท่าน ขอให้ปาวารณาตัว ร่วมเป็นมดแดงล้มช้าง ได้ที่
http://tinyurl.com/o2rzao8
หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt
หากลิ้งค์ข้างบนถูกบล็อก ให้ส่งรายละเอียดไปที่ 4everche@gmail.com โดยระบุ 1. ชื่อ (จัดตั้งหรือชื่อกลุ่ม) 2. จำนวนสมาชิกในเครือข่าย 3. จังหวัดและอำเภอ 4. อีเมล์ 5. ไลน์หรือเบอร์โทรศัพท์ 6. อาชีพของท่านหรือสมาชิก
Monday, November 13, 2017
Sunday, November 12, 2017
อ. ชูพงศ์ ถี่ถ้วน (๑๓ พ.ยง ๖๐) ต่อด้วย ดร. เพียงดิน รักไทย ตอน ยึดหลัก ปชต. นำทาง ยึดอำนาจคืนประชาชน
อ. ชูพงศ์ ถี่ถ้วน (๑๓ พ.ยง ๖๐) ต่อด้วย ดร. เพียงดิน รักไทย ตอน ยึดหลัก ปชต. นำทาง ยึดอำนาจคืนประชาชน
https://youtu.be/dg3GtoDhC2U
---------------------
***Download ร่างจดหมาย เพื่อส่งผู้นำนานาชาติต่าง ๆ ที่ http://tinyurl.com/gsetacg
***โปรดช่วยกันกระจายและส่งให้มากที่สุดนะครับ ขอบคุณครับ
สนับสนุนแนวทางมดแดงล้มช้าง ของ คณะราษฎรเสรีไทย กับ ดร. เพียงดิน
ส่งข้อมูลลับผ่านช่องทางที่ปลอดภัยทางลิ้งค์ต่อไปนี้
http://tinyurl.com/o2rzao8
หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt
****ลิ้งค์ล่าสุด http://tinyurl.com/gssuvm2
และรายงานการปฏิบัติงานและความคืบหน้าเครือข่าย ได้ที่ 4everche@gmail.com
----------------------
สนับสนุนการเผยแพร่โดย ภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน และมหาวิทยาลัยประชาชน เพื่อสาธารณะประโยชน์ ในการสร้างจิตสำนึกทางประชาธิปไตย สันติวิธี และการเคารพหลักสิทธิมนุษยชน
Copyright notice:
This video is protected under the “Fair Use Copyright Act of 1976” for the purposes of education, news reporting, research, criticism and public discussion.
อ. ชูพงศ์ ถี่ถ้วน (๑๓ พ.ยง ๖๐) ต่อด้วย ดร. เพียงดิน รักไทย ตอน ยึดหลัก ปชต. นำทาง ยึดอำนาจคืนประชาชน
อ. ชูพงศ์ ถี่ถ้วน (๑๓ พ.ยง ๖๐) ต่อด้วย ดร. เพียงดิน รักไทย ตอน ยึดหลัก ปชต. นำทาง ยึดอำนาจคืนประชาชน
https://youtu.be/dg3GtoDhC2U
---------------------
***Download ร่างจดหมาย เพื่อส่งผู้นำนานาชาติต่าง ๆ ที่ http://tinyurl.com/gsetacg
***โปรดช่วยกันกระจายและส่งให้มากที่สุดนะครับ ขอบคุณครับ
สนับสนุนแนวทางมดแดงล้มช้าง ของ คณะราษฎรเสรีไทย กับ ดร. เพียงดิน
ส่งข้อมูลลับผ่านช่องทางที่ปลอดภัยทางลิ้งค์ต่อไปนี้
http://tinyurl.com/o2rzao8
หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt
****ลิ้งค์ล่าสุด http://tinyurl.com/gssuvm2
และรายงานการปฏิบัติงานและความคืบหน้าเครือข่าย ได้ที่ 4everche@gmail.com
----------------------
สนับสนุนการเผยแพร่โดย ภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน และมหาวิทยาลัยประชาชน เพื่อสาธารณะประโยชน์ ในการสร้างจิตสำนึกทางประชาธิปไตย สันติวิธี และการเคารพหลักสิทธิมนุษยชน
Copyright notice:
This video is protected under the “Fair Use Copyright Act of 1976” for the purposes of education, news reporting, research, criticism and public discussion.
อ. ชูพงศ์ ถี่ถ้วน (๑๓ พ.ยง ๖๐) ต่อด้วย ดร. เพียงดิน รักไทย ตอน ยึดหลัก ปชต. นำทาง ยึดอำนาจคืนประชาชน
อ. ชูพงศ์ ถี่ถ้วน (๑๓ พ.ยง ๖๐) ต่อด้วย ดร. เพียงดิน รักไทย ตอน ยึดหลัก ปชต. นำทาง ยึดอำนาจคืนประชาชน
https://youtu.be/dg3GtoDhC2U
---------------------
***Download ร่างจดหมาย เพื่อส่งผู้นำนานาชาติต่าง ๆ ที่ http://tinyurl.com/gsetacg
***โปรดช่วยกันกระจายและส่งให้มากที่สุดนะครับ ขอบคุณครับ
สนับสนุนแนวทางมดแดงล้มช้าง ของ คณะราษฎรเสรีไทย กับ ดร. เพียงดิน
ส่งข้อมูลลับผ่านช่องทางที่ปลอดภัยทางลิ้งค์ต่อไปนี้
http://tinyurl.com/o2rzao8
หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt
****ลิ้งค์ล่าสุด http://tinyurl.com/gssuvm2
และรายงานการปฏิบัติงานและความคืบหน้าเครือข่าย ได้ที่ 4everche@gmail.com
----------------------
สนับสนุนการเผยแพร่โดย ภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน และมหาวิทยาลัยประชาชน เพื่อสาธารณะประโยชน์ ในการสร้างจิตสำนึกทางประชาธิปไตย สันติวิธี และการเคารพหลักสิทธิมนุษยชน
Copyright notice:
This video is protected under the “Fair Use Copyright Act of 1976” for the purposes of education, news reporting, research, criticism and public discussion.
ดร. เพียงดิน รักไทย ๑๒ พ.ย. ๒๕๖๐ ตอน การจัดทัพปฏิวัติปวงชนแบบเน้น มุ่งเป...
ดร. เพียงดิน รักไทย ๑๒ พ.ย. ๒๕๖๐ ตอน การจัดทัพปฏิวัติปวงชนแบบเน้น มุ่งเป้า หวังผล ตาดูดาว เท้าติดดิน
https://youtu.be/0GwAZUiqomw
https://youtu.be/Z43tAh73o78
---------------------
***Download ร่างจดหมาย เพื่อส่งผู้นำนานาชาติต่าง ๆ ที่ http://tinyurl.com/gsetacg
***โปรดช่วยกันกระจายและส่งให้มากที่สุดนะครับ ขอบคุณครับ
สนับสนุนแนวทางมดแดงล้มช้าง ของ คณะราษฎรเสรีไทย กับ ดร. เพียงดิน
ส่งข้อมูลลับผ่านช่องทางที่ปลอดภัยทางลิ้งค์ต่อไปนี้
http://tinyurl.com/o2rzao8
หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt
****ลิ้งค์ล่าสุด http://tinyurl.com/gssuvm2
และรายงานการปฏิบัติงานและความคืบหน้าเครือข่าย ได้ที่ 4everche@gmail.com
----------------------
สนับสนุนการเผยแพร่โดย ภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน และมหาวิทยาลัยประชาชน เพื่อสาธารณะประโยชน์ ในการสร้างจิตสำนึกทางประชาธิปไตย สันติวิธี และการเคารพหลักสิทธิมนุษยชน
Copyright notice:
This video is protected under the “Fair Use Copyright Act of 1976” for the purposes of education, news reporting, research, criticism and public discussion.
ดร. เพียงดิน รักไทย ๑๒ พ.ย. ๒๕๖๐ ตอน การจัดทัพปฏิวัติปวงชนแบบเน้น มุ่งเป...
ดร. เพียงดิน รักไทย ๑๒ พ.ย. ๒๕๖๐ ตอน การจัดทัพปฏิวัติปวงชนแบบเน้น มุ่งเป้า หวังผล ตาดูดาว เท้าติดดิน
https://youtu.be/0GwAZUiqomw
https://youtu.be/Z43tAh73o78
---------------------
***Download ร่างจดหมาย เพื่อส่งผู้นำนานาชาติต่าง ๆ ที่ http://tinyurl.com/gsetacg
***โปรดช่วยกันกระจายและส่งให้มากที่สุดนะครับ ขอบคุณครับ
สนับสนุนแนวทางมดแดงล้มช้าง ของ คณะราษฎรเสรีไทย กับ ดร. เพียงดิน
ส่งข้อมูลลับผ่านช่องทางที่ปลอดภัยทางลิ้งค์ต่อไปนี้
http://tinyurl.com/o2rzao8
หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt
****ลิ้งค์ล่าสุด http://tinyurl.com/gssuvm2
และรายงานการปฏิบัติงานและความคืบหน้าเครือข่าย ได้ที่ 4everche@gmail.com
----------------------
สนับสนุนการเผยแพร่โดย ภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน และมหาวิทยาลัยประชาชน เพื่อสาธารณะประโยชน์ ในการสร้างจิตสำนึกทางประชาธิปไตย สันติวิธี และการเคารพหลักสิทธิมนุษยชน
Copyright notice:
This video is protected under the “Fair Use Copyright Act of 1976” for the purposes of education, news reporting, research, criticism and public discussion.
