Saturday, March 12, 2016

THE SAUDI ROYAL FAMILY - Documentary 2015



Download

เมื่อก๊าซที่โรงแยกก๊าซไทย แพงกว่านำเข้าจากต่างประเทศ แล้วรัฐบาลพลเอกประยุทธ์จะเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 ไปหาสวรรค์วิมานอะไร !?

ไม่บ่อยครั้งนัก ที่ผมเห็นด้วยกับค่ายพันธมิตร

แต่เรื่องนี้ เห็นด้วยครับ


เมื่อก๊าซที่โรงแยกก๊าซไทย แพงกว่านำเข้าจากต่างประเทศ แล้วรัฐบาลพลเอกประยุทธ์จะเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 ไปหาสวรรค์วิมานอะไร !?

ไม่บ่อยครั้งนัก ที่ผมเห็นด้วยกับค่ายพันธมิตร

แต่เรื่องนี้ เห็นด้วยครับ


จีน กับ อิทธิพลกลืนเอเชีย... กรณีพิพาททะเลจีนใต้

ทะเลจีนใต้ ------- 
โดย คุณ Dhanatchai Chatchai

///////// ก)เป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งของมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก มีขนาดใกล้เคียงกับทะเลเมดิเตอเรเนียน ข)ความยาวตั้งแต่เกาะไต้หวันถึงเกาะสุมาตรา ๑๘๐๐ ไมล์ทะเล ความลึกของน้ำทะเลสูงสุด ๕๕๑๔ เมตร ค)ประเทศตามชายฝั่งทะเลจีนใต้ ประกอบด้วย จีน ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย บรูไน อินโดนิเซีย สิงคโปร์ ไทย กัมพูชา และเวียดนาม โดยจีนมีแนวคิดว่า ทะเลจีนใต้เป็นอาณาจักรทางทะเลของตน ซึ่งทำให้จีนต้องการที่จะขยายอาณาจักรไปทั่วทะเลจีนใต้ ง)ทะเลจีนใต้จะมี เกาะ แก่ง แนวปะการัง หินโสโครก สันทรายใต้น้ำและโขดหินกระจายอยู่หลายเกาะ ตามบริเวณพื้นที่ในทะเล แบ่งออกเป็น หมู่เกาะพาราเซล หมู่เกาะสแปรตลี หมู่เกาะปราตัส และหมู่เกาะแมคเคิลฟิลด์แบงค์ จ)ปัญหาการอ้างสิทธิเป็นเจ้าของหมู่เกาะสแปรตลี มีการอ้างซ้ำซ้อนกันอยู่ นั้น ประกอบด้วยประเทศ จีน ไต้หวัน เวียดนาม บรูไน ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย ง)ในเดือนกุมภาพันธุ์ ๒๕๓๖ จีนได้ผ่านกฎหมายฉบับหนึ่ง ระบุให้หมู่เกาะสแปรตลีเป็นเขตอธิปไตยของตน มีสิทธิที่จะขับไล่ผู้บุกรุกได้ทันที จ)จีนยังได้ลงนามในข้อตกลงตามช่วงเวลาดังกล่าวกับบริษัทน้ำมันแห่งหนึ่งของ สหรัฐ เพื่อสำรวจขุดเจาะน้ำมันในบริเวณหมู่เกาะสแปรตลี ฉ)นับตั้งแต่นั้นมา จีนใช้อำนาจกำลังรบทางเรือเข้ารุกคืบคลานคืบหน้าไปทีละเกาะ เริ่มจากสร้างอาคารพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกบนเกาะ mischief reef เดิมที่มีอยู่แล้ว ขยายไปเรื่อยๆจนเข้ายึดหมู่เกาะสแปรตลี ทั้งหมดในที่สุดจน ณ ขณะนี้ จนจีนสามารถควบคุมจุดยุทธศาสตร์ที่สำคญที่สุด และมีศักยภาพทางเศรษฐกิจมากที่สุดเอาไว้ด้วย

จีน กับ อิทธิพลกลืนเอเชีย... กรณีพิพาททะเลจีนใต้

ทะเลจีนใต้ ------- 
โดย คุณ Dhanatchai Chatchai

///////// ก)เป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งของมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก มีขนาดใกล้เคียงกับทะเลเมดิเตอเรเนียน ข)ความยาวตั้งแต่เกาะไต้หวันถึงเกาะสุมาตรา ๑๘๐๐ ไมล์ทะเล ความลึกของน้ำทะเลสูงสุด ๕๕๑๔ เมตร ค)ประเทศตามชายฝั่งทะเลจีนใต้ ประกอบด้วย จีน ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย บรูไน อินโดนิเซีย สิงคโปร์ ไทย กัมพูชา และเวียดนาม โดยจีนมีแนวคิดว่า ทะเลจีนใต้เป็นอาณาจักรทางทะเลของตน ซึ่งทำให้จีนต้องการที่จะขยายอาณาจักรไปทั่วทะเลจีนใต้ ง)ทะเลจีนใต้จะมี เกาะ แก่ง แนวปะการัง หินโสโครก สันทรายใต้น้ำและโขดหินกระจายอยู่หลายเกาะ ตามบริเวณพื้นที่ในทะเล แบ่งออกเป็น หมู่เกาะพาราเซล หมู่เกาะสแปรตลี หมู่เกาะปราตัส และหมู่เกาะแมคเคิลฟิลด์แบงค์ จ)ปัญหาการอ้างสิทธิเป็นเจ้าของหมู่เกาะสแปรตลี มีการอ้างซ้ำซ้อนกันอยู่ นั้น ประกอบด้วยประเทศ จีน ไต้หวัน เวียดนาม บรูไน ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย ง)ในเดือนกุมภาพันธุ์ ๒๕๓๖ จีนได้ผ่านกฎหมายฉบับหนึ่ง ระบุให้หมู่เกาะสแปรตลีเป็นเขตอธิปไตยของตน มีสิทธิที่จะขับไล่ผู้บุกรุกได้ทันที จ)จีนยังได้ลงนามในข้อตกลงตามช่วงเวลาดังกล่าวกับบริษัทน้ำมันแห่งหนึ่งของ สหรัฐ เพื่อสำรวจขุดเจาะน้ำมันในบริเวณหมู่เกาะสแปรตลี ฉ)นับตั้งแต่นั้นมา จีนใช้อำนาจกำลังรบทางเรือเข้ารุกคืบคลานคืบหน้าไปทีละเกาะ เริ่มจากสร้างอาคารพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกบนเกาะ mischief reef เดิมที่มีอยู่แล้ว ขยายไปเรื่อยๆจนเข้ายึดหมู่เกาะสแปรตลี ทั้งหมดในที่สุดจน ณ ขณะนี้ จนจีนสามารถควบคุมจุดยุทธศาสตร์ที่สำคญที่สุด และมีศักยภาพทางเศรษฐกิจมากที่สุดเอาไว้ด้วย

จ่อออกหมายเรียกเสธอ้าย พลเอกบุญเลิศ แก้วประสิทธ์ิ ข้อหาแอบอ้าง 901

จ่อออกหมายเรียกเสธอ้าย พลเอกบุญเลิศ แก้วประสิทธ์ิ จัดม้อบจัดตั้ง มีการแอบอ้างหรือทำให้เข้าใจว่ากลุ่มม้อบแช่แข็งประเทศไทย ที่ใช้ตัวหลักเป็นแกนเพื่อนรักของพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ยกแผงเตรียมทหารรุ่น1 เข้ามา อาทิเช่น,พล.ร.อ ชัย สุวรรณภาพ พลเอกณัฐชัย เพิ่มทรัพย์ พลเอกวัฒนชัย ฉายเหมือนวงศ์ พล.ต.ท.มงคล กมลบุตร(ลุงของพ.อ.คชาชาติ บุญดี )เป็นต้น ..โดยแอบอ้างว่าทำเพื่อสถาบัน ทุกคนเชื่อถือเพราะมีพลเอกสรยุทธ์สนับสนุนม้อบเสธอ้ายเต็มกำลัง ช่วงหนึ่งขณะกล่าวบนเวทีเสธอ้ายได้กล่าวจาบจ้วงหมิ่นสถาบันด้วยแอบอ้างว่านัดมาชุมนุมระดมพลในการนัดเวลาเวลา  901 น.แล้วได้จงใจพูดว่าคงรู้นะ 901หมายถึงใคร? ม้อบเสธอ้ายใช้การเคลื่อนไหวโฆษณาแฝงสถาบัน มีการใช้การชูรูปพระบรมฉายาลักษณ์ จนทำให้สังคมเกิดความเคลือบแคลงใจม้อบเสธอ้าย มีการนำสถาบันมากล่าวชัดเจน เสธอ้ายได้กล่าวกับผู้ชุมนุมทั่วไปรู้กันว่าม้อบเสธอ้ายเกิดขึ้นได้เพราะพลเอกสุรยุทธ์ได้รับอนุญาติแล้วให้มาตั้งม้อบปกป้องสถาบัน ความผิดของม้อบผิดกฎหมายมาตร 112 ชัดเจน จนต้องยื่น ผบ.ตร.เซ็นต์ส่งต่อให้อัยการเพื่อสั่งฟ้องต่อไป อ่านข่าวต่อ http://www.isranews.org/isra-news/item/45077-news_45077.html

จ่อออกหมายเรียกเสธอ้าย พลเอกบุญเลิศ แก้วประสิทธ์ิ ข้อหาแอบอ้าง 901

จ่อออกหมายเรียกเสธอ้าย พลเอกบุญเลิศ แก้วประสิทธ์ิ จัดม้อบจัดตั้ง มีการแอบอ้างหรือทำให้เข้าใจว่ากลุ่มม้อบแช่แข็งประเทศไทย ที่ใช้ตัวหลักเป็นแกนเพื่อนรักของพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ยกแผงเตรียมทหารรุ่น1 เข้ามา อาทิเช่น,พล.ร.อ ชัย สุวรรณภาพ พลเอกณัฐชัย เพิ่มทรัพย์ พลเอกวัฒนชัย ฉายเหมือนวงศ์ พล.ต.ท.มงคล กมลบุตร(ลุงของพ.อ.คชาชาติ บุญดี )เป็นต้น ..โดยแอบอ้างว่าทำเพื่อสถาบัน ทุกคนเชื่อถือเพราะมีพลเอกสรยุทธ์สนับสนุนม้อบเสธอ้ายเต็มกำลัง ช่วงหนึ่งขณะกล่าวบนเวทีเสธอ้ายได้กล่าวจาบจ้วงหมิ่นสถาบันด้วยแอบอ้างว่านัดมาชุมนุมระดมพลในการนัดเวลาเวลา  901 น.แล้วได้จงใจพูดว่าคงรู้นะ 901หมายถึงใคร? ม้อบเสธอ้ายใช้การเคลื่อนไหวโฆษณาแฝงสถาบัน มีการใช้การชูรูปพระบรมฉายาลักษณ์ จนทำให้สังคมเกิดความเคลือบแคลงใจม้อบเสธอ้าย มีการนำสถาบันมากล่าวชัดเจน เสธอ้ายได้กล่าวกับผู้ชุมนุมทั่วไปรู้กันว่าม้อบเสธอ้ายเกิดขึ้นได้เพราะพลเอกสุรยุทธ์ได้รับอนุญาติแล้วให้มาตั้งม้อบปกป้องสถาบัน ความผิดของม้อบผิดกฎหมายมาตร 112 ชัดเจน จนต้องยื่น ผบ.ตร.เซ็นต์ส่งต่อให้อัยการเพื่อสั่งฟ้องต่อไป อ่านข่าวต่อ http://www.isranews.org/isra-news/item/45077-news_45077.html

เจาะลึกทั่วไทย 11/3/59 : เบื้องลึก! แผนร่างยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี



Download

Friday, March 11, 2016

รายการ รู้ไหม ใครทำให้คนไทยยากจน หัวข้อ "สวัสดีประเทศไทย เราจะเอายังไงกันดีจ๊ะ?"

ลุงเย็นลมป่า 10 มีค 59

รายการ รู้ไหม ใครทำให้คนไทยยากจน

หัวข้อ "สวัสดีประเทศไทย เราจะเอายังไงกันดีจ๊ะ?"

รายการ รู้ไหม ใครทำให้คนไทยยากจน หัวข้อ "สวัสดีประเทศไทย เราจะเอายังไงกันดีจ๊ะ?"

ลุงเย็นลมป่า 10 มีค 59

รายการ รู้ไหม ใครทำให้คนไทยยากจน

หัวข้อ "สวัสดีประเทศไทย เราจะเอายังไงกันดีจ๊ะ?"

