Download
Saturday, May 30, 2015
ภาพที่ทำให้ทั่นผู้นำประยุทธ์ เสีย self จนต้องออกกฎหมายห้าม เฮ่ะ ๆ ๆ
ข้อความและภาพส่งมาจากแฟนคลับคสช. อิ ๆ
ข้อห้ามใหม่ล่าสุด ห้ามนำภาพไม่สวยลงเผยแพร่ทางสื่อ..มันไม่ดีต่อภาพพจน์ผู้นำประเทศ .. ใครมีภาพหล่อช่วยหามาลงหน่อยเถอะ.
ข้อห้ามใหม่ล่าสุด ห้ามนำภาพไม่สวยลงเผยแพร่ทางสื่อ..มันไม่ดีต่อภาพพจน์ผู้นำประเทศ .. ใครมีภาพหล่อช่วยหามาลงหน่อยเถอะ.
ภาพที่ทำให้ทั่นผู้นำประยุทธ์ เสีย self จนต้องออกกฎหมายห้าม เฮ่ะ ๆ ๆ
ข้อความและภาพส่งมาจากแฟนคลับคสช. อิ ๆ
ข้อห้ามใหม่ล่าสุด ห้ามนำภาพไม่สวยลงเผยแพร่ทางสื่อ..มันไม่ดีต่อภาพพจน์ผู้นำประเทศ .. ใครมีภาพหล่อช่วยหามาลงหน่อยเถอะ.
ข้อห้ามใหม่ล่าสุด ห้ามนำภาพไม่สวยลงเผยแพร่ทางสื่อ..มันไม่ดีต่อภาพพจน์ผู้นำประเทศ .. ใครมีภาพหล่อช่วยหามาลงหน่อยเถอะ.
ใครสั่งฆ่า? ... วางระเบิดเครื่องบินทักษิณ 3 มีนาคม 2544
เครดิต สหาย รุ่งศิลา
วันที่ 3 มีนาคม 2544 หลายคนยังจำกันได้ในสมัย "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" เป็นนายกรัฐมนตรีในครั้งนั้นเป็นข่าว
ครึกโครมไปทั่วประเทศและทั่วโลกเมื่อ เครื่องบินของสายการบินไทย ที่จอดเทียบท่าอยู่สนามบินดอนเมืองเพื่อรอ
รับผู้โดยสารบินไปยังจังหวัดเชียงใหม่ โดยหนึ่งในผู้โดยสารในเที่ยวบินดังกล่าวก็มีผู้นำของประเทศ"พ.ต. ต.ทักษิณ"
ก่อนที่ผู้โดยสาร ขึ้นเครื่องไม่กี่นาที เครื่องบินลำดังกล่าวเกิดระเบิดขึ้น กลางสนามบินดอนเมือง สร้างความแตก
ตื่นให้กับผู้คนจำนวนมาก โชคดีของผู้โดยสารที่ยังไม่มีใครขึ้นบนเครื่องบิน จึงไม่มีใครสังเวยชีวิตในครั้งนั้น แต่ก็เป็น
ที่กังขาของหลายฝ่ายว่าระเบิดเครื่องบินไทยครั้งนั้นเกิดจากเหตุอะไรกันแน่
ใครสั่งฆ่า? ... วางระเบิดเครื่องบินทักษิณ 3 มีนาคม 2544
วางระเบิดเครื่องบินทักษิณ 3 มีนาคม 2544
วันที่ 3 มีนาคม 2544 หลายคนยังจำกันได้ในสมัย "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" เป็นนายกรัฐมนตรีในครั้งนั้นเป็นข่าว
ครึกโครมไปทั่วประเทศและทั่วโลกเมื่อ เครื่องบินของสายการบินไทย ที่จอดเทียบท่าอยู่สนามบินดอนเมืองเพื่อรอ
รับผู้โดยสารบินไปยังจังหวัดเชียงใหม่ โดยหนึ่งในผู้โดยสารในเที่ยวบินดังกล่าวก็มีผู้นำของประเทศ"พ.ต. ต.ทักษิณ"
ก่อนที่ผู้โดยสาร ขึ้นเครื่องไม่กี่นาที เครื่องบินลำดังกล่าวเกิดระเบิดขึ้น กลางสนามบินดอนเมือง สร้างความแตก
ตื่นให้กับผู้คนจำนวนมาก โชคดีของผู้โดยสารที่ยังไม่มีใครขึ้นบนเครื่องบิน จึงไม่มีใครสังเวยชีวิตในครั้งนั้น แต่ก็เป็น
ที่กังขาของหลายฝ่ายว่าระเบิดเครื่องบินไทยครั้งนั้นเกิดจากเหตุอะไรกันแน่
ลอบวางระเบิดนายกฯ..? วินาศกรรม..? ความประมาท..? อุบัติเหตุ..?
จนวันนี้คำถามเหล่านี้ก็ยังไม่ได้รับความชัดเจน
24 ชั่วโมงของทักษิณ : บทที่ 1 เสียงโทรศัพท์ยามรุ่งอรุณ (ตอนที่1)
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ ทักษิณเอาชีวิตรอดมาได้ ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 5 มีนาคม2544
เมื่อเขาได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเพียง 25 วัน เขาก็ได้รับรู้รสชาติของการถูกลอบสังหารในวันนั้น
เครื่องบินโบอิ้ง 747 ลำหนึ่งของการบินไทยซึ่งบรรทุกผู้โดยสารจำนวน 129 คน เดินทางจากกรุงเทพฯ ไปยัง
จังหวัดเชียงใหม่ผู้โดยสารบนเครื่องซึ่งรวมทั้งทักษิณที่เพิ่งได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีพร้อมด้วยลูกชายรวมทั้ง
ข้าราชการจำนวน 20 คนเตรียมพร้อมขึ้นเครื่องวินาทีที่เครื่องบินเตรียมทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้านั้นที่นั่งชั้นหนึ่งหมาย
เลข 11A ที่เขาได้จองไว้เกิดระเบิดขึ้นกะทันหัน ผู้โดยสารที่อยู่บริเวณรอบๆที่นั่งนั้น ได้รับบาดเจ็บจำนวนมากแต่
ที่โชคดีก็คือ ที่นั่งนี้ไม่มีใครนั่งอยู่ในตอนนั้น ทักษิณผู้ซึ่งตรงต่อเวลามาโดย ตลอดตัดสินใจที่จะรอลูกชายซึ่งก็
คือ นายพานทองแท้ ที่มาถึงช้า วันนั้นลูกชายก็ไม่ทราบสาเหตุ ว่าทำไมถึงมาช้า 25 นาที แต่ในที่สุดก็ได้ช่วย
ชีวิตพ่อของตนไว้ได้
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ ทักษิณเอาชีวิตรอดมาได้ ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 5 มีนาคม2544
เมื่อเขาได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเพียง 25 วัน เขาก็ได้รับรู้รสชาติของการถูกลอบสังหารในวันนั้น
เครื่องบินโบอิ้ง 747 ลำหนึ่งของการบินไทยซึ่งบรรทุกผู้โดยสารจำนวน 129 คน เดินทางจากกรุงเทพฯ ไปยัง
จังหวัดเชียงใหม่ผู้โดยสารบนเครื่องซึ่งรวมทั้งทักษิณที่เพิ่งได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีพร้อมด้วยลูกชายรวมทั้ง
ข้าราชการจำนวน 20 คนเตรียมพร้อมขึ้นเครื่องวินาทีที่เครื่องบินเตรียมทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้านั้นที่นั่งชั้นหนึ่งหมาย
เลข 11A ที่เขาได้จองไว้เกิดระเบิดขึ้นกะทันหัน ผู้โดยสารที่อยู่บริเวณรอบๆที่นั่งนั้น ได้รับบาดเจ็บจำนวนมากแต่
ที่โชคดีก็คือ ที่นั่งนี้ไม่มีใครนั่งอยู่ในตอนนั้น ทักษิณผู้ซึ่งตรงต่อเวลามาโดย ตลอดตัดสินใจที่จะรอลูกชายซึ่งก็
คือ นายพานทองแท้ ที่มาถึงช้า วันนั้นลูกชายก็ไม่ทราบสาเหตุ ว่าทำไมถึงมาช้า 25 นาที แต่ในที่สุดก็ได้ช่วย
ชีวิตพ่อของตนไว้ได้
ดาวโหลดไฟล์ข้อมูลการระเบิด http://www.karoon-saingam.net/violence_thaksin.pdf
Boeing 737-400
ดร. "ทักษิณ อ้างไม่ผิด แล้วทำไมไม่กลับมารับโทษ" ความเห็นของเสื้อแดงท่านหนึ่ง
บ่อยครั้งที่จะได้ยินคำว่า" ไม่ผิด แล้วทำไมไม่กลับมาสู้คดี "นั้น
ตอบแบบ ให้ความรู้ว่า คดีที่ถูกตัดสินไปนั้น มันไม่มีสิทธิ์ ให้สู้คดี ตัดสินแล้วตัดสินเลยเป็นอันสิ้นสุด ไม่ทราบว่า คนกลุ่มหนึ่งยังไม่รู้แม้กระทั่ง คดีที่ดินรัชดา คนซื้อไม่ผิด คนขายไม่ผิด แต่สามีคนซื้อ เซ็นอนุญาตในฐานะสามี ผิด ! คดีนี้ จะเป็นยางลบฐาน ให้อนุชน รุ่นหลัง ได้ศึกษา ถึงวิธีพิจารณา คดีว่า การซื้อการประมูลหลักทรัพย์ กับหน่วยราชการไทย(กองทุนฟื้นฟู) ซื้อมันมาแล้ว จะนำมาซึ่งความซวย ความพินาศของตระกูล ต้องติดคุกติดตะราง มีความผิด ประมูลให้มันด้วยราคาสูงสุด ถามว่าคนขาย หน่วยงานของรัฐ ได้ประโยชน์มั้ย ได้ ได้ราคามั้ย ได้ สูงสุดมั้ย สูงที่สุด แล้วใครเสียหาย มีมั้ย ไม่มี มันเป็นคดีที่พิลึกพิลั่น สั่นประสาท มีช่องว่าง ช่องโหว่ทางกฎหมาย ที่จะเอาผิดให้ได้ ก็ต้องเอา เหมือนอย่างนายสมัคร ถูกคดีทำกับข้าว ก็กระเด็นจากตำแหน่งนายกได้ มันง่ายแบบพิลึก มันเหมือนจ้องหาทางเอาผิดทุกกระเบียดนิ้ว อย่าพลาดมา หาทุกวิถีทาง จับมันทุกกระเบียดนิ้ว จะเอาความผิดเขาให้ได้ ไม่คิดถึงสิ่งดีดีที่เขาทำเอาใว้ให้บ้านเมืองบ้าง ? สิ่งที่คนซื้อ คนที่ประมูลได้ ด้วยราคาสูงที่สุด ได้รับไม่ใช่ที่ดิน แต่เป็นความซวย ต้องเสียสามีไปทั้งคน ยุติธรรม ที่สุดในโลก มั้ย ? คดีนี้จะเป็นยางลบฐาน ที่เตือนสติให้ใครก็ตาม อย่าไปบังอาจ ไปประมูลที่ดินกับหน่วยงานราชการ เพราะอาจเป็นเช่นนี้ สามีเป็นถึงนายกรัฐมนตรี ยังโดนคดี แล้วนับประสาอะไร กับประชาชนน คนธรรมดา จะอยู่ในสังคมแบบได้อย่างไรไหว ต่างชาติที่ไหนใครเขาก็กลัว กระบวนการอย่างนี้ !!!! ลองคิดดูนะครับ ผู้ที่เกลียดชัง ทักษิณ ทั้งหลาย คุณลองเอาสมองคิดสักนิดว่า เขาทำให้รัฐหรือใครเสียหาย สักบาทมั้ย ที่ว่าเขาผิดต้องติดคุกสองปีนั้น คดีนี้ เขาทำให้ใครเสียหาย สักบาทมั้ย รัฐเสียหาย หรือมีใครเสียหายมั้ย การโกง การทุจริต มันต้องมีผู้เสียหาย วิชากฎหมาย ต้องเรียนกันใหม่ ว่า แม้ไม่มีผู้เสียหาย แม้ประมูลอย่างโปร่งใส แม้ไม่มีเจตนา ก็สามารถติดคุกได้ มีความผิดได้ ถ้าอยากจะหาเรื่องเอาผิด !!!!! คดีนี้ ทักษิณ ผิดมากขนาดไหน เขาฆ่าพ่อ ล่อแม่คุณ ข่มขืนลูกเมียคุณ หรือทุจริตเงินใครไปสักบาทมั้ย คุณถึงคิดอาฆาตพยาบาท เขาขนาดนั้น ถ้ายังมีสติ ถ้ายังมีความคิด ลองเอาสามัญสำนึกของความเป็นมนุษย์ คิดถึงผิดถูกชั่วดี แค่นี้ก็พอจะตัดสินได้ ว่า จะกวักมือท้าเรียกให้เขามาสู้คดีที่เมืองไทย อย่างเยอะเย้ยเย้ยหยัน ผมเคยคุยกับพวกสลิ่ม หลายคน ทุกคนก็ยอมรับว่า มันคือการหาเรื่อง รู้ทั้งรู้ทั้งนั้น ก็มันคนไม่ใช่สัตว์ ที่จะทำเป็นไม่รับไม่รู้ ว่าเรื่องราวคดีมีความเป็นมาอย่างไร มันรู้กันทั้งนั้น แต่เพราะความอคติ ที่อยู่ในใจ ทำเป็นเย้ยหยัน ทำเป็นท้าทาย ทำลายเขาได้ดีชอบ นี่คือนิสัย ! ลองตอบคำถามผมสักคำ ว่า คนที่พวกคุณเชื่อแบบถวายหัว อย่างสนธิ ถูกศาลตัดสิน มีความผิดทุจริตต่อตลาดหลักทรัพย์ ปกปิดซ่อเร้น หลอกลวง แจ้งสำแดงเท็จ ศาลตัดสินจำคุกเกือบร้อยปี ตัดสินไปสองศาล ถามพวกคุณว่า คนอย่างนั้นคุณว่ามันดี นี่แหละคนไทย ไทยขยะ ที่เห็นผิดเป็นถูก เห็นถูกเป็นผิด ดำเป็นขาว ขาวเป็นดำ ทำไมจิตใจมันตกต่ำ ดำมืดได้ขาดนี้ ?? ทำไมไม่ลองคิดดูว่า ถ้าทักษิณ เลวจริง ต่างชาติ คนทั้งโลกยอมรับเขาได้อย่างไร มีแต่คนกลุ่มเดียวในเมืองไทย ที่โดนมนต์โกเต็กซ์เข้าไปเท่านั้นที่เชื่อแปลกแหวกแนวไม่เหมือนใคร