Friday, November 10, 2017
Thursday, November 9, 2017
Wednesday, November 8, 2017
Monday, November 6, 2017
“ถ่วงความเจริญ” วัฒนา เมืองสุข
“ถ่วงความเจริญ”
คำพูดของพลเอกประยุทธ์ที่อ้างเหตุยังไม่ปลดล็อกพรรคการเมืองว่า ขอเอาเรื่องประชาชนก่อนการเมืองเอาไว้ทีหลัง ทำให้ผมสิ้นสงสัยถึงระดับสติปัญญาและพฤติกรรมที่กลับกลอกของท่านผู้นำ ท่านคงไม่ทราบว่าการเมืองเป็นเรื่องของประชาชน การจำกัดสิทธิทางการเมืองคือการละเมิดสิทธิมนุษยชน ทั้งที่ท่านผู้นำเพิ่งไปทำแถลงการณ์ร่วมกับสหรัฐตกลงจะปกป้องและสนับสนุนสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐาน (ตามข้อ 8)ไม่ทันไรท่านผู้นำก็ทำตรงข้ามกับที่พูดไว้อันเป็นนิสัยถาวรของท่าน
พลเอกประยุทธ์ไปพูดที่โรงเรียนเก่าของตัว อวดอ้างความกล้าหาญที่ยอมเสี่ยงชีวิตเข้ายึดอำนาจ ความจริงคือการขนกำลังทหารพร้อมอาวุธมายึดอำนาจจากรัฐบาลมือเปล่าที่มีผู้นำเป็นหญิง เกือบสี่ปีที่บริหารประเทศมีแต่เรื่องฉาวโฉ่ของตัวและพวกพ้อง เริ่มจากการอนุมัติให้องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกรับงานโดยไม่ต้องประกวดราคาแล้วเอางานไปขายชักหัวคิวแบ่งกัน อุทยานราชภักดิ์ แอบซื้อเรือดำน้ำช่วงสงกรานต์ อนุมัติงบกลางจัดซื้อเครื่องตรวจจับความเร็ว ที่เสียหายมากคือการใช้อำนาจเผด็จการสั่งปิดเหมืองทองจนอาจถูกเรียกค่าไร้สติปัญญาถึง 30,000 ล้าน แต่ท่านผู้นำกลับอ้างว่าตนไม่ต้องรับผิดชอบเพราะมีมาตรา 44 จะทำอะไรก็ได้โดยไม่มีใครทำอะไรท่านได้
คำพูดของพลเอกประยุทธ์ที่อ้างเหตุยังไม่ปลดล็อกพรรคการเมืองว่า ขอเอาเรื่องประชาชนก่อนการเมืองเอาไว้ทีหลัง ทำให้ผมสิ้นสงสัยถึงระดับสติปัญญาและพฤติกรรมที่กลับกลอกของท่านผู้นำ ท่านคงไม่ทราบว่าการเมืองเป็นเรื่องของประชาชน การจำกัดสิทธิทางการเมืองคือการละเมิดสิทธิมนุษยชน ทั้งที่ท่านผู้นำเพิ่งไปทำแถลงการณ์ร่วมกับสหรัฐตกลงจะปกป้องและสนับสนุนสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐาน (ตามข้อ 8)ไม่ทันไรท่านผู้นำก็ทำตรงข้ามกับที่พูดไว้อันเป็นนิสัยถาวรของท่าน
พลเอกประยุทธ์ไปพูดที่โรงเรียนเก่าของตัว อวดอ้างความกล้าหาญที่ยอมเสี่ยงชีวิตเข้ายึดอำนาจ ความจริงคือการขนกำลังทหารพร้อมอาวุธมายึดอำนาจจากรัฐบาลมือเปล่าที่มีผู้นำเป็นหญิง เกือบสี่ปีที่บริหารประเทศมีแต่เรื่องฉาวโฉ่ของตัวและพวกพ้อง เริ่มจากการอนุมัติให้องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกรับงานโดยไม่ต้องประกวดราคาแล้วเอางานไปขายชักหัวคิวแบ่งกัน อุทยานราชภักดิ์ แอบซื้อเรือดำน้ำช่วงสงกรานต์ อนุมัติงบกลางจัดซื้อเครื่องตรวจจับความเร็ว ที่เสียหายมากคือการใช้อำนาจเผด็จการสั่งปิดเหมืองทองจนอาจถูกเรียกค่าไร้สติปัญญาถึง 30,000 ล้าน แต่ท่านผู้นำกลับอ้างว่าตนไม่ต้องรับผิดชอบเพราะมีมาตรา 44 จะทำอะไรก็ได้โดยไม่มีใครทำอะไรท่านได้
พลเอกประยุทธ์มักยกย่องตัวเอง แต่ชอบกล่าวหานักการเมืองที่มาจากประชาชนว่าทำบ้านเมืองเสียหาย ถ้าพลเอกประยุทธ์กล้าไปเดินตลาดคนเดียวจะทราบว่าประชาชนยากลำบากเพราะการยึดอำนาจและการบริหารที่ไร้ประสิทธิภาพเพียงใด หรือหากอยากรู้ความจริงลองกำหนดการเลือกตั้งให้เร็วขึ้นและประกาศว่าท่านจะวางมือจากการเมือง ถ้าหุ้นตกแปลว่าท่านเป็นที่ต้องการของประชาชน แต่ถ้าหุ้นขึ้นและสัญญาณทางเศรษฐกิจดีขึ้นนั่นคือคำตอบว่าใครเป็นตัวถ่วงความเจริญของบ้านเมือง อยากรู้มั้ยท่านผู้นำ
วัฒนา เมืองสุข
สมาชิกพรรคเพื่อไทย
5 พฤศจิกายน 2560
วัฒนา เมืองสุข
สมาชิกพรรคเพื่อไทย
5 พฤศจิกายน 2560
“ถ่วงความเจริญ” วัฒนา เมืองสุข
“ถ่วงความเจริญ”
คำพูดของพลเอกประยุทธ์ที่อ้างเหตุยังไม่ปลดล็อกพรรคการเมืองว่า ขอเอาเรื่องประชาชนก่อนการเมืองเอาไว้ทีหลัง ทำให้ผมสิ้นสงสัยถึงระดับสติปัญญาและพฤติกรรมที่กลับกลอกของท่านผู้นำ ท่านคงไม่ทราบว่าการเมืองเป็นเรื่องของประชาชน การจำกัดสิทธิทางการเมืองคือการละเมิดสิทธิมนุษยชน ทั้งที่ท่านผู้นำเพิ่งไปทำแถลงการณ์ร่วมกับสหรัฐตกลงจะปกป้องและสนับสนุนสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐาน (ตามข้อ 8)ไม่ทันไรท่านผู้นำก็ทำตรงข้ามกับที่พูดไว้อันเป็นนิสัยถาวรของท่าน
พลเอกประยุทธ์ไปพูดที่โรงเรียนเก่าของตัว อวดอ้างความกล้าหาญที่ยอมเสี่ยงชีวิตเข้ายึดอำนาจ ความจริงคือการขนกำลังทหารพร้อมอาวุธมายึดอำนาจจากรัฐบาลมือเปล่าที่มีผู้นำเป็นหญิง เกือบสี่ปีที่บริหารประเทศมีแต่เรื่องฉาวโฉ่ของตัวและพวกพ้อง เริ่มจากการอนุมัติให้องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกรับงานโดยไม่ต้องประกวดราคาแล้วเอางานไปขายชักหัวคิวแบ่งกัน อุทยานราชภักดิ์ แอบซื้อเรือดำน้ำช่วงสงกรานต์ อนุมัติงบกลางจัดซื้อเครื่องตรวจจับความเร็ว ที่เสียหายมากคือการใช้อำนาจเผด็จการสั่งปิดเหมืองทองจนอาจถูกเรียกค่าไร้สติปัญญาถึง 30,000 ล้าน แต่ท่านผู้นำกลับอ้างว่าตนไม่ต้องรับผิดชอบเพราะมีมาตรา 44 จะทำอะไรก็ได้โดยไม่มีใครทำอะไรท่านได้
คำพูดของพลเอกประยุทธ์ที่อ้างเหตุยังไม่ปลดล็อกพรรคการเมืองว่า ขอเอาเรื่องประชาชนก่อนการเมืองเอาไว้ทีหลัง ทำให้ผมสิ้นสงสัยถึงระดับสติปัญญาและพฤติกรรมที่กลับกลอกของท่านผู้นำ ท่านคงไม่ทราบว่าการเมืองเป็นเรื่องของประชาชน การจำกัดสิทธิทางการเมืองคือการละเมิดสิทธิมนุษยชน ทั้งที่ท่านผู้นำเพิ่งไปทำแถลงการณ์ร่วมกับสหรัฐตกลงจะปกป้องและสนับสนุนสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐาน (ตามข้อ 8)ไม่ทันไรท่านผู้นำก็ทำตรงข้ามกับที่พูดไว้อันเป็นนิสัยถาวรของท่าน
พลเอกประยุทธ์ไปพูดที่โรงเรียนเก่าของตัว อวดอ้างความกล้าหาญที่ยอมเสี่ยงชีวิตเข้ายึดอำนาจ ความจริงคือการขนกำลังทหารพร้อมอาวุธมายึดอำนาจจากรัฐบาลมือเปล่าที่มีผู้นำเป็นหญิง เกือบสี่ปีที่บริหารประเทศมีแต่เรื่องฉาวโฉ่ของตัวและพวกพ้อง เริ่มจากการอนุมัติให้องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกรับงานโดยไม่ต้องประกวดราคาแล้วเอางานไปขายชักหัวคิวแบ่งกัน อุทยานราชภักดิ์ แอบซื้อเรือดำน้ำช่วงสงกรานต์ อนุมัติงบกลางจัดซื้อเครื่องตรวจจับความเร็ว ที่เสียหายมากคือการใช้อำนาจเผด็จการสั่งปิดเหมืองทองจนอาจถูกเรียกค่าไร้สติปัญญาถึง 30,000 ล้าน แต่ท่านผู้นำกลับอ้างว่าตนไม่ต้องรับผิดชอบเพราะมีมาตรา 44 จะทำอะไรก็ได้โดยไม่มีใครทำอะไรท่านได้
พลเอกประยุทธ์มักยกย่องตัวเอง แต่ชอบกล่าวหานักการเมืองที่มาจากประชาชนว่าทำบ้านเมืองเสียหาย ถ้าพลเอกประยุทธ์กล้าไปเดินตลาดคนเดียวจะทราบว่าประชาชนยากลำบากเพราะการยึดอำนาจและการบริหารที่ไร้ประสิทธิภาพเพียงใด หรือหากอยากรู้ความจริงลองกำหนดการเลือกตั้งให้เร็วขึ้นและประกาศว่าท่านจะวางมือจากการเมือง ถ้าหุ้นตกแปลว่าท่านเป็นที่ต้องการของประชาชน แต่ถ้าหุ้นขึ้นและสัญญาณทางเศรษฐกิจดีขึ้นนั่นคือคำตอบว่าใครเป็นตัวถ่วงความเจริญของบ้านเมือง อยากรู้มั้ยท่านผู้นำ
วัฒนา เมืองสุข
สมาชิกพรรคเพื่อไทย
5 พฤศจิกายน 2560
วัฒนา เมืองสุข
สมาชิกพรรคเพื่อไทย
5 พฤศจิกายน 2560
นักศึกษาไทยมีไม่พอ มหาวิทยาลัยอาจต้องปิดตัว
ประเทศ ไทยก็กำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย ซึ่งก็จะก่อให้เกิดปัญหามีแรงงานไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดแรงงาน และอีกปัญหาหนึ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเรามีจำนวนคนหนุ่มสาวน้อยกว่าผู้สูงอายุก็ คือจำนวนนักศึกษาลดน้อยลง ซึ่งทำให้มหาวิทยาลัยหลายๆแห่งขณะนี้มีจำนวนนักศึกษาไม่เพียงพอจนอาจถึงขั้น ต้องปิดมหาวิทยาลัย
ICEF (ไอเซฟ) Monitor ซึ่งเป็นแหล่งรวมข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจการศึกษานานาชาติ รายงานว่าช่องว่างระหว่างจำนวนนักศึกษาและมหาวิทยาลัยในไทยเพิ่มขึ้นอย่าง ต่อเนื่อง นัานก็คือมีมหาวิทยาลัยมากเกินความต้องการของนักศึกษา โดย ICEF Monitor ระบุว่า ปีที่แล้ว (2016) มหาวิทยาลัยของไทยมีที่นั่งว่างสำหรับรับนักศึกษาระดับปริญญาตรีอยู่ 110,000 ที่นั่ง แต่มีนักเรียนเข้ามาสมัครเพียง 80,000 คน ลดลงจากปีก่อนหน้าที่มีคนสมัคร 100,000 คน ซึ่งจำนวนนักศึกษาที่ลดน้อยลงเรื่อยๆในแต่ละปี ทำให้มหาวิมยาลัยหลายแห่งประสบปัญหาภาระงานขั้นต่ำไม่เพียงพอ เนื่องจากมีนักศึกษาไม่ครบจำนวนที่จะเปิดการเรียนการสอนและนับเป็นภาระงาน ขั้นต่ำได้ จนต้องปิดหลักสูตร และโอนย้ายนักศึกษาไปเรียนหลักสูตรอื่นแทน ขณะที่มหาวิทยาลัยอื่นๆก็มีราย ได้ลดลงไปมาก ส่งผลให้แทบทุกแห่งต้องลดมาตรฐานในการคัดเลือกนักศึกษาลงมา เมื่อลดมาตรฐานการคัดเลือกนักศึกษาลงมาก็ส่งผลให้คุณภาพการศึกษาตกต่ำลงไป ด้วย
สาเหตุที่มหาวิทยาลัยของไทยเจอกับปัญหามีนักศึกษาไม่พอกับ จำนวนที่นั่ง นอกจากจะมีมหาวิทยาลัยเปิดมากเกินไปและปัญหาสังคมผู้สูงอายุแล้ว แผนการพัฒนาระบบการศึกษาของไทยยังคงไร้ทิศทาง ซึ่งจริงๆแล้ว ประเทศไทยไม่ได้ต้องการคนที่เรียนจบปริญญาตรีหรือปริญญาโทมาก มายอะไรขนาดนั้น แต่สิ่งที่ประเทศไทยขาดแคลนจริงๆ คือกลุ่มคนที่เรียนจบด้านอาชีวะศึกษาหรือสายอาชีพต่างๆ ซึ่งคนไทยไม่นิยมเรียน เพียงเพราะมีค่านิยมว่าต้องเรียนจบปริญญาถึงจะเรียกว่าประสบความสำเร็จ ทำให้ไทยมีคนเรียนจบสายบริหารหรือธุรกิจออกมาล้นมากมาย แต่สายวิชาชีพ เช่น วิทยาศาสตร์, เทคโนโลยี, หรือช่าง ล้วนขาดแคลนอย่างหนัก โดยเฉพาะพยาบาลซึ่งผลิตได้ไม่เพียงพอกับความต้องการของประเทศและกำลังเป็น ปัญหาใหญ่ขณะนี้
ขณะที่จำนวนนักศึกษาไทยที่ออกไปเรียนในต่างประเทศก็ ค่อยๆเพิ่มขึ้นในแต่ละปี จากที่เคยอยู่ที่ประมาณปีละ 23,000 คนเมื่อปี 2006 เพิ่มเป็น 28,000 คน เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งก็สะท้อนภาพรวมของเศรษฐกิจไทยที่เข้มแข็งขึ้นทำให้คนมีเงินส่งลูกไป เรียนต่างประเทศได้มากขึ้น แต่อีกแง่มุมหนึ่งก็สะท้อนว่ามีคนไม่เชื่อมั่นในระบบการศึกษาของไทยเพิ่มมาก ขึ้น จึงเลือกที่จะไปเรียนในต่างประเทศมากกว่า