ทำไมอีเปรม(ประธานองค์มนตรี เปรม ติณสูลานนท์) ถึงเกลียดและอิจฉา ดร.ทักษิณ นายกของประชาชน

โดย เสรีชน

ทำไมอีเปรม(ประธานองค์มนตรี เปรม ติณสูลานนท์)

ถึงเกลียดและอิจฉา ดร.ทักษิณ นายกของประชาชน


ขอทบทวนความทรงจำบางอย่าง ทำไมอีเปรมเกลียดทักษิณ จากที่ผมลองวิเคราะห์และข้อเท็จจริงบางอย่างที่ตรวจพบ


1 นิสัยของสองคนเข้ากันไม่ได้ อีเปรมเป็นขุนนางผูกขาดระบบ อำมาตย์ มาอย่างยาวนาน ทำอะไรชอบคิดแต่สร้างภาพถึงความสง่างาม และจะซ่อนความเลวระยำไว้ใต้พรม อีเปรม ค่อยๆ พูด ค่อยคิดแบบข้าราชการที่เขารับราชการมานานถึง 39 ปี แต่ ดร.ทักษิณเป็นคนรุ่นใหม่ เฉี่ยว ทำงานไว สไตล์เจ้าของธุรกิจและ CEO ที่สำคัญ ดร.ทักษิณรับไม่ได้กับระบบราชการที่จำกัดไปด้วยกรอบของกฎหมาย ดร.ทักษิณไม่โตในระบบราชการ แม้เขาเป็นพันตำรวจโท แต่ก็ไม่เคยทำงานเด่น เป็นดอกเตอร์ แต่นายกของประชาชนคนนี้ เขาผ่านการทำงานและสำเร็จในเชิงธุรการ เมื่อนิสัยมีนิสัยเห้นความเดือดร้อนของประขาขนเป้นที่ตั้ง จึงทำให้ อำมาตย์เผด็จการ ทรราช และไม่ชอบและธาตุแท้ ของความเป้นคนมันต่างกัน ท้ายสุดก็ไปกันไม่ได้

2 อีเปรม อยู่แวดล้อมด้วยขุนนางและคนอย่างองค์มนตรีที่มีลักษณะะจารีตนิยม อำมาตย์เผด็จการทรราช ขวาจัด ทั้งพลเอกพิจิตร เกษม วัฒนชัย คนนี้เคยร่วมกับ ดร.ทักษิณตอนหลังขัดใจกัน เลยออกมาก็พาลดร.ทักษิณไปด้วย อรรถนิติ ดิษฐอำนาจ ชาญชัย ลิขิตจิตถะ สองคนนี้ขวาตกขอบและสนับสนุนการล้ม ดร.ทักษิณ ส่วน สถุนธานินทร์ กรัยวิเชียร คนนี้ขวาตกขอบ คลั่งเจ้า บ้าหมอดู กราบไหว้หมาเป็นอาจินต์ หรือคนนอกองคมนตรี แต่เป็นคนใกล้วังอย่างนายสุเมธ เฟอรารี่ ที่ชอบดูถูกประชาชน ว่า ยังไม่ความพร้อมที่จะเป็น ประชาธิปไตย อดีตเลขาสภาพัฒน์ ตัวนี้ ทำให้แนวคิดกลุ่มคนพวกนี้เป็นจารีตนิยมสุดกู่ หนักข้ออีเปรม ยังนำเอาพลอากาศเอกชลิต รอง คมช มาร่วมงานองคมนตรีอีก ทำให้แนวคิดไปกันไม่ได้กับฝ่ายประชาชน ฝ่ายเสรีนิยม และโลกาภิวัฒน์ พวกนี้นิยมให้ประเทศเดินทางแบบเก่า สมัยอีเปรมปกครองเมื่อสามสิบปีก่อน ไม่ต้องการใช้เทคโนโลยี่สื่อสาร เนต หรือเปิดประเทศมากมายนัก กลุ่มจารีตนิยมมักเห่อเหิมกับยศ ชั้น การกราบไหว้ มอบคลานของประชาชน แต่เสรีนิยม รับกับยุคเปลี่ยนผ่าน และหลักสิทธิมนุษยชน คนเท่าเทียมกัน ทำให้สองคนนี้เป็นผู้นำสองสำนักและ clash กันในที่สุด


3 อีเปรม เห็นใครดีไม่ได้ เห็นใครได้ไม่ดี พร้อมเป็นทหารเฒ่าที่มีความอิจฉาในกลมสันดาน ตามคำของท่านสมัครที่วายชนม์ไปแล้ว ขี้ริษยา ใครขัดคอมักจำ และอาฆาต ไปดูที่พลตรีมนุญกฤติเล่าเรื่องอีเปรม ริษยาพลเอกเสริม ทำทุกอย่างให้ตนได้ ผบ ทบ นำประเทศรบลาวเพราะไม่พอใจลาวที่ไปคบเวียดนาม ต้องการข่มลาว พอรบแพ้ที่ร่มเกล้า อีเปรมให้ชวลิตรับผิดแทน อีเปรมเขาภูมิใจที่เป็นนายกไทยแปดปี ติดต่อกัน แม้จะมาด้วยปืน อำนาจทหารหมาหน้าตัวเมียเหล่านี้ก็ดีใจ พอดร.ทักษิณเป็นนายกปีที่หก อีเปรมจึงต้องหาทางกำจัดเสีย มิฉะนั้น ทักษิณจะเบรก record เป็นนายกแปดปี หรืออาจจะถึงสิบสองปีได้


4 การแต่งตั้งโยกย้ายโผทหาร ปกติ นายกฯ ทุกคนจะส่งให้อีเปรมดูและขอคำปรึกษา แต่ดร.ทักษิณไม่ทำ กลับประกาศมาได้ว่า ผ่านมือนายกแล้ว ใครแก้ไม่ได้ ทำให้อีเปรมแค้นมาก เพราะแก่หงำเหงือกไม่เคยโดนเด็กคราวลูกพูดกระทบให้เจ็บช้ำถึงปานนี้ ประกอบกับนายพลหลายคนรวมทั้งบรรณวิทย์ ก็มาร้องขอให้ป๋าช่วย แต่ป๋าทำอะไรไม่ได้ ทำให้คนแก่ดูด้อยค่า เหมือนหมาหัวเน่า เมื่อถึงคราวที่อีเปรมต้องรุก ขึ้น บงการ และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการทำรัฐประหาร ตั้งแต่ปี 2549 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบัน จนถึง การสั่งลอบสังหาร ให้ดร.ทักษิณตาย ถึง 4 ครั้ง ขณะที่นายกคนอื่นก่อนหน้าที่ถูกขับไล่ไป โดนแค่ถอดจากตำแหน่ง แล้วกลับมาใช้ชีวิตปกติได้ ทั้ง เสนีย์ ธานินทร์ ชาติชาย แต่ไม่ใช่ ดร.ทักษิณที่เขากะเอาให้ตาย แต่กลับไม่ยอมคลานมากราบเท้า อีเปรม แต่กลับนำความที่เกิดขึ้นกับเขา บอกเหล่าให้ชาวโลกได้รับรู้ แม่เวลาจะผ่านมากว่า 10 ปี แล้วก็ตาม คำสัมษาณ์ของ ดร. ทักษิญ ทำเอาโลกตลึง ไม่คิดว่า ระบอบอำมาตย์ทรราช ในไทย จะโหดร้าย ถึงขนาดนี้


5 ความขัดแย้งระหว่าง คนกับเหี้ย เริ่มออกอาการลามปามมาถึงเรื่องจัดงานในหลวง อีเปรม บอก ดร.ทักษิณว่า การจัดงานฉลองในหลวงครองราชย์ 60 ปีน่ะ ขอให้ดร.ทักษิณออก เพราะคนประท้วงดร.ทักษิณมาก เป็นประธานจัดงานแล้วคนจะไม่ยอมรับ (แต่ผิดคาดภายหลังการจัดงานมีคนมาร่วมที่บรมรูปทรงม้ากว่าเจ็ดหมื่นคน)

ดร.ทักษิณบอก การเมืองคือ การเมือง แต่การจัดงานเทิดพระเกียรติเป็นเรื่องความจงรักภักดี ผมทำไปหมดแล้ว จัดวางคนไปแล้ว ไม่ยอมออก ถ้าออก ใครจะมาเป็นแทนผม

อีเปรมบอกว่า จะรับสานงานต่อให้ ดร.ทักษิณบอกไม่เห็นด้วย เพราะการที่คนมาประท้วง ไม่ได้แปลว่าผมทำผิด คนกลุ่มใหญ่สนับสนุนผม เลือกตั้งที่ยุบสภา ผมก็ชนะอีก ไม่อาจทำตามอีเปรม แนะได้

และแล้ว ความร้าวลึก ระหว่าง นายกของประชาชนกับคนอย่าง เริ่ม เหี้ยก็เริ่ม


อีเปรม โกรธจัด ยิ้มๆ แบบเคืองในใจ แต่สายตาแสดงออก จากนั้นทั้งสองคนก็ไม่เจอกันอีก มาเจอกันอีกที ตอนงานศพพ่อทรราช พลเอกอนุพงษ์ ตาย ทักษิณยกมือไหว้ อีเปรมก็ทักว่า สบายดีหรือ ดร.ทักษิณบอกสบายดี ป๋าล่ะครับ อีเปรมสวมวิณณานพญาโศก และบอกว่า คนแก่จะเอาสบายยังไงได้ ก็แค่ครั้งสุดท้ายที่พูดในที่สาธารณะ แต่มีการเจรจาลับกันอีกหลายหน ตอนแดงประท้วงแล้วถูกฆ่ากลางกรุงในปี 52 – 53

6 อีเปรมอยู่เบื้องหลังการรัฐประหารชัดเจน จากเอกสารของวิกีลิกส์ก็บอกชัด พลเอกสนธิ บัง เคยสารภาพว่า อีเปรมพาเข้าเฝ้าเอง ไม่ใช่เขาขอเข้าเฝ้า ซึ่งหากพลเอกบังพูดความจริง การกระทำของอีเปรมคือ การไม่ผิดคำสาบานที่ปฎิญาณตนว่าจะพิทักษ์รักษารัฐธรรมนูญ แต่นี่เขากลับทำตรงข้ามคือ ฉีก รธน เสียเอง พอรัฐประหารเสร็จ สองวัน สนธิ นำคณะทหารมาคารวะอีเปรม อีเปรมสวมวิญญาน ฮองเฮา ตรวจแถวทหารชั่วเหล่านั้นด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม และด่า ดร.ทักษิณโดนยกคำพูดกระทบทำนองว่า คนโกง คนไม่ดี พระสยามเทวาธิราชลงโทษ


อีเปรมในบท ฮองเฮา ทำเสื่อมเสียพระเกียรติเพราะองคมนตรีต้องไม่ยุ่งการเมือง ดูรัฐธรรมนูญ มาตรา 14 วรรคท้าย องคมนตรีต้องไม่ฝักใฝ่พรรคการเมือง แต่นี่อีเปรมเขาเสือก และโดดมาเล่นการเมืองเต็มตัว อาทิ คนไทยโชคดีที่ได้คุณอภิสิทธิเป็นนายกฯ จากการตั้งกันโดยทหาร และเป็นฆาตกร 99 ศพ ในเวลาต่อมา หรือการเตือนจิ๋วว่า สมัครพรรคเพื่อไทยระวังจะกลายเป็นคนทรยศบ้านเมืองหรือไม่จงรักภักดี ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อว่า คนเป็นระดับประธานองคมนตรีสำรอก แสดงความอิจฉาออกมาได้แบบหมาๆ ได้ถึงเพียงนี้


7 อีเปรมชอบหลักการ divide and rule แบบที่เขาครองตำแหน่งนายกแปดปี โดยการกดขี่ ประชาชนใต้ปกครอง ต้องการให้พรรคการเมืองอ่อนแอ มีพรรคเล็กๆ มากพรรค แต่ดร.ทักษิณสู้ตาม รธน 40 ที่ต้องการเห็นพรรคการเมืองเข้มแข็งสู้กันที่อุดมการณ์ของพรรคใหญ่ เขาต้องการให้มีการรวมศูนย์อำนาจภายใต้การจัดการแบบ CEO ของภาคเอกชน วิธีคิดของสองคนนี้จึงไปคนละขอบฟ้า

ที่สุด เมื่อมีโอกาส แก้ รธน เขาต้องการให้พรรคการเมืองพลังประชาชนถูกยุบ กระจายไปหลายพรรค แต่อีเปรมทำไม่สำเร็จ เพราะเพื่อไทยกลับได้เสียงมากกว่าสมัยพลังประชาชนคือ 265 ในการเลือกตั้ง กค 54 เพิ่มจาก 233 เสียงในปี 50 ทำให้อีเปรมผิดหวังรุนแรง กับการบนบานสารการ ในครั้งนี้

สถานะปัจจุบัน
จริงๆ อีเปรมรู้แล้วว่า เอา ดร.ทักษิณไม่ลง และดูเหมือนว่า กาลเวลาที่ผ่านมา จะทำให้ ดร. ทักษิญ แข็งแรงขึ้นเป็นเงาตามตัว ดร. ทักษิญเขาพร้อมจะประนีประนอมในระดับหนึ่ง


แม้จะมีข่าวการต่อรอง ให้ ดร.ทักษิณกลับ แต่เงินกว่า 47000ล้านบาทไม่คืนให้ ด้วยความเสียดายเงินของคนอื่น


อีเฒ่าสารพัดพิษแห่งการเมืองไทย ตอนนี้ทำอะไรมากนักไม่ได้เพราะหลายฝ่ายไม่ยอม จะตาย วันตายพรุ้ง แต่ก็รอจังหวะเอาคืน นส.ยิ่งรักและ ดร.ทักษิณ

เพียงแต่ว่า ยิ่งสู้ ยิ่งถลำลึก พร้อมความเสื่อมของสถาบัน ที่ถูกอีเปรมเอามาย้ำยี แบบชนิดเสียหมา ตั้งแต่ปี 2553 ด้วยกระสุนพระราชทาน กว่า 2 แสนนัด


แม้มองภาพรวม การประเมินของฝั่ง กปปส และเหล่าทรราช คสช. จะมีกำลัง เหนือ กว่าฝ่ายประชาธิปไตย หรือประชาชนส่วยใหญ่ของประเทศอยู่ หลายขุม


หากมองกองทัพ การเป็นเอกภาพ สั่งได้ แม้ทหารเหล่านั้น จะกินเงินเดือนจากภาษีของ ประชาชน แต่รับใช้ ทรราช คสช. อย่างเตรียบรูปแบบ ก็ตาม


หรือแม้แต่ ผู้พิทักษ์ สินติราษฎร์ ก็กลับกลายเป็น ผู้พิทักษ์ทรราช คสช. อย่างเต็มรูปแบบ เช่นกัน

ตอนนี้คำสั่งตามกฎหมายของ ทรราช คสช.อยู่ในมือ มุ่งทำลาย นส. ยิ่งรักษณ์ อย่างน่าเกียด ด้วยข้อหา จำนำข้าว

แต่เอาเข้าจริง อีเปรม ผู้อยู่เบื้องหลัง ทรราช คสช. และศาลตุลาการ กลับพบกับ ประชาชนเป็นพันเป็นหมื่นทุกครั้งที่ นส. ยิ่งรักษณ์ ขึ้นศาล

นั้นแปลว่าอะไร แปลว่า อีเปรมและ ทรราช คสช. ไม่ใช่คู่ปรับของ ดร. ทักษิญ ไม่ว่าจะมองในมุมใหน


เพราะ


คู่ปรับที่คุณเอาชนะไม่ได้ ไม่ใช่ทักษิณ แต่เป็นประชาชน เจ้าของประเทศ ที่เทิดทูนระบอบประชาธิปไตย ต่ะหากเล่า เรื่องจึงตาลปัตรจนทุกวันนี้ !!!