คนกลุ่มที่เรียกว่า ตัวเองว่า เสื้อเหลือง พันธมิตร หลากสี สลิ่ม กปปส ล้วนคือคนๆเดียวกันทั้งเพ ผลิตผลชาติกำเนิดมาจาก สนธิ ทั้งสิ้น พอสนธิเริ่มเสื่อม หาที่ยึดเหนี่ยวไม่ได้ ก็ไปเกาะกำนัน พอกำนันเสื่อมก็ไปเกาะขี้ที่ลอยน้ำมา ไม่มีอะไรซับซ้อน การหลงสื่อ การโฆษณาชวนเชื่อ การกรอกหู การล้างสมองคนเหล่านี้ คนที่มีปัญญาไม่แข็งแรง เขาสอนอย่างไร เชื่อหมดใจ นี่แหละนิสัยสลิ่ม มันจึงเป็นสิ่งที่น่าสงสาร ที่สิบปี ไม่ทำให้คนเหล่านี้ เลิกเป็นทาส เลิกเสพติด ลองดูพฤติกรรม เขาสอนให้เกลียดทักษิณ เกลียดเสื้อแดง เห็นไม่ได้ ตาขวางฟูมฟาย น้ำลายฟูมปาก นี่คือนิสัย มันบ้า มันคลุ้มคลั่ง แต่เชื่อว่า กาลเวลา จะทำให้พวกเขาหูตาสว่างขึ้นมาบ้าง แต่ก็อาจจะเจียนตาย เพราะส่วนใหญ่ คือผู้สูงอายุ นี่แหละ ด้วยพิษของสื่อ สื่อชั่ว มันสามารถทำลายคนไทยเกือบครึ่งประเทศ เสพติดคิดชั่วตามที่ตัวต้องการ ทั้งที่ตัวมันเอง ชั่วแสนชั่ว ชั่วยิ่งกว่าใครๆ แต่มันก็ทำให้บ้านนี้เมืองนี้ เสียหายเกลียดชังสร้างความพินาศได้อย่างมากมาย อย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน ความเสียหายครั้งนี้ ยับเยินมากมายเหลือคณานับ เพราะไม่เพียงแต่สร้างความเกลียดชังแตกแยกให้กับเผ่าพันธุ์ไทย แต่ที่ร้ายไปกว่านั้น มันดึงสถาบันต่างๆ เข้ามาเกลือกกลั้วจนมัวหมอง ทั้งพระสงฆ์องคเจ้า ศาล ตุลาการ ทหาร ตำรวจ ข้าราชการ หมอ นักเรียนนิสิต นักศึกษา ปัญญาชน คนเดินถนน เรียกว่าความขัดแย้งลุกลามบานปลายไปทั่วทั้งแผ่นดิน นั่นแหละผลงานของมัน ผลงานที่สลิ่มภูมิอกภูมิใจ ในสิบปีที่ผ่านมา ! มีคนอ้างว่า ความขัดแย้ง ที่มีมานานนับสิบปี กำลังจะแก้ไขปัญหา ให้เกิดความปรองดอง สามัคคีกลับคืนมา ถามว่า ไหน ใคร ทำอย่างไร วันนี้ยังไม่มีวี่แววว่า จะมีหน้าไหน ออกมาเพื่อขจัดความขัดแย้ง ที่กำลังร่าง กติกา กันอยู่ในสภาปฎิรูปนั้น ก็เห็นกันอยู่อย่างชัดๆว่า มันกำลังร่างเพื่อทำลายฝ่ายตรงข้าม แล้วมาอ้างว่า กำลังปรองดองกำลังสามัคคี แค่เห็นหน้า อ้า... คนแก้ ก็รู้แล้วว่ามันจะแก้อย่างไร ก็เล่นเอาคู่ขัดแย้ง คนที่เกลียดชัง คนที่คิดทำลายฝ่ายตรงข้าม ตัวเป็นๆ ตัวเป้งๆ นั่นแหละกลุ่มหัวๆ ตัวขัดแย้ง ที่ขึ้นเวที กปปส ทั้งนั้น มีที่ไหนในโลกเขาทำวะ เอาคู่ขัดแย้ง มาตั้งกติกาเสียเอง เจริญเถอะ....ประเทศไทย!! ปล ขอเสริมอีกนิด ว่า ที่จะทำประชามตินั้น ไม่ต้องทำให้เสียงบประมาณ 3000ล้าน เพราะมันไม่ผ่านอยู่แล้ว เพราะคนที่ร่างล้วนคือตัวอคติ ตัวขัดแย้ง ไม่รู้ว่าหน้าไหนไปลากกันมา ถ้าไม่อยากให้เสียเวลา คนที่ร่างมันต้องมาจากทุกฝ่าย" ปลูกเรือนต้องตามใจผู้อยู่ ผูกอู่ตามใจผู้นอน "ไม่งั้นไ่ม่มีวันจบหรอกจะบอกให้ .....เหตุที่ผมแดงก็เพราะความยุติธรรมไม่มีบนแผ่นดินนี้แหละครับ..
ตอบแบบ ให้ความรู้ว่า คดีที่ถูกตัดสินไปนั้น มันไม่มีสิทธิ์ ให้สู้คดี ตัดสินแล้วตัดสินเลยเป็นอันสิ้นสุด ไม่ทราบว่า คนกลุ่มหนึ่งยังไม่รู้แม้กระทั่ง คดีที่ดินรัชดา คนซื้อไม่ผิด คนขายไม่ผิด แต่สามีคนซื้อ เซ็นอนุญาตในฐานะสามี ผิด ! คดีนี้ จะเป็นยางลบฐาน ให้อนุชน รุ่นหลัง ได้ศึกษา ถึงวิธีพิจารณา คดีว่า การซื้อการประมูลหลักทรัพย์ กับหน่วยราชการไทย(กองทุนฟื้นฟู) ซื้อมันมาแล้ว จะนำมาซึ่งความซวย ความพินาศของตระกูล ต้องติดคุกติดตะราง มีความผิด ประมูลให้มันด้วยราคาสูงสุด ถามว่าคนขาย หน่วยงานของรัฐ ได้ประโยชน์มั้ย ได้ ได้ราคามั้ย ได้ สูงสุดมั้ย สูงที่สุด แล้วใครเสียหาย มีมั้ย ไม่มี มันเป็นคดีที่พิลึกพิลั่น สั่นประสาท มีช่องว่าง ช่องโหว่ทางกฎหมาย ที่จะเอาผิดให้ได้ ก็ต้องเอา เหมือนอย่างนายสมัคร ถูกคดีทำกับข้าว ก็กระเด็นจากตำแหน่งนายกได้ มันง่ายแบบพิลึก มันเหมือนจ้องหาทางเอาผิดทุกกระเบียดนิ้ว อย่าพลาดมา หาทุกวิถีทาง จับมันทุกกระเบียดนิ้ว จะเอาความผิดเขาให้ได้ ไม่คิดถึงสิ่งดีดีที่เขาทำเอาใว้ให้บ้านเมืองบ้าง ? สิ่งที่คนซื้อ คนที่ประมูลได้ ด้วยราคาสูงที่สุด ได้รับไม่ใช่ที่ดิน แต่เป็นความซวย ต้องเสียสามีไปทั้งคน ยุติธรรม ที่สุดในโลก มั้ย ? คดีนี้จะเป็นยางลบฐาน ที่เตือนสติให้ใครก็ตาม อย่าไปบังอาจ ไปประมูลที่ดินกับหน่วยงานราชการ เพราะอาจเป็นเช่นนี้ สามีเป็นถึงนายกรัฐมนตรี ยังโดนคดี แล้วนับประสาอะไร กับประชาชนน คนธรรมดา จะอยู่ในสังคมแบบได้อย่างไรไหว ต่างชาติที่ไหนใครเขาก็กลัว กระบวนการอย่างนี้ !!!! ลองคิดดูนะครับ ผู้ที่เกลียดชัง ทักษิณ ทั้งหลาย คุณลองเอาสมองคิดสักนิดว่า เขาทำให้รัฐหรือใครเสียหาย สักบาทมั้ย ที่ว่าเขาผิดต้องติดคุกสองปีนั้น คดีนี้ เขาทำให้ใครเสียหาย สักบาทมั้ย รัฐเสียหาย หรือมีใครเสียหายมั้ย การโกง การทุจริต มันต้องมีผู้เสียหาย วิชากฎหมาย ต้องเรียนกันใหม่ ว่า แม้ไม่มีผู้เสียหาย แม้ประมูลอย่างโปร่งใส แม้ไม่มีเจตนา ก็สามารถติดคุกได้ มีความผิดได้ ถ้าอยากจะหาเรื่องเอาผิด !!!!! คดีนี้ ทักษิณ ผิดมากขนาดไหน เขาฆ่าพ่อ ล่อแม่คุณ ข่มขืนลูกเมียคุณ หรือทุจริตเงินใครไปสักบาทมั้ย คุณถึงคิดอาฆาตพยาบาท เขาขนาดนั้น ถ้ายังมีสติ ถ้ายังมีความคิด ลองเอาสามัญสำนึกของความเป็นมนุษย์ คิดถึงผิดถูกชั่วดี แค่นี้ก็พอจะตัดสินได้ ว่า จะกวักมือท้าเรียกให้เขามาสู้คดีที่เมืองไทย อย่างเยอะเย้ยเย้ยหยัน ผมเคยคุยกับพวกสลิ่ม หลายคน ทุกคนก็ยอมรับว่า มันคือการหาเรื่อง รู้ทั้งรู้ทั้งนั้น ก็มันคนไม่ใช่สัตว์ ที่จะทำเป็นไม่รับไม่รู้ ว่าเรื่องราวคดีมีความเป็นมาอย่างไร มันรู้กันทั้งนั้น แต่เพราะความอคติ ที่อยู่ในใจ ทำเป็นเย้ยหยัน ทำเป็นท้าทาย ทำลายเขาได้ดีชอบ นี่คือนิสัย ! ลองตอบคำถามผมสักคำ ว่า คนที่พวกคุณเชื่อแบบถวายหัว อย่างสนธิ ถูกศาลตัดสิน มีความผิดทุจริตต่อตลาดหลักทรัพย์ ปกปิดซ่อเร้น หลอกลวง แจ้งสำแดงเท็จ ศาลตัดสินจำคุกเกือบร้อยปี ตัดสินไปสองศาล ถามพวกคุณว่า คนอย่างนั้นคุณว่ามันดี นี่แหละคนไทย ไทยขยะ ที่เห็นผิดเป็นถูก เห็นถูกเป็นผิด ดำเป็นขาว ขาวเป็นดำ ทำไมจิตใจมันตกต่ำ ดำมืดได้ขาดนี้ ?? ทำไมไม่ลองคิดดูว่า ถ้าทักษิณ เลวจริง ต่างชาติ คนทั้งโลกยอมรับเขาได้อย่างไร มีแต่คนกลุ่มเดียวในเมืองไทย ที่โดนมนต์โกเต็กซ์เข้าไปเท่านั้นที่เชื่อแปลกแหวกแนวไม่เหมือนใคร คนกลุ่มที่เรียกว่า ตัวเองว่า เสื้อเหลือง พันธมิตร หลากสี สลิ่ม กปปส ล้วนคือคนๆเดียวกันทั้งเพ ผลิตผลชาติกำเนิดมาจาก สนธิ ทั้งสิ้น พอสนธิเริ่มเสื่อม หาที่ยึดเหนี่ยวไม่ได้ ก็ไปเกาะกำนัน พอกำนันเสื่อมก็ไปเกาะขี้ที่ลอยน้ำมา ไม่มีอะไรซับซ้อน การหลงสื่อ การโฆษณาชวนเชื่อ การกรอกหู การล้างสมองคนเหล่านี้ คนที่มีปัญญาไม่แข็งแรง เขาสอนอย่างไร เชื่อหมดใจ นี่แหละนิสัยสลิ่ม มันจึงเป็นสิ่งที่น่าสงสาร ที่สิบปี ไม่ทำให้คนเหล่านี้ เลิกเป็นทาส เลิกเสพติด ลองดูพฤติกรรม เขาสอนให้เกลียดทักษิณ เกลียดเสื้อแดง เห็นไม่ได้ ตาขวางฟูมฟาย น้ำลายฟูมปาก นี่คือนิสัย มันบ้า มันคลุ้มคลั่ง แต่เชื่อว่า กาลเวลา จะทำให้พวกเขาหูตาสว่างขึ้นมาบ้าง แต่ก็อาจจะเจียนตาย เพราะส่วนใหญ่ คือผู้สูงอายุ นี่แหละ ด้วยพิษของสื่อ สื่อชั่ว มันสามารถทำลายคนไทยเกือบครึ่งประเทศ เสพติดคิดชั่วตามที่ตัวต้องการ ทั้งที่ตัวมันเอง ชั่วแสนชั่ว ชั่วยิ่งกว่าใครๆ แต่มันก็ทำให้บ้านนี้เมืองนี้ เสียหายเกลียดชังสร้างความพินาศได้อย่างมากมาย อย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน ความเสียหายครั้งนี้ ยับเยินมากมายเหลือคณานับ เพราะไม่เพียงแต่สร้างความเกลียดชังแตกแยกให้กับเผ่าพันธุ์ไทย แต่ที่ร้ายไปกว่านั้น มันดึงสถาบันต่างๆ เข้ามาเกลือกกลั้วจนมัวหมอง ทั้งพระสงฆ์องคเจ้า ศาล ตุลาการ ทหาร ตำรวจ ข้าราชการ หมอ นักเรียนนิสิต นักศึกษา ปัญญาชน คนเดินถนน เรียกว่าความขัดแย้งลุกลามบานปลายไปทั่วทั้งแผ่นดิน นั่นแหละผลงานของมัน ผลงานที่สลิ่มภูมิอกภูมิใจ ในสิบปีที่ผ่านมา ! มีคนอ้างว่า ความขัดแย้ง ที่มีมานานนับสิบปี กำลังจะแก้ไขปัญหา ให้เกิดความปรองดอง สามัคคีกลับคืนมา ถามว่า ไหน ใคร ทำอย่างไร วันนี้ยังไม่มีวี่แววว่า จะมีหน้าไหน ออกมาเพื่อขจัดความขัดแย้ง ที่กำลังร่าง กติกา กันอยู่ในสภาปฎิรูปนั้น ก็เห็นกันอยู่อย่างชัดๆว่า มันกำลังร่างเพื่อทำลายฝ่ายตรงข้าม แล้วมาอ้างว่า กำลังปรองดองกำลังสามัคคี แค่เห็นหน้า อ้า... คนแก้ ก็รู้แล้วว่ามันจะแก้อย่างไร ก็เล่นเอาคู่ขัดแย้ง คนที่เกลียดชัง คนที่คิดทำลายฝ่ายตรงข้าม ตัวเป็นๆ ตัวเป้งๆ นั่นแหละกลุ่มหัวๆ ตัวขัดแย้ง ที่ขึ้นเวที กปปส ทั้งนั้น มีที่ไหนในโลกเขาทำวะ เอาคู่ขัดแย้ง มาตั้งกติกาเสียเอง เจริญเถอะ....ประเทศไทย!! ปล ขอเสริมอีกนิด ว่า ที่จะทำประชามตินั้น ไม่ต้องทำให้เสียงบประมาณ 3000ล้าน เพราะมันไม่ผ่านอยู่แล้ว เพราะคนที่ร่างล้วนคือตัวอคติ ตัวขัดแย้ง ไม่รู้ว่าหน้าไหนไปลากกันมา ถ้าไม่อยากให้เสียเวลา คนที่ร่างมันต้องมาจากทุกฝ่าย" ปลูกเรือนต้องตามใจผู้อยู่ ผูกอู่ตามใจผู้นอน "ไม่งั้นไ่ม่มีวันจบหรอกจะบอกให้ .....เหตุที่ผมแดงก็เพราะความยุติธรรมไม่มีบนแผ่นดินนี้แหละครับ..