สิ่งที่ประเทศไทยต้อง รีบทำก็คือการวางแผนการศึกษาแห่งชาติ ซึ่งจะต้องกำหนดทั้งจำนวนบัณฑิตที่จะผลิตในแต่ละปี ให้ตรงกับความต้องการ สาขาใดที่มีคนเรียนจบล้นเกินความต้องการหรือไม่ได้คุณภาพก็จำเป็นต้องค่อยๆ ลดจำนวนลงและปิดหลักสูตรไป ไม่ใช่ปล่อยให้แต่ละมหาวิทยาลัยแข่งกันเปิดหลักสูตรได้โดยเสรีเพื่อแย่งราย ได้ ซึ่งหากปัญหานี้ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง เราจะได้เห็นมหาวิทยาลัยหลายแห่งต้องปิดตัวลงในช่วง 10 ปีข้างหน้า
ICEF (ไอเซฟ) Monitor ซึ่งเป็นแหล่งรวมข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจการศึกษานานาชาติ รายงานว่าช่องว่างระหว่างจำนวนนักศึกษาและมหาวิทยาลัยในไทยเพิ่มขึ้นอย่าง ต่อเนื่อง นัานก็คือมีมหาวิทยาลัยมากเกินความต้องการของนักศึกษา โดย ICEF Monitor ระบุว่า ปีที่แล้ว (2016) มหาวิทยาลัยของไทยมีที่นั่งว่างสำหรับรับนักศึกษาระดับปริญญาตรีอยู่ 110,000 ที่นั่ง แต่มีนักเรียนเข้ามาสมัครเพียง 80,000 คน ลดลงจากปีก่อนหน้าที่มีคนสมัคร 100,000 คน ซึ่งจำนวนนักศึกษาที่ลดน้อยลงเรื่อยๆในแต่ละปี ทำให้มหาวิมยาลัยหลายแห่งประสบปัญหาภาระงานขั้นต่ำไม่เพียงพอ เนื่องจากมีนักศึกษาไม่ครบจำนวนที่จะเปิดการเรียนการสอนและนับเป็นภาระงาน ขั้นต่ำได้ จนต้องปิดหลักสูตร และโอนย้ายนักศึกษาไปเรียนหลักสูตรอื่นแทน ขณะที่มหาวิทยาลัยอื่นๆก็มีราย ได้ลดลงไปมาก ส่งผลให้แทบทุกแห่งต้องลดมาตรฐานในการคัดเลือกนักศึกษาลงมา เมื่อลดมาตรฐานการคัดเลือกนักศึกษาลงมาก็ส่งผลให้คุณภาพการศึกษาตกต่ำลงไป ด้วย
สาเหตุที่มหาวิทยาลัยของไทยเจอกับปัญหามีนักศึกษาไม่พอกับ จำนวนที่นั่ง นอกจากจะมีมหาวิทยาลัยเปิดมากเกินไปและปัญหาสังคมผู้สูงอายุแล้ว แผนการพัฒนาระบบการศึกษาของไทยยังคงไร้ทิศทาง ซึ่งจริงๆแล้ว ประเทศไทยไม่ได้ต้องการคนที่เรียนจบปริญญาตรีหรือปริญญาโทมาก มายอะไรขนาดนั้น แต่สิ่งที่ประเทศไทยขาดแคลนจริงๆ คือกลุ่มคนที่เรียนจบด้านอาชีวะศึกษาหรือสายอาชีพต่างๆ ซึ่งคนไทยไม่นิยมเรียน เพียงเพราะมีค่านิยมว่าต้องเรียนจบปริญญาถึงจะเรียกว่าประสบความสำเร็จ ทำให้ไทยมีคนเรียนจบสายบริหารหรือธุรกิจออกมาล้นมากมาย แต่สายวิชาชีพ เช่น วิทยาศาสตร์, เทคโนโลยี, หรือช่าง ล้วนขาดแคลนอย่างหนัก โดยเฉพาะพยาบาลซึ่งผลิตได้ไม่เพียงพอกับความต้องการของประเทศและกำลังเป็น ปัญหาใหญ่ขณะนี้
ขณะที่จำนวนนักศึกษาไทยที่ออกไปเรียนในต่างประเทศก็ ค่อยๆเพิ่มขึ้นในแต่ละปี จากที่เคยอยู่ที่ประมาณปีละ 23,000 คนเมื่อปี 2006 เพิ่มเป็น 28,000 คน เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งก็สะท้อนภาพรวมของเศรษฐกิจไทยที่เข้มแข็งขึ้นทำให้คนมีเงินส่งลูกไป เรียนต่างประเทศได้มากขึ้น แต่อีกแง่มุมหนึ่งก็สะท้อนว่ามีคนไม่เชื่อมั่นในระบบการศึกษาของไทยเพิ่มมาก ขึ้น จึงเลือกที่จะไปเรียนในต่างประเทศมากกว่า
สิ่งที่ประเทศไทยต้อง รีบทำก็คือการวางแผนการศึกษาแห่งชาติ ซึ่งจะต้องกำหนดทั้งจำนวนบัณฑิตที่จะผลิตในแต่ละปี ให้ตรงกับความต้องการ สาขาใดที่มีคนเรียนจบล้นเกินความต้องการหรือไม่ได้คุณภาพก็จำเป็นต้องค่อยๆ ลดจำนวนลงและปิดหลักสูตรไป ไม่ใช่ปล่อยให้แต่ละมหาวิทยาลัยแข่งกันเปิดหลักสูตรได้โดยเสรีเพื่อแย่งราย ได้ ซึ่งหากปัญหานี้ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง เราจะได้เห็นมหาวิทยาลัยหลายแห่งต้องปิดตัวลงในช่วง 10 ปีข้างหน้า
นักศึกษาไทยมีไม่พอ มหาวิทยาลัยอาจต้องปิดตัว
ประเทศ ไทยก็กำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย ซึ่งก็จะก่อให้เกิดปัญหามีแรงงานไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดแรงงาน และอีกปัญหาหนึ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเรามีจำนวนคนหนุ่มสาวน้อยกว่าผู้สูงอายุก็ คือจำนวนนักศึกษาลดน้อยลง ซึ่งทำให้มหาวิทยาลัยหลายๆแห่งขณะนี้มีจำนวนนักศึกษาไม่เพียงพอจนอาจถึงขั้น ต้องปิดมหาวิทยาลัย
ICEF (ไอเซฟ) Monitor ซึ่งเป็นแหล่งรวมข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจการศึกษานานาชาติ รายงานว่าช่องว่างระหว่างจำนวนนักศึกษาและมหาวิทยาลัยในไทยเพิ่มขึ้นอย่าง ต่อเนื่อง นัานก็คือมีมหาวิทยาลัยมากเกินความต้องการของนักศึกษา โดย ICEF Monitor ระบุว่า ปีที่แล้ว (2016) มหาวิทยาลัยของไทยมีที่นั่งว่างสำหรับรับนักศึกษาระดับปริญญาตรีอยู่ 110,000 ที่นั่ง แต่มีนักเรียนเข้ามาสมัครเพียง 80,000 คน ลดลงจากปีก่อนหน้าที่มีคนสมัคร 100,000 คน ซึ่งจำนวนนักศึกษาที่ลดน้อยลงเรื่อยๆในแต่ละปี ทำให้มหาวิมยาลัยหลายแห่งประสบปัญหาภาระงานขั้นต่ำไม่เพียงพอ เนื่องจากมีนักศึกษาไม่ครบจำนวนที่จะเปิดการเรียนการสอนและนับเป็นภาระงาน ขั้นต่ำได้ จนต้องปิดหลักสูตร และโอนย้ายนักศึกษาไปเรียนหลักสูตรอื่นแทน ขณะที่มหาวิทยาลัยอื่นๆก็มีราย ได้ลดลงไปมาก ส่งผลให้แทบทุกแห่งต้องลดมาตรฐานในการคัดเลือกนักศึกษาลงมา เมื่อลดมาตรฐานการคัดเลือกนักศึกษาลงมาก็ส่งผลให้คุณภาพการศึกษาตกต่ำลงไป ด้วย
สาเหตุที่มหาวิทยาลัยของไทยเจอกับปัญหามีนักศึกษาไม่พอกับ จำนวนที่นั่ง นอกจากจะมีมหาวิทยาลัยเปิดมากเกินไปและปัญหาสังคมผู้สูงอายุแล้ว แผนการพัฒนาระบบการศึกษาของไทยยังคงไร้ทิศทาง ซึ่งจริงๆแล้ว ประเทศไทยไม่ได้ต้องการคนที่เรียนจบปริญญาตรีหรือปริญญาโทมาก มายอะไรขนาดนั้น แต่สิ่งที่ประเทศไทยขาดแคลนจริงๆ คือกลุ่มคนที่เรียนจบด้านอาชีวะศึกษาหรือสายอาชีพต่างๆ ซึ่งคนไทยไม่นิยมเรียน เพียงเพราะมีค่านิยมว่าต้องเรียนจบปริญญาถึงจะเรียกว่าประสบความสำเร็จ ทำให้ไทยมีคนเรียนจบสายบริหารหรือธุรกิจออกมาล้นมากมาย แต่สายวิชาชีพ เช่น วิทยาศาสตร์, เทคโนโลยี, หรือช่าง ล้วนขาดแคลนอย่างหนัก โดยเฉพาะพยาบาลซึ่งผลิตได้ไม่เพียงพอกับความต้องการของประเทศและกำลังเป็น ปัญหาใหญ่ขณะนี้
ขณะที่จำนวนนักศึกษาไทยที่ออกไปเรียนในต่างประเทศก็ ค่อยๆเพิ่มขึ้นในแต่ละปี จากที่เคยอยู่ที่ประมาณปีละ 23,000 คนเมื่อปี 2006 เพิ่มเป็น 28,000 คน เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งก็สะท้อนภาพรวมของเศรษฐกิจไทยที่เข้มแข็งขึ้นทำให้คนมีเงินส่งลูกไป เรียนต่างประเทศได้มากขึ้น แต่อีกแง่มุมหนึ่งก็สะท้อนว่ามีคนไม่เชื่อมั่นในระบบการศึกษาของไทยเพิ่มมาก ขึ้น จึงเลือกที่จะไปเรียนในต่างประเทศมากกว่า
สิ่งที่ประเทศไทยต้อง รีบทำก็คือการวางแผนการศึกษาแห่งชาติ ซึ่งจะต้องกำหนดทั้งจำนวนบัณฑิตที่จะผลิตในแต่ละปี ให้ตรงกับความต้องการ สาขาใดที่มีคนเรียนจบล้นเกินความต้องการหรือไม่ได้คุณภาพก็จำเป็นต้องค่อยๆ ลดจำนวนลงและปิดหลักสูตรไป ไม่ใช่ปล่อยให้แต่ละมหาวิทยาลัยแข่งกันเปิดหลักสูตรได้โดยเสรีเพื่อแย่งราย ได้ ซึ่งหากปัญหานี้ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง เราจะได้เห็นมหาวิทยาลัยหลายแห่งต้องปิดตัวลงในช่วง 10 ปีข้างหน้า
ICEF (ไอเซฟ) Monitor ซึ่งเป็นแหล่งรวมข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจการศึกษานานาชาติ รายงานว่าช่องว่างระหว่างจำนวนนักศึกษาและมหาวิทยาลัยในไทยเพิ่มขึ้นอย่าง ต่อเนื่อง นัานก็คือมีมหาวิทยาลัยมากเกินความต้องการของนักศึกษา โดย ICEF Monitor ระบุว่า ปีที่แล้ว (2016) มหาวิทยาลัยของไทยมีที่นั่งว่างสำหรับรับนักศึกษาระดับปริญญาตรีอยู่ 110,000 ที่นั่ง แต่มีนักเรียนเข้ามาสมัครเพียง 80,000 คน ลดลงจากปีก่อนหน้าที่มีคนสมัคร 100,000 คน ซึ่งจำนวนนักศึกษาที่ลดน้อยลงเรื่อยๆในแต่ละปี ทำให้มหาวิมยาลัยหลายแห่งประสบปัญหาภาระงานขั้นต่ำไม่เพียงพอ เนื่องจากมีนักศึกษาไม่ครบจำนวนที่จะเปิดการเรียนการสอนและนับเป็นภาระงาน ขั้นต่ำได้ จนต้องปิดหลักสูตร และโอนย้ายนักศึกษาไปเรียนหลักสูตรอื่นแทน ขณะที่มหาวิทยาลัยอื่นๆก็มีราย ได้ลดลงไปมาก ส่งผลให้แทบทุกแห่งต้องลดมาตรฐานในการคัดเลือกนักศึกษาลงมา เมื่อลดมาตรฐานการคัดเลือกนักศึกษาลงมาก็ส่งผลให้คุณภาพการศึกษาตกต่ำลงไป ด้วย
สาเหตุที่มหาวิทยาลัยของไทยเจอกับปัญหามีนักศึกษาไม่พอกับ จำนวนที่นั่ง นอกจากจะมีมหาวิทยาลัยเปิดมากเกินไปและปัญหาสังคมผู้สูงอายุแล้ว แผนการพัฒนาระบบการศึกษาของไทยยังคงไร้ทิศทาง ซึ่งจริงๆแล้ว ประเทศไทยไม่ได้ต้องการคนที่เรียนจบปริญญาตรีหรือปริญญาโทมาก มายอะไรขนาดนั้น แต่สิ่งที่ประเทศไทยขาดแคลนจริงๆ คือกลุ่มคนที่เรียนจบด้านอาชีวะศึกษาหรือสายอาชีพต่างๆ ซึ่งคนไทยไม่นิยมเรียน เพียงเพราะมีค่านิยมว่าต้องเรียนจบปริญญาถึงจะเรียกว่าประสบความสำเร็จ ทำให้ไทยมีคนเรียนจบสายบริหารหรือธุรกิจออกมาล้นมากมาย แต่สายวิชาชีพ เช่น วิทยาศาสตร์, เทคโนโลยี, หรือช่าง ล้วนขาดแคลนอย่างหนัก โดยเฉพาะพยาบาลซึ่งผลิตได้ไม่เพียงพอกับความต้องการของประเทศและกำลังเป็น ปัญหาใหญ่ขณะนี้
ขณะที่จำนวนนักศึกษาไทยที่ออกไปเรียนในต่างประเทศก็ ค่อยๆเพิ่มขึ้นในแต่ละปี จากที่เคยอยู่ที่ประมาณปีละ 23,000 คนเมื่อปี 2006 เพิ่มเป็น 28,000 คน เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งก็สะท้อนภาพรวมของเศรษฐกิจไทยที่เข้มแข็งขึ้นทำให้คนมีเงินส่งลูกไป เรียนต่างประเทศได้มากขึ้น แต่อีกแง่มุมหนึ่งก็สะท้อนว่ามีคนไม่เชื่อมั่นในระบบการศึกษาของไทยเพิ่มมาก ขึ้น จึงเลือกที่จะไปเรียนในต่างประเทศมากกว่า
สิ่งที่ประเทศไทยต้อง รีบทำก็คือการวางแผนการศึกษาแห่งชาติ ซึ่งจะต้องกำหนดทั้งจำนวนบัณฑิตที่จะผลิตในแต่ละปี ให้ตรงกับความต้องการ สาขาใดที่มีคนเรียนจบล้นเกินความต้องการหรือไม่ได้คุณภาพก็จำเป็นต้องค่อยๆ ลดจำนวนลงและปิดหลักสูตรไป ไม่ใช่ปล่อยให้แต่ละมหาวิทยาลัยแข่งกันเปิดหลักสูตรได้โดยเสรีเพื่อแย่งราย ได้ ซึ่งหากปัญหานี้ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง เราจะได้เห็นมหาวิทยาลัยหลายแห่งต้องปิดตัวลงในช่วง 10 ปีข้างหน้า
อ. ชูพงศ์ ถี่ถ้วน ๖ พ.ย. ๒๕๖๐ ตอน อนาคตของพรรคไทก้าวหน้า มุ่งสู่ประชาธิ...