——————-

ขอขอบคุณ ต้นฉบับที่คัดลอกมา

‪#‎เสรีชน‬

ทำไมอีเปรม(ประธานองค์มนตรี เปรม ติณสูลานนท์) ถึงเกลียดและอิจฉา ดร.ทักษิณ นายกของประชาชน

โดย เสรีชน

ทำไมอีเปรม(ประธานองค์มนตรี เปรม ติณสูลานนท์)

ถึงเกลียดและอิจฉา ดร.ทักษิณ นายกของประชาชน


ขอทบทวนความทรงจำบางอย่าง ทำไมอีเปรมเกลียดทักษิณ จากที่ผมลองวิเคราะห์และข้อเท็จจริงบางอย่างที่ตรวจพบ


1 นิสัยของสองคนเข้ากันไม่ได้ อีเปรมเป็นขุนนางผูกขาดระบบ อำมาตย์ มาอย่างยาวนาน ทำอะไรชอบคิดแต่สร้างภาพถึงความสง่างาม และจะซ่อนความเลวระยำไว้ใต้พรม อีเปรม ค่อยๆ พูด ค่อยคิดแบบข้าราชการที่เขารับราชการมานานถึง 39 ปี แต่ ดร.ทักษิณเป็นคนรุ่นใหม่ เฉี่ยว ทำงานไว สไตล์เจ้าของธุรกิจและ CEO ที่สำคัญ ดร.ทักษิณรับไม่ได้กับระบบราชการที่จำกัดไปด้วยกรอบของกฎหมาย ดร.ทักษิณไม่โตในระบบราชการ แม้เขาเป็นพันตำรวจโท แต่ก็ไม่เคยทำงานเด่น เป็นดอกเตอร์ แต่นายกของประชาชนคนนี้ เขาผ่านการทำงานและสำเร็จในเชิงธุรการ เมื่อนิสัยมีนิสัยเห้นความเดือดร้อนของประขาขนเป้นที่ตั้ง จึงทำให้ อำมาตย์เผด็จการ ทรราช และไม่ชอบและธาตุแท้ ของความเป้นคนมันต่างกัน ท้ายสุดก็ไปกันไม่ได้

2 อีเปรม อยู่แวดล้อมด้วยขุนนางและคนอย่างองค์มนตรีที่มีลักษณะะจารีตนิยม อำมาตย์เผด็จการทรราช ขวาจัด ทั้งพลเอกพิจิตร เกษม วัฒนชัย คนนี้เคยร่วมกับ ดร.ทักษิณตอนหลังขัดใจกัน เลยออกมาก็พาลดร.ทักษิณไปด้วย อรรถนิติ ดิษฐอำนาจ ชาญชัย ลิขิตจิตถะ สองคนนี้ขวาตกขอบและสนับสนุนการล้ม ดร.ทักษิณ ส่วน สถุนธานินทร์ กรัยวิเชียร คนนี้ขวาตกขอบ คลั่งเจ้า บ้าหมอดู กราบไหว้หมาเป็นอาจินต์ หรือคนนอกองคมนตรี แต่เป็นคนใกล้วังอย่างนายสุเมธ เฟอรารี่ ที่ชอบดูถูกประชาชน ว่า ยังไม่ความพร้อมที่จะเป็น ประชาธิปไตย อดีตเลขาสภาพัฒน์ ตัวนี้ ทำให้แนวคิดกลุ่มคนพวกนี้เป็นจารีตนิยมสุดกู่ หนักข้ออีเปรม ยังนำเอาพลอากาศเอกชลิต รอง คมช มาร่วมงานองคมนตรีอีก ทำให้แนวคิดไปกันไม่ได้กับฝ่ายประชาชน ฝ่ายเสรีนิยม และโลกาภิวัฒน์ พวกนี้นิยมให้ประเทศเดินทางแบบเก่า สมัยอีเปรมปกครองเมื่อสามสิบปีก่อน ไม่ต้องการใช้เทคโนโลยี่สื่อสาร เนต หรือเปิดประเทศมากมายนัก กลุ่มจารีตนิยมมักเห่อเหิมกับยศ ชั้น การกราบไหว้ มอบคลานของประชาชน แต่เสรีนิยม รับกับยุคเปลี่ยนผ่าน และหลักสิทธิมนุษยชน คนเท่าเทียมกัน ทำให้สองคนนี้เป็นผู้นำสองสำนักและ clash กันในที่สุด


3 อีเปรม เห็นใครดีไม่ได้ เห็นใครได้ไม่ดี พร้อมเป็นทหารเฒ่าที่มีความอิจฉาในกลมสันดาน ตามคำของท่านสมัครที่วายชนม์ไปแล้ว ขี้ริษยา ใครขัดคอมักจำ และอาฆาต ไปดูที่พลตรีมนุญกฤติเล่าเรื่องอีเปรม ริษยาพลเอกเสริม ทำทุกอย่างให้ตนได้ ผบ ทบ นำประเทศรบลาวเพราะไม่พอใจลาวที่ไปคบเวียดนาม ต้องการข่มลาว พอรบแพ้ที่ร่มเกล้า อีเปรมให้ชวลิตรับผิดแทน อีเปรมเขาภูมิใจที่เป็นนายกไทยแปดปี ติดต่อกัน แม้จะมาด้วยปืน อำนาจทหารหมาหน้าตัวเมียเหล่านี้ก็ดีใจ พอดร.ทักษิณเป็นนายกปีที่หก อีเปรมจึงต้องหาทางกำจัดเสีย มิฉะนั้น ทักษิณจะเบรก record เป็นนายกแปดปี หรืออาจจะถึงสิบสองปีได้


4 การแต่งตั้งโยกย้ายโผทหาร ปกติ นายกฯ ทุกคนจะส่งให้อีเปรมดูและขอคำปรึกษา แต่ดร.ทักษิณไม่ทำ กลับประกาศมาได้ว่า ผ่านมือนายกแล้ว ใครแก้ไม่ได้ ทำให้อีเปรมแค้นมาก เพราะแก่หงำเหงือกไม่เคยโดนเด็กคราวลูกพูดกระทบให้เจ็บช้ำถึงปานนี้ ประกอบกับนายพลหลายคนรวมทั้งบรรณวิทย์ ก็มาร้องขอให้ป๋าช่วย แต่ป๋าทำอะไรไม่ได้ ทำให้คนแก่ดูด้อยค่า เหมือนหมาหัวเน่า เมื่อถึงคราวที่อีเปรมต้องรุก ขึ้น บงการ และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการทำรัฐประหาร ตั้งแต่ปี 2549 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบัน จนถึง การสั่งลอบสังหาร ให้ดร.ทักษิณตาย ถึง 4 ครั้ง ขณะที่นายกคนอื่นก่อนหน้าที่ถูกขับไล่ไป โดนแค่ถอดจากตำแหน่ง แล้วกลับมาใช้ชีวิตปกติได้ ทั้ง เสนีย์ ธานินทร์ ชาติชาย แต่ไม่ใช่ ดร.ทักษิณที่เขากะเอาให้ตาย แต่กลับไม่ยอมคลานมากราบเท้า อีเปรม แต่กลับนำความที่เกิดขึ้นกับเขา บอกเหล่าให้ชาวโลกได้รับรู้ แม่เวลาจะผ่านมากว่า 10 ปี แล้วก็ตาม คำสัมษาณ์ของ ดร. ทักษิญ ทำเอาโลกตลึง ไม่คิดว่า ระบอบอำมาตย์ทรราช ในไทย จะโหดร้าย ถึงขนาดนี้


5 ความขัดแย้งระหว่าง คนกับเหี้ย เริ่มออกอาการลามปามมาถึงเรื่องจัดงานในหลวง อีเปรม บอก ดร.ทักษิณว่า การจัดงานฉลองในหลวงครองราชย์ 60 ปีน่ะ ขอให้ดร.ทักษิณออก เพราะคนประท้วงดร.ทักษิณมาก เป็นประธานจัดงานแล้วคนจะไม่ยอมรับ (แต่ผิดคาดภายหลังการจัดงานมีคนมาร่วมที่บรมรูปทรงม้ากว่าเจ็ดหมื่นคน)

ดร.ทักษิณบอก การเมืองคือ การเมือง แต่การจัดงานเทิดพระเกียรติเป็นเรื่องความจงรักภักดี ผมทำไปหมดแล้ว จัดวางคนไปแล้ว ไม่ยอมออก ถ้าออก ใครจะมาเป็นแทนผม

อีเปรมบอกว่า จะรับสานงานต่อให้ ดร.ทักษิณบอกไม่เห็นด้วย เพราะการที่คนมาประท้วง ไม่ได้แปลว่าผมทำผิด คนกลุ่มใหญ่สนับสนุนผม เลือกตั้งที่ยุบสภา ผมก็ชนะอีก ไม่อาจทำตามอีเปรม แนะได้

และแล้ว ความร้าวลึก ระหว่าง นายกของประชาชนกับคนอย่าง เริ่ม เหี้ยก็เริ่ม


อีเปรม โกรธจัด ยิ้มๆ แบบเคืองในใจ แต่สายตาแสดงออก จากนั้นทั้งสองคนก็ไม่เจอกันอีก มาเจอกันอีกที ตอนงานศพพ่อทรราช พลเอกอนุพงษ์ ตาย ทักษิณยกมือไหว้ อีเปรมก็ทักว่า สบายดีหรือ ดร.ทักษิณบอกสบายดี ป๋าล่ะครับ อีเปรมสวมวิณณานพญาโศก และบอกว่า คนแก่จะเอาสบายยังไงได้ ก็แค่ครั้งสุดท้ายที่พูดในที่สาธารณะ แต่มีการเจรจาลับกันอีกหลายหน ตอนแดงประท้วงแล้วถูกฆ่ากลางกรุงในปี 52 – 53

6 อีเปรมอยู่เบื้องหลังการรัฐประหารชัดเจน จากเอกสารของวิกีลิกส์ก็บอกชัด พลเอกสนธิ บัง เคยสารภาพว่า อีเปรมพาเข้าเฝ้าเอง ไม่ใช่เขาขอเข้าเฝ้า ซึ่งหากพลเอกบังพูดความจริง การกระทำของอีเปรมคือ การไม่ผิดคำสาบานที่ปฎิญาณตนว่าจะพิทักษ์รักษารัฐธรรมนูญ แต่นี่เขากลับทำตรงข้ามคือ ฉีก รธน เสียเอง พอรัฐประหารเสร็จ สองวัน สนธิ นำคณะทหารมาคารวะอีเปรม อีเปรมสวมวิญญาน ฮองเฮา ตรวจแถวทหารชั่วเหล่านั้นด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม และด่า ดร.ทักษิณโดนยกคำพูดกระทบทำนองว่า คนโกง คนไม่ดี พระสยามเทวาธิราชลงโทษ


อีเปรมในบท ฮองเฮา ทำเสื่อมเสียพระเกียรติเพราะองคมนตรีต้องไม่ยุ่งการเมือง ดูรัฐธรรมนูญ มาตรา 14 วรรคท้าย องคมนตรีต้องไม่ฝักใฝ่พรรคการเมือง แต่นี่อีเปรมเขาเสือก และโดดมาเล่นการเมืองเต็มตัว อาทิ คนไทยโชคดีที่ได้คุณอภิสิทธิเป็นนายกฯ จากการตั้งกันโดยทหาร และเป็นฆาตกร 99 ศพ ในเวลาต่อมา หรือการเตือนจิ๋วว่า สมัครพรรคเพื่อไทยระวังจะกลายเป็นคนทรยศบ้านเมืองหรือไม่จงรักภักดี ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อว่า คนเป็นระดับประธานองคมนตรีสำรอก แสดงความอิจฉาออกมาได้แบบหมาๆ ได้ถึงเพียงนี้


7 อีเปรมชอบหลักการ divide and rule แบบที่เขาครองตำแหน่งนายกแปดปี โดยการกดขี่ ประชาชนใต้ปกครอง ต้องการให้พรรคการเมืองอ่อนแอ มีพรรคเล็กๆ มากพรรค แต่ดร.ทักษิณสู้ตาม รธน 40 ที่ต้องการเห็นพรรคการเมืองเข้มแข็งสู้กันที่อุดมการณ์ของพรรคใหญ่ เขาต้องการให้มีการรวมศูนย์อำนาจภายใต้การจัดการแบบ CEO ของภาคเอกชน วิธีคิดของสองคนนี้จึงไปคนละขอบฟ้า