ดร. "ทักษิณ อ้างไม่ผิด แล้วทำไมไม่กลับมารับโทษ" ความเห็นของเสื้อแดงท่านหนึ่ง
บ่อยครั้งที่จะได้ยินคำว่า" ไม่ผิด แล้วทำไมไม่กลับมาสู้คดี "นั้น
ตอบแบบ ให้ความรู้ว่า คดีที่ถูกตัดสินไปนั้น มันไม่มีสิทธิ์ ให้สู้คดี ตัดสินแล้วตัดสินเลยเป็นอันสิ้นสุด ไม่ทราบว่า คนกลุ่มหนึ่งยังไม่รู้แม้กระทั่ง คดีที่ดินรัชดา คนซื้อไม่ผิด คนขายไม่ผิด แต่สามีคนซื้อ เซ็นอนุญาตในฐานะสามี ผิด ! คดีนี้ จะเป็นยางลบฐาน ให้อนุชน รุ่นหลัง ได้ศึกษา ถึงวิธีพิจารณา คดีว่า การซื้อการประมูลหลักทรัพย์ กับหน่วยราชการไทย(กองทุนฟื้นฟู) ซื้อมันมาแล้ว จะนำมาซึ่งความซวย ความพินาศของตระกูล ต้องติดคุกติดตะราง มีความผิด ประมูลให้มันด้วยราคาสูงสุด ถามว่าคนขาย หน่วยงานของรัฐ ได้ประโยชน์มั้ย ได้ ได้ราคามั้ย ได้ สูงสุดมั้ย สูงที่สุด แล้วใครเสียหาย มีมั้ย ไม่มี มันเป็นคดีที่พิลึกพิลั่น สั่นประสาท มีช่องว่าง ช่องโหว่ทางกฎหมาย ที่จะเอาผิดให้ได้ ก็ต้องเอา เหมือนอย่างนายสมัคร ถูกคดีทำกับข้าว ก็กระเด็นจากตำแหน่งนายกได้ มันง่ายแบบพิลึก มันเหมือนจ้องหาทางเอาผิดทุกกระเบียดนิ้ว อย่าพลาดมา หาทุกวิถีทาง จับมันทุกกระเบียดนิ้ว จะเอาความผิดเขาให้ได้ ไม่คิดถึงสิ่งดีดีที่เขาทำเอาใว้ให้บ้านเมืองบ้าง ? สิ่งที่คนซื้อ คนที่ประมูลได้ ด้วยราคาสูงที่สุด ได้รับไม่ใช่ที่ดิน แต่เป็นความซวย ต้องเสียสามีไปทั้งคน ยุติธรรม ที่สุดในโลก มั้ย ? คดีนี้จะเป็นยางลบฐาน ที่เตือนสติให้ใครก็ตาม อย่าไปบังอาจ ไปประมูลที่ดินกับหน่วยงานราชการ เพราะอาจเป็นเช่นนี้ สามีเป็นถึงนายกรัฐมนตรี ยังโดนคดี แล้วนับประสาอะไร กับประชาชนน คนธรรมดา จะอยู่ในสังคมแบบได้อย่างไรไหว ต่างชาติที่ไหนใครเขาก็กลัว กระบวนการอย่างนี้ !!!! ลองคิดดูนะครับ ผู้ที่เกลียดชัง ทักษิณ ทั้งหลาย คุณลองเอาสมองคิดสักนิดว่า เขาทำให้รัฐหรือใครเสียหาย สักบาทมั้ย ที่ว่าเขาผิดต้องติดคุกสองปีนั้น คดีนี้ เขาทำให้ใครเสียหาย สักบาทมั้ย รัฐเสียหาย หรือมีใครเสียหายมั้ย การโกง การทุจริต มันต้องมีผู้เสียหาย วิชากฎหมาย ต้องเรียนกันใหม่ ว่า แม้ไม่มีผู้เสียหาย แม้ประมูลอย่างโปร่งใส แม้ไม่มีเจตนา ก็สามารถติดคุกได้ มีความผิดได้ ถ้าอยากจะหาเรื่องเอาผิด !!!!! คดีนี้ ทักษิณ ผิดมากขนาดไหน เขาฆ่าพ่อ ล่อแม่คุณ ข่มขืนลูกเมียคุณ หรือทุจริตเงินใครไปสักบาทมั้ย คุณถึงคิดอาฆาตพยาบาท เขาขนาดนั้น ถ้ายังมีสติ ถ้ายังมีความคิด ลองเอาสามัญสำนึกของความเป็นมนุษย์ คิดถึงผิดถูกชั่วดี แค่นี้ก็พอจะตัดสินได้ ว่า จะกวักมือท้าเรียกให้เขามาสู้คดีที่เมืองไทย อย่างเยอะเย้ยเย้ยหยัน ผมเคยคุยกับพวกสลิ่ม หลายคน ทุกคนก็ยอมรับว่า มันคือการหาเรื่อง รู้ทั้งรู้ทั้งนั้น ก็มันคนไม่ใช่สัตว์ ที่จะทำเป็นไม่รับไม่รู้ ว่าเรื่องราวคดีมีความเป็นมาอย่างไร มันรู้กันทั้งนั้น แต่เพราะความอคติ ที่อยู่ในใจ ทำเป็นเย้ยหยัน ทำเป็นท้าทาย ทำลายเขาได้ดีชอบ นี่คือนิสัย ! ลองตอบคำถามผมสักคำ ว่า คนที่พวกคุณเชื่อแบบถวายหัว อย่างสนธิ ถูกศาลตัดสิน มีความผิดทุจริตต่อตลาดหลักทรัพย์ ปกปิดซ่อเร้น หลอกลวง แจ้งสำแดงเท็จ ศาลตัดสินจำคุกเกือบร้อยปี ตัดสินไปสองศาล ถามพวกคุณว่า คนอย่างนั้นคุณว่ามันดี นี่แหละคนไทย ไทยขยะ ที่เห็นผิดเป็นถูก เห็นถูกเป็นผิด ดำเป็นขาว ขาวเป็นดำ ทำไมจิตใจมันตกต่ำ ดำมืดได้ขาดนี้ ?? ทำไมไม่ลองคิดดูว่า ถ้าทักษิณ เลวจริง ต่างชาติ คนทั้งโลกยอมรับเขาได้อย่างไร มีแต่คนกลุ่มเดียวในเมืองไทย ที่โดนมนต์โกเต็กซ์เข้าไปเท่านั้นที่เชื่อแปลกแหวกแนวไม่เหมือนใคร คนกลุ่มที่เรียกว่า ตัวเองว่า เสื้อเหลือง พันธมิตร หลากสี สลิ่ม กปปส ล้วนคือคนๆเดียวกันทั้งเพ ผลิตผลชาติกำเนิดมาจาก สนธิ ทั้งสิ้น พอสนธิเริ่มเสื่อม หาที่ยึดเหนี่ยวไม่ได้ ก็ไปเกาะกำนัน พอกำนันเสื่อมก็ไปเกาะขี้ที่ลอยน้ำมา ไม่มีอะไรซับซ้อน การหลงสื่อ การโฆษณาชวนเชื่อ การกรอกหู การล้างสมองคนเหล่านี้ คนที่มีปัญญาไม่แข็งแรง เขาสอนอย่างไร เชื่อหมดใจ นี่แหละนิสัยสลิ่ม มันจึงเป็นสิ่งที่น่าสงสาร ที่สิบปี ไม่ทำให้คนเหล่านี้ เลิกเป็นทาส เลิกเสพติด ลองดูพฤติกรรม เขาสอนให้เกลียดทักษิณ เกลียดเสื้อแดง เห็นไม่ได้ ตาขวางฟูมฟาย น้ำลายฟูมปาก นี่คือนิสัย มันบ้า มันคลุ้มคลั่ง แต่เชื่อว่า กาลเวลา จะทำให้พวกเขาหูตาสว่างขึ้นมาบ้าง แต่ก็อาจจะเจียนตาย เพราะส่วนใหญ่ คือผู้สูงอายุ นี่แหละ ด้วยพิษของสื่อ สื่อชั่ว มันสามารถทำลายคนไทยเกือบครึ่งประเทศ เสพติดคิดชั่วตามที่ตัวต้องการ ทั้งที่ตัวมันเอง ชั่วแสนชั่ว ชั่วยิ่งกว่าใครๆ แต่มันก็ทำให้บ้านนี้เมืองนี้ เสียหายเกลียดชังสร้างความพินาศได้อย่างมากมาย อย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน ความเสียหายครั้งนี้ ยับเยินมากมายเหลือคณานับ เพราะไม่เพียงแต่สร้างความเกลียดชังแตกแยกให้กับเผ่าพันธุ์ไทย แต่ที่ร้ายไปกว่านั้น มันดึงสถาบันต่างๆ เข้ามาเกลือกกลั้วจนมัวหมอง ทั้งพระสงฆ์องคเจ้า ศาล ตุลาการ ทหาร ตำรวจ ข้าราชการ หมอ นักเรียนนิสิต นักศึกษา ปัญญาชน คนเดินถนน เรียกว่าความขัดแย้งลุกลามบานปลายไปทั่วทั้งแผ่นดิน นั่นแหละผลงานของมัน ผลงานที่สลิ่มภูมิอกภูมิใจ ในสิบปีที่ผ่านมา ! มีคนอ้างว่า ความขัดแย้ง ที่มีมานานนับสิบปี กำลังจะแก้ไขปัญหา ให้เกิดความปรองดอง สามัคคีกลับคืนมา ถามว่า ไหน ใคร ทำอย่างไร วันนี้ยังไม่มีวี่แววว่า จะมีหน้าไหน ออกมาเพื่อขจัดความขัดแย้ง ที่กำลังร่าง กติกา กันอยู่ในสภาปฎิรูปนั้น ก็เห็นกันอยู่อย่างชัดๆว่า มันกำลังร่างเพื่อทำลายฝ่ายตรงข้าม แล้วมาอ้างว่า กำลังปรองดองกำลังสามัคคี แค่เห็นหน้า อ้า... คนแก้ ก็รู้แล้วว่ามันจะแก้อย่างไร ก็เล่นเอาคู่ขัดแย้ง คนที่เกลียดชัง คนที่คิดทำลายฝ่ายตรงข้าม ตัวเป็นๆ ตัวเป้งๆ นั่นแหละกลุ่มหัวๆ ตัวขัดแย้ง ที่ขึ้นเวที กปปส ทั้งนั้น มีที่ไหนในโลกเขาทำวะ เอาคู่ขัดแย้ง มาตั้งกติกาเสียเอง เจริญเถอะ....ประเทศไทย!! ปล ขอเสริมอีกนิด ว่า ที่จะทำประชามตินั้น ไม่ต้องทำให้เสียงบประมาณ 3000ล้าน เพราะมันไม่ผ่านอยู่แล้ว เพราะคนที่ร่างล้วนคือตัวอคติ ตัวขัดแย้ง ไม่รู้ว่าหน้าไหนไปลากกันมา ถ้าไม่อยากให้เสียเวลา คนที่ร่างมันต้องมาจากทุกฝ่าย" ปลูกเรือนต้องตามใจผู้อยู่ ผูกอู่ตามใจผู้นอน "ไม่งั้นไ่ม่มีวันจบหรอกจะบอกให้ .....เหตุที่ผมแดงก็เพราะความยุติธรรมไม่มีบนแผ่นดินนี้แหละครับ..