อ. ชูพงศ์ ถี่ถ้วน ๖ พ.ย. ๒๕๖๐ ตอน อนาคตของพรรคไทก้าวหน้า มุ่งสู่ประชาธิปไตยเท่านั้น
https://youtu.be/O7HzEIsZmkI
https://youtu.be/z5ihaZ-Xnno
****************************
หากท่านคิดดี หวังดี และมั่นใจในความดีของท่าน ขอให้ปาวารณาตัว ร่วมเป็นมดแดงล้มช้าง ได้ที่
http://tinyurl.com/o2rzao8
หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt
หากลิ้งค์ข้างบนถูกบล็อก ให้ส่งรายละเอียดไปที่ 4everche@gmail.com โดยระบุ 1. ชื่อ (จัดตั้งหรือชื่อกลุ่ม) 2. จำนวนสมาชิกในเครือข่าย 3. จังหวัดและอำเภอ 4. อีเมล์ 5. ไลน์หรือเบอร์โทรศัพท์ 6. อาชีพของท่านหรือสมาชิก
Copyright notice:
This video is protected under the “Fair Use Copyright Act of 1976” for the purposes of education, news reporting, research, criticism and public discussion.
อ. ชูพงศ์ ถี่ถ้วน ๖ พ.ย. ๒๕๖๐ ตอน อนาคตของพรรคไทก้าวหน้า มุ่งสู่ประชาธิ...
อ. ชูพงศ์ ถี่ถ้วน ๖ พ.ย. ๒๕๖๐ ตอน อนาคตของพรรคไทก้าวหน้า มุ่งสู่ประชาธิปไตยเท่านั้น
https://youtu.be/O7HzEIsZmkI
https://youtu.be/z5ihaZ-Xnno
****************************
หากท่านคิดดี หวังดี และมั่นใจในความดีของท่าน ขอให้ปาวารณาตัว ร่วมเป็นมดแดงล้มช้าง ได้ที่
http://tinyurl.com/o2rzao8
หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt
หากลิ้งค์ข้างบนถูกบล็อก ให้ส่งรายละเอียดไปที่ 4everche@gmail.com โดยระบุ 1. ชื่อ (จัดตั้งหรือชื่อกลุ่ม) 2. จำนวนสมาชิกในเครือข่าย 3. จังหวัดและอำเภอ 4. อีเมล์ 5. ไลน์หรือเบอร์โทรศัพท์ 6. อาชีพของท่านหรือสมาชิก
Copyright notice:
This video is protected under the “Fair Use Copyright Act of 1976” for the purposes of education, news reporting, research, criticism and public discussion.
Sunday, November 5, 2017
A beautiful mosque in Herat, Afghanistan, 2006
A beautiful mosque in Herat, Afghanistan, 2006
Saturday, November 4, 2017
มีใครที่มีลูกตอนนี้ อยากให้ลูกเรียนและโตที่ประเทศไทยบ้าง? อ. ปิยบุตร แสงกนกกุล
มีใครที่มีลูกตอนนี้ อยากให้ลูกเรียนและโตที่ประเทศไทยบ้าง?
สำหรับผม ไม่มีวันยอมเด็ดขาด
ประเทศไทย คือ ประเทศที่เหมาะกับเศรษฐีและคนมีอภิสิทธิ์
เมื่อเรามีอภิสิทธิ์ เราก็ย่อมทำให้ลูกมีอภิสิทธิ์ต่อไป
แล้วระบบอภิสิทธิ์เช่นว่านี้ มันก็กระจายทั่วไปหมด และจัดลำดับชนชั้นกันไป คนชั้นกลาง อาจไม่มีอภิสิทธิ์เท่าชนชั้นสูง แต่พวกเขาก็มีอภิสิทธิ์อยู่ดี
กล่าวให้ถึงที่สุด อภิสิทธิ์มันเสมือนอาภรณ์ห่อคุมกายให้กับคนทุกคน เพียงแต่ว่าอาภรณ์ที่ว่าก็แตกต่างกันไปตามแต่ละชนชั้น
นี่อาจทำให้คนไทยจำนวนมากไม่ชอบไปอยู่อาศัยใน ตปท เพราะ ดีๆชั่วๆ อยู่ไทย ยังไงก็มีอภิสิทธิ์ มากบ้างน้อยบ้าง ก็ว่ากันไป ไต่เต้ากันไป เอาเปรียบเป็นทอดไป กดขี่ต่อๆกันไป
พลเมืองไทย ไม่ถนัดสันทัดที่จะเป็นพลเมืองของโลก
ภาษา ก็คือข้อจำกัดหนึ่ง แต่มันก็เป็นข้อจำกัดที่แก้ไขเยียวยาได้
แต่ สถานะ อภิสิทธิ์ ความสะดวกสบายที่ได้รับเมื่อยามอยู่ประเทศไทย ต่างหาก ที่ทำให้พลเมืองไทย ไม่ยอมไปเป็นพลเมืองโลก
ถ้าผมเป็นผู้ปกครองของระบอบที่กดขี่เอารัดเอาเปรียบคนแบบประเทศนี้ ก็ง่ายมากที่จะจัดการควบคุมคน
ให้พวกเขาสบาย "อยู่เป็น" ทำมาหากิน ไม่ต้องคิด ไม่ต้องรู้ อยู่ไปวันๆ มีความสุข บริโภคไปวันๆ โดยไม่ค้นหาความรู้ ชีวิต ไม่ต่อต้านรัฐ ไม่ตั้งคำถาม
แล้วก็กดขี่กันไปเป็นทอดๆ ใครตักตวงได้ ก็ตักตวง
ไม่มีคนหัวขบถ ไม่มีคนหัวปฏิวัติ
มีแต่คน "อยู่เป็น" และ "อยู่ไปวันๆ คิดว่าเช่าเขาอยู่"
สภาพแวดล้อมเช่นนี้ ทำให้ผมอึดอัดไปแล้ว ทำไมผมต้องยอมให้ลูกผมอยู่ต่อไป
แน่นอน หากผมมีลูก เขาคงใช้สิ่งต่างๆที่ผมพอมีอยู่บ้างเพื่อได้เปรียบผู้อื่น เอาเปรียบ มีแต้มต่อ
แต่มันจะคุ้มอะไร กับการได้หุ่นยนต์ที่ถูกฝังโปรแกรม หรือไม่ก็ได้คนกะล่อนที่เอาตัวรอดไปวันๆ
--
สู้ให้เขามีโอกาสเรียนรู้โลก ออกไปเผชิญโลก แล้วมองกลับมา ไม่ดีกว่าหรือ
อ. ปิยบุตร แสงกนกกุล
สำหรับผม ไม่มีวันยอมเด็ดขาด
ประเทศไทย คือ ประเทศที่เหมาะกับเศรษฐีและคนมีอภิสิทธิ์
เมื่อเรามีอภิสิทธิ์ เราก็ย่อมทำให้ลูกมีอภิสิทธิ์ต่อไป
แล้วระบบอภิสิทธิ์เช่นว่านี้ มันก็กระจายทั่วไปหมด และจัดลำดับชนชั้นกันไป คนชั้นกลาง อาจไม่มีอภิสิทธิ์เท่าชนชั้นสูง แต่พวกเขาก็มีอภิสิทธิ์อยู่ดี
กล่าวให้ถึงที่สุด อภิสิทธิ์มันเสมือนอาภรณ์ห่อคุมกายให้กับคนทุกคน เพียงแต่ว่าอาภรณ์ที่ว่าก็แตกต่างกันไปตามแต่ละชนชั้น
นี่อาจทำให้คนไทยจำนวนมากไม่ชอบไปอยู่อาศัยใน ตปท เพราะ ดีๆชั่วๆ อยู่ไทย ยังไงก็มีอภิสิทธิ์ มากบ้างน้อยบ้าง ก็ว่ากันไป ไต่เต้ากันไป เอาเปรียบเป็นทอดไป กดขี่ต่อๆกันไป
พลเมืองไทย ไม่ถนัดสันทัดที่จะเป็นพลเมืองของโลก
ภาษา ก็คือข้อจำกัดหนึ่ง แต่มันก็เป็นข้อจำกัดที่แก้ไขเยียวยาได้
แต่ สถานะ อภิสิทธิ์ ความสะดวกสบายที่ได้รับเมื่อยามอยู่ประเทศไทย ต่างหาก ที่ทำให้พลเมืองไทย ไม่ยอมไปเป็นพลเมืองโลก
ถ้าผมเป็นผู้ปกครองของระบอบที่กดขี่เอารัดเอาเปรียบคนแบบประเทศนี้ ก็ง่ายมากที่จะจัดการควบคุมคน
ให้พวกเขาสบาย "อยู่เป็น" ทำมาหากิน ไม่ต้องคิด ไม่ต้องรู้ อยู่ไปวันๆ มีความสุข บริโภคไปวันๆ โดยไม่ค้นหาความรู้ ชีวิต ไม่ต่อต้านรัฐ ไม่ตั้งคำถาม
แล้วก็กดขี่กันไปเป็นทอดๆ ใครตักตวงได้ ก็ตักตวง
ไม่มีคนหัวขบถ ไม่มีคนหัวปฏิวัติ
มีแต่คน "อยู่เป็น" และ "อยู่ไปวันๆ คิดว่าเช่าเขาอยู่"
สภาพแวดล้อมเช่นนี้ ทำให้ผมอึดอัดไปแล้ว ทำไมผมต้องยอมให้ลูกผมอยู่ต่อไป
แน่นอน หากผมมีลูก เขาคงใช้สิ่งต่างๆที่ผมพอมีอยู่บ้างเพื่อได้เปรียบผู้อื่น เอาเปรียบ มีแต้มต่อ
แต่มันจะคุ้มอะไร กับการได้หุ่นยนต์ที่ถูกฝังโปรแกรม หรือไม่ก็ได้คนกะล่อนที่เอาตัวรอดไปวันๆ
--
สู้ให้เขามีโอกาสเรียนรู้โลก ออกไปเผชิญโลก แล้วมองกลับมา ไม่ดีกว่าหรือ
อ. ปิยบุตร แสงกนกกุล
มีใครที่มีลูกตอนนี้ อยากให้ลูกเรียนและโตที่ประเทศไทยบ้าง? อ. ปิยบุตร แสงกนกกุล
มีใครที่มีลูกตอนนี้ อยากให้ลูกเรียนและโตที่ประเทศไทยบ้าง?