ที่สุด เมื่อมีโอกาส แก้ รธน เขาต้องการให้พรรคการเมืองพลังประชาชนถูกยุบ กระจายไปหลายพรรค แต่อีเปรมทำไม่สำเร็จ เพราะเพื่อไทยกลับได้เสียงมากกว่าสมัยพลังประชาชนคือ 265 ในการเลือกตั้ง กค 54 เพิ่มจาก 233 เสียงในปี 50 ทำให้อีเปรมผิดหวังรุนแรง กับการบนบานสารการ ในครั้งนี้

สถานะปัจจุบัน
จริงๆ อีเปรมรู้แล้วว่า เอา ดร.ทักษิณไม่ลง และดูเหมือนว่า กาลเวลาที่ผ่านมา จะทำให้ ดร. ทักษิญ แข็งแรงขึ้นเป็นเงาตามตัว ดร. ทักษิญเขาพร้อมจะประนีประนอมในระดับหนึ่ง


แม้จะมีข่าวการต่อรอง ให้ ดร.ทักษิณกลับ แต่เงินกว่า 47000ล้านบาทไม่คืนให้ ด้วยความเสียดายเงินของคนอื่น


อีเฒ่าสารพัดพิษแห่งการเมืองไทย ตอนนี้ทำอะไรมากนักไม่ได้เพราะหลายฝ่ายไม่ยอม จะตาย วันตายพรุ้ง แต่ก็รอจังหวะเอาคืน นส.ยิ่งรักและ ดร.ทักษิณ

เพียงแต่ว่า ยิ่งสู้ ยิ่งถลำลึก พร้อมความเสื่อมของสถาบัน ที่ถูกอีเปรมเอามาย้ำยี แบบชนิดเสียหมา ตั้งแต่ปี 2553 ด้วยกระสุนพระราชทาน กว่า 2 แสนนัด


แม้มองภาพรวม การประเมินของฝั่ง กปปส และเหล่าทรราช คสช. จะมีกำลัง เหนือ กว่าฝ่ายประชาธิปไตย หรือประชาชนส่วยใหญ่ของประเทศอยู่ หลายขุม


หากมองกองทัพ การเป็นเอกภาพ สั่งได้ แม้ทหารเหล่านั้น จะกินเงินเดือนจากภาษีของ ประชาชน แต่รับใช้ ทรราช คสช. อย่างเตรียบรูปแบบ ก็ตาม


หรือแม้แต่ ผู้พิทักษ์ สินติราษฎร์ ก็กลับกลายเป็น ผู้พิทักษ์ทรราช คสช. อย่างเต็มรูปแบบ เช่นกัน

ตอนนี้คำสั่งตามกฎหมายของ ทรราช คสช.อยู่ในมือ มุ่งทำลาย นส. ยิ่งรักษณ์ อย่างน่าเกียด ด้วยข้อหา จำนำข้าว

แต่เอาเข้าจริง อีเปรม ผู้อยู่เบื้องหลัง ทรราช คสช. และศาลตุลาการ กลับพบกับ ประชาชนเป็นพันเป็นหมื่นทุกครั้งที่ นส. ยิ่งรักษณ์ ขึ้นศาล

นั้นแปลว่าอะไร แปลว่า อีเปรมและ ทรราช คสช. ไม่ใช่คู่ปรับของ ดร. ทักษิญ ไม่ว่าจะมองในมุมใหน


เพราะ


คู่ปรับที่คุณเอาชนะไม่ได้ ไม่ใช่ทักษิณ แต่เป็นประชาชน เจ้าของประเทศ ที่เทิดทูนระบอบประชาธิปไตย ต่ะหากเล่า เรื่องจึงตาลปัตรจนทุกวันนี้ !!!

——————-

ขอขอบคุณ ต้นฉบับที่คัดลอกมา

‪#‎เสรีชน‬

Thursday, March 10, 2016

พรรคเพื่อไทยจะเอา”น้ำยา”อะไรมาสู้ คนเสื้อแดงจะเอา”น้ำยา”อะไรมาต้าน?????


Soomchart Jonkpasoompan12:45am Mar 10 
ระยะเวลา 6 เดือนของการปราบปรามอำนาจมืดและยาเสพติดของ "กลุ่มผู้มีอิทธิพล"ทั่วประเทศ ทรง "ความหมาย"
เพราะหากนับจากเดือนมกราคม กุมภาพันธ์ มีนาคม เมษายน พฤษภาคม มิถุนายน เดือนกรกฎาคมก็เป็นเดือนที่ 6
คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ "กกต." ได้กำหนดแล้วว่าวันที่ 31 กรกฎาคม คือวันลง"ประชามติ"
โป๊ะเช๊ะ
แม้ว่าจะเป็นมาตรการในทาง "การทหาร" แต่ก็เป็นมาตรการทางทหารอันมีเป้าหมายสูงสุดในทาง "การเมือง"
เท่ากับเป็น "การรุก" อย่างมีนัยสำคัญ
เป็นการรุกเหมือนที่กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย(กกล.รส.)เคยแสดงบทบาทใน "ขอนแก่นโมเดล"
เท่ากับรุกไปยัง "เสื้อแดง"
เพียงแต่ตอนนี้กรอบอยู่ที่ การจัดการในเรื่อง "อำนาจมืด" การจัดการในเรื่องอันเกี่ยวกับ "ยาเสพติด"
เป้าหมายคือ "ผู้มีอิทธิพล"
กระนั้น ภายในกลุ่ม"ผู้มีอิทธิพล"นั้นย่อมมีสายสัมพันธ์แนบแน่นอยู่กับกระบวนการในทาง "การเมือง"
ไม่ว่าการเมืองระดับ"ท้องถิ่น" ไม่ว่าการเมืองระดับ"ชาติ"
ไม่ว่าการเคลื่อนไหวในระดับท้องที่ ชุมชน ไม่ว่าการเคลื่อนไหวในระดับจากท้องที่ ชุมชนเข้าไปสัมพันธ์ยัง "ส่วนกลาง"
เป็นการ "จัดแถว" ล็อค "ตัวคน"
เท่ากับเป็นการรุก สร้างความพร้อมก่อนจะมีการทำ "ประชามติ" ในวันที่ 31 กรกฎาคม
เป็นการรุกขณะที่"ฝ่ายการเมือง"ไม่มีโอกาส
เป็นการรุกขณะที่ทุกพรรคการเมืองต้องยุติบทบาทเพราะคำสั่งหัวหน้าคสช.ไม่ให้มีการเคลื่อนไหว ไม่ให้มีการประชุม
ไม่ต้องพูดถึง "พรรคเพื่อไทย" ไม่ต้องพูดถึง"นปช."
มอง "ภาพกว้าง" ในทางการเมือง จึงเป็นภาพทางด้าน "คสช." จึงเป็นภาพทางด้าน"ทหาร"อย่างเป็นด้านหลัก
เห็นภาพ "กอ.รมน."แทรกซึมไปในทุก"พื้นที่"
เห็นภาพ "รด.จิตอาสา" ร่วมไปกับขบวนปฏิบัติการจิตวิทยา(ปจว.)ของกองกำลังรักษาความสงบ(กกล.รส.)
เห็นภาพ "กรธ."อธิบายความล้ำเลิศของ "รัฐธรรมนูญ"
เห็นภาพ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ เห็นภาพ นายชาติชาย ณ เชียงใหม่ เห็นภาพโฆษกกรธ.ทางสถานีโทรทัศน์
ไม่เพียง "ช่วงเช้า" หากแม้กระทั่ง"ช่วงเย็น"
แม้จะถ่ายทอดผ่านสิ่งที่เรียกว่า "ฟรีทีวี" แต่ก็ดำเนินไปภายใต้เครื่องหมาย"โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ"
เดินหน้าด้วยความคึกคัก สนุกสนาน
ขณะเดียวกัน ภาพทางด้านพรรคการเมือง ภาพทางด้านนักการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พรรคเพื่อไทย หรือแม้กระทั่งคนเสื้อแดง
กลับไม่ปรากฏ กลับไม่มีใครได้ยินเสียง
ภายในภาพที่ไม่ปรากฏ ภายในเสียงที่มิได้มีการเผยแพร่ มองด้าน 1 เหมือนพรรคการเมืองและนักการเมืองเหล่านี้ไม่มีการเคลื่อนไหว
เมื่อไม่มีการเคลื่อนไหวโอกาสของ"ประชามติ" จึงพอมองออก
มองออกว่า ความมั่นใจอันมาจากคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญที่ว่าต้องผ่าน"ประชามติ"อย่างแน่นอน
เป็นไปได้สูง เป็นไปได้อย่าง"ฉลุย"
พรรคเพื่อไทยจะเอา"น้ำยา"อะไรมาสู้ คนเสื้อแดงจะเอา"น้ำยา"อะไรมาต้าน


**********
ข้อความข้างบนนี้ มีพี่น้องฝากมา แต่พวกเรา มดแดงล้มช้าง จงมั่นใจเถิด ทำงานของเราไป แล้วเราจะไม่ต้านพวกคนเลวเหล่านี้ แต่เราจะล้มทั้งระบอบ!!!!

พรรคเพื่อไทยจะเอา”น้ำยา”อะไรมาสู้ คนเสื้อแดงจะเอา”น้ำยา”อะไรมาต้าน?????


Soomchart Jonkpasoompan12:45am Mar 10 
ระยะเวลา 6 เดือนของการปราบปรามอำนาจมืดและยาเสพติดของ "กลุ่มผู้มีอิทธิพล"ทั่วประเทศ ทรง "ความหมาย"
เพราะหากนับจากเดือนมกราคม กุมภาพันธ์ มีนาคม เมษายน พฤษภาคม มิถุนายน เดือนกรกฎาคมก็เป็นเดือนที่ 6
คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ "กกต." ได้กำหนดแล้วว่าวันที่ 31 กรกฎาคม คือวันลง"ประชามติ"
โป๊ะเช๊ะ
แม้ว่าจะเป็นมาตรการในทาง "การทหาร" แต่ก็เป็นมาตรการทางทหารอันมีเป้าหมายสูงสุดในทาง "การเมือง"
เท่ากับเป็น "การรุก" อย่างมีนัยสำคัญ
เป็นการรุกเหมือนที่กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย(กกล.รส.)เคยแสดงบทบาทใน "ขอนแก่นโมเดล"
เท่ากับรุกไปยัง "เสื้อแดง"
เพียงแต่ตอนนี้กรอบอยู่ที่ การจัดการในเรื่อง "อำนาจมืด" การจัดการในเรื่องอันเกี่ยวกับ "ยาเสพติด"
เป้าหมายคือ "ผู้มีอิทธิพล"
กระนั้น ภายในกลุ่ม"ผู้มีอิทธิพล"นั้นย่อมมีสายสัมพันธ์แนบแน่นอยู่กับกระบวนการในทาง "การเมือง"
ไม่ว่าการเมืองระดับ"ท้องถิ่น" ไม่ว่าการเมืองระดับ"ชาติ"
ไม่ว่าการเคลื่อนไหวในระดับท้องที่ ชุมชน ไม่ว่าการเคลื่อนไหวในระดับจากท้องที่ ชุมชนเข้าไปสัมพันธ์ยัง "ส่วนกลาง"
เป็นการ "จัดแถว" ล็อค "ตัวคน"
เท่ากับเป็นการรุก สร้างความพร้อมก่อนจะมีการทำ "ประชามติ" ในวันที่ 31 กรกฎาคม
เป็นการรุกขณะที่"ฝ่ายการเมือง"ไม่มีโอกาส
เป็นการรุกขณะที่ทุกพรรคการเมืองต้องยุติบทบาทเพราะคำสั่งหัวหน้าคสช.ไม่ให้มีการเคลื่อนไหว ไม่ให้มีการประชุม
ไม่ต้องพูดถึง "พรรคเพื่อไทย" ไม่ต้องพูดถึง"นปช."
มอง "ภาพกว้าง" ในทางการเมือง จึงเป็นภาพทางด้าน "คสช." จึงเป็นภาพทางด้าน"ทหาร"อย่างเป็นด้านหลัก
เห็นภาพ "กอ.รมน."แทรกซึมไปในทุก"พื้นที่"
เห็นภาพ "รด.จิตอาสา" ร่วมไปกับขบวนปฏิบัติการจิตวิทยา(ปจว.)ของกองกำลังรักษาความสงบ(กกล.รส.)
เห็นภาพ "กรธ."อธิบายความล้ำเลิศของ "รัฐธรรมนูญ"
เห็นภาพ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ เห็นภาพ นายชาติชาย ณ เชียงใหม่ เห็นภาพโฆษกกรธ.ทางสถานีโทรทัศน์
ไม่เพียง "ช่วงเช้า" หากแม้กระทั่ง"ช่วงเย็น"
แม้จะถ่ายทอดผ่านสิ่งที่เรียกว่า "ฟรีทีวี" แต่ก็ดำเนินไปภายใต้เครื่องหมาย"โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ"
เดินหน้าด้วยความคึกคัก สนุกสนาน
ขณะเดียวกัน ภาพทางด้านพรรคการเมือง ภาพทางด้านนักการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พรรคเพื่อไทย หรือแม้กระทั่งคนเสื้อแดง
กลับไม่ปรากฏ กลับไม่มีใครได้ยินเสียง
ภายในภาพที่ไม่ปรากฏ ภายในเสียงที่มิได้มีการเผยแพร่ มองด้าน 1 เหมือนพรรคการเมืองและนักการเมืองเหล่านี้ไม่มีการเคลื่อนไหว
เมื่อไม่มีการเคลื่อนไหวโอกาสของ"ประชามติ" จึงพอมองออก
มองออกว่า ความมั่นใจอันมาจากคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญที่ว่าต้องผ่าน"ประชามติ"อย่างแน่นอน
เป็นไปได้สูง เป็นไปได้อย่าง"ฉลุย"
พรรคเพื่อไทยจะเอา"น้ำยา"อะไรมาสู้ คนเสื้อแดงจะเอา"น้ำยา"อะไรมาต้าน


**********
ข้อความข้างบนนี้ มีพี่น้องฝากมา แต่พวกเรา มดแดงล้มช้าง จงมั่นใจเถิด ทำงานของเราไป แล้วเราจะไม่ต้านพวกคนเลวเหล่านี้ แต่เราจะล้มทั้งระบอบ!!!!