ตอบแบบ ให้ความรู้ว่า คดีที่ถูกตัดสินไปนั้น มันไม่มีสิทธิ์ ให้สู้คดี ตัดสินแล้วตัดสินเลยเป็นอันสิ้นสุด ไม่ทราบว่า คนกลุ่มหนึ่งยังไม่รู้แม้กระทั่ง คดีที่ดินรัชดา คนซื้อไม่ผิด คนขายไม่ผิด แต่สามีคนซื้อ เซ็นอนุญาตในฐานะสามี ผิด ! คดีนี้ จะเป็นยางลบฐาน ให้อนุชน รุ่นหลัง ได้ศึกษา ถึงวิธีพิจารณา คดีว่า การซื้อการประมูลหลักทรัพย์ กับหน่วยราชการไทย(กองทุนฟื้นฟู) ซื้อมันมาแล้ว จะนำมาซึ่งความซวย ความพินาศของตระกูล ต้องติดคุกติดตะราง มีความผิด ประมูลให้มันด้วยราคาสูงสุด ถามว่าคนขาย หน่วยงานของรัฐ ได้ประโยชน์มั้ย ได้ ได้ราคามั้ย ได้ สูงสุดมั้ย สูงที่สุด แล้วใครเสียหาย มีมั้ย ไม่มี มันเป็นคดีที่พิลึกพิลั่น สั่นประสาท มีช่องว่าง ช่องโหว่ทางกฎหมาย ที่จะเอาผิดให้ได้ ก็ต้องเอา เหมือนอย่างนายสมัคร ถูกคดีทำกับข้าว ก็กระเด็นจากตำแหน่งนายกได้ มันง่ายแบบพิลึก มันเหมือนจ้องหาทางเอาผิดทุกกระเบียดนิ้ว อย่าพลาดมา หาทุกวิถีทาง จับมันทุกกระเบียดนิ้ว จะเอาความผิดเขาให้ได้ ไม่คิดถึงสิ่งดีดีที่เขาทำเอาใว้ให้บ้านเมืองบ้าง ? สิ่งที่คนซื้อ คนที่ประมูลได้ ด้วยราคาสูงที่สุด ได้รับไม่ใช่ที่ดิน แต่เป็นความซวย ต้องเสียสามีไปทั้งคน ยุติธรรม ที่สุดในโลก มั้ย ? คดีนี้จะเป็นยางลบฐาน ที่เตือนสติให้ใครก็ตาม อย่าไปบังอาจ ไปประมูลที่ดินกับหน่วยงานราชการ เพราะอาจเป็นเช่นนี้ สามีเป็นถึงนายกรัฐมนตรี ยังโดนคดี แล้วนับประสาอะไร กับประชาชนน คนธรรมดา จะอยู่ในสังคมแบบได้อย่างไรไหว ต่างชาติที่ไหนใครเขาก็กลัว กระบวนการอย่างนี้ !!!! ลองคิดดูนะครับ ผู้ที่เกลียดชัง ทักษิณ ทั้งหลาย คุณลองเอาสมองคิดสักนิดว่า เขาทำให้รัฐหรือใครเสียหาย สักบาทมั้ย ที่ว่าเขาผิดต้องติดคุกสองปีนั้น คดีนี้ เขาทำให้ใครเสียหาย สักบาทมั้ย รัฐเสียหาย หรือมีใครเสียหายมั้ย การโกง การทุจริต มันต้องมีผู้เสียหาย วิชากฎหมาย ต้องเรียนกันใหม่ ว่า แม้ไม่มีผู้เสียหาย แม้ประมูลอย่างโปร่งใส แม้ไม่มีเจตนา ก็สามารถติดคุกได้ มีความผิดได้ ถ้าอยากจะหาเรื่องเอาผิด !!!!! คดีนี้ ทักษิณ ผิดมากขนาดไหน เขาฆ่าพ่อ ล่อแม่คุณ ข่มขืนลูกเมียคุณ หรือทุจริตเงินใครไปสักบาทมั้ย คุณถึงคิดอาฆาตพยาบาท เขาขนาดนั้น ถ้ายังมีสติ ถ้ายังมีความคิด ลองเอาสามัญสำนึกของความเป็นมนุษย์ คิดถึงผิดถูกชั่วดี แค่นี้ก็พอจะตัดสินได้ ว่า จะกวักมือท้าเรียกให้เขามาสู้คดีที่เมืองไทย อย่างเยอะเย้ยเย้ยหยัน ผมเคยคุยกับพวกสลิ่ม หลายคน ทุกคนก็ยอมรับว่า มันคือการหาเรื่อง รู้ทั้งรู้ทั้งนั้น ก็มันคนไม่ใช่สัตว์ ที่จะทำเป็นไม่รับไม่รู้ ว่าเรื่องราวคดีมีความเป็นมาอย่างไร มันรู้กันทั้งนั้น แต่เพราะความอคติ ที่อยู่ในใจ ทำเป็นเย้ยหยัน ทำเป็นท้าทาย ทำลายเขาได้ดีชอบ นี่คือนิสัย ! ลองตอบคำถามผมสักคำ ว่า คนที่พวกคุณเชื่อแบบถวายหัว อย่างสนธิ ถูกศาลตัดสิน มีความผิดทุจริตต่อตลาดหลักทรัพย์ ปกปิดซ่อเร้น หลอกลวง แจ้งสำแดงเท็จ ศาลตัดสินจำคุกเกือบร้อยปี ตัดสินไปสองศาล ถามพวกคุณว่า คนอย่างนั้นคุณว่ามันดี นี่แหละคนไทย ไทยขยะ ที่เห็นผิดเป็นถูก เห็นถูกเป็นผิด ดำเป็นขาว ขาวเป็นดำ ทำไมจิตใจมันตกต่ำ ดำมืดได้ขาดนี้ ?? ทำไมไม่ลองคิดดูว่า ถ้าทักษิณ เลวจริง ต่างชาติ คนทั้งโลกยอมรับเขาได้อย่างไร มีแต่คนกลุ่มเดียวในเมืองไทย ที่โดนมนต์โกเต็กซ์เข้าไปเท่านั้นที่เชื่อแปลกแหวกแนวไม่เหมือนใคร คนกลุ่มที่เรียกว่า ตัวเองว่า เสื้อเหลือง พันธมิตร หลากสี สลิ่ม กปปส ล้วนคือคนๆเดียวกันทั้งเพ ผลิตผลชาติกำเนิดมาจาก สนธิ ทั้งสิ้น พอสนธิเริ่มเสื่อม หาที่ยึดเหนี่ยวไม่ได้ ก็ไปเกาะกำนัน พอกำนันเสื่อมก็ไปเกาะขี้ที่ลอยน้ำมา ไม่มีอะไรซับซ้อน การหลงสื่อ การโฆษณาชวนเชื่อ การกรอกหู การล้างสมองคนเหล่านี้ คนที่มีปัญญาไม่แข็งแรง เขาสอนอย่างไร เชื่อหมดใจ นี่แหละนิสัยสลิ่ม มันจึงเป็นสิ่งที่น่าสงสาร ที่สิบปี ไม่ทำให้คนเหล่านี้ เลิกเป็นทาส เลิกเสพติด ลองดูพฤติกรรม เขาสอนให้เกลียดทักษิณ เกลียดเสื้อแดง เห็นไม่ได้ ตาขวางฟูมฟาย น้ำลายฟูมปาก นี่คือนิสัย มันบ้า มันคลุ้มคลั่ง แต่เชื่อว่า กาลเวลา จะทำให้พวกเขาหูตาสว่างขึ้นมาบ้าง แต่ก็อาจจะเจียนตาย เพราะส่วนใหญ่ คือผู้สูงอายุ นี่แหละ ด้วยพิษของสื่อ สื่อชั่ว มันสามารถทำลายคนไทยเกือบครึ่งประเทศ เสพติดคิดชั่วตามที่ตัวต้องการ ทั้งที่ตัวมันเอง ชั่วแสนชั่ว ชั่วยิ่งกว่าใครๆ แต่มันก็ทำให้บ้านนี้เมืองนี้ เสียหายเกลียดชังสร้างความพินาศได้อย่างมากมาย อย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน ความเสียหายครั้งนี้ ยับเยินมากมายเหลือคณานับ เพราะไม่เพียงแต่สร้างความเกลียดชังแตกแยกให้กับเผ่าพันธุ์ไทย แต่ที่ร้ายไปกว่านั้น มันดึงสถาบันต่างๆ เข้ามาเกลือกกลั้วจนมัวหมอง ทั้งพระสงฆ์องคเจ้า ศาล ตุลาการ ทหาร ตำรวจ ข้าราชการ หมอ นักเรียนนิสิต นักศึกษา ปัญญาชน คนเดินถนน เรียกว่าความขัดแย้งลุกลามบานปลายไปทั่วทั้งแผ่นดิน นั่นแหละผลงานของมัน ผลงานที่สลิ่มภูมิอกภูมิใจ ในสิบปีที่ผ่านมา ! มีคนอ้างว่า ความขัดแย้ง ที่มีมานานนับสิบปี กำลังจะแก้ไขปัญหา ให้เกิดความปรองดอง สามัคคีกลับคืนมา ถามว่า ไหน ใคร ทำอย่างไร วันนี้ยังไม่มีวี่แววว่า จะมีหน้าไหน ออกมาเพื่อขจัดความขัดแย้ง ที่กำลังร่าง กติกา กันอยู่ในสภาปฎิรูปนั้น ก็เห็นกันอยู่อย่างชัดๆว่า มันกำลังร่างเพื่อทำลายฝ่ายตรงข้าม แล้วมาอ้างว่า กำลังปรองดองกำลังสามัคคี แค่เห็นหน้า อ้า... คนแก้ ก็รู้แล้วว่ามันจะแก้อย่างไร ก็เล่นเอาคู่ขัดแย้ง คนที่เกลียดชัง คนที่คิดทำลายฝ่ายตรงข้าม ตัวเป็นๆ ตัวเป้งๆ นั่นแหละกลุ่มหัวๆ ตัวขัดแย้ง ที่ขึ้นเวที กปปส ทั้งนั้น มีที่ไหนในโลกเขาทำวะ เอาคู่ขัดแย้ง มาตั้งกติกาเสียเอง เจริญเถอะ....ประเทศไทย!! ปล ขอเสริมอีกนิด ว่า ที่จะทำประชามตินั้น ไม่ต้องทำให้เสียงบประมาณ 3000ล้าน เพราะมันไม่ผ่านอยู่แล้ว เพราะคนที่ร่างล้วนคือตัวอคติ ตัวขัดแย้ง ไม่รู้ว่าหน้าไหนไปลากกันมา ถ้าไม่อยากให้เสียเวลา คนที่ร่างมันต้องมาจากทุกฝ่าย" ปลูกเรือนต้องตามใจผู้อยู่ ผูกอู่ตามใจผู้นอน "ไม่งั้นไ่ม่มีวันจบหรอกจะบอกให้ .....เหตุที่ผมแดงก็เพราะความยุติธรรมไม่มีบนแผ่นดินนี้แหละครับ..
ข่าววงลึก ประยุทธ์และคสช. รู้เห็นเป็นใจกับการยึดครองประเทศ โดยจีน หรือไม่?
ข้อความทางไลน์ จากนักธุรกิจในไทย
นี่คือความจริงที่เกิดขึ้น...ยุดเหล่ไม่รู้หรือเป็นนโยบายของ คสช.จะกีดกันนักธุรกิจทุกชาติออกไป เพื่อขนคนจีนมาลงทุน ครองตลาดในประเทศไทยไว้ทั้งหมด????