สำหรับผม ไม่มีวันยอมเด็ดขาด
ประเทศไทย คือ ประเทศที่เหมาะกับเศรษฐีและคนมีอภิสิทธิ์
เมื่อเรามีอภิสิทธิ์ เราก็ย่อมทำให้ลูกมีอภิสิทธิ์ต่อไป
แล้วระบบอภิสิทธิ์เช่นว่านี้ มันก็กระจายทั่วไปหมด และจัดลำดับชนชั้นกันไป คนชั้นกลาง อาจไม่มีอภิสิทธิ์เท่าชนชั้นสูง แต่พวกเขาก็มีอภิสิทธิ์อยู่ดี
กล่าวให้ถึงที่สุด อภิสิทธิ์มันเสมือนอาภรณ์ห่อคุมกายให้กับคนทุกคน เพียงแต่ว่าอาภรณ์ที่ว่าก็แตกต่างกันไปตามแต่ละชนชั้น
นี่อาจทำให้คนไทยจำนวนมากไม่ชอบไปอยู่อาศัยใน ตปท เพราะ ดีๆชั่วๆ อยู่ไทย ยังไงก็มีอภิสิทธิ์ มากบ้างน้อยบ้าง ก็ว่ากันไป ไต่เต้ากันไป เอาเปรียบเป็นทอดไป กดขี่ต่อๆกันไป
พลเมืองไทย ไม่ถนัดสันทัดที่จะเป็นพลเมืองของโลก
ภาษา ก็คือข้อจำกัดหนึ่ง แต่มันก็เป็นข้อจำกัดที่แก้ไขเยียวยาได้
แต่ สถานะ อภิสิทธิ์ ความสะดวกสบายที่ได้รับเมื่อยามอยู่ประเทศไทย ต่างหาก ที่ทำให้พลเมืองไทย ไม่ยอมไปเป็นพลเมืองโลก
ถ้าผมเป็นผู้ปกครองของระบอบที่กดขี่เอารัดเอาเปรียบคนแบบประเทศนี้ ก็ง่ายมากที่จะจัดการควบคุมคน
ให้พวกเขาสบาย "อยู่เป็น" ทำมาหากิน ไม่ต้องคิด ไม่ต้องรู้ อยู่ไปวันๆ มีความสุข บริโภคไปวันๆ โดยไม่ค้นหาความรู้ ชีวิต ไม่ต่อต้านรัฐ ไม่ตั้งคำถาม
แล้วก็กดขี่กันไปเป็นทอดๆ ใครตักตวงได้ ก็ตักตวง
ไม่มีคนหัวขบถ ไม่มีคนหัวปฏิวัติ
มีแต่คน "อยู่เป็น" และ "อยู่ไปวันๆ คิดว่าเช่าเขาอยู่"
สภาพแวดล้อมเช่นนี้ ทำให้ผมอึดอัดไปแล้ว ทำไมผมต้องยอมให้ลูกผมอยู่ต่อไป
แน่นอน หากผมมีลูก เขาคงใช้สิ่งต่างๆที่ผมพอมีอยู่บ้างเพื่อได้เปรียบผู้อื่น เอาเปรียบ มีแต้มต่อ
แต่มันจะคุ้มอะไร กับการได้หุ่นยนต์ที่ถูกฝังโปรแกรม หรือไม่ก็ได้คนกะล่อนที่เอาตัวรอดไปวันๆ
--
สู้ให้เขามีโอกาสเรียนรู้โลก ออกไปเผชิญโลก แล้วมองกลับมา ไม่ดีกว่าหรือ
อ. ปิยบุตร แสงกนกกุล
สำหรับผม ไม่มีวันยอมเด็ดขาด
ประเทศไทย คือ ประเทศที่เหมาะกับเศรษฐีและคนมีอภิสิทธิ์
เมื่อเรามีอภิสิทธิ์ เราก็ย่อมทำให้ลูกมีอภิสิทธิ์ต่อไป
แล้วระบบอภิสิทธิ์เช่นว่านี้ มันก็กระจายทั่วไปหมด และจัดลำดับชนชั้นกันไป คนชั้นกลาง อาจไม่มีอภิสิทธิ์เท่าชนชั้นสูง แต่พวกเขาก็มีอภิสิทธิ์อยู่ดี
กล่าวให้ถึงที่สุด อภิสิทธิ์มันเสมือนอาภรณ์ห่อคุมกายให้กับคนทุกคน เพียงแต่ว่าอาภรณ์ที่ว่าก็แตกต่างกันไปตามแต่ละชนชั้น
นี่อาจทำให้คนไทยจำนวนมากไม่ชอบไปอยู่อาศัยใน ตปท เพราะ ดีๆชั่วๆ อยู่ไทย ยังไงก็มีอภิสิทธิ์ มากบ้างน้อยบ้าง ก็ว่ากันไป ไต่เต้ากันไป เอาเปรียบเป็นทอดไป กดขี่ต่อๆกันไป
พลเมืองไทย ไม่ถนัดสันทัดที่จะเป็นพลเมืองของโลก
ภาษา ก็คือข้อจำกัดหนึ่ง แต่มันก็เป็นข้อจำกัดที่แก้ไขเยียวยาได้
แต่ สถานะ อภิสิทธิ์ ความสะดวกสบายที่ได้รับเมื่อยามอยู่ประเทศไทย ต่างหาก ที่ทำให้พลเมืองไทย ไม่ยอมไปเป็นพลเมืองโลก
ถ้าผมเป็นผู้ปกครองของระบอบที่กดขี่เอารัดเอาเปรียบคนแบบประเทศนี้ ก็ง่ายมากที่จะจัดการควบคุมคน
ให้พวกเขาสบาย "อยู่เป็น" ทำมาหากิน ไม่ต้องคิด ไม่ต้องรู้ อยู่ไปวันๆ มีความสุข บริโภคไปวันๆ โดยไม่ค้นหาความรู้ ชีวิต ไม่ต่อต้านรัฐ ไม่ตั้งคำถาม
แล้วก็กดขี่กันไปเป็นทอดๆ ใครตักตวงได้ ก็ตักตวง
ไม่มีคนหัวขบถ ไม่มีคนหัวปฏิวัติ
มีแต่คน "อยู่เป็น" และ "อยู่ไปวันๆ คิดว่าเช่าเขาอยู่"
สภาพแวดล้อมเช่นนี้ ทำให้ผมอึดอัดไปแล้ว ทำไมผมต้องยอมให้ลูกผมอยู่ต่อไป
แน่นอน หากผมมีลูก เขาคงใช้สิ่งต่างๆที่ผมพอมีอยู่บ้างเพื่อได้เปรียบผู้อื่น เอาเปรียบ มีแต้มต่อ
แต่มันจะคุ้มอะไร กับการได้หุ่นยนต์ที่ถูกฝังโปรแกรม หรือไม่ก็ได้คนกะล่อนที่เอาตัวรอดไปวันๆ
--
สู้ให้เขามีโอกาสเรียนรู้โลก ออกไปเผชิญโลก แล้วมองกลับมา ไม่ดีกว่าหรือ
อ. ปิยบุตร แสงกนกกุล
เปิดข้อมูล ลอบฆ่าทักษิณ 7 ครั้ง
เปิดข้อมูล ลอบฆ่าทักษิณ 7 ครั้ง
- - - - -
ครั้งที่ 1
วันที่ 3 มี.ค.2544 เกิดเหตุระเบิดเครื่องบินการบินไทย ยี่ห้อ โบอิ้ง 737-400 ทะเบียน HS-TDC กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ที่คณะของ พ.ต.ท.ทักษิณจะเดินทางไปบ้านเกิดที่ จ.เชียงใหม่ ก่อนเวลาออกเดินทางเพียงเล็กน้อย ทำให้เครือบินถูกไฟไหม้เสียหายทั้งลำ มีผู้เสียชีวิต 1 รายหลังเหตุการณ์ใน พ.ต.ท.ทักษิณให้สัมภาษณ์ว่า รายงานของเจ้าหน้าที่ค่อนข้างชัดเจนว่า สาเหตุของเครื่องบินระเบิดน่าจะมาจากวัตถุระเบิดที่มีผู้นำมาติดไว้ที่ใต้ท้องเครื่องบิน บริเวณที่นั่งวีไอพี
-
"เป็นการปองร้าย ไม่ใช่การก่อการร้าย ไม่ทราบว่าปองร้ายใคร ส่วนคนที่ทำนั้นสิ้นคิด ไม่ต้องทำกับนายกรัฐมนตรี ทำกับใคร ประเทศชาติก็เสียหาย" พ.ต.ท.ทักษิณระบุ
-
ขณะที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนเรื่องนี้โดยมี พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ รอง ผบ.ตร.ในขณะนั้น เป็นหัวหน้า ท่ามกลางกระแสข่าวการก่อวินาศกรรม ของกลุ่มก่อการร้ายข้ามชาติหรือขบวนการค้ายาเสพติด
-
จากนั้นในวันที่ 5 มี.ค.2544 คณะกรรมการชุด พล.ต.อ.สันต์ ฟันธงเป็นการ "วางระเบิด" แน่นอน คาดว่าเป็น "ซีโฟร์" เนื่องจากตรวจพบสารอาร์ดีเอ็กซ์ที่เป็นส่วนประกอบของซีโฟร์กระจายอยู่ พร้อมแจกแจงการจุดระเบิดว่าน่าจะเป็นการใช้นาฬิกาประกอบกันเป็นระเบิดแบบแสวงเครื่องในการจุดชนวนแต่ไม่พบซากอุปกรณ์ดังกล่าวในที่เกิดเหตุ
-
ขณะที่สภาผู้แทนราษฎรได้ตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษากรณีเครื่องการบินไทยระเบิดควบคู่ไปด้วย โดย พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ ส.ส.อ่างทอง ประธาน กมธ.แถลงเมื่อวันที่ 3 เม.ย.2544 ว่า สาเหตุมีแนวโน้มว่าจะเป็นอุบัติเหตุ
-
ด้านผลสรุปการสอบสวนของ “คณะกรรมการความปลอดภัยด้านการขนส่งแห่งชาติสหรัฐอเมริกา(NTSB)" ซึ่งเป็นองค์กรการบินระดับโลก ระบุสาเหตุจากอุบัติเหตุที่เกิดจากการเปิดแอร์ระหว่างเติมน้ำมัน สุดท้ายจึงมีแถลงการณ์ร่วมระหว่างรัฐบาลไทยกับ NTSB ว่า คาดว่าสาเหตุมาจากอุปกรณ์ทำความเย็นทำงานต่อเนื่องอย่างหนักได้ปล่อยความร้อนออกมา เป็นเหตุให้ถังเชื้อเพลิงที่อยู่เหนืออุปกรณ์ทำความเย็นเกิดระเบิด
-
เหตุการณ์ครั้งนั้นถูกบางฝ่ายมองว่าเป็นการสร้างข่าวเพื่อกลบกระแส “บกพร่องโดยสุจริต” ในคดี “ซุกหุ้น” ไว้กับคนรับใช้ คนสวน และคนขับรถในภาคแรก
- https://www.facebook.com/media/set/?set=a.319181554878939.1073741830.302738516523243
- khirsangkhawangrabeidkheruxngbinthaksin3minakhm2544 | rungsirasite2011
- http://th.wikipedia.org/wiki/การบินไทย_เที่ยวบินที่_114
- http://maysaanitto.blogspot.com/2012/11/3-2544.html
- - - - -
ครั้งที่ 2
ในปี 2546 ช่วงสงครามล้างยาเสพติดมีการปล่อยข่าวว่า “กลุ่มว้าแดง” ได้ตั้งค่าหัวพ.ต.ท.ทักษิณไว้80 ล้านบาท เนื่องจากไม่พอใจนโยบายปราบปรามยาเสพติดของรัฐบาลที่ทำให้สูญเสียผลกระโยชน์จำนวนมาก ทำให้พ.ต.ท.ทักษิณต้องเปลี่ยนรถประจำตำแหน่งเป็นรถตู้หุ้มเกราะและสั่งเพิ่มทีมรักษาความปลอดภัย เรียกได้ว่าเป็นกองทัพขนาดย่อมๆ โดยมีการเพิ่มรถคุ้มครองหลายคัน มีชุดล่าสังหาร อาวุธครบมือ
ส่วนสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนั้น ตกอยู่ในห้วงที่ พ.ต.ท.ทักษิณถูกฝ่ายค้านและสังคมตั้งข้อสังเกตการเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุนโดยเฉพาะชินคอร์ปซึ่งเป็นธุรกิจครอบครัว
- - - - -
ครั้งที่ 3
2 ส.ค.2549 ที่บริเวณเส้นทางพิเศษของกองทัพอากาศตัดกับถนนวิภาวดีรังสิต ระหว่างที่ขบวนรถ พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้เส้นทางดังกล่าวเข้าสู่สนามบิน บน.6 เพื่อไปพม่า ได้เกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ ยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ได้ชนเข้าอย่างจังกับรถกระบะของตำรวจทางหลวง ขณะที่อดีตนายกฯ ได้ขึ้นบินเดินทางไปแล้ว ซึ่งทีมรักษาความปลอดภัยในตอนแรกมองว่า เป็นการก่อเหตุเพื่อลอบสังหาร จึงได้ตรวจสอบประวัติของผู้ขับขี่รถยนต์ ก็พบว่าเป็นอุบัติเหตุ เพราะผู้ขับขี่เป็นทนายความ และใช้เส้นทางนี้ประจำ
- - - - -
ครั้งที่ 4
ฮือฮาที่สุด วันที่ 24 ส.ค.2549 จับกุม ร.ท.ธวัชชัย กลิ่นชะนะ ทหารสังกัด กอ.รมน. ขับรถเก๋งยี่ห้อแดวูภายในบรรทุกระเบิดไปจอดรออยู่บริเวณสี่แยกบางพลัด พบระเบิดทีเอ็นทีและซีโฟร์ผูกติดกันไว้ในกระโปรงท้าย รัศมีทำลายล้างไม่น้อยกว่า 1 กิโลเมตร ใกล้บ้านพักของในซอยจรัลสนิทวงศ์ 69 ของ พ.ต.ท.ทักษิณ และเป็นเส้นทางผ่านของขบวนรถนายกฯ แต่ทีม รปภ.ของ พ.ต.ท.ทักษิณตรวจพบเสียก่อน
มีการสรุปจากฝ่ายรัฐบาลว่า เป็นการมุ่งลอบสังหาร พ.ต.ท.ทักษิณ โดยคนร้ายถูกดำเนินคดี ในความผิดร่วมกันเคลื่อนย้ายและมีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนข้อหาพยายามฆ่า พ.ต.ท.ทักษิณ องค์คณะตุลาการศาลทหารกรุงเทพได้ยกฟ้อง
- - - - -
ครั้งที่ 5
ช่วงรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกฯ หลัง พ.ต.ท.ทักษิณได้เดินทางกลับบ้านและกราบแผ่นดินเกิด ก่อนขออนุญาตศาลเดินทางออกนอกประเทศเพื่อชมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคที่กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีนแล้วไม่กลับมาอีก พลพรรคฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณ ล้วนให้ข่าวตรงกันว่ามีแผนประทุษร้ายจากบางฝ่าย โดยมีการอ้างถึง "สไนเปอร์" หรือพลแม่นปืน ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณต้องเดินทางออกนอกประเทศ
- - - - -
ครั้งที่ 6
เรื่องโจรกรรมข้อมูลการบิน โดยนายศิวลักษณ์
ช่วงนั้น มีข่าวตลอดว่า สุเทพ ส่ง F16 บินไล่ล่าทักษิณ
http://topicstock.pantip.com/rajdumnern/topicstock/2009/11/P8592462/P8592462.html
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9520000150235xhhuu9u3â999yyy3111111พำำพถุถะุ_ำภำภ
- - - - -
ครั้งที่ 7 พฤศจิกายน 2555
ที่พม่า เมื่อปลายปีก่อนที่แกจะไปพม่า แล้วมีข่าว RPG
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
ที่อยู่ระหว่างเตรียมเดินทางไปเยือน จ.ท่าขี้เหล็ก
ประเทศพม่า ในวันที่ 8–10 พ.ย.