รู้ไหม เขาแอบขุดเจาะเอาน้ำมันและก๊าซบนแผ่นดินไปขาย นานและมากเท่าไหร่แล้ว???

ผลการดำเนินงานที่คนไทยไม่เคยสนใจอ่านทั้งที่มีข้อมูลมากมายที่น่าสนใจเกี่ยวกับการขุดเจาะและสำรวจน้ำมันในประเทศไทย ที่มีส่วนต่างผลประโยชน์มากมายนับเวลาตั้งแต่ 2505 ถึงวันนี้ 2559 
ต่อสัมปทานทุก 25 ปี 
เพิ่งต่อสัมปทานในปี 2555ถึง2575 

=============================
ประวัติการดำเนินงาน
กว่าห้าทศวรรษของการดำเนินงานในประเทศไทย
พ.ศ. 2558 ฉลองครบรอบ 30 ปี แหล่งก๊าซสตูล และแหล่งก๊าซและน้ำมันปลาทอง
พ.ศ. 2558 ผลิตน้ำมันดิบครบ 400 ล้านบาร์เรล
พ.ศ. 2557 แหล่งน้ำมันและก๊าซปลาทอง แหล่งก๊าซไพลิน และแหล่งก๊าซฟูนาน ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น ประเภทการบริหารความปลอดภัย
พ.ศ. 2557 ผลิตก๊าซครบ 12 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต
พ.ศ. 2556 ผลิตก๊าซครบ 11 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต
พ.ศ. 2556 เริ่มนำเรือกักเก็บปิโตรเลียมเอราวัณ 2 มาใช้ปฏิบัติงานในอ่าวไทย
พ.ศ. 2555 ฉลองครบรอบ 20 ปี แหล่งก๊าซฟูนาน
พ.ศ. 2555 ฉลองครบรอบ 10 ปี แหล่งก๊าซไพลินเหนือ
พ.ศ. 2555 ฉลองครบรอบ 50 ปี ของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย
พ.ศ. 2554 ผลิตก๊าซครบ 10 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต
พ.ศ. 2554 ผลิตน้ำมันครบ 300 ล้านบาร์เรล
พ.ศ. 2554 ผลิตก๊าซธรรมชาติจากพื้นที่ผลิตปลาทอง ระยะที่ 2 เป็นครั้งแรก
พ.ศ. 2554 ฉลองครบรอบ 30 ปี เอราวัณ แหล่งก๊าซธรรมชาติแห่งแรกในอ่าวไทย
พ.ศ. 2554 ฉลองการผลิตน้ำมันครบ 200 ล้านบาร์เรลจากพื้นที่ผลิต B8/32
พ.ศ. 2554 เปิดศูนย์ขนส่งทางอากาศแห่งใหม่ ที่ จ. นครศรีธรรมราช
พ.ศ. 2553 ผลิตคอนเดนเสทครบ 300 ล้านบาร์เรล
พ.ศ. 2553 ครบรอบ 30 ปีศูนย์เศรษฐพัฒน์ จ. สงขลา
พ.ศ. 2552 ผลิตก๊าซครบ 9 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต
พ.ศ. 2551 ผลิตก๊าซครบ 8 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต
พ.ศ. 2550   ได้รับสัมปทานแปลงใหม่อีก 4 แปลงได้แก่ G4/50, G6/50, G7/50 และ G8/50 โดยเชฟรอนเป็นผู้ดำเนินการในสามแปลงแรก
พ.ศ. 2550   ลงนามในสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติสำหรับแปลงสัมปทานหมายเลข 10-13 ในอ่าวไทย กับบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) โดยเชฟรอนจะจัดส่งก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้นที่อัตรา 500 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ.2555 เป็นต้นไป
พ.ศ. 2550   ได้รับการต่ออายุสัมปทานการผลิตในอ่าวไทยแปลง 10-13 อีก 10 ปี (พ.ศ. 2555 - พ.ศ. 2565)
พ.ศ. 2550   ผลิตก๊าซธรรมชาติส่งเข้าท่อก๊าซเส้นที่ 3 ของ ปตท. เฉลี่ยวันละ 240 ล้านลูกบาศก์ฟุต
พ.ศ. 2549 ผลิตก๊าซครบ 7 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต
พ.ศ. 2549 ได้รับสัมปทานในอ่าวไทยเพิ่มเติมอีก 2 แปลงได้แก่ จี 4/48 (ครอบคลุมพื้นที่ 504 ตารางกิโลเมตร) และ จี 9/48 (ครอบคลุมพื้นที่ 252 ตารางกิโลเมตร)
พ.ศ. 2549 สร้างสถิติยอดผลิตน้ำมันบรรลุ 70,000 บาร์เรลต่อวันบนพื้นที่ผลิตบี 8/32
พ.ศ. 2548 ควบรวมกิจการระหว่างยูโนแคลคอร์ปอเรชั่นกับเชฟรอนคอร์ปอเรชั่น และเปลี่ยนชื่อจากบริษัทยูโนแคลไทยแลนด์ จำกัด เป็น บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด
พ.ศ. 2548 ผลิตก๊าซครบ 6 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต
พ.ศ. 2547 ประสบความสำเร็จในการขุดเจาะหลุมสำรวจ 4 หลุมที่แปลง A ประเทศกัมพูชา
พ.ศ. 2547 ประสบความสำเร็จในการขุดเจาะหลุม 1 หลุมที่ลันตา 1 และ ลันตา 2 ในแปลง จี 4/43
พ.ศ. 2547 ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมดีเด่นด้านบริหารความปลอดภัยจาก ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี
พ.ศ. 2546 ผลิตก๊าซครบ 5 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต
พ.ศ. 2546 ผลิตน้ำมันดิบครบ 5 ล้านบาร์เรล
พ.ศ. 2546 เซ็นสัญญาแปลง จี 4/43 และ แปลง 9A ในอ่าวไทย
พ.ศ. 2545 สร้างสถิติยอดผลิตน้ำมันบรรลุ 60,000 บาร์เรลต่อวันบนพื้นที่ผลิตบี 8/32
พ.ศ. 2545 ลงนามในสัญญาแก้ไขเพิ่มเติมสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติแหล่งเอราวัณและแหล่งยูโนแคล 2/3 ลดราคาก๊าซธรรมชาติรวมมูลค่า 10,294 ล้านบาทภายในระยะเวลา 10 ปี
พ.ศ. 2545 ฉลองครบรอบ 40 ปีของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย
พ.ศ. 2545 ได้รับสัมปทานการสำรวจในแปลง A ประเทศกัมพูชา
พ.ศ. 2545 แผนกวิเคราะห์และควบคุมผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ได้รับรางวัลประกาศนียบัตรรับรองคุณภาพ ISO 9001
พ.ศ. 2544 ขุดเจาะหลุมน้ำมันในแนวนอน (horizontal monobore oil well) หลุมแรกในอ่าวไทย
พ.ศ. 2544 สร้างสถิติผู้นำการผลิตน้ำมันในอ่าวไทยบรรลุ 38,000 บาร์เรลต่อวัน
พ.ศ. 2544 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดอย่างเป็นทางการของแท่นกระบวนการผลิตน้ำมันแหล่งปลาทอง นับเป็นแท่นกระบวนการผลิตปิโตรเลียมแท่นแรกที่สร้างและประกอบในประเทศไทย
พ.ศ. 2543 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดแหล่งก๊าซไพลินในอ่าวไทย
พ.ศ. 2543 ผลิตก๊าซครบ 4 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต
พ.ศ. 2543 ค้นพบแหล่งน้ำมันชบา ได้รับสัมปทานการสำรวจแหล่งจามจุรีเหนือ
พ.ศ. 2542 ประสบผลสำเร็จเพิ่มผลผลิตด้วยเทคโนโลยีใหม่ในการขุดเจาะหลุมก๊าซตามแนวนอนเป็นหลุมแรกที่หลุม "ตราด A-07" ณ ความลึก 1,990 เมตร (6,530 ฟุต)
พ.ศ. 2542 ห้องปฏิบัติการตรวจสอบสงขลาของยูโนแคลได้รับใบรับรองมาตรฐาน มอก. 1300 (ISO/IEC Guide 25) จากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม
พ.ศ. 2542 ค้นพบแหล่งน้ำมันดิบปริมาณเชิงพาณิชย์ในอ่าวไทย ในแปลงสำรวจที่ 10A และ 11A
พ.ศ. 2542 ขุดเจาะหลุมก๊าซในแนวนอนหลุมแรกในอ่าวไทย
พ.ศ. 2542 เริ่มการผลิตปิโตรเลียมจากแหล่งเบญจมาศในวันที่ 1 กรกฎาคม โดยเชฟรอนเป็นผู้ผลิตในวันที่ 1 ตุลาคม
พ.ศ. 2542 เชฟรอนควบรวมกิจการกับ Rutherford Moran Oil Corp. ในวันที่ 17 มีนาคม
พ.ศ. 2541 ฉลองครบรอบ 36 ปีของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย
พ.ศ. 2541 เซ็นสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติเหลวกับ ปตท.
พ.ศ. 2540 ได้รับรางวัลประกาศนียบัตร ISO 14001 ในระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม
พ.ศ. 2540 ผลิตก๊าซธรรมชาติครบ 3 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต
พ.ศ. 2540 ติดตั้งแท่นผลิตก๊าซ 3 ขาแท่นแรกที่ก่อสร้างในประเทศไทย
พ.ศ. 2540 เริ่มการผลิต ณ แหล่งทานตะวันในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ และค้นพบแหล่งมะลิวัลย์
พ.ศ. 2539 ลงนามสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติแหล่งไพลินกับ ปตท.
พ.ศ. 2538 ค้นพบแหล่งเบญจมาศ และเริ่มต้นพัฒนาแหล่งทานตะวัน
พ.ศ. 2538 ขยายศูนย์เศรษฐพัฒน์ให้เป็นศูนย์ฝึกอบรมเทคโนโลยีปิโตรเลียมที่ทันสมัยและใหญ่ที่สุดในเอเชียอาคเนย์ โดยการเพิ่มหน่วยฝึกอบรมปฏิบัติการฉุกเฉินและสถานีความปลอดภัยในน้ำ
พ.ศ. 2537 ได้รับรางวัลประกาศนียบัตรรับรองระดับสามขั้นสูง ด้านการจัดการสุขภาพและความปลอดภัย จากสถาบัน DNV ประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้ดำเนินการรับรองความปลอดภัยตามระบบ International Safety Rating System (ISRS)
พ.ศ. 2537 ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมดีเด่นด้านการบริหารความปลอดภัยของกระทรวงอุตสาหกรรม มอบให้โดย ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี
พ.ศ. 2537 ผลิตก๊าซครบ 2 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต
พ.ศ. 2535 ค้นพบแหล่งทานตะวันในอ่าวไทย
พ.ศ. 2534 ได้รับสัมปทานการสำรวจปิโตรเลียมแปลง B8/32
พ.ศ. 2533 ผลิตก๊าซครบ 1 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต
พ.ศ. 2533 ติดตั้งสถานีเรดาร์ตรวจอากาศนอกฝั่งที่แหล่งก๊าซสตูล
พ.ศ. 2531 ลงนามในสัญญาซื้อขายก๊าซฉบับที่ 3 กับ ปตท.
พ.ศ. 2525 ลงนามในสัญญาซื้อขายก๊าซฉบับที่ 2 กับ ปตท.
พ.ศ. 2524 เริ่มผลิตก๊าซส่งขึ้นฝั่งที่โรงแยกก๊าซของ ปตท. จังหวัดระยอง
พ.ศ. 2523 ก่อตั้งศูนย์เศรษฐพัฒน์ เพื่อเป็นศูนย์ฝึกอบรมเทคโนโลยีปิโตรเลียมสำหรับพนักงานชาวไทย
พ.ศ. 2521 ลงนามในสัญญาซื้อขายก๊าซฉบับแรกกับ ปตท.
พ.ศ. 2516 ประสบความสำเร็จค้นพบแหล่งก๊าซธรรมชาติปริมาณเชิงพาณิชย์แหล่งแรกของประเทศ ในแปลงหมายเลข 12 ซึ่งภายหลังตั้งชื่อว่าแหล่ง "เอราวัณ"
พ.ศ. 2511 ได้รับสัมปทานสำรวจปิโตรเลียมแปลงหมายเลข 12 และ 13 ในอ่าวไทย
พ.ศ. 2505 บริษัทยูโนแคลไทยแลนด์ จำกัด เป็นบริษัทแรกที่ได้รับอนุมัติสัมปทานสำรวจปิโตรเลียมจากรัฐบาลไทย บริเวณที่ราบสูงโคราช

รู้ไหม เขาแอบขุดเจาะเอาน้ำมันและก๊าซบนแผ่นดินไปขาย นานและมากเท่าไหร่แล้ว???