งานที่บริษัทของผมขาดทุนมาเป็นปีแล้ว ทางราชการมีคำสั่งไม่ให้ทนายจดบริษัทให้แก่ชาวต่างชาติถือหุ้นแทนต่างด้าว ดีเอสไอ มาสอบทนายทั่วประเทศ หมู่บ้าน คอนโด เจ๊งกันหมด คนพัทยา ภูเก็ต เกาะสมุย เจ๊งหมด ตอนนี้ที่ออฟฟิส ปลดพนักงานเกือบหมดแล้ว เพื่อให้มีกำไรเหลือบ้าง เหตุการณ์เป็นแบบนี้มานานเป็นปีแล้ว เลยไปทำธุรกิจยูนิซิตี้ เพื่อเปลี่ยนทางเดินใหม่ แต่ไม่บอกแม่และครอบครัวให้ตกใจ เงินที่ระดมมาก็เอามาอุดขาดทุน ผ่อนจ่ายบ้านรถจนเกลี้ยง ตอนนี้บอกขายบ้านทั้งสองแห่ง และคอนโดทุกแห่ง
...ขอบคุณสำหรับข้อมูล...
นี่คือความจริงที่เกิดขึ้น...ยุดเหล่ไม่รู้หรือเป็นนโยบายของ คสช.จะกีดกันนักธุรกิจทุกชาติออกไป เพื่อขนคนจีนมาลงทุน ครองตลาดในประเทศไทยไว้ทั้งหมด????
งานที่บริษัทของผมขาดทุนมาเป็นปีแล้ว ทางราชการมีคำสั่งไม่ให้ทนายจดบริษัทให้แก่ชาวต่างชาติถือหุ้นแทนต่างด้าว ดีเอสไอ มาสอบทนายทั่วประเทศ หมู่บ้าน คอนโด เจ๊งกันหมด คนพัทยา ภูเก็ต เกาะสมุย เจ๊งหมด ตอนนี้ที่ออฟฟิส ปลดพนักงานเกือบหมดแล้ว เพื่อให้มีกำไรเหลือบ้าง เหตุการณ์เป็นแบบนี้มานานเป็นปีแล้ว เลยไปทำธุรกิจยูนิซิตี้ เพื่อเปลี่ยนทางเดินใหม่ แต่ไม่บอกแม่และครอบครัวให้ตกใจ เงินที่ระดมมาก็เอามาอุดขาดทุน ผ่อนจ่ายบ้านรถจนเกลี้ยง ตอนนี้บอกขายบ้านทั้งสองแห่ง และคอนโดทุกแห่ง
...ขอบคุณสำหรับข้อมูล...
ข่าววงลึก ประยุทธ์และคสช. รู้เห็นเป็นใจกับการยึดครองประเทศ โดยจีน หรือไม่?
ข้อความทางไลน์ จากนักธุรกิจในไทย
นี่คือความจริงที่เกิดขึ้น...ยุดเหล่ไม่รู้หรือเป็นนโยบายของ คสช.จะกีดกันนักธุรกิจทุกชาติออกไป เพื่อขนคนจีนมาลงทุน ครองตลาดในประเทศไทยไว้ทั้งหมด????
งานที่บริษัทของผมขาดทุนมาเป็นปีแล้ว ทางราชการมีคำสั่งไม่ให้ทนายจดบริษัทให้แก่ชาวต่างชาติถือหุ้นแทนต่างด้าว ดีเอสไอ มาสอบทนายทั่วประเทศ หมู่บ้าน คอนโด เจ๊งกันหมด คนพัทยา ภูเก็ต เกาะสมุย เจ๊งหมด ตอนนี้ที่ออฟฟิส ปลดพนักงานเกือบหมดแล้ว เพื่อให้มีกำไรเหลือบ้าง เหตุการณ์เป็นแบบนี้มานานเป็นปีแล้ว เลยไปทำธุรกิจยูนิซิตี้ เพื่อเปลี่ยนทางเดินใหม่ แต่ไม่บอกแม่และครอบครัวให้ตกใจ เงินที่ระดมมาก็เอามาอุดขาดทุน ผ่อนจ่ายบ้านรถจนเกลี้ยง ตอนนี้บอกขายบ้านทั้งสองแห่ง และคอนโดทุกแห่ง
...ขอบคุณสำหรับข้อมูล...
นี่คือความจริงที่เกิดขึ้น...ยุดเหล่ไม่รู้หรือเป็นนโยบายของ คสช.จะกีดกันนักธุรกิจทุกชาติออกไป เพื่อขนคนจีนมาลงทุน ครองตลาดในประเทศไทยไว้ทั้งหมด????
งานที่บริษัทของผมขาดทุนมาเป็นปีแล้ว ทางราชการมีคำสั่งไม่ให้ทนายจดบริษัทให้แก่ชาวต่างชาติถือหุ้นแทนต่างด้าว ดีเอสไอ มาสอบทนายทั่วประเทศ หมู่บ้าน คอนโด เจ๊งกันหมด คนพัทยา ภูเก็ต เกาะสมุย เจ๊งหมด ตอนนี้ที่ออฟฟิส ปลดพนักงานเกือบหมดแล้ว เพื่อให้มีกำไรเหลือบ้าง เหตุการณ์เป็นแบบนี้มานานเป็นปีแล้ว เลยไปทำธุรกิจยูนิซิตี้ เพื่อเปลี่ยนทางเดินใหม่ แต่ไม่บอกแม่และครอบครัวให้ตกใจ เงินที่ระดมมาก็เอามาอุดขาดทุน ผ่อนจ่ายบ้านรถจนเกลี้ยง ตอนนี้บอกขายบ้านทั้งสองแห่ง และคอนโดทุกแห่ง
...ขอบคุณสำหรับข้อมูล...
กรรมที่ก่อต่อ ดร.ทักษิณ มีผลทางกฎหมายนานาชาติ อย่างไรบ้าง?
สิ่งที่ คณะคสช และ ฝ่ายบริหาร [เถื่อน] ทำกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในขณะนี้คือ:
(๑) เพิกถอนหนังสือเดินทาง หรือ passport
(๒) สั่งให้นายทหารพระธรรมนูญ ไปร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ในฐานความผิดดูหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ ประมวลกฏหมายอาญามาตรา ๑๑๒ เพื่อฟ้องในศาลทหาร
(๑) เพิกถอนหนังสือเดินทาง หรือ passport
(๒) สั่งให้นายทหารพระธรรมนูญ ไปร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ในฐานความผิดดูหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ ประมวลกฏหมายอาญามาตรา ๑๑๒ เพื่อฟ้องในศาลทหาร
(๓) ถอดยศพ.ต.ท.ทักษิณฯ ในฐานที่เป็นผู้หลบหนี หรือ หลบหนีหมายจับในคดีที่ดินรัชดาภิเษก
ทั้งสามกรณี เป็นความผิดตามปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ปีค.ศ.๑๙๔๘; กติการะหว่างประเทศว่าด้วย สิทธิพลเมือง และ สิทธิในทางการเมือง ปีค.ศ.๑๙๖๖(เป็นสนธิสัญญา) รวมทั้ง กติการะหว่างประเทศว่าด้วย สิทธิในทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ปีค.ศ.๑๙๖๖ (เป็นสนธิสัญญา)
สิ่งที่กล่าวมาข้างต้น ล้วนเป็นพันธกรณีที่ประเทศไทย มีอยู่กับนานานชาติ และองค์การสหประชาชาติ ทั้งสามสิ่งที่ระบุมาข้างต้น คือ "ธรรมนูญของโลกว่าด้วย กฏหมายอันมีที่มาจากสิทธิมนุษยชน หรือ International Bill of Rights"
การจะใช้ธรรมนูญของโลกในเรื่อง กฏหมายอันมีที่มาจากสิทธิมนุษยชน ได้อย่างถูกต้องแท้จริง จำต้องอาศัยคำอธิบายจากบรรทัดฐานในคดี และบรรทัดฐานนี้ มีที่มาจากคดีที่พิพากษาไว้โดยศาล Supreme Court ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นศาลรัฐธรรมนูญศาลแรกของโลกในยุคของรัฐใหม่ (Modern State) คดีที่กล่าวอ้างถึงนี้คือ:
(๑) Kent v. Dulles, 357 U.S. 116 (1958)
(๒) Trop v. Dulles, 356 U.S. 86 (1958)
คดีที่กล่าวมาข้างต้นทั้งสองคดี องค์การสหประชาชาติ ยอมรับนำมาใช้อ้างอิง และ ผู้ใฝ่รู้ทั้งหลาย อาจค้นคว้าหาอ่านได้ผ่านเครื่องอ่านของกูเกิ้ล โดยพิมพ์ชื่อคดี และหมายเลขต่อท้ายใส่ลงไปบนช่องสี่เหลี่ยม และโดยเฉพาะอย่างยิ่งคดีที่สองนั้น เหตุผลของคดี หรือในคดี ใช้เป็นข้อที่นำมาโต้เถียงได้ หากเหตุผลที่ผู้พิพากษาผู้ทรงคุณวุฒิ (Learned Judge) เหล่านั้นในคดี เป็นด้านบนของเหรียญบนด้านเดียวกัน เหตุผลที่นำมาเป็นข้อคิดคำนึง และใช้โต้แย้งเป็นด้านล่างของเหรียญหน้าเดียวกัน เมื่อนำมาโต้เถียงแล้ว ฝ่ายตรงข้ามจนมุม
อนึ่งสิ่งที่ได้กระทำไปแล้วทั้งหมดของ คณะ คสช. และ ฝ่ายบริหาร [เถื่อน] ในขณะนี้ เป็นการฝ่าฝืนต่อความตามที่บัญญัติไว้ใน (สนธิสัญญา) Convention against Corruption, 2003 ที่ประเทศไทย ได้ลงนามและให้สัตยาบันไว้เมื่อวันที่ ๑ มีนาคม ปีค.ศ.๒๐๑๑ หรือ ปีพ.ศ. ๒๕๕๔ รวมทั้งฝ่าฝืนต่อ (สนธิสัญญ่า) Convention against Transnational Organized Crime, 2000 มีผลบังคับทั่วไปในเดือน กันยายน ปีค.ศ.๒๐๐๓ ประเทศไทยไปลงนามให้สัตยาบันต่อสนธิสัญญาฉบับหลังนี้ในวันที่ ๑๗ ตุลาคม ปีค.ศ.๒๐๑๓ หรือปีพ.ศ.๒๕๕๖
ที่จริงแล้ว คณะ คสช. และฝ่ายบริหาร ที่ไม่ชอบด้วยกฏหมายนี้ ต้องถูกจัดการโดยสนธิสัญญา ทั้งสองฉบับ ดังกล่าวข้างต้น เพราะความผิดตามสนธิสัญญาทั้งสองฉบับ ที่กล่าวมาข้างต้น เป็นความผิดทางอาญาระหว่างประเทศ หรือ International Crimes
นายตำรวจคน ที่ออกมาแถลงข่าว ต้องระมัดระวังตัวเองให้ดีๆ เพราะตัวท่านเอง ได้กระทำความผิดตามกฏหมายในฐานะ ที่เป็นผู้กระทำความผิดเสียเอง (ละเว้น เท่ากับ กระทำการ) ให้ไปอ่านคำพิพากษาของ ศาลอาญาพิเศษของ องค์การสหประชาชาติ ในคดีที่ชื่อว่า " Dusan Tadic หรือ Dusko Tadic ให้ขึ้นใจ
คำพิพากษาฉบับนี้ ยังได้อธิบายถึงว่า "ทำอย่างไร จึงเป็น ผู้ร่วมขบวนการ ในการกระทำความผิดทางอาญาระหว่างประเทศ" เอาไว้โดยละเอียด นิทานเรื่องนี้ สอนให้รู้ว่า "อย่าเห็นความผิดผู้อื่น สูงเป็นภูเขาเลากา แต่ความผิดของตนเอง เสมอเพียง "เส้นขน" เอวัง ก็มีด้วยประการ ฉะนี้.