แต่เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ของพม่าจับกุมผู้ต้องหา 1 ราย
พร้อมอาวุธสงครามจรวดอาร์พีจี 3 ลูก ดินส่ง 3 ชุด
กระสุนปืนเอ็ม 16 อีก 10 นัด
ซึ่งจับได้บนพื้นดิน แต่อยู่ในเส้นทางบิน
http://news.sanook.com/1151827/ทักษิณ-ยกเลิกไปท่าขี้เหล็ก-เฉลิม-ยันมีแผนลอบสังหารจริง/
http://www.innnews.co.th/mobile/show?newscode=414747
http://www.clipmass.com/story/53576
- - - - -
เพราะทักษิณ ตัดต้นตอขบวนการค้ายาเสพติด
ซึ่งเกี่ยวข้องกับทหาร และองคมนตรีหลายคน
การไปเจรจากับพม่า และออกนโยบายต้านยาเสพติด
ทำให้เครือข่ายของทหาร ขี้ข้าหน้ากระโถน และอำมาตย์
ที่อยู่เบื้องหลังการค้ายาเสพติดต้องเสียประโยชน์ มหาศาล
- - - - -
หากกำจัดทักษิณออกไปให้พ้นทางได้
จะเป็นการขจัดศัตรูตัวสำคัญทิ้งไป
ทั้งทางการเมือง และทางเศรษฐกิจ (ของพวกพ้องมัน)
ปล.นี่ยังไม่รวมสาเหตุเพราะการแย่งความรัก ความศรัทธาจากประชาชนไปอีก แถมยังทำให้กลุ่ม "ทุนผูกขาด" ซึ่งส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับวังต้องลำบาก เพราะทุนนิยม+ประชาธิปไตย ที่ทำให้เกิดการกระจายอำนาจ และเกิดการแข่งขันเพิ่มขึ้น
พวกไพร่ คนจน คนชนบท พวกไม่มีชาติตระกูล
ไม่มีเงินถุงเงินถัง อย่าหวังจะลืมต้าอ้าปากได้
ถ้าฆ่าทักษิณได้ ทุกอย่างจบ
แช่แข็งบอนไซประเทศเหมือนเดิม
ปล.2 แม้แต่ตอนที่ทักษิณสู้คดี ยังมีการวางแผนต่อว่า
ถ้าหากทักษิณโดนจับ แล้วเข้าคุกไปสักพัก
จะลอบฆ่าทักษิณในคุก โดยนักโทษคดียาเสพติดนั่นแหละ — with Fri Baramee.
Cr.Pumin Nontanunค่ะ
- - - - -
ครั้งที่ 1
วันที่ 3 มี.ค.2544 เกิดเหตุระเบิดเครื่องบินการบินไทย ยี่ห้อ โบอิ้ง 737-400 ทะเบียน HS-TDC กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ที่คณะของ พ.ต.ท.ทักษิณจะเดินทางไปบ้านเกิดที่ จ.เชียงใหม่ ก่อนเวลาออกเดินทางเพียงเล็กน้อย ทำให้เครือบินถูกไฟไหม้เสียหายทั้งลำ มีผู้เสียชีวิต 1 รายหลังเหตุการณ์ใน พ.ต.ท.ทักษิณให้สัมภาษณ์ว่า รายงานของเจ้าหน้าที่ค่อนข้างชัดเจนว่า สาเหตุของเครื่องบินระเบิดน่าจะมาจากวัตถุระเบิดที่มีผู้นำมาติดไว้ที่ใต้ท้องเครื่องบิน บริเวณที่นั่งวีไอพี
-
"เป็นการปองร้าย ไม่ใช่การก่อการร้าย ไม่ทราบว่าปองร้ายใคร ส่วนคนที่ทำนั้นสิ้นคิด ไม่ต้องทำกับนายกรัฐมนตรี ทำกับใคร ประเทศชาติก็เสียหาย" พ.ต.ท.ทักษิณระบุ
-
ขณะที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนเรื่องนี้โดยมี พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ รอง ผบ.ตร.ในขณะนั้น เป็นหัวหน้า ท่ามกลางกระแสข่าวการก่อวินาศกรรม ของกลุ่มก่อการร้ายข้ามชาติหรือขบวนการค้ายาเสพติด
-
จากนั้นในวันที่ 5 มี.ค.2544 คณะกรรมการชุด พล.ต.อ.สันต์ ฟันธงเป็นการ "วางระเบิด" แน่นอน คาดว่าเป็น "ซีโฟร์" เนื่องจากตรวจพบสารอาร์ดีเอ็กซ์ที่เป็นส่วนประกอบของซีโฟร์กระจายอยู่ พร้อมแจกแจงการจุดระเบิดว่าน่าจะเป็นการใช้นาฬิกาประกอบกันเป็นระเบิดแบบแสวงเครื่องในการจุดชนวนแต่ไม่พบซากอุปกรณ์ดังกล่าวในที่เกิดเหตุ
-
ขณะที่สภาผู้แทนราษฎรได้ตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษากรณีเครื่องการบินไทยระเบิดควบคู่ไปด้วย โดย พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ ส.ส.อ่างทอง ประธาน กมธ.แถลงเมื่อวันที่ 3 เม.ย.2544 ว่า สาเหตุมีแนวโน้มว่าจะเป็นอุบัติเหตุ
-
ด้านผลสรุปการสอบสวนของ “คณะกรรมการความปลอดภัยด้านการขนส่งแห่งชาติสหรัฐอเมริกา(NTSB)" ซึ่งเป็นองค์กรการบินระดับโลก ระบุสาเหตุจากอุบัติเหตุที่เกิดจากการเปิดแอร์ระหว่างเติมน้ำมัน สุดท้ายจึงมีแถลงการณ์ร่วมระหว่างรัฐบาลไทยกับ NTSB ว่า คาดว่าสาเหตุมาจากอุปกรณ์ทำความเย็นทำงานต่อเนื่องอย่างหนักได้ปล่อยความร้อนออกมา เป็นเหตุให้ถังเชื้อเพลิงที่อยู่เหนืออุปกรณ์ทำความเย็นเกิดระเบิด
-
เหตุการณ์ครั้งนั้นถูกบางฝ่ายมองว่าเป็นการสร้างข่าวเพื่อกลบกระแส “บกพร่องโดยสุจริต” ในคดี “ซุกหุ้น” ไว้กับคนรับใช้ คนสวน และคนขับรถในภาคแรก
- https://www.facebook.com/media/set/?set=a.319181554878939.1073741830.302738516523243
- khirsangkhawangrabeidkheruxngbinthaksin3minakhm2544 | rungsirasite2011
- http://th.wikipedia.org/wiki/การบินไทย_เที่ยวบินที่_114
- http://maysaanitto.blogspot.com/2012/11/3-2544.html
- - - - -
ครั้งที่ 2
ในปี 2546 ช่วงสงครามล้างยาเสพติดมีการปล่อยข่าวว่า “กลุ่มว้าแดง” ได้ตั้งค่าหัวพ.ต.ท.ทักษิณไว้80 ล้านบาท เนื่องจากไม่พอใจนโยบายปราบปรามยาเสพติดของรัฐบาลที่ทำให้สูญเสียผลกระโยชน์จำนวนมาก ทำให้พ.ต.ท.ทักษิณต้องเปลี่ยนรถประจำตำแหน่งเป็นรถตู้หุ้มเกราะและสั่งเพิ่มทีมรักษาความปลอดภัย เรียกได้ว่าเป็นกองทัพขนาดย่อมๆ โดยมีการเพิ่มรถคุ้มครองหลายคัน มีชุดล่าสังหาร อาวุธครบมือ
ส่วนสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนั้น ตกอยู่ในห้วงที่ พ.ต.ท.ทักษิณถูกฝ่ายค้านและสังคมตั้งข้อสังเกตการเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุนโดยเฉพาะชินคอร์ปซึ่งเป็นธุรกิจครอบครัว
- - - - -
ครั้งที่ 3
2 ส.ค.2549 ที่บริเวณเส้นทางพิเศษของกองทัพอากาศตัดกับถนนวิภาวดีรังสิต ระหว่างที่ขบวนรถ พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้เส้นทางดังกล่าวเข้าสู่สนามบิน บน.6 เพื่อไปพม่า ได้เกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ ยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ได้ชนเข้าอย่างจังกับรถกระบะของตำรวจทางหลวง ขณะที่อดีตนายกฯ ได้ขึ้นบินเดินทางไปแล้ว ซึ่งทีมรักษาความปลอดภัยในตอนแรกมองว่า เป็นการก่อเหตุเพื่อลอบสังหาร จึงได้ตรวจสอบประวัติของผู้ขับขี่รถยนต์ ก็พบว่าเป็นอุบัติเหตุ เพราะผู้ขับขี่เป็นทนายความ และใช้เส้นทางนี้ประจำ
- - - - -
ครั้งที่ 4
ฮือฮาที่สุด วันที่ 24 ส.ค.2549 จับกุม ร.ท.ธวัชชัย กลิ่นชะนะ ทหารสังกัด กอ.รมน. ขับรถเก๋งยี่ห้อแดวูภายในบรรทุกระเบิดไปจอดรออยู่บริเวณสี่แยกบางพลัด พบระเบิดทีเอ็นทีและซีโฟร์ผูกติดกันไว้ในกระโปรงท้าย รัศมีทำลายล้างไม่น้อยกว่า 1 กิโลเมตร ใกล้บ้านพักของในซอยจรัลสนิทวงศ์ 69 ของ พ.ต.ท.ทักษิณ และเป็นเส้นทางผ่านของขบวนรถนายกฯ แต่ทีม รปภ.ของ พ.ต.ท.ทักษิณตรวจพบเสียก่อน
มีการสรุปจากฝ่ายรัฐบาลว่า เป็นการมุ่งลอบสังหาร พ.ต.ท.ทักษิณ โดยคนร้ายถูกดำเนินคดี ในความผิดร่วมกันเคลื่อนย้ายและมีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนข้อหาพยายามฆ่า พ.ต.ท.ทักษิณ องค์คณะตุลาการศาลทหารกรุงเทพได้ยกฟ้อง
- - - - -
ครั้งที่ 5
ช่วงรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกฯ หลัง พ.ต.ท.ทักษิณได้เดินทางกลับบ้านและกราบแผ่นดินเกิด ก่อนขออนุญาตศาลเดินทางออกนอกประเทศเพื่อชมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคที่กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีนแล้วไม่กลับมาอีก พลพรรคฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณ ล้วนให้ข่าวตรงกันว่ามีแผนประทุษร้ายจากบางฝ่าย โดยมีการอ้างถึง "สไนเปอร์" หรือพลแม่นปืน ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณต้องเดินทางออกนอกประเทศ
- - - - -
ครั้งที่ 6
เรื่องโจรกรรมข้อมูลการบิน โดยนายศิวลักษณ์
ช่วงนั้น มีข่าวตลอดว่า สุเทพ ส่ง F16 บินไล่ล่าทักษิณ
http://topicstock.pantip.com/rajdumnern/topicstock/2009/11/P8592462/P8592462.html
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9520000150235xhhuu9u3â999yyy3111111พำำพถุถะุ_ำภำภ
- - - - -
ครั้งที่ 7 พฤศจิกายน 2555
ที่พม่า เมื่อปลายปีก่อนที่แกจะไปพม่า แล้วมีข่าว RPG
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
ที่อยู่ระหว่างเตรียมเดินทางไปเยือน จ.ท่าขี้เหล็ก
ประเทศพม่า ในวันที่ 8–10 พ.ย.
แต่เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ของพม่าจับกุมผู้ต้องหา 1 ราย
พร้อมอาวุธสงครามจรวดอาร์พีจี 3 ลูก ดินส่ง 3 ชุด
กระสุนปืนเอ็ม 16 อีก 10 นัด
ซึ่งจับได้บนพื้นดิน แต่อยู่ในเส้นทางบิน
http://news.sanook.com/1151827/ทักษิณ-ยกเลิกไปท่าขี้เหล็ก-เฉลิม-ยันมีแผนลอบสังหารจริง/
http://www.innnews.co.th/mobile/show?newscode=414747
http://www.clipmass.com/story/53576
- - - - -
เพราะทักษิณ ตัดต้นตอขบวนการค้ายาเสพติด
ซึ่งเกี่ยวข้องกับทหาร และองคมนตรีหลายคน
การไปเจรจากับพม่า และออกนโยบายต้านยาเสพติด
ทำให้เครือข่ายของทหาร ขี้ข้าหน้ากระโถน และอำมาตย์
ที่อยู่เบื้องหลังการค้ายาเสพติดต้องเสียประโยชน์ มหาศาล
- - - - -
หากกำจัดทักษิณออกไปให้พ้นทางได้
จะเป็นการขจัดศัตรูตัวสำคัญทิ้งไป
ทั้งทางการเมือง และทางเศรษฐกิจ (ของพวกพ้องมัน)
ปล.นี่ยังไม่รวมสาเหตุเพราะการแย่งความรัก ความศรัทธาจากประชาชนไปอีก แถมยังทำให้กลุ่ม "ทุนผูกขาด" ซึ่งส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับวังต้องลำบาก เพราะทุนนิยม+ประชาธิปไตย ที่ทำให้เกิดการกระจายอำนาจ และเกิดการแข่งขันเพิ่มขึ้น
พวกไพร่ คนจน คนชนบท พวกไม่มีชาติตระกูล
ไม่มีเงินถุงเงินถัง อย่าหวังจะลืมต้าอ้าปากได้
ถ้าฆ่าทักษิณได้ ทุกอย่างจบ
แช่แข็งบอนไซประเทศเหมือนเดิม
ปล.2 แม้แต่ตอนที่ทักษิณสู้คดี ยังมีการวางแผนต่อว่า
ถ้าหากทักษิณโดนจับ แล้วเข้าคุกไปสักพัก
จะลอบฆ่าทักษิณในคุก โดยนักโทษคดียาเสพติดนั่นแหละ — with Fri Baramee.
Cr.Pumin Nontanunค่ะ
เปิดข้อมูล ลอบฆ่าทักษิณ 7 ครั้ง
เปิดข้อมูล ลอบฆ่าทักษิณ 7 ครั้ง
- - - - -
ครั้งที่ 1
วันที่ 3 มี.ค.2544 เกิดเหตุระเบิดเครื่องบินการบินไทย ยี่ห้อ โบอิ้ง 737-400 ทะเบียน HS-TDC กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ที่คณะของ พ.ต.ท.ทักษิณจะเดินทางไปบ้านเกิดที่ จ.เชียงใหม่ ก่อนเวลาออกเดินทางเพียงเล็กน้อย ทำให้เครือบินถูกไฟไหม้เสียหายทั้งลำ มีผู้เสียชีวิต 1 รายหลังเหตุการณ์ใน พ.ต.ท.ทักษิณให้สัมภาษณ์ว่า รายงานของเจ้าหน้าที่ค่อนข้างชัดเจนว่า สาเหตุของเครื่องบินระเบิดน่าจะมาจากวัตถุระเบิดที่มีผู้นำมาติดไว้ที่ใต้ท้องเครื่องบิน บริเวณที่นั่งวีไอพี
-
"เป็นการปองร้าย ไม่ใช่การก่อการร้าย ไม่ทราบว่าปองร้ายใคร ส่วนคนที่ทำนั้นสิ้นคิด ไม่ต้องทำกับนายกรัฐมนตรี ทำกับใคร ประเทศชาติก็เสียหาย" พ.ต.ท.ทักษิณระบุ
-
ขณะที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนเรื่องนี้โดยมี พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ รอง ผบ.ตร.ในขณะนั้น เป็นหัวหน้า ท่ามกลางกระแสข่าวการก่อวินาศกรรม ของกลุ่มก่อการร้ายข้ามชาติหรือขบวนการค้ายาเสพติด
-
จากนั้นในวันที่ 5 มี.ค.2544 คณะกรรมการชุด พล.ต.อ.สันต์ ฟันธงเป็นการ "วางระเบิด" แน่นอน คาดว่าเป็น "ซีโฟร์" เนื่องจากตรวจพบสารอาร์ดีเอ็กซ์ที่เป็นส่วนประกอบของซีโฟร์กระจายอยู่ พร้อมแจกแจงการจุดระเบิดว่าน่าจะเป็นการใช้นาฬิกาประกอบกันเป็นระเบิดแบบแสวงเครื่องในการจุดชนวนแต่ไม่พบซากอุปกรณ์ดังกล่าวในที่เกิดเหตุ
-
ขณะที่สภาผู้แทนราษฎรได้ตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษากรณีเครื่องการบินไทยระเบิดควบคู่ไปด้วย โดย พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ ส.ส.อ่างทอง ประธาน กมธ.แถลงเมื่อวันที่ 3 เม.ย.2544 ว่า สาเหตุมีแนวโน้มว่าจะเป็นอุบัติเหตุ
-
ด้านผลสรุปการสอบสวนของ “คณะกรรมการความปลอดภัยด้านการขนส่งแห่งชาติสหรัฐอเมริกา(NTSB)" ซึ่งเป็นองค์กรการบินระดับโลก ระบุสาเหตุจากอุบัติเหตุที่เกิดจากการเปิดแอร์ระหว่างเติมน้ำมัน สุดท้ายจึงมีแถลงการณ์ร่วมระหว่างรัฐบาลไทยกับ NTSB ว่า คาดว่าสาเหตุมาจากอุปกรณ์ทำความเย็นทำงานต่อเนื่องอย่างหนักได้ปล่อยความร้อนออกมา เป็นเหตุให้ถังเชื้อเพลิงที่อยู่เหนืออุปกรณ์ทำความเย็นเกิดระเบิด
-
เหตุการณ์ครั้งนั้นถูกบางฝ่ายมองว่าเป็นการสร้างข่าวเพื่อกลบกระแส “บกพร่องโดยสุจริต” ในคดี “ซุกหุ้น” ไว้กับคนรับใช้ คนสวน และคนขับรถในภาคแรก
- https://www.facebook.com/media/set/?set=a.319181554878939.1073741830.302738516523243
- khirsangkhawangrabeidkheruxngbinthaksin3minakhm2544 | rungsirasite2011
- http://th.wikipedia.org/wiki/การบินไทย_เที่ยวบินที่_114
- http://maysaanitto.blogspot.com/2012/11/3-2544.html
- - - - -
ครั้งที่ 2
ในปี 2546 ช่วงสงครามล้างยาเสพติดมีการปล่อยข่าวว่า “กลุ่มว้าแดง” ได้ตั้งค่าหัวพ.ต.ท.ทักษิณไว้80 ล้านบาท เนื่องจากไม่พอใจนโยบายปราบปรามยาเสพติดของรัฐบาลที่ทำให้สูญเสียผลกระโยชน์จำนวนมาก ทำให้พ.ต.ท.ทักษิณต้องเปลี่ยนรถประจำตำแหน่งเป็นรถตู้หุ้มเกราะและสั่งเพิ่มทีมรักษาความปลอดภัย เรียกได้ว่าเป็นกองทัพขนาดย่อมๆ โดยมีการเพิ่มรถคุ้มครองหลายคัน มีชุดล่าสังหาร อาวุธครบมือ
ส่วนสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนั้น ตกอยู่ในห้วงที่ พ.ต.ท.ทักษิณถูกฝ่ายค้านและสังคมตั้งข้อสังเกตการเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุนโดยเฉพาะชินคอร์ปซึ่งเป็นธุรกิจครอบครัว
- - - - -
ครั้งที่ 3
2 ส.ค.2549 ที่บริเวณเส้นทางพิเศษของกองทัพอากาศตัดกับถนนวิภาวดีรังสิต ระหว่างที่ขบวนรถ พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้เส้นทางดังกล่าวเข้าสู่สนามบิน บน.6 เพื่อไปพม่า ได้เกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ ยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ได้ชนเข้าอย่างจังกับรถกระบะของตำรวจทางหลวง ขณะที่อดีตนายกฯ ได้ขึ้นบินเดินทางไปแล้ว ซึ่งทีมรักษาความปลอดภัยในตอนแรกมองว่า เป็นการก่อเหตุเพื่อลอบสังหาร จึงได้ตรวจสอบประวัติของผู้ขับขี่รถยนต์ ก็พบว่าเป็นอุบัติเหตุ เพราะผู้ขับขี่เป็นทนายความ และใช้เส้นทางนี้ประจำ
- - - - -
ครั้งที่ 4
ฮือฮาที่สุด วันที่ 24 ส.ค.2549 จับกุม ร.ท.ธวัชชัย กลิ่นชะนะ ทหารสังกัด กอ.รมน. ขับรถเก๋งยี่ห้อแดวูภายในบรรทุกระเบิดไปจอดรออยู่บริเวณสี่แยกบางพลัด พบระเบิดทีเอ็นทีและซีโฟร์ผูกติดกันไว้ในกระโปรงท้าย รัศมีทำลายล้างไม่น้อยกว่า 1 กิโลเมตร ใกล้บ้านพักของในซอยจรัลสนิทวงศ์ 69 ของ พ.ต.ท.ทักษิณ และเป็นเส้นทางผ่านของขบวนรถนายกฯ แต่ทีม รปภ.ของ พ.ต.ท.ทักษิณตรวจพบเสียก่อน
มีการสรุปจากฝ่ายรัฐบาลว่า เป็นการมุ่งลอบสังหาร พ.ต.ท.ทักษิณ โดยคนร้ายถูกดำเนินคดี ในความผิดร่วมกันเคลื่อนย้ายและมีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนข้อหาพยายามฆ่า พ.ต.ท.ทักษิณ องค์คณะตุลาการศาลทหารกรุงเทพได้ยกฟ้อง
- - - - -
ครั้งที่ 5
ช่วงรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกฯ หลัง พ.ต.ท.ทักษิณได้เดินทางกลับบ้านและกราบแผ่นดินเกิด ก่อนขออนุญาตศาลเดินทางออกนอกประเทศเพื่อชมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคที่กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีนแล้วไม่กลับมาอีก พลพรรคฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณ ล้วนให้ข่าวตรงกันว่ามีแผนประทุษร้ายจากบางฝ่าย โดยมีการอ้างถึง "สไนเปอร์" หรือพลแม่นปืน ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณต้องเดินทางออกนอกประเทศ
- - - - -
ครั้งที่ 6
เรื่องโจรกรรมข้อมูลการบิน โดยนายศิวลักษณ์
ช่วงนั้น มีข่าวตลอดว่า สุเทพ ส่ง F16 บินไล่ล่าทักษิณ
http://topicstock.pantip.com/rajdumnern/topicstock/2009/11/P8592462/P8592462.html
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9520000150235xhhuu9u3â999yyy3111111พำำพถุถะุ_ำภำภ
- - - - -
ครั้งที่ 7 พฤศจิกายน 2555
ที่พม่า เมื่อปลายปีก่อนที่แกจะไปพม่า แล้วมีข่าว RPG
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
ที่อยู่ระหว่างเตรียมเดินทางไปเยือน จ.ท่าขี้เหล็ก
ประเทศพม่า ในวันที่ 8–10 พ.ย.
แต่เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ของพม่าจับกุมผู้ต้องหา 1 ราย
พร้อมอาวุธสงครามจรวดอาร์พีจี 3 ลูก ดินส่ง 3 ชุด
กระสุนปืนเอ็ม 16 อีก 10 นัด
ซึ่งจับได้บนพื้นดิน แต่อยู่ในเส้นทางบิน
http://news.sanook.com/1151827/ทักษิณ-ยกเลิกไปท่าขี้เหล็ก-เฉลิม-ยันมีแผนลอบสังหารจริง/
http://www.innnews.co.th/mobile/show?newscode=414747
http://www.clipmass.com/story/53576
- - - - -
เพราะทักษิณ ตัดต้นตอขบวนการค้ายาเสพติด
ซึ่งเกี่ยวข้องกับทหาร และองคมนตรีหลายคน
การไปเจรจากับพม่า และออกนโยบายต้านยาเสพติด
ทำให้เครือข่ายของทหาร ขี้ข้าหน้ากระโถน และอำมาตย์
ที่อยู่เบื้องหลังการค้ายาเสพติดต้องเสียประโยชน์ มหาศาล
- - - - -
หากกำจัดทักษิณออกไปให้พ้นทางได้
จะเป็นการขจัดศัตรูตัวสำคัญทิ้งไป
ทั้งทางการเมือง และทางเศรษฐกิจ (ของพวกพ้องมัน)
ปล.นี่ยังไม่รวมสาเหตุเพราะการแย่งความรัก ความศรัทธาจากประชาชนไปอีก แถมยังทำให้กลุ่ม "ทุนผูกขาด" ซึ่งส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับวังต้องลำบาก เพราะทุนนิยม+ประชาธิปไตย ที่ทำให้เกิดการกระจายอำนาจ และเกิดการแข่งขันเพิ่มขึ้น
พวกไพร่ คนจน คนชนบท พวกไม่มีชาติตระกูล
ไม่มีเงินถุงเงินถัง อย่าหวังจะลืมต้าอ้าปากได้
ถ้าฆ่าทักษิณได้ ทุกอย่างจบ
แช่แข็งบอนไซประเทศเหมือนเดิม
ปล.2 แม้แต่ตอนที่ทักษิณสู้คดี ยังมีการวางแผนต่อว่า
ถ้าหากทักษิณโดนจับ แล้วเข้าคุกไปสักพัก
จะลอบฆ่าทักษิณในคุก โดยนักโทษคดียาเสพติดนั่นแหละ — with Fri Baramee.
Cr.Pumin Nontanunค่ะ
- - - - -
ครั้งที่ 1
วันที่ 3 มี.ค.2544 เกิดเหตุระเบิดเครื่องบินการบินไทย ยี่ห้อ โบอิ้ง 737-400 ทะเบียน HS-TDC กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ที่คณะของ พ.ต.ท.ทักษิณจะเดินทางไปบ้านเกิดที่ จ.เชียงใหม่ ก่อนเวลาออกเดินทางเพียงเล็กน้อย ทำให้เครือบินถูกไฟไหม้เสียหายทั้งลำ มีผู้เสียชีวิต 1 รายหลังเหตุการณ์ใน พ.ต.ท.ทักษิณให้สัมภาษณ์ว่า รายงานของเจ้าหน้าที่ค่อนข้างชัดเจนว่า สาเหตุของเครื่องบินระเบิดน่าจะมาจากวัตถุระเบิดที่มีผู้นำมาติดไว้ที่ใต้ท้องเครื่องบิน บริเวณที่นั่งวีไอพี
-
"เป็นการปองร้าย ไม่ใช่การก่อการร้าย ไม่ทราบว่าปองร้ายใคร ส่วนคนที่ทำนั้นสิ้นคิด ไม่ต้องทำกับนายกรัฐมนตรี ทำกับใคร ประเทศชาติก็เสียหาย" พ.ต.ท.ทักษิณระบุ
-
ขณะที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนเรื่องนี้โดยมี พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ รอง ผบ.ตร.ในขณะนั้น เป็นหัวหน้า ท่ามกลางกระแสข่าวการก่อวินาศกรรม ของกลุ่มก่อการร้ายข้ามชาติหรือขบวนการค้ายาเสพติด
-
จากนั้นในวันที่ 5 มี.ค.2544 คณะกรรมการชุด พล.ต.อ.สันต์ ฟันธงเป็นการ "วางระเบิด" แน่นอน คาดว่าเป็น "ซีโฟร์" เนื่องจากตรวจพบสารอาร์ดีเอ็กซ์ที่เป็นส่วนประกอบของซีโฟร์กระจายอยู่ พร้อมแจกแจงการจุดระเบิดว่าน่าจะเป็นการใช้นาฬิกาประกอบกันเป็นระเบิดแบบแสวงเครื่องในการจุดชนวนแต่ไม่พบซากอุปกรณ์ดังกล่าวในที่เกิดเหตุ
-
ขณะที่สภาผู้แทนราษฎรได้ตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษากรณีเครื่องการบินไทยระเบิดควบคู่ไปด้วย โดย พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ ส.ส.อ่างทอง ประธาน กมธ.แถลงเมื่อวันที่ 3 เม.ย.2544 ว่า สาเหตุมีแนวโน้มว่าจะเป็นอุบัติเหตุ
-
ด้านผลสรุปการสอบสวนของ “คณะกรรมการความปลอดภัยด้านการขนส่งแห่งชาติสหรัฐอเมริกา(NTSB)" ซึ่งเป็นองค์กรการบินระดับโลก ระบุสาเหตุจากอุบัติเหตุที่เกิดจากการเปิดแอร์ระหว่างเติมน้ำมัน สุดท้ายจึงมีแถลงการณ์ร่วมระหว่างรัฐบาลไทยกับ NTSB ว่า คาดว่าสาเหตุมาจากอุปกรณ์ทำความเย็นทำงานต่อเนื่องอย่างหนักได้ปล่อยความร้อนออกมา เป็นเหตุให้ถังเชื้อเพลิงที่อยู่เหนืออุปกรณ์ทำความเย็นเกิดระเบิด
-
เหตุการณ์ครั้งนั้นถูกบางฝ่ายมองว่าเป็นการสร้างข่าวเพื่อกลบกระแส “บกพร่องโดยสุจริต” ในคดี “ซุกหุ้น” ไว้กับคนรับใช้ คนสวน และคนขับรถในภาคแรก
- https://www.facebook.com/media/set/?set=a.319181554878939.1073741830.302738516523243
- khirsangkhawangrabeidkheruxngbinthaksin3minakhm2544 | rungsirasite2011
- http://th.wikipedia.org/wiki/การบินไทย_เที่ยวบินที่_114
- http://maysaanitto.blogspot.com/2012/11/3-2544.html
- - - - -
ครั้งที่ 2
ในปี 2546 ช่วงสงครามล้างยาเสพติดมีการปล่อยข่าวว่า “กลุ่มว้าแดง” ได้ตั้งค่าหัวพ.ต.ท.ทักษิณไว้80 ล้านบาท เนื่องจากไม่พอใจนโยบายปราบปรามยาเสพติดของรัฐบาลที่ทำให้สูญเสียผลกระโยชน์จำนวนมาก ทำให้พ.ต.ท.ทักษิณต้องเปลี่ยนรถประจำตำแหน่งเป็นรถตู้หุ้มเกราะและสั่งเพิ่มทีมรักษาความปลอดภัย เรียกได้ว่าเป็นกองทัพขนาดย่อมๆ โดยมีการเพิ่มรถคุ้มครองหลายคัน มีชุดล่าสังหาร อาวุธครบมือ
ส่วนสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนั้น ตกอยู่ในห้วงที่ พ.ต.ท.ทักษิณถูกฝ่ายค้านและสังคมตั้งข้อสังเกตการเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุนโดยเฉพาะชินคอร์ปซึ่งเป็นธุรกิจครอบครัว
- - - - -
ครั้งที่ 3
2 ส.ค.2549 ที่บริเวณเส้นทางพิเศษของกองทัพอากาศตัดกับถนนวิภาวดีรังสิต ระหว่างที่ขบวนรถ พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้เส้นทางดังกล่าวเข้าสู่สนามบิน บน.6 เพื่อไปพม่า ได้เกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ ยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ได้ชนเข้าอย่างจังกับรถกระบะของตำรวจทางหลวง ขณะที่อดีตนายกฯ ได้ขึ้นบินเดินทางไปแล้ว ซึ่งทีมรักษาความปลอดภัยในตอนแรกมองว่า เป็นการก่อเหตุเพื่อลอบสังหาร จึงได้ตรวจสอบประวัติของผู้ขับขี่รถยนต์ ก็พบว่าเป็นอุบัติเหตุ เพราะผู้ขับขี่เป็นทนายความ และใช้เส้นทางนี้ประจำ
- - - - -
ครั้งที่ 4
ฮือฮาที่สุด วันที่ 24 ส.ค.2549 จับกุม ร.ท.ธวัชชัย กลิ่นชะนะ ทหารสังกัด กอ.รมน. ขับรถเก๋งยี่ห้อแดวูภายในบรรทุกระเบิดไปจอดรออยู่บริเวณสี่แยกบางพลัด พบระเบิดทีเอ็นทีและซีโฟร์ผูกติดกันไว้ในกระโปรงท้าย รัศมีทำลายล้างไม่น้อยกว่า 1 กิโลเมตร ใกล้บ้านพักของในซอยจรัลสนิทวงศ์ 69 ของ พ.ต.ท.ทักษิณ และเป็นเส้นทางผ่านของขบวนรถนายกฯ แต่ทีม รปภ.ของ พ.ต.ท.ทักษิณตรวจพบเสียก่อน
มีการสรุปจากฝ่ายรัฐบาลว่า เป็นการมุ่งลอบสังหาร พ.ต.ท.ทักษิณ โดยคนร้ายถูกดำเนินคดี ในความผิดร่วมกันเคลื่อนย้ายและมีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนข้อหาพยายามฆ่า พ.ต.ท.ทักษิณ องค์คณะตุลาการศาลทหารกรุงเทพได้ยกฟ้อง
- - - - -
ครั้งที่ 5
ช่วงรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกฯ หลัง พ.ต.ท.ทักษิณได้เดินทางกลับบ้านและกราบแผ่นดินเกิด ก่อนขออนุญาตศาลเดินทางออกนอกประเทศเพื่อชมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคที่กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีนแล้วไม่กลับมาอีก พลพรรคฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณ ล้วนให้ข่าวตรงกันว่ามีแผนประทุษร้ายจากบางฝ่าย โดยมีการอ้างถึง "สไนเปอร์" หรือพลแม่นปืน ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณต้องเดินทางออกนอกประเทศ
- - - - -
ครั้งที่ 6
เรื่องโจรกรรมข้อมูลการบิน โดยนายศิวลักษณ์
ช่วงนั้น มีข่าวตลอดว่า สุเทพ ส่ง F16 บินไล่ล่าทักษิณ
http://topicstock.pantip.com/rajdumnern/topicstock/2009/11/P8592462/P8592462.html
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9520000150235xhhuu9u3â999yyy3111111พำำพถุถะุ_ำภำภ
- - - - -
ครั้งที่ 7 พฤศจิกายน 2555
ที่พม่า เมื่อปลายปีก่อนที่แกจะไปพม่า แล้วมีข่าว RPG
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
ที่อยู่ระหว่างเตรียมเดินทางไปเยือน จ.ท่าขี้เหล็ก
ประเทศพม่า ในวันที่ 8–10 พ.ย.
แต่เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ของพม่าจับกุมผู้ต้องหา 1 ราย
พร้อมอาวุธสงครามจรวดอาร์พีจี 3 ลูก ดินส่ง 3 ชุด
กระสุนปืนเอ็ม 16 อีก 10 นัด
ซึ่งจับได้บนพื้นดิน แต่อยู่ในเส้นทางบิน
http://news.sanook.com/1151827/ทักษิณ-ยกเลิกไปท่าขี้เหล็ก-เฉลิม-ยันมีแผนลอบสังหารจริง/
http://www.innnews.co.th/mobile/show?newscode=414747
http://www.clipmass.com/story/53576
- - - - -
เพราะทักษิณ ตัดต้นตอขบวนการค้ายาเสพติด
ซึ่งเกี่ยวข้องกับทหาร และองคมนตรีหลายคน
การไปเจรจากับพม่า และออกนโยบายต้านยาเสพติด
ทำให้เครือข่ายของทหาร ขี้ข้าหน้ากระโถน และอำมาตย์
ที่อยู่เบื้องหลังการค้ายาเสพติดต้องเสียประโยชน์ มหาศาล
- - - - -
หากกำจัดทักษิณออกไปให้พ้นทางได้
จะเป็นการขจัดศัตรูตัวสำคัญทิ้งไป
ทั้งทางการเมือง และทางเศรษฐกิจ (ของพวกพ้องมัน)
ปล.นี่ยังไม่รวมสาเหตุเพราะการแย่งความรัก ความศรัทธาจากประชาชนไปอีก แถมยังทำให้กลุ่ม "ทุนผูกขาด" ซึ่งส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับวังต้องลำบาก เพราะทุนนิยม+ประชาธิปไตย ที่ทำให้เกิดการกระจายอำนาจ และเกิดการแข่งขันเพิ่มขึ้น
พวกไพร่ คนจน คนชนบท พวกไม่มีชาติตระกูล
ไม่มีเงินถุงเงินถัง อย่าหวังจะลืมต้าอ้าปากได้
ถ้าฆ่าทักษิณได้ ทุกอย่างจบ
แช่แข็งบอนไซประเทศเหมือนเดิม
ปล.2 แม้แต่ตอนที่ทักษิณสู้คดี ยังมีการวางแผนต่อว่า
ถ้าหากทักษิณโดนจับ แล้วเข้าคุกไปสักพัก
จะลอบฆ่าทักษิณในคุก โดยนักโทษคดียาเสพติดนั่นแหละ — with Fri Baramee.
Cr.Pumin Nontanunค่ะ
Subscribe to:
Posts (Atom)