ผลการดำเนินงานที่คนไทยไม่เคยสนใจอ่านทั้งที่มีข้อมูลมากมายที่น่าสนใจเกี่ยวกับการขุดเจาะและสำรวจน้ำมันในประเทศไทย ที่มีส่วนต่างผลประโยชน์มากมายนับเวลาตั้งแต่ 2505 ถึงวันนี้ 2559 
ต่อสัมปทานทุก 25 ปี 
เพิ่งต่อสัมปทานในปี 2555ถึง2575 

=============================
ประวัติการดำเนินงาน
กว่าห้าทศวรรษของการดำเนินงานในประเทศไทย
พ.ศ. 2558 ฉลองครบรอบ 30 ปี แหล่งก๊าซสตูล และแหล่งก๊าซและน้ำมันปลาทอง
พ.ศ. 2558 ผลิตน้ำมันดิบครบ 400 ล้านบาร์เรล
พ.ศ. 2557 แหล่งน้ำมันและก๊าซปลาทอง แหล่งก๊าซไพลิน และแหล่งก๊าซฟูนาน ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น ประเภทการบริหารความปลอดภัย
พ.ศ. 2557 ผลิตก๊าซครบ 12 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต
พ.ศ. 2556 ผลิตก๊าซครบ 11 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต
พ.ศ. 2556 เริ่มนำเรือกักเก็บปิโตรเลียมเอราวัณ 2 มาใช้ปฏิบัติงานในอ่าวไทย
พ.ศ. 2555 ฉลองครบรอบ 20 ปี แหล่งก๊าซฟูนาน
พ.ศ. 2555 ฉลองครบรอบ 10 ปี แหล่งก๊าซไพลินเหนือ
พ.ศ. 2555 ฉลองครบรอบ 50 ปี ของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย
พ.ศ. 2554 ผลิตก๊าซครบ 10 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต
พ.ศ. 2554 ผลิตน้ำมันครบ 300 ล้านบาร์เรล
พ.ศ. 2554 ผลิตก๊าซธรรมชาติจากพื้นที่ผลิตปลาทอง ระยะที่ 2 เป็นครั้งแรก
พ.ศ. 2554 ฉลองครบรอบ 30 ปี เอราวัณ แหล่งก๊าซธรรมชาติแห่งแรกในอ่าวไทย
พ.ศ. 2554 ฉลองการผลิตน้ำมันครบ 200 ล้านบาร์เรลจากพื้นที่ผลิต B8/32
พ.ศ. 2554 เปิดศูนย์ขนส่งทางอากาศแห่งใหม่ ที่ จ. นครศรีธรรมราช
พ.ศ. 2553 ผลิตคอนเดนเสทครบ 300 ล้านบาร์เรล
พ.ศ. 2553 ครบรอบ 30 ปีศูนย์เศรษฐพัฒน์ จ. สงขลา
พ.ศ. 2552 ผลิตก๊าซครบ 9 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต
พ.ศ. 2551 ผลิตก๊าซครบ 8 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต
พ.ศ. 2550   ได้รับสัมปทานแปลงใหม่อีก 4 แปลงได้แก่ G4/50, G6/50, G7/50 และ G8/50 โดยเชฟรอนเป็นผู้ดำเนินการในสามแปลงแรก
พ.ศ. 2550   ลงนามในสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติสำหรับแปลงสัมปทานหมายเลข 10-13 ในอ่าวไทย กับบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) โดยเชฟรอนจะจัดส่งก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้นที่อัตรา 500 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ.2555 เป็นต้นไป
พ.ศ. 2550   ได้รับการต่ออายุสัมปทานการผลิตในอ่าวไทยแปลง 10-13 อีก 10 ปี (พ.ศ. 2555 - พ.ศ. 2565)
พ.ศ. 2550   ผลิตก๊าซธรรมชาติส่งเข้าท่อก๊าซเส้นที่ 3 ของ ปตท. เฉลี่ยวันละ 240 ล้านลูกบาศก์ฟุต
พ.ศ. 2549 ผลิตก๊าซครบ 7 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต
พ.ศ. 2549 ได้รับสัมปทานในอ่าวไทยเพิ่มเติมอีก 2 แปลงได้แก่ จี 4/48 (ครอบคลุมพื้นที่ 504 ตารางกิโลเมตร) และ จี 9/48 (ครอบคลุมพื้นที่ 252 ตารางกิโลเมตร)
พ.ศ. 2549 สร้างสถิติยอดผลิตน้ำมันบรรลุ 70,000 บาร์เรลต่อวันบนพื้นที่ผลิตบี 8/32
พ.ศ. 2548 ควบรวมกิจการระหว่างยูโนแคลคอร์ปอเรชั่นกับเชฟรอนคอร์ปอเรชั่น และเปลี่ยนชื่อจากบริษัทยูโนแคลไทยแลนด์ จำกัด เป็น บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด
พ.ศ. 2548 ผลิตก๊าซครบ 6 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต
พ.ศ. 2547 ประสบความสำเร็จในการขุดเจาะหลุมสำรวจ 4 หลุมที่แปลง A ประเทศกัมพูชา
พ.ศ. 2547 ประสบความสำเร็จในการขุดเจาะหลุม 1 หลุมที่ลันตา 1 และ ลันตา 2 ในแปลง จี 4/43
พ.ศ. 2547 ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมดีเด่นด้านบริหารความปลอดภัยจาก ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี
พ.ศ. 2546 ผลิตก๊าซครบ 5 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต
พ.ศ. 2546 ผลิตน้ำมันดิบครบ 5 ล้านบาร์เรล
พ.ศ. 2546 เซ็นสัญญาแปลง จี 4/43 และ แปลง 9A ในอ่าวไทย
พ.ศ. 2545 สร้างสถิติยอดผลิตน้ำมันบรรลุ 60,000 บาร์เรลต่อวันบนพื้นที่ผลิตบี 8/32
พ.ศ. 2545 ลงนามในสัญญาแก้ไขเพิ่มเติมสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติแหล่งเอราวัณและแหล่งยูโนแคล 2/3 ลดราคาก๊าซธรรมชาติรวมมูลค่า 10,294 ล้านบาทภายในระยะเวลา 10 ปี
พ.ศ. 2545 ฉลองครบรอบ 40 ปีของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย
พ.ศ. 2545 ได้รับสัมปทานการสำรวจในแปลง A ประเทศกัมพูชา
พ.ศ. 2545 แผนกวิเคราะห์และควบคุมผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ได้รับรางวัลประกาศนียบัตรรับรองคุณภาพ ISO 9001
พ.ศ. 2544 ขุดเจาะหลุมน้ำมันในแนวนอน (horizontal monobore oil well) หลุมแรกในอ่าวไทย
พ.ศ. 2544 สร้างสถิติผู้นำการผลิตน้ำมันในอ่าวไทยบรรลุ 38,000 บาร์เรลต่อวัน
พ.ศ. 2544 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดอย่างเป็นทางการของแท่นกระบวนการผลิตน้ำมันแหล่งปลาทอง นับเป็นแท่นกระบวนการผลิตปิโตรเลียมแท่นแรกที่สร้างและประกอบในประเทศไทย
พ.ศ. 2543 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดแหล่งก๊าซไพลินในอ่าวไทย
พ.ศ. 2543 ผลิตก๊าซครบ 4 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต
พ.ศ. 2543 ค้นพบแหล่งน้ำมันชบา ได้รับสัมปทานการสำรวจแหล่งจามจุรีเหนือ
พ.ศ. 2542 ประสบผลสำเร็จเพิ่มผลผลิตด้วยเทคโนโลยีใหม่ในการขุดเจาะหลุมก๊าซตามแนวนอนเป็นหลุมแรกที่หลุม "ตราด A-07" ณ ความลึก 1,990 เมตร (6,530 ฟุต)
พ.ศ. 2542 ห้องปฏิบัติการตรวจสอบสงขลาของยูโนแคลได้รับใบรับรองมาตรฐาน มอก. 1300 (ISO/IEC Guide 25) จากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม
พ.ศ. 2542 ค้นพบแหล่งน้ำมันดิบปริมาณเชิงพาณิชย์ในอ่าวไทย ในแปลงสำรวจที่ 10A และ 11A
พ.ศ. 2542 ขุดเจาะหลุมก๊าซในแนวนอนหลุมแรกในอ่าวไทย
พ.ศ. 2542 เริ่มการผลิตปิโตรเลียมจากแหล่งเบญจมาศในวันที่ 1 กรกฎาคม โดยเชฟรอนเป็นผู้ผลิตในวันที่ 1 ตุลาคม
พ.ศ. 2542 เชฟรอนควบรวมกิจการกับ Rutherford Moran Oil Corp. ในวันที่ 17 มีนาคม
พ.ศ. 2541 ฉลองครบรอบ 36 ปีของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย
พ.ศ. 2541 เซ็นสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติเหลวกับ ปตท.
พ.ศ. 2540 ได้รับรางวัลประกาศนียบัตร ISO 14001 ในระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม
พ.ศ. 2540 ผลิตก๊าซธรรมชาติครบ 3 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต
พ.ศ. 2540 ติดตั้งแท่นผลิตก๊าซ 3 ขาแท่นแรกที่ก่อสร้างในประเทศไทย
พ.ศ. 2540 เริ่มการผลิต ณ แหล่งทานตะวันในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ และค้นพบแหล่งมะลิวัลย์
พ.ศ. 2539 ลงนามสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติแหล่งไพลินกับ ปตท.
พ.ศ. 2538 ค้นพบแหล่งเบญจมาศ และเริ่มต้นพัฒนาแหล่งทานตะวัน
พ.ศ. 2538 ขยายศูนย์เศรษฐพัฒน์ให้เป็นศูนย์ฝึกอบรมเทคโนโลยีปิโตรเลียมที่ทันสมัยและใหญ่ที่สุดในเอเชียอาคเนย์ โดยการเพิ่มหน่วยฝึกอบรมปฏิบัติการฉุกเฉินและสถานีความปลอดภัยในน้ำ
พ.ศ. 2537 ได้รับรางวัลประกาศนียบัตรรับรองระดับสามขั้นสูง ด้านการจัดการสุขภาพและความปลอดภัย จากสถาบัน DNV ประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้ดำเนินการรับรองความปลอดภัยตามระบบ International Safety Rating System (ISRS)
พ.ศ. 2537 ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมดีเด่นด้านการบริหารความปลอดภัยของกระทรวงอุตสาหกรรม มอบให้โดย ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี
พ.ศ. 2537 ผลิตก๊าซครบ 2 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต
พ.ศ. 2535 ค้นพบแหล่งทานตะวันในอ่าวไทย
พ.ศ. 2534 ได้รับสัมปทานการสำรวจปิโตรเลียมแปลง B8/32
พ.ศ. 2533 ผลิตก๊าซครบ 1 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต
พ.ศ. 2533 ติดตั้งสถานีเรดาร์ตรวจอากาศนอกฝั่งที่แหล่งก๊าซสตูล
พ.ศ. 2531 ลงนามในสัญญาซื้อขายก๊าซฉบับที่ 3 กับ ปตท.
พ.ศ. 2525 ลงนามในสัญญาซื้อขายก๊าซฉบับที่ 2 กับ ปตท.
พ.ศ. 2524 เริ่มผลิตก๊าซส่งขึ้นฝั่งที่โรงแยกก๊าซของ ปตท. จังหวัดระยอง
พ.ศ. 2523 ก่อตั้งศูนย์เศรษฐพัฒน์ เพื่อเป็นศูนย์ฝึกอบรมเทคโนโลยีปิโตรเลียมสำหรับพนักงานชาวไทย
พ.ศ. 2521 ลงนามในสัญญาซื้อขายก๊าซฉบับแรกกับ ปตท.
พ.ศ. 2516 ประสบความสำเร็จค้นพบแหล่งก๊าซธรรมชาติปริมาณเชิงพาณิชย์แหล่งแรกของประเทศ ในแปลงหมายเลข 12 ซึ่งภายหลังตั้งชื่อว่าแหล่ง "เอราวัณ"
พ.ศ. 2511 ได้รับสัมปทานสำรวจปิโตรเลียมแปลงหมายเลข 12 และ 13 ในอ่าวไทย
พ.ศ. 2505 บริษัทยูโนแคลไทยแลนด์ จำกัด เป็นบริษัทแรกที่ได้รับอนุมัติสัมปทานสำรวจปิโตรเลียมจากรัฐบาลไทย บริเวณที่ราบสูงโคราช

กษัตริย์ไทยไม่เคยยิ้ม ตอน 27 ภูมิพลเลี้ยวขวาตกขอบ เป็นมาเฟียกะลาแลนด์

กษัตริย์ไทยไม่เคยยิ้ม ตอน 27 ภูมิพลเลี้ยวขวาตกขอบ เป็นมาเฟียกะลาแลนด์
หรือ
----------------------
สนับสนุนแนวทางมดแดงล้มช้าง ของ คณะราษฎรเสรีไทย กับ ดร. เพียงดิน 
ส่งข้อมูลลับผ่านช่องทางที่ปลอดภัยทางลิ้งค์ต่อไปนี้
หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt

----------------------
สนับสนุนการเผยแพร่โดย ภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน และมหาวิทยาลัยประชาชน เพื่อสาธารณะประโยชน์ ในการสร้างจิตสำนึกทางประชาธิปไตย สันติวิธี และการเคารพหลักสิทธิมนุษยชน