ทั้งสามกรณี เป็นความผิดตามปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ปีค.ศ.๑๙๔๘; กติการะหว่างประเทศว่าด้วย สิทธิพลเมือง และ สิทธิในทางการเมือง ปีค.ศ.๑๙๖๖(เป็นสนธิสัญญา) รวมทั้ง กติการะหว่างประเทศว่าด้วย สิทธิในทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ปีค.ศ.๑๙๖๖ (เป็นสนธิสัญญา)
สิ่งที่กล่าวมาข้างต้น ล้วนเป็นพันธกรณีที่ประเทศไทย มีอยู่กับนานานชาติ และองค์การสหประชาชาติ ทั้งสามสิ่งที่ระบุมาข้างต้น คือ "ธรรมนูญของโลกว่าด้วย กฏหมายอันมีที่มาจากสิทธิมนุษยชน หรือ International Bill of Rights"
การจะใช้ธรรมนูญของโลกในเรื่อง กฏหมายอันมีที่มาจากสิทธิมนุษยชน ได้อย่างถูกต้องแท้จริง จำต้องอาศัยคำอธิบายจากบรรทัดฐานในคดี และบรรทัดฐานนี้ มีที่มาจากคดีที่พิพากษาไว้โดยศาล Supreme Court ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นศาลรัฐธรรมนูญศาลแรกของโลกในยุคของรัฐใหม่ (Modern State) คดีที่กล่าวอ้างถึงนี้คือ:
(๑) Kent v. Dulles, 357 U.S. 116 (1958)
(๒) Trop v. Dulles, 356 U.S. 86 (1958)
คดีที่กล่าวมาข้างต้นทั้งสองคดี องค์การสหประชาชาติ ยอมรับนำมาใช้อ้างอิง และ ผู้ใฝ่รู้ทั้งหลาย อาจค้นคว้าหาอ่านได้ผ่านเครื่องอ่านของกูเกิ้ล โดยพิมพ์ชื่อคดี และหมายเลขต่อท้ายใส่ลงไปบนช่องสี่เหลี่ยม และโดยเฉพาะอย่างยิ่งคดีที่สองนั้น เหตุผลของคดี หรือในคดี ใช้เป็นข้อที่นำมาโต้เถียงได้ หากเหตุผลที่ผู้พิพากษาผู้ทรงคุณวุฒิ (Learned Judge) เหล่านั้นในคดี เป็นด้านบนของเหรียญบนด้านเดียวกัน เหตุผลที่นำมาเป็นข้อคิดคำนึง และใช้โต้แย้งเป็นด้านล่างของเหรียญหน้าเดียวกัน เมื่อนำมาโต้เถียงแล้ว ฝ่ายตรงข้ามจนมุม
อนึ่งสิ่งที่ได้กระทำไปแล้วทั้งหมดของ คณะ คสช. และ ฝ่ายบริหาร [เถื่อน] ในขณะนี้ เป็นการฝ่าฝืนต่อความตามที่บัญญัติไว้ใน (สนธิสัญญา) Convention against Corruption, 2003 ที่ประเทศไทย ได้ลงนามและให้สัตยาบันไว้เมื่อวันที่ ๑ มีนาคม ปีค.ศ.๒๐๑๑ หรือ ปีพ.ศ. ๒๕๕๔ รวมทั้งฝ่าฝืนต่อ (สนธิสัญญ่า) Convention against Transnational Organized Crime, 2000 มีผลบังคับทั่วไปในเดือน กันยายน ปีค.ศ.๒๐๐๓ ประเทศไทยไปลงนามให้สัตยาบันต่อสนธิสัญญาฉบับหลังนี้ในวันที่ ๑๗ ตุลาคม ปีค.ศ.๒๐๑๓ หรือปีพ.ศ.๒๕๕๖
ที่จริงแล้ว คณะ คสช. และฝ่ายบริหาร ที่ไม่ชอบด้วยกฏหมายนี้ ต้องถูกจัดการโดยสนธิสัญญา ทั้งสองฉบับ ดังกล่าวข้างต้น เพราะความผิดตามสนธิสัญญาทั้งสองฉบับ ที่กล่าวมาข้างต้น เป็นความผิดทางอาญาระหว่างประเทศ หรือ International Crimes
นายตำรวจคน ที่ออกมาแถลงข่าว ต้องระมัดระวังตัวเองให้ดีๆ เพราะตัวท่านเอง ได้กระทำความผิดตามกฏหมายในฐานะ ที่เป็นผู้กระทำความผิดเสียเอง (ละเว้น เท่ากับ กระทำการ) ให้ไปอ่านคำพิพากษาของ ศาลอาญาพิเศษของ องค์การสหประชาชาติ ในคดีที่ชื่อว่า " Dusan Tadic หรือ Dusko Tadic ให้ขึ้นใจ
คำพิพากษาฉบับนี้ ยังได้อธิบายถึงว่า "ทำอย่างไร จึงเป็น ผู้ร่วมขบวนการ ในการกระทำความผิดทางอาญาระหว่างประเทศ" เอาไว้โดยละเอียด นิทานเรื่องนี้ สอนให้รู้ว่า "อย่าเห็นความผิดผู้อื่น สูงเป็นภูเขาเลากา แต่ความผิดของตนเอง เสมอเพียง "เส้นขน" เอวัง ก็มีด้วยประการ ฉะนี้.
"จตุพร"วิเคราะห์ แผนพิฆาต"ทักษิณ"เป็นผลดีต่อคนเสื้อแดง
Download
Published on May 30, 2015
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ กับ Thaivoicemedia กรณีที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถอดยศ และยกเลิกหนังสือเดินทาง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า เป็นเรื่องเก่าที่เคยทำมาแล้วหลายครั้ง เหมือนละครดาวพระศุกร์ ที่ไม่ได้ส่งผลกระเทือนต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ นปช. คนเสื้อแดง แต่อย่างใด แต่การขุดเอาเรื่องนี้มาใช้อีกครั้ง เพราะต้องการกลบเกลื่อนความล้มเหลวในการบริหารประเทศของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่เกิดวิกฤติขึ้นทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะวิกฤติด้านเศรษฐกิจที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนระดับล่างอย่างรุนแรงมากขณะนี้ ขณะเดียวกันเพื่อแก้ปัญหาระหว่างเสือ กับ คนขี่เสือ ซึ่งคนเสื้อแดงไม่ใช่เสือ และไม่เคยยอมให้ พล.อ.ประยุทธ์ นั่งอย่บนหลังคนเสื้อแดง แต่เสือที่พล.อ.ประยุทธ์ นั่งอยู่บนหลังตอนนี้คือ ผู้มีอำนาจในหมู่ชนชั้นนำด้วยกันเอง อย่างไรก็ตาม การที่รัฐบาล คสช.รุกฆาตกับพ.ต.อ.ทักษิณ อย่างหนักในขณะนี้ กลับเป็นผลดีกับฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะจะทำให้ประชาชนหมดข้อสงสัยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ กำลังฮั้ว หรือ เกี๊ยเซี็ยะ กับกองทัพหรือคสช.หรือไม่
นายจตุพรกล่าว หลังเกิดรัฐประหาร 22 พ.ค. 57 นปช.และคนเสื้อแดง ดูเหมือนจะสงบนิ้ง แต่การนิ่งคือการรุกอย่างหนึ่ง นั่นคือการปฎิบัติการอดทนขั้นสูงสุด เพื่อให้ คนไทยทั้งประเทศได้เห็นถึงวิกฤติของประเทศจากการทำรัฐประหารด้วยตัวเอง จะได้ไม่ต้องมาอ้างเป็นเพราะการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง ซึ่งตอบไม่ได้ว่าความอดทนนี้จะถึงจุดดระเบิดได้เมื่อใด ทั้งหมดอยู่ที่คนไทยทั้งประเทศว่าจะอดทนกับวิกฤติของบ้านเมืองที่เกิดขึ้นอยู่ขณะนี้ได้ยาวนานแค่ไหน
Category
People & Blogs
License
Standard YouTube License
"จตุพร"วิเคราะห์ แผนพิฆาต"ทักษิณ"เป็นผลดีต่อคนเสื้อแดง
Download
Published on May 30, 2015
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ กับ Thaivoicemedia กรณีที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถอดยศ และยกเลิกหนังสือเดินทาง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า เป็นเรื่องเก่าที่เคยทำมาแล้วหลายครั้ง เหมือนละครดาวพระศุกร์ ที่ไม่ได้ส่งผลกระเทือนต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ นปช. คนเสื้อแดง แต่อย่างใด แต่การขุดเอาเรื่องนี้มาใช้อีกครั้ง เพราะต้องการกลบเกลื่อนความล้มเหลวในการบริหารประเทศของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่เกิดวิกฤติขึ้นทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะวิกฤติด้านเศรษฐกิจที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนระดับล่างอย่างรุนแรงมากขณะนี้ ขณะเดียวกันเพื่อแก้ปัญหาระหว่างเสือ กับ คนขี่เสือ ซึ่งคนเสื้อแดงไม่ใช่เสือ และไม่เคยยอมให้ พล.อ.ประยุทธ์ นั่งอย่บนหลังคนเสื้อแดง แต่เสือที่พล.อ.ประยุทธ์ นั่งอยู่บนหลังตอนนี้คือ ผู้มีอำนาจในหมู่ชนชั้นนำด้วยกันเอง อย่างไรก็ตาม การที่รัฐบาล คสช.รุกฆาตกับพ.ต.อ.ทักษิณ อย่างหนักในขณะนี้ กลับเป็นผลดีกับฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะจะทำให้ประชาชนหมดข้อสงสัยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ กำลังฮั้ว หรือ เกี๊ยเซี็ยะ กับกองทัพหรือคสช.หรือไม่
นายจตุพรกล่าว หลังเกิดรัฐประหาร 22 พ.ค. 57 นปช.และคนเสื้อแดง ดูเหมือนจะสงบนิ้ง แต่การนิ่งคือการรุกอย่างหนึ่ง นั่นคือการปฎิบัติการอดทนขั้นสูงสุด เพื่อให้ คนไทยทั้งประเทศได้เห็นถึงวิกฤติของประเทศจากการทำรัฐประหารด้วยตัวเอง จะได้ไม่ต้องมาอ้างเป็นเพราะการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง ซึ่งตอบไม่ได้ว่าความอดทนนี้จะถึงจุดดระเบิดได้เมื่อใด ทั้งหมดอยู่ที่คนไทยทั้งประเทศว่าจะอดทนกับวิกฤติของบ้านเมืองที่เกิดขึ้นอยู่ขณะนี้ได้ยาวนานแค่ไหน
Category
People & Blogs
License
Standard YouTube License
Friday, May 29, 2015
"สุขุม"ชี้ เสือที่"ประยุทธ์"ควรกลัวคือ ประชาชน ไม่ใช่ ทักษิณ
Published on May 29, 2015
อาจารย์
สุขุม นวลสกุล นักวิชาการรัฐศาสตร์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง
ให้สัมภาษณ์ Thaivoicemeida กรณีที่ รัฐบาลทหาร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ถอดยศตำรวจ และยกเลิกหนังสือเดินทาง พร้อมทั้ง การตั้งข้อหา 112 ก้บ
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ลี้ภัยการเมืองอยู่ในต่างประเทศ
ขณะนี้ว่า การให้่สัมภาษณ์ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จนนำไปสู่การถอดยศ
ยกเลิกหนังสือเดินทาง และการถูกตั้งข้อหา 112
เพราะต้องการจะเป็นฝ่ายรุกบ้าง ไม่อยากจะถูกกระทำฝ่ายเดียว
และหากเงียบอยู่ต่อไป มวลชนจะไม่เอาด้วย แต่สุดท้าย
คสช.คงทำอะไรพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้ แม้พล.อ.ประยุทธ์ บอกเป็นนัยว่า
ถ้าจะลงจากหลังเสือต้องฆ่าเสือ แต่เสือที่ไม่อยู่ในกรง ก็ฆ่าไมได้
แต่คิดว่า เสือที่แท้จริงของ คสช.คือ ประชาชนที่กำลังต่อต้านมากกว่า
และหากทั้งสองฝ่ายจะลุกขึ้นมาสู้กันจริง
เรื่องที่จะสร้างความปรองดองก็ไม่ต้องพูดถ ึง จริงๆ แล้วความคิดที่แตกต่างทางการเมืองคนละฝ่าย เป็นเรื่องปกติ จะให้สองขั้วความคิดทางการเมืองมาปรองดองไ ม่สามารถทำได้ ส่วนกรณีที่ ฝ่ายคสช.บอกว่า สถานการณ์ตอนนี้ คสช.อยู่ในสถานะที่ได้เปรียบกว่าฝ่ายคุณทั กษิณ นั้นก็อ้างกันได้ แต่สุดท้ายจะตัดสินกันที่ การเลือกตั้ง เพราะประชาชนและนานาชาติก็เรียกร้องให้มีก ารเลือกตั้งโดยเร็ว
สุขุม นวลสกุล นักวิชาการรัฐศาสตร์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง
ให้สัมภาษณ์ Thaivoicemeida กรณีที่ รัฐบาลทหาร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ถอดยศตำรวจ และยกเลิกหนังสือเดินทาง พร้อมทั้ง การตั้งข้อหา 112 ก้บ
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ลี้ภัยการเมืองอยู่ในต่างประเทศ
ขณะนี้ว่า การให้่สัมภาษณ์ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จนนำไปสู่การถอดยศ
ยกเลิกหนังสือเดินทาง และการถูกตั้งข้อหา 112
เพราะต้องการจะเป็นฝ่ายรุกบ้าง ไม่อยากจะถูกกระทำฝ่ายเดียว
และหากเงียบอยู่ต่อไป มวลชนจะไม่เอาด้วย แต่สุดท้าย
คสช.คงทำอะไรพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้ แม้พล.อ.ประยุทธ์ บอกเป็นนัยว่า
ถ้าจะลงจากหลังเสือต้องฆ่าเสือ แต่เสือที่ไม่อยู่ในกรง ก็ฆ่าไมได้
แต่คิดว่า เสือที่แท้จริงของ คสช.คือ ประชาชนที่กำลังต่อต้านมากกว่า
และหากทั้งสองฝ่ายจะลุกขึ้นมาสู้กันจริง
เรื่องที่จะสร้างความปรองดองก็ไม่ต้องพูดถ
Category
License
- Standard YouTube License
"สุขุม"ชี้ เสือที่"ประยุทธ์"ควรกลัวคือ ประชาชน ไม่ใช่ ทักษิณ
Published on May 29, 2015
อาจารย์
สุขุม นวลสกุล นักวิชาการรัฐศาสตร์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง
ให้สัมภาษณ์ Thaivoicemeida กรณีที่ รัฐบาลทหาร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ถอดยศตำรวจ และยกเลิกหนังสือเดินทาง พร้อมทั้ง การตั้งข้อหา 112 ก้บ
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ลี้ภัยการเมืองอยู่ในต่างประเทศ
ขณะนี้ว่า การให้่สัมภาษณ์ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จนนำไปสู่การถอดยศ
ยกเลิกหนังสือเดินทาง และการถูกตั้งข้อหา 112
เพราะต้องการจะเป็นฝ่ายรุกบ้าง ไม่อยากจะถูกกระทำฝ่ายเดียว
และหากเงียบอยู่ต่อไป มวลชนจะไม่เอาด้วย แต่สุดท้าย
คสช.คงทำอะไรพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้ แม้พล.อ.ประยุทธ์ บอกเป็นนัยว่า
ถ้าจะลงจากหลังเสือต้องฆ่าเสือ แต่เสือที่ไม่อยู่ในกรง ก็ฆ่าไมได้
แต่คิดว่า เสือที่แท้จริงของ คสช.คือ ประชาชนที่กำลังต่อต้านมากกว่า
และหากทั้งสองฝ่ายจะลุกขึ้นมาสู้กันจริง
เรื่องที่จะสร้างความปรองดองก็ไม่ต้องพูดถ ึง จริงๆ แล้วความคิดที่แตกต่างทางการเมืองคนละฝ่าย เป็นเรื่องปกติ จะให้สองขั้วความคิดทางการเมืองมาปรองดองไ ม่สามารถทำได้ ส่วนกรณีที่ ฝ่ายคสช.บอกว่า สถานการณ์ตอนนี้ คสช.อยู่ในสถานะที่ได้เปรียบกว่าฝ่ายคุณทั กษิณ นั้นก็อ้างกันได้ แต่สุดท้ายจะตัดสินกันที่ การเลือกตั้ง เพราะประชาชนและนานาชาติก็เรียกร้องให้มีก ารเลือกตั้งโดยเร็ว
สุขุม นวลสกุล นักวิชาการรัฐศาสตร์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง
ให้สัมภาษณ์ Thaivoicemeida กรณีที่ รัฐบาลทหาร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ถอดยศตำรวจ และยกเลิกหนังสือเดินทาง พร้อมทั้ง การตั้งข้อหา 112 ก้บ
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ลี้ภัยการเมืองอยู่ในต่างประเทศ
ขณะนี้ว่า การให้่สัมภาษณ์ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จนนำไปสู่การถอดยศ
ยกเลิกหนังสือเดินทาง และการถูกตั้งข้อหา 112
เพราะต้องการจะเป็นฝ่ายรุกบ้าง ไม่อยากจะถูกกระทำฝ่ายเดียว
และหากเงียบอยู่ต่อไป มวลชนจะไม่เอาด้วย แต่สุดท้าย
คสช.คงทำอะไรพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้ แม้พล.อ.ประยุทธ์ บอกเป็นนัยว่า
ถ้าจะลงจากหลังเสือต้องฆ่าเสือ แต่เสือที่ไม่อยู่ในกรง ก็ฆ่าไมได้
แต่คิดว่า เสือที่แท้จริงของ คสช.คือ ประชาชนที่กำลังต่อต้านมากกว่า
และหากทั้งสองฝ่ายจะลุกขึ้นมาสู้กันจริง
เรื่องที่จะสร้างความปรองดองก็ไม่ต้องพูดถ
Category
License
- Standard YouTube License
การถอดยศ ดร.ทักษิณ ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่?
การถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ได้มาตามกฏหมาย ทำได้หรือไม่?
นี่คือ คำตอบของผมในฐานะที่เป็นนักกฏหมาย
สิ่งที่เขาได้ยศ ได้ศักดิ์มา เป็นเพราะกฏหมายบัญญัติ ให้เขาได้ และ เขาปฏิบัติตัวตามกฏเกณฑ์ (Requirement of Law) ของกฏหมาย จึงได้สิทธิเหล่านั้นมาโดยชอบ คำว่า "โดยชอบ" ก็คือ "โดยชอบด้วยกฏหมาย"
การเที่ยวไปสั่ง หรือแอบสั่ง ให้ถอดถอนยศ หรือบรรดาศักดิ์ ของเขาในยุค ที่ประเทศปกครองในระบอบประชาธิปไตย ภายใต้กฏเหล็กของ การแบ่งแยกอำนาจ (the Separation of Powers) โดยไปบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญไทย เกือบทุกฉบับ
ขอถามว่า "ข้ออ้างของคุณอย่างนี้ เป็นการอ้าง หรือใช้ อำนาจตุลาการ ก้าวก่าย อำนาจนิติบัญญัติ หรือไม่?"
คนที่นำเอาเหตุผลเช่นนี้มาอ้าง และใช้ ต้องใช้สมองตรองคิด ก่อนใช้ หรือ ก่อนพูดพ่นนะครับ
มอง คสช.ให้ขาด แผนอุบาทว์ สร้างผู้ร้ายมาแทนตัวเอง !!!
กูต้องได้ 100 ล้าน จากทักษิณแน่ๆ
มอง คสช.ให้ขาด แผนอุบาทว์ สร้างผู้ร้ายมาแทนตัวเอง !!!
หลังจากที่ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร กล่าวปาฐกถาที่เกาหลีใต้ และได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการเมืองไทยกับสำนักข่าว Shosun ซึ่งมีเนื้อหาบางตอนได้พูดถึงคำว่า "องคมนตรี ทหาร Palace Circle" ซึ่งทำให้เกิดผลสะเทือนต่อเครือข่ายชนชั้นสูง (Elite) และคนโง่ถือปืนอย่าง คสช. มากพอสมควร
- - - - - - - - - -
การออกมาพูดเพียงเล็กน้อยในครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่า กลุ่มอำนาจเก่า และ คสช. ต้องการยุติบทบาททางการเมืองของพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร จึงพยายามถอนพาสปอร์ต ถอดยศ และสร้างคดีใหม่แก่ทักษิณ ให้ได้ แต่มันไม่ง่ายอย่างนั้นนะ
เพราะเหตุใด อยากรู้ ต้องโหลดมาอ่าน
ดาวนโหลด เอกสารเพื่ออ่าน ได้ที่นี่
เอกสาร Breakdown Thaksin 29-05-2015
http://www.mediafire.com/…/f6z…/BreakdownThaksin29052015.pdf
ถ้าเห็นว่า ควรส่งต่อ จะรออะไรอยู่ ?
https://www.facebook.com/secret100million/photos/a.219472928250911.1073741828.128043194060552/376678239197045/?type=1
มอง คสช.ให้ขาด แผนอุบาทว์ สร้างผู้ร้ายมาแทนตัวเอง !!!
หลังจากที่ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร กล่าวปาฐกถาที่เกาหลีใต้ และได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการเมืองไทยกับสำนักข่าว Shosun ซึ่งมีเนื้อหาบางตอนได้พูดถึงคำว่า "องคมนตรี ทหาร Palace Circle" ซึ่งทำให้เกิดผลสะเทือนต่อเครือข่ายชนชั้นสูง (Elite) และคนโง่ถือปืนอย่าง คสช. มากพอสมควร
- - - - - - - - - -
การออกมาพูดเพียงเล็กน้อยในครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่า กลุ่มอำนาจเก่า และ คสช. ต้องการยุติบทบาททางการเมืองของพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร จึงพยายามถอนพาสปอร์ต ถอดยศ และสร้างคดีใหม่แก่ทักษิณ ให้ได้ แต่มันไม่ง่ายอย่างนั้นนะ
เพราะเหตุใด อยากรู้ ต้องโหลดมาอ่าน
ดาวนโหลด เอกสารเพื่ออ่าน ได้ที่นี่
เอกสาร Breakdown Thaksin 29-05-2015
http://www.mediafire.com/…/f6z…/BreakdownThaksin29052015.pdf
ถ้าเห็นว่า ควรส่งต่อ จะรออะไรอยู่ ?
https://www.facebook.com/secret100million/photos/a.219472928250911.1073741828.128043194060552/376678239197045/?type=1
Thursday, May 28, 2015
"ภูมิพล เป็นคนยิง ร. 8"
ภูมิพล เป็นคนยิง ร. 8
ภูมิพล เป็นคนยิง ร. 8
Andrew MacGregor Marshall |
ของ Andrew MacGregor Marshall ผู้เขียน Thailand : A Kingdom in Crisis
ช่วงเช้าของวันที่ 9 มิถุนายน 2489
ในหลวงอานันทมหิดล รัชกาลที่ 8 ของประเทศสยามที่มีพระชนมายุ 21 พรรษา ได้ถูกยิงที่ศีรษะและเสด็จสวรรคตอยู่ในห้องบรรทมของพระองค์ในพระที่นั่งบรมพิมาน ภายในพระบรมมหาราชวังในกรุงเทพฯ ตอนเย็นของวันนั้น เจ้าฟ้าชายภูมิพลอดุลยเดชซึ่งเป็นพระอนุชาของพระองค์พระชนมายุ 19 พรรษา ได้รับการสถาปนาให้เป็นกษัตริย์รัชกาลที่ 9 ได้ครองราชสมบัติตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ขณะนี้พระองค์ทรงชราภาพและเจ็บป่วยบ่อยครั้ง ทรงเก็บพระองค์เองอยู่ในโรงพยาบาลศิริราช แต่พระองค์ก็ยังคงดำรงตำแหน่งพระมหากษัตริย์ของประเทศไทยต่อไปอย่างไม่มีกำหนด
ในหลวงอานันทมหิดล รัชกาลที่ 8 ของประเทศสยามที่มีพระชนมายุ 21 พรรษา ได้ถูกยิงที่ศีรษะและเสด็จสวรรคตอยู่ในห้องบรรทมของพระองค์ในพระที่นั่งบรมพิมาน ภายในพระบรมมหาราชวังในกรุงเทพฯ ตอนเย็นของวันนั้น เจ้าฟ้าชายภูมิพลอดุลยเดชซึ่งเป็นพระอนุชาของพระองค์พระชนมายุ 19 พรรษา ได้รับการสถาปนาให้เป็นกษัตริย์รัชกาลที่ 9 ได้ครองราชสมบัติตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ขณะนี้พระองค์ทรงชราภาพและเจ็บป่วยบ่อยครั้ง ทรงเก็บพระองค์เองอยู่ในโรงพยาบาลศิริราช แต่พระองค์ก็ยังคงดำรงตำแหน่งพระมหากษัตริย์ของประเทศไทยต่อไปอย่างไม่มีกำหนด
โดยทางการแล้ว คดีฆาตกรรมเรื่องนี้ได้ถูกพรรณาไว้ว่าเป็นเรื่องลึกลับ เป็นปริศนาทางอาชญากรรมที่ผิดวิสัยที่สุดเรื่องหนึ่งของโลก ซึ่งไม่สามารถเฉลยข้อเท็จจริงออกมาได้ในศตวรรษที่ผ่านมา แต่ในความจริงแล้ว มันชัดเจนมาเป็นเวลานานแล้วว่าใครเป็นผู้ปลงพระชนม์รัชกาลที่ 8 ความจริงได้ถูกปกปิดโดยระบอบเครือข่ายนิยมกษัตริย์ของประเทศไทย ซึ่งส่วนหนึ่งจากการบังคับใช้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพอันแสนเข้มงวด นั่นคือ กฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งได้ถูกนำมาใช้เพื่อจัดการบุคคลต่างๆให้กลายเป็นอาชญากร เมื่อมีการสนทนาพูดคุยเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และการเมืองของประเทศไทยอย่างเปิดเผยและโดยสุจริตใจ
หลังจากที่ในหลวงอานันท์ได้เสด็จสวรรคตไปเพียงไม่กี่นาที สถานที่เกิดเหตุได้ถูกจัดเปลี่ยนอย่างจงใจเพื่อปกปิดหลักฐานต่างๆว่า สิ่งที่เกิดขึ้นแท้จริงแล้วคืออะไร บุคคลที่อยู่ในพระที่นั่งบรมพิมานในตอนเช้าของวันนัั้น ไม่เคยเปิดเผยความจริงต่อหน้าสาธารณะว่าได้เกิดอะไรขึ้น และบุคคลคนเดียวในขณะนั้นที่ยังมีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน คือ ตัวกษัตริย์ภูมิพลนั่นเอง ดูเหมือนว่าพระองค์ไม่เคยเปิดเผยเลยว่าอะไรได้เกิดขึ้น และคงจะนำความลับนี้ลงสู่หลุมฝังศพไปพร้อมๆ กับตัวพระองค์เอง ถึงแม้ว่าจะมีการทำลายหลักฐานต่างๆ และข้อเท็จจริงตามที่บุคคลที่เกี่ยวข้องได้โกหกว่าอะไรเกิดขึ้นในกรณีสวรรคต แต่จุดสำคัญประการแรกคือ ไม่มีความเป็นไปได้ที่จะมีผู้ลอบสังหารที่ไม่มีใครรู้จัก สามารถหลบหลีกเข้าไปในพระบรมมหาราชวังในตอนเช้าของวันนั้นได้ การนำเอาปืนสั้น โคลท์ .45 อัตโนมัติออกมาจากตู้ที่อยู่ข้างเตียงนอนของพระองค์ ยิงพระองค์ตรงกลางศีรษะด้วยปืนกระบอกนั้น แล้วหลบหนีไปได้โดยที่ไม่มีใครเห็นเลย คนที่เป็นฆาตกรจะต้องเป็นใครคนใดคนหนึ่งที่อยู่พักอาศัยในพระที่นั่งบรมพิมานเท่านััน
แต่ทันทีหลังจากที่ในหลวงอานันท์สวรรคตไปแล้ว กลับมีการกระจายข่าวออกไปอย่างกว้างขวางว่า พระองค์ทรงกระทำอัตวินิบาตกรรมคือฆ่าตัวตายเอง พระชนนีศรีสังวาลย์ ได้ขอร้องกับนายกรัฐมนตรีปรีดี พนมยงค์ ให้ประกาศว่า การสวรรคตเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากตัวในหลวงอานันท์เอง นายปรีดีและรัฐบาลก็ยินยอมทำตามคำขอร้องนั้น แต่มันเป็นไปไม่ได้เลยที่ในหลวงอานันท์จะยิงพระองค์เองด้วยความผิดพลาดหรืออุบัติเหตุทำปืนลั่น ในขณะที่ปืนกระบอกนี้จี้อยู่ตรงหน้าผากของพระองค์ขณะที่นอนหงาย และจากวิถีกระสุนที่วิ่งจากหน้าผากผ่านกระโหลกศีรษะทะลุท้ายทอยของในหลวงอานันท์ ขณะฝ่ายนิยมระบอบเจ้าหลายคนที่เป็นนักการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช เป็นผู้เริ่มการปล่อยข่าวว่า นายปรีดี พนมยงค์เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดในการปลงพระชนม์ในหลวงอานันท์ นำการสวรรคตมาแสวงหาผลประโยชน์เพื่อต้องการฟื้นระบอบเจ้าแบบเก่า เพื่อเปลี่ยนประเทศไทยให้คืนกลับสู่อดีต
วันที่ 13 มิถุนายน2489 อุปทูตชาร์ล ดับเบิ้ลยู โยสท์ (Charge d’affaires Charles W. Yost )ส่งโทรเลขลับไปถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศในกรุงวอชิงตัน เล่าถึงการสนทนากับนายดิเรก ชัยนาม ซึ่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่เพิ่งเข้าเฝ้าฯ กษัตริย์ภูมิพลที่ได้กล่าวยืนยันกับนายดิเรกว่า ข่าวลือต่างๆ ที่ว่านายปรีดีวางแผนปลงsพระชนม์หรือนายหลวงปลงพระชนม์พระองค์เอง เป็นเรื่องที่ไร้สาระ และพระองค์มีความมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า การสวรรคตของในหลวงอานันท์เป็นเรื่องอุบัติเหตุ…… ขณะที่มรว.เสนีย์ ปราโมชส่งหลานและภรรยาของตนไปที่สถานทูตของสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ กล่าวหาว่า นายกรัฐมนตรีปรีดีเป็นผู้วางแผนทำการปลงพระชนม์ในหลวงอานันท์
นายปรีดีและรัฐบาลของเขาได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพื่อทำหน้าที่ค้นหาความจริงเกี่ยวกับกรณีสวรรคต ในวันที่18 มิถุนายน 2489ประกอบด้วย ประธานศาลทั้งสามศาล พระบรมวงศานุวงศ์ ผู้บัญชาการทหารสามเหล่าทัพ ประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานวุฒิสภา และอนุกรรมการทางการแพทย์จากหลายฝ่าย
ขณะที่ฝ่ายนิยมระบอบเจ้าได้ปล่อยข่าวว่า กษัตริย์ภูมิพลก็กำลังตกอยู่ในอันตรายด้วย และขอการสนับสนุนจากทูตสหรัฐและอังกฤษ เพื่อการทำรัฐประหารรัฐบาลของนายปรีดี โดยอ้างว่าเพื่อปกป้องพระราชวงศ์ ขณะที่รายงานจากคณะแพทย์เมื่อวันที่27 มิถุนายน 2489 ลงความเห็นว่ามีคนยิงรัชกาลที่ 8
วิถีกระสุนเฉียงลงล่างซ้าย |
อุปทูตสหรัฐ Charle Woodruff Yost 2450-2524 |
ดิเรก ชัยนาม 2447-2510 |
ขณะที่ฝ่ายนิยมระบอบเจ้าได้ปล่อยข่าวว่า กษัตริย์ภูมิพลก็กำลังตกอยู่ในอันตรายด้วย และขอการสนับสนุนจากทูตสหรัฐและอังกฤษ เพื่อการทำรัฐประหารรัฐบาลของนายปรีดี โดยอ้างว่าเพื่อปกป้องพระราชวงศ์ ขณะที่รายงานจากคณะแพทย์เมื่อวันที่27 มิถุนายน 2489 ลงความเห็นว่ามีคนยิงรัชกาลที่ 8
Sir Geoffrey Stuart Thompson 2448-2526 |
ความพยายามของรัฐบาลนายปรีดี ที่พยายามชี้ว่าเป็นเรื่องอุบัติเหตุนับเป็นความผิดพลาดอย่างร้ายแรงของรัฐบาลเอง แม้ว่านายกปรีดีมีเจตนาจะรักษาศักดิ์ศรีของสถาบันกษัตริย์ ดังนั้นรัฐบาลนายปรีดีจำเป็นต้องดำเนินการสอบสวนเพื่อค้นหาข้อเท็จจริงที่จะแสดงความบริสุทธิ์ใจของตน โดยไม่ต้องไปหวั่นเกรงเรื่องใดๆอีกต่อไปโดยอาจมีการเรียกประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ ถ้าจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนตัวกษัตริย์ เพราะได้เห็นพิรุธชัดเจนว่าฝ่ายราชวังได้รีบทำความสะอาดเพื่อลบร่องรอยพยานหลักฐานก่อนที่จะยอมให้ใครเข้าไปในห้องพระบรรทมที่เกิดเหตุ ส่วนปืนก็ได้ถูกนำมาวางไว้ข้างๆ และมีการจัดฉากสร้างกระแสให้เกิดความสะเทือนใจ และโกรธแค้น เพื่อโหมโจมตีนายกรัฐมนตรีปรีดีอย่างขนานใหญ่หลายระลอก
ส่วนกษัตริย์ภูมิพลแสดงอาการรู้สึกหดหู่อย่างเห็นได้ชัดต่อการสวรรคตของพระเชษฐา กษัตริย์ภูมิพลดูเหมือนป่วยและซึมเศร้าตลอดเวลาไม่อยากพูดจา และเสด็จไปประทับยังเมืองโลว์ซานน์พร้อมพระชนนี เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2489 เพื่อศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยโลว์ซานน์ ถึงแม้ว่าการไว้ทุกข์ยังไม่ครบ100 วัน แต่พระองค์ยังคงมีอาการซึมเศร้าเสมอ นานๆครั้งจึงจะเข้าไปเรียนในห้องเรียน และไม่เคยเรียนจบปริญญาใดๆเลย ในปลายปี 2489 พระองค์ส่งข้อความว่า จะไม่เสด็จกลับกรุงเทพเพื่อร่วมงานพระราชพิธีพระบรมศพของในหลวงอานันท์ ดูเหมือนว่าพระองค์มีพระประสงค์จะประทับอยู่ในประเทศสวิสเซอร์แลนด์อีกเป็นเวลาสองถึงสามปี เพื่อที่จะได้สำเร็จการศึกษาของพระองค์ โดยไม่มีแนวโน้มเลยว่า จะสามารถไขปริศนาเบื้องหน้าเบื้องหลังให้กระจ่างแจ้งออกมาได้
มีแต่ภูมิพล ที่เป็นคนยิงรัชกาลที่ 8
ในขณะที่การสืบสวนกรณีสวรรคตได้เริ่มเข้มข้นขึ้นถึงจุดที่พุ่งเป้าไปยังกษัตริย์ภูมิพลว่าเป็นผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นผู้ปลงพระชนม์รัชกาลที่ 8 และต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้ รัฐบาลกลัวว่าจะมีผลกระทบที่สั่นคลอนต่อเสถียรภาพในการเปิดเผยเรื่องราวนี้ออกมา และไม่ต้องการให้กษัตริย์ภูมิพลสละราชสมบัติ
จุมภฏพงษ์และมรว.พันธุ์ทิพย์ |
หลวงธำรงค์นาวาสวัสดิ์ ( 2444-2531) |
Edwin F. Stanton |
ควง อภัยวงศ์ ( 2445 - 2511 ) |
มรว.เสนีย์ ปราโมช ( 2448 -2540 ) |
และพี่น้องตระกูลปราโมชคือ หม่อมราชวงศ์ เสนีย์ และ หม่อมราชวงศ์ คึกฤทธิ์ได้ร่วมกันวางแผนเตรียมการประกาศว่า กษัตริย์ภูมิพลได้ทำการปลงพระชนม์ในหลวงอานันท์ โดยพวกเขาหวังว่าจะเป็นการบังคับให้กษัตริย์ภูมิพลสละราชสมบัติเพื่อเปิดทางให้กับพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าจุมภฏพงษ์บริพัตรขึ้นเป็นกษัตริย์แทน
Kenneth Landon ( 2446- 2536) |
เฉลียว บุศย์ และชิต ในศาล |
ในท้ายที่สุด กษัตริย์ภูมิพลได้เสด็จกลับมาสู่ประเทศไทยอย่างเมื่อเดือนมีนาคม 2493 เพื่อร่วมพระราชพิธีพระบรมศพฯพระเชษฐาของพระองค์ และเข้าพิธีบรมราชาภิเษกอย่างเป็นทางการ รวมทั้งพิธีราชาภิเษกสมรสกับ มรว.หญิงสิริกิติ์ กิติยากร แล้วพระองค์ก็เสด็จออกจากประเทศไทยเมื่อวันที่ 6มิถุนายน 2493 ซึ่งเป็นเวลาเพียงสองสามวัน ก่อนที่จะครบรอบการเสด็จสวรรคตของพระเชษฐา ต่อมาพระองค์จึงได้เสด็จกลับสู่ประเทศไทยเพื่อปฏิบัติหน้าที่พระมหากษัตริย์เมื่อปลายปี 2494 กษัตริย์ภูมิพลทรงทราบดีว่า นายบุศย์ ปัทมศริน, นายชิต สิงหเสนี และนายเฉลียว ปทุมรส ไม่มีส่วนรู้เห็นใดๆ เกี่ยวกับการปลงพระชนม์ของพระเชษฐาของพระองค์ แต่พระองค์ก็ไม่กระทำการใดๆ เพื่อช่วยชีวิตของพวกเขา บุคคลทั้งสามได้ถูกประหารชีวิตในเดือนกุมภาพันธ์ 2498 ด้วยข้อหาอาชญากรรมที่พวกเขาไม่ได้เป็นผู้ลงมือกระทำแต่อย่างใด
กษัตริย์ภูมิพลได้เปลี่ยนคำให้การของพระองค์เองหลายครั้ง ทั้งๆที่กษัตริย์ภูมิพลเคยยืนยันอย่างแข็งขันไม่กี่วันหลังจากที่พระเชษฐาสวรรคตว่ามันเป็นอุบัติเหตุ แต่พระองค์กลับยกเลิกคำให้การเหล่านั้นในการพิจารณาคดีครั้งต่อมา โดยพระองค์หันไปเล่าเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยหลายเรื่อง ที่เป็นการทำลายความน่าเชื่อถือคือให้ร้ายนายเฉลียว ปทุมรส กษัตริย์ภูมิพลได้พระราชทานสัมภาษณ์แก่สถานีโทรทัศน์ บีบีซี ซึ่งออกอากาศเมื่อปี 2523 โดยแก้ตัวว่า การคดีสวรรคตเป็นเรื่องที่ลึกลับซับซ้อน จากการอำพรางคดีโดยบุคคลหลายคนที่มีอำนาจมากทั้งในและต่างประเทศที่ไม่ทราบว่าเป็นใครบ้าง
William Stevenson กับภูมิพล |
Masanobu Tsuji ( 2444-2504 ) |
บันทึกของนางมากาเร็ต แลนดอน
(Margaret Landon)
Margaret และ Kenneth Landon |
โดยที่อดีตราชเลขาธิการ คือ นายเฉลียว ปทุมรส มีความสัมพันธ์เป็นชู้สาวกับนางสังวาลย์ และอยู่ในห้องบรรทมของพระนางในขณะที่ในหลวงอานันท์ถูกยิงสวรรคต โดยพระนางสังวาลย์ ซึ่งเป็นพระชนนีมาจากตระกูลสามัญชนและไม่เคยได้รับความชื่นชอบ จากกลุ่มพระบรมวงศานุวงศ์ส่วนใหญ่เลย
วไลยอลงกรณ์ สว่างวัฒนาและมหิดล |
เจ้าฟ้ามหิดลกับนส.สังวาลย์ |
ในตอนเช้าของวันที่ 9 มิถุนายน 2489 ในหลวงอนันท์อานันท์ยังประชวรอยู่ โดยบรรทมอยู่บนเตียงพร้อมกับหยิบปืนขึ้นมาเล่น เจ้าฟ้าชายภูมิพลเสด็จเข้ามาข้างในห้องบรรทม ในหลวงอานันท์จับปืนขึ้นจ่อมาที่พระเศียรของเจ้าฟ้าภูมิพลและกล่าวว่า “ ฉันสามารถฆ่าเธอได้ ” แต่เจ้าฟ้าภูมิพลก็แย่งปืนมาและยกปืนจ่อที่พระเศียรของในหลวงอานันท์ แล้วกล่าวว่า“ ฉันก็ฆ่าเธอได้เช่นกัน ” ในหลวงอานันท์ ร้องว่า “เหนี่ยวไกเลย เหนี่ยวไกเลย ”
พระอนุชาขึ้นเป็นกษัตริย์ภูมิพลหลังยิงพระเชษฐา |
พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ |
...................
Subscribe to:
Posts (Atom)