กษัตริย์ไทยไม่เคยยิ้ม ตอน 27 ภูมิพลเลี้ยวขวาตกขอบ เป็นมาเฟียกะลาแลนด์

กษัตริย์ไทยไม่เคยยิ้ม ตอน 27 ภูมิพลเลี้ยวขวาตกขอบ เป็นมาเฟียกะลาแลนด์
หรือ
----------------------
สนับสนุนแนวทางมดแดงล้มช้าง ของ คณะราษฎรเสรีไทย กับ ดร. เพียงดิน 
ส่งข้อมูลลับผ่านช่องทางที่ปลอดภัยทางลิ้งค์ต่อไปนี้
หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt

----------------------
สนับสนุนการเผยแพร่โดย ภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน และมหาวิทยาลัยประชาชน เพื่อสาธารณะประโยชน์ ในการสร้างจิตสำนึกทางประชาธิปไตย สันติวิธี และการเคารพหลักสิทธิมนุษยชน

อเนก ซานฟราน 11 มี.ค. 2559 ตอน รายงานเบื้องหลัง เหตุเกิดที่ WPI นิวยอร์ค & ความคืบหน้า ดร.​ทักษิณ ชินวัตร

อเนก ซานฟราน 11 มี.. 2559 ตอน รายงานเบื้องหลัง เหตุเกิดที่ WPI นิวยอร์ค & ความคืบหน้า ดร.​ทักษิณ ชินวัตร

https://youtu.be/U1CAFyZeGkU

หรือ

https://youtu.be/Dq_m379h61Y

 

********

หากท่านคิดดี หวังดี และมั่นใจในความดีของท่าน ขอให้ปาวารณาตัว ร่วมเป็นมดแดงล้มช้าง ได้ที่

http://tinyurl.com/o2rzao8

หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt

เพื่อร่วมเป็นฐานของการปฏิวัติในอนาคตอันใกล้นี้

อเนก ซานฟราน 11 มี.ค. 2559 ตอน รายงานเบื้องหลัง เหตุเกิดที่ WPI นิวยอร์ค & ความคืบหน้า ดร.​ทักษิณ ชินวัตร

อเนก ซานฟราน 11 มี.. 2559 ตอน รายงานเบื้องหลัง เหตุเกิดที่ WPI นิวยอร์ค & ความคืบหน้า ดร.​ทักษิณ ชินวัตร

https://youtu.be/U1CAFyZeGkU

หรือ

https://youtu.be/Dq_m379h61Y

 

********

หากท่านคิดดี หวังดี และมั่นใจในความดีของท่าน ขอให้ปาวารณาตัว ร่วมเป็นมดแดงล้มช้าง ได้ที่

http://tinyurl.com/o2rzao8

หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt

เพื่อร่วมเป็นฐานของการปฏิวัติในอนาคตอันใกล้นี้

คำต่อคำ ดร. ทักษิณ ไปพูดอะไรไว้ ที่ World Policy Institute 9 มีนาคม 2559

คำต่อคำ ดร. ทักษิณ ไปพูดอะไรไว้ ที่ World Policy Institute 9 มีนาคม  2559

https://youtu.be/KiZDmm1qYXI

หรือ

https://youtu.be/inYSOocCFIk

หรือ

 

----------------------

สนับสนุนแนวทางมดแดงล้มช้าง ของ คณะราษฎรเสรีไทย กับ ดร. เพียงดิน

ส่งข้อมูลลับผ่านช่องทางที่ปลอดภัยทางลิ้งค์ต่อไปนี้

http://tinyurl.com/o2rzao8

หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt

 

----------------------

สนับสนุนการเผยแพร่โดย ภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน และมหาวิทยาลัยประชาชน เพื่อสาธารณะประโยชน์ ในการสร้างจิตสำนึกทางประชาธิปไตย สันติวิธี และการเคารพหลักสิทธิมนุษยชน

คำต่อคำ ดร. ทักษิณ ไปพูดอะไรไว้ ที่ World Policy Institute 9 มีนาคม 2559

คำต่อคำ ดร. ทักษิณ ไปพูดอะไรไว้ ที่ World Policy Institute 9 มีนาคม  2559

https://youtu.be/KiZDmm1qYXI

หรือ

https://youtu.be/inYSOocCFIk

หรือ

 

----------------------

สนับสนุนแนวทางมดแดงล้มช้าง ของ คณะราษฎรเสรีไทย กับ ดร. เพียงดิน

ส่งข้อมูลลับผ่านช่องทางที่ปลอดภัยทางลิ้งค์ต่อไปนี้

http://tinyurl.com/o2rzao8

หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt

 

----------------------

สนับสนุนการเผยแพร่โดย ภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน และมหาวิทยาลัยประชาชน เพื่อสาธารณะประโยชน์ ในการสร้างจิตสำนึกทางประชาธิปไตย สันติวิธี และการเคารพหลักสิทธิมนุษยชน

Wednesday, March 9, 2016

ดร. ทักษิณ​พูดอะไรไว้ ที่ World Policy Institute ที่นิวยอร์ค 9 มีนาคม 2559

กูต้องได้ 100 ล้าน จากทักษิณแน่ๆ
อดีตนายกรัฐมนตรี ดร.ทักษิณ ชินวัตร บรรยายที่นิวยอร์ก ชี้เศรษฐกิจโลกศตวรรษที่ 21 ต้องอาศัยการพึ่งพากันในเครือข่ายระดับนานาชาติ เตือนไทยจะตกขบวนเศรษฐกิจ หากรัฐธรรมนูญใหม่ทำให้รัฐบาลเลือกตั้งถูกแทรกแซง จนไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นด้านสเถียรภาพการเมืองได้

ดร.ทักษิณ อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวในช่วงไฮไลต์ของการบรรยาย ที่งาน "สนทนาเป็นการส่วนตัวกับทักษิณ ชินวัตร" (Thaksin Shinawatra in Private Discussion) ซึ่งจัดโดยสถาบันนโยบายโลก (World Policy Institute) ที่นครนิวยอร์ก ของสหรัฐฯ ว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับล่าสุดของไทยจะไม่สามารถวางโครงสร้างพื้นฐานในเชิงสถาบัน ที่จะส่งเสริมให้มีการลงทุน การผลิต และความร่วมมือระหว่างไทยกับต่างประเทศได้ เนื่องจากอาจเปิดช่องให้มีการแทรกแซงอำนาจฝ่ายบริหาร และ นิติบัญญัติ โดยอำนาจพิเศษของวุฒิสภาที่มาจากการแต่งตั้ง และฝ่ายตุลาการ

"เมื่อพิจารณาถึงเค้าโครงของร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ มันคงเป็นไปได้ยากที่จะได้มาซึ่งรัฐบาลที่ตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนและความท้าทายในศตวรษที่ 21 ในร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นี้ ได้กำหนดให้วุฒิสภาประกอบด้วยสมาชิกจำนวน 200 คนซึ่งจะถูกแต่งตั้งโดย "ผู้เชี่ยวชาญ" วุฒิสภาจะมีอำนาจมากยิ่งขึ้นในการยับยั้งการออกพระราชบัญญัติต่างๆ ศาลรัฐธรรมนูญจะมีขอบเขตอำนาจในการตัดสินคดีที่มากยิ่งขึ้น ศาลรัฐธรรมนูญจะมีอำนาจในการไต่สวนและวินิจฉัยคดี เมื่อมีบุคคลใดก็ตามได้ดำเนินการร้องเรียน โดยไม่ได้มีเงื่อนไขที่ว่ากรณีดังกล่าวต้องเป็นข้อพิพาทจริงที่องค์กรทางการเมืองหรือศาลอื่นได้ดำเนินการยื่นเรื่องแก่ศาลรัฐธรรมนูญ"

"หากพวกเราคิดว่าหลักการแบ่งแยกอำนาจอธิปไตย คือ รากฐานเพื่อการสร้างความเจริญเติบโตและเสถียรภาพของประเทศ หัวข้อสำคัญที่พวกเราต้องพิจารณาคงเป็นเรื่องที่ว่า อำนาจตุลาการจะล่วงล้ำอำนาจนิติบัญญัติและอำนาจบริหารหรือไม่ เพื่อให้รัฐบาลสามารถบริหารเศรษฐกิจของประเทศในยุคที่เศรษฐกิจโลกกำลังชะลอตัว ผมหวังว่าคงจะไม่มีการใช้อำนาจตุลาการที่เกินกว่าความจำเป็นอีกในอนาคต กรณีศึกษาในประเทศต่างๆ ได้แสดงให้พวกเราเห็นว่า การใช้อำนาจพิจารณาทบทวนโดยศาล โดยไม่ได้มีการถ่วงดุลและตรวจสอบ อาจกลายเป็นการใช้อำนาจอย่างไม่ เหมาะสมและเป็น "ยุทธวิธีเตะถ่วงงาน" จนสุดท้ายก่อให้เกิดอุปสรรคในการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจของประเทศ" -- อดีตนายกรัฐมนตรี ดร.ทักษิณ กล่าว

อดีตนายกรัฐมนตรีแสดงวิสัยทัศน์ด้านเศรษฐกิจโลกในศตวรรษที่ 21 ว่าควรให้ความสำคัญแก่การขยายความร่วมมือเพื่อสร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจร่วมกับประเทศคู่ค้าต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศในเอเชีย ควรส่งเสริมการสร้างเครือข่ายความมั่งคั่งให้แก่ประชาชนแบบระหว่างประเทศและระหว่างภูมิภาค เพราะความเปลี่ยนแปลงอันรวดเร็วทางด้านเทคโนโลยีการผลิตแบบอุตสาหกรรมไปสู่ "สภาวะปกติใหม่ของโลกปัจจุบัน" หรือ "New Normal" จากรูปแบบ "การผลิตสินค้าในประเทศเดียว" สู่ "ระบบเครือข่ายการออกแบบ การสรรหาปัจจัยการผลิต และการผลิตที่มีลักษณะข้ามชาติ" และอีคอมเมิร์ซที่เติบโตอย่างมากโดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย-โอเชียเนีย

"ประเทศไทยคงไม่สามารถหลีกเลี่ยงความท้าทายของโลกในศตวรรษที่ 21 ได้ ตลอดช่วงกว่าครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา เศรษฐกิจไทยได้ถูกเชื่อมโยงเข้ากับเศรษฐกิจโลกอย่างต่อเนื่อง สัดส่วนมูลค่าการส่งออกต่อรายได้ประชาชาติของประเทศไทยและมูลค่าการลงทุนโดยตรงจากต่างชาติในประเทศไทยได้แสดงให้พวกเราได้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางของเศรษฐกิจไทยที่เชื่อมโยงอย่างแน่นแฟ้นเข้ากับชะตากรรมของเศรษฐกิจโลก" -- ดร.ทักษิณ เชื่อมโยงประเด็นสถานการณ์ไทย ที่ต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงเช่นเดียวกับนานาชาติ

ขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างจีน กับ สหรัฐฯ ที่มักถูกมองแบบเหมารวมว่าเป็นปฏิปักษ์ต่อกัน อดีตนายกฯไทยมองว่าการปกครองที่แตกต่างกัน ซึ่งนำไปสู่นโยบายเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศที่แม้จะเป็นคนละขั้ว แต่เป็นกระบวนการคู่ขนาน ซึ่งเมื่อถึงจุดหนึ่ง จะสร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจร่วมให้แก่ทั้งภูมิภาคเอเชียและโลกตะวันตก
 —  

ดร. ทักษิณ​พูดอะไรไว้ ที่ World Policy Institute ที่นิวยอร์ค 9 มีนาคม 2559

กูต้องได้ 100 ล้าน จากทักษิณแน่ๆ
อดีตนายกรัฐมนตรี ดร.ทักษิณ ชินวัตร บรรยายที่นิวยอร์ก ชี้เศรษฐกิจโลกศตวรรษที่ 21 ต้องอาศัยการพึ่งพากันในเครือข่ายระดับนานาชาติ เตือนไทยจะตกขบวนเศรษฐกิจ หากรัฐธรรมนูญใหม่ทำให้รัฐบาลเลือกตั้งถูกแทรกแซง จนไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นด้านสเถียรภาพการเมืองได้

ดร.ทักษิณ อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวในช่วงไฮไลต์ของการบรรยาย ที่งาน "สนทนาเป็นการส่วนตัวกับทักษิณ ชินวัตร" (Thaksin Shinawatra in Private Discussion) ซึ่งจัดโดยสถาบันนโยบายโลก (World Policy Institute) ที่นครนิวยอร์ก ของสหรัฐฯ ว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับล่าสุดของไทยจะไม่สามารถวางโครงสร้างพื้นฐานในเชิงสถาบัน ที่จะส่งเสริมให้มีการลงทุน การผลิต และความร่วมมือระหว่างไทยกับต่างประเทศได้ เนื่องจากอาจเปิดช่องให้มีการแทรกแซงอำนาจฝ่ายบริหาร และ นิติบัญญัติ โดยอำนาจพิเศษของวุฒิสภาที่มาจากการแต่งตั้ง และฝ่ายตุลาการ

"เมื่อพิจารณาถึงเค้าโครงของร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ มันคงเป็นไปได้ยากที่จะได้มาซึ่งรัฐบาลที่ตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนและความท้าทายในศตวรษที่ 21 ในร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นี้ ได้กำหนดให้วุฒิสภาประกอบด้วยสมาชิกจำนวน 200 คนซึ่งจะถูกแต่งตั้งโดย "ผู้เชี่ยวชาญ" วุฒิสภาจะมีอำนาจมากยิ่งขึ้นในการยับยั้งการออกพระราชบัญญัติต่างๆ ศาลรัฐธรรมนูญจะมีขอบเขตอำนาจในการตัดสินคดีที่มากยิ่งขึ้น ศาลรัฐธรรมนูญจะมีอำนาจในการไต่สวนและวินิจฉัยคดี เมื่อมีบุคคลใดก็ตามได้ดำเนินการร้องเรียน โดยไม่ได้มีเงื่อนไขที่ว่ากรณีดังกล่าวต้องเป็นข้อพิพาทจริงที่องค์กรทางการเมืองหรือศาลอื่นได้ดำเนินการยื่นเรื่องแก่ศาลรัฐธรรมนูญ"

"หากพวกเราคิดว่าหลักการแบ่งแยกอำนาจอธิปไตย คือ รากฐานเพื่อการสร้างความเจริญเติบโตและเสถียรภาพของประเทศ หัวข้อสำคัญที่พวกเราต้องพิจารณาคงเป็นเรื่องที่ว่า อำนาจตุลาการจะล่วงล้ำอำนาจนิติบัญญัติและอำนาจบริหารหรือไม่ เพื่อให้รัฐบาลสามารถบริหารเศรษฐกิจของประเทศในยุคที่เศรษฐกิจโลกกำลังชะลอตัว ผมหวังว่าคงจะไม่มีการใช้อำนาจตุลาการที่เกินกว่าความจำเป็นอีกในอนาคต กรณีศึกษาในประเทศต่างๆ ได้แสดงให้พวกเราเห็นว่า การใช้อำนาจพิจารณาทบทวนโดยศาล โดยไม่ได้มีการถ่วงดุลและตรวจสอบ อาจกลายเป็นการใช้อำนาจอย่างไม่ เหมาะสมและเป็น "ยุทธวิธีเตะถ่วงงาน" จนสุดท้ายก่อให้เกิดอุปสรรคในการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจของประเทศ" -- อดีตนายกรัฐมนตรี ดร.ทักษิณ กล่าว

อดีตนายกรัฐมนตรีแสดงวิสัยทัศน์ด้านเศรษฐกิจโลกในศตวรรษที่ 21 ว่าควรให้ความสำคัญแก่การขยายความร่วมมือเพื่อสร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจร่วมกับประเทศคู่ค้าต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศในเอเชีย ควรส่งเสริมการสร้างเครือข่ายความมั่งคั่งให้แก่ประชาชนแบบระหว่างประเทศและระหว่างภูมิภาค เพราะความเปลี่ยนแปลงอันรวดเร็วทางด้านเทคโนโลยีการผลิตแบบอุตสาหกรรมไปสู่ "สภาวะปกติใหม่ของโลกปัจจุบัน" หรือ "New Normal" จากรูปแบบ "การผลิตสินค้าในประเทศเดียว" สู่ "ระบบเครือข่ายการออกแบบ การสรรหาปัจจัยการผลิต และการผลิตที่มีลักษณะข้ามชาติ" และอีคอมเมิร์ซที่เติบโตอย่างมากโดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย-โอเชียเนีย

"ประเทศไทยคงไม่สามารถหลีกเลี่ยงความท้าทายของโลกในศตวรรษที่ 21 ได้ ตลอดช่วงกว่าครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา เศรษฐกิจไทยได้ถูกเชื่อมโยงเข้ากับเศรษฐกิจโลกอย่างต่อเนื่อง สัดส่วนมูลค่าการส่งออกต่อรายได้ประชาชาติของประเทศไทยและมูลค่าการลงทุนโดยตรงจากต่างชาติในประเทศไทยได้แสดงให้พวกเราได้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางของเศรษฐกิจไทยที่เชื่อมโยงอย่างแน่นแฟ้นเข้ากับชะตากรรมของเศรษฐกิจโลก" -- ดร.ทักษิณ เชื่อมโยงประเด็นสถานการณ์ไทย ที่ต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงเช่นเดียวกับนานาชาติ

ขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างจีน กับ สหรัฐฯ ที่มักถูกมองแบบเหมารวมว่าเป็นปฏิปักษ์ต่อกัน อดีตนายกฯไทยมองว่าการปกครองที่แตกต่างกัน ซึ่งนำไปสู่นโยบายเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศที่แม้จะเป็นคนละขั้ว แต่เป็นกระบวนการคู่ขนาน ซึ่งเมื่อถึงจุดหนึ่ง จะสร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจร่วมให้แก่ทั้งภูมิภาคเอเชียและโลกตะวันตก
 —  

"จีน" กินรวบรถไฟไทย ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

"จีน" กินรวบรถไฟไทย


updated: 09 มี.ค. 2559 เวลา 13:00:40 น.

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

วันนี้ "จีน" ประเทศมหาอำนาจแห่งเอเชีย กำลังแผ่อิทธิพลการพัฒนาระบบรางมายังประเทศไทย นอกจากระบบรถไฟความเร็วปานกลาง เป็นความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทย-จีน ที่กำลังทำรายละเอียดโปรเจ็กต์ร่วมกัน

ล่าสุดได้ขยายตลาดรุกจาะโครงการของ "ร.ฟ.ท.-การรถไฟแห่งประเทศไทย" ที่กำลังจัดซื้อทั้ง "หัวรถจักร-รถโดยสาร-โบกี้บรรทุกสินค้า" มูลค่าร่วม 14,022 ล้านบาท หลังว่างเว้นมานาน 20-30 ปี โดยผู้ผลิตจีนรายแรกบุกเบิกตลาดสำเร็จ มาจากโรงงานจีนตอนใต้ "บจ.CSR Qishuya" คว้างาน "หัวรถจักรดีเซลไฟฟ้า" 20 คัน พร้อมอะไหล่ 2,020 ล้านบาท ราคาเฉลี่ยกว่า 100 ล้านบาท/คัน มี "บจ.ป่าไม้สันติ" เป็นผู้แทนการขาย ปัจจุบันใช้ลากจูงรถขนส่งสินค้าสายเหนือและอีสานมายังท่าเรือแหลมฉบัง นับเป็นครั้งแรกที่ "ร.ฟ.ท." ซื้อสินค้าจากจีน จากเดิมซื้อจาก "อเมริกา-เยอรมนี-ฝรั่งเศส"
จากนั้นเป็น "บจ.ฉางชุน เรลเวย์ เวฮิเคิลส์" ในกลุ่ม CNR ได้เค้ก "รถโดยสารรุ่นใหม่" 115 คัน วงเงิน 4,668 ล้านบาท ซื้อผ่านกลุ่ม บจ.เขาหลักแบมบู ออร์คิด, บจ.ร่วมมิตรเหมืองแร่ และ บจ.ไชน่า เรลเวย์ คอนสตรัคชั่น จะอวดโฉมในเดือน พ.ค.นี้ 

ขณะที่ "โบกี้บรรทุกสินค้า" 308 คัน พร้อมอะไหล่ วงเงิน 770 ล้านบาท เป็นสินค้าจากผู้ผลิตจีนเช่นกัน มี บจ.สยามโบกี้ เป็นผู้แทนจากไทย เป็นผู้จัดหาให้ ร.ฟ.ท.

ส่วน "ซื้อหัวรถจักรจีอี" 50 คัน วงเงิน 6,151 ล้านบาท เค้กประมูลล่าสุด หนีไม่พ้นได้ผู้ผลิตจากจีน เป็นกลุ่มกิจการร่วมค้า คิวเอส ประกอบด้วย บจ.ซีอาร์อาร์ซี ซิซูเอียน และ บจ.ซานโฟโก อินเตอร์เนชั่นแนล ได้งานประมูลแบบไร้คู่แข่ง กำลังลุ้นจะผ่านการพิจารณาจากบิ๊กคมนาคมหรือไม่

และไม่แค่ "ร.ฟ.ท." ที่เป็นลูกค้ารายใหญ่จากจีน ปัจจุบันมี "ทีพีไอ" ของ เสี่ยประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ร่วมแจมด้วย อนาคตอันใกล้ "ปตท." น่าจะเป็นอีกรายที่จะตามมา และรายอื่น ๆ ที่กำลังมีแผนจะซื้อลอตใหญ่

สาเหตุที่ทำให้สินค้า "จีน" เป็นที่นิยมว่ากันว่าเป็นเพราะมีต้นทุนการผลิตถูกกว่าทางยุโรปอย่างน้อย 30-50% อย่าง "หัวรถจักร" จีนตั้งราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่คันละ 100-110 ล้านบาท อีกทั้งปัจจุบันจีนมีการพัฒนาเทคโนโลยีทันสมัย และได้รับไลเซนส์การผลิตจากทางยุโรปที่ผลิตสินค้าได้หลากหลายตามสเป็กที่คู่ค้ากำหนด


ติดตามข่าวสารผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ค ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
www.facebook.com/PrachachatOnline
ทวิตเตอร์ @prachachat

"จีน" กินรวบรถไฟไทย ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

"จีน" กินรวบรถไฟไทย


updated: 09 มี.ค. 2559 เวลา 13:00:40 น.

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

วันนี้ "จีน" ประเทศมหาอำนาจแห่งเอเชีย กำลังแผ่อิทธิพลการพัฒนาระบบรางมายังประเทศไทย นอกจากระบบรถไฟความเร็วปานกลาง เป็นความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทย-จีน ที่กำลังทำรายละเอียดโปรเจ็กต์ร่วมกัน

ล่าสุดได้ขยายตลาดรุกจาะโครงการของ "ร.ฟ.ท.-การรถไฟแห่งประเทศไทย" ที่กำลังจัดซื้อทั้ง "หัวรถจักร-รถโดยสาร-โบกี้บรรทุกสินค้า" มูลค่าร่วม 14,022 ล้านบาท หลังว่างเว้นมานาน 20-30 ปี โดยผู้ผลิตจีนรายแรกบุกเบิกตลาดสำเร็จ มาจากโรงงานจีนตอนใต้ "บจ.CSR Qishuya" คว้างาน "หัวรถจักรดีเซลไฟฟ้า" 20 คัน พร้อมอะไหล่ 2,020 ล้านบาท ราคาเฉลี่ยกว่า 100 ล้านบาท/คัน มี "บจ.ป่าไม้สันติ" เป็นผู้แทนการขาย ปัจจุบันใช้ลากจูงรถขนส่งสินค้าสายเหนือและอีสานมายังท่าเรือแหลมฉบัง นับเป็นครั้งแรกที่ "ร.ฟ.ท." ซื้อสินค้าจากจีน จากเดิมซื้อจาก "อเมริกา-เยอรมนี-ฝรั่งเศส"
จากนั้นเป็น "บจ.ฉางชุน เรลเวย์ เวฮิเคิลส์" ในกลุ่ม CNR ได้เค้ก "รถโดยสารรุ่นใหม่" 115 คัน วงเงิน 4,668 ล้านบาท ซื้อผ่านกลุ่ม บจ.เขาหลักแบมบู ออร์คิด, บจ.ร่วมมิตรเหมืองแร่ และ บจ.ไชน่า เรลเวย์ คอนสตรัคชั่น จะอวดโฉมในเดือน พ.ค.นี้ 

ขณะที่ "โบกี้บรรทุกสินค้า" 308 คัน พร้อมอะไหล่ วงเงิน 770 ล้านบาท เป็นสินค้าจากผู้ผลิตจีนเช่นกัน มี บจ.สยามโบกี้ เป็นผู้แทนจากไทย เป็นผู้จัดหาให้ ร.ฟ.ท.

ส่วน "ซื้อหัวรถจักรจีอี" 50 คัน วงเงิน 6,151 ล้านบาท เค้กประมูลล่าสุด หนีไม่พ้นได้ผู้ผลิตจากจีน เป็นกลุ่มกิจการร่วมค้า คิวเอส ประกอบด้วย บจ.ซีอาร์อาร์ซี ซิซูเอียน และ บจ.ซานโฟโก อินเตอร์เนชั่นแนล ได้งานประมูลแบบไร้คู่แข่ง กำลังลุ้นจะผ่านการพิจารณาจากบิ๊กคมนาคมหรือไม่

และไม่แค่ "ร.ฟ.ท." ที่เป็นลูกค้ารายใหญ่จากจีน ปัจจุบันมี "ทีพีไอ" ของ เสี่ยประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ร่วมแจมด้วย อนาคตอันใกล้ "ปตท." น่าจะเป็นอีกรายที่จะตามมา และรายอื่น ๆ ที่กำลังมีแผนจะซื้อลอตใหญ่

สาเหตุที่ทำให้สินค้า "จีน" เป็นที่นิยมว่ากันว่าเป็นเพราะมีต้นทุนการผลิตถูกกว่าทางยุโรปอย่างน้อย 30-50% อย่าง "หัวรถจักร" จีนตั้งราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่คันละ 100-110 ล้านบาท อีกทั้งปัจจุบันจีนมีการพัฒนาเทคโนโลยีทันสมัย และได้รับไลเซนส์การผลิตจากทางยุโรปที่ผลิตสินค้าได้หลากหลายตามสเป็กที่คู่ค้ากำหนด


ติดตามข่าวสารผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ค ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
www.facebook.com/PrachachatOnline
ทวิตเตอร์ @prachachat

ตบหน้า "สลิ่มหลงโลก" WPI ให้เกียรติ ดร. ทักษิณ เสมอ ดร.​ บันคีมูน!! ดร. เพียงดิน 9 มี.ค. 2559

ดร. เพียงดิน 9 มี.ค. 2559 ตอน ตบหน้า "สลิ่มหลงโลก" WPI ให้เกียรติ ดร. ทักษิณ เสมอ ดร.​ บันคีมูน!!
หรือ
----------------------
สนับสนุนแนวทางมดแดงล้มช้าง ของ คณะราษฎรเสรีไทย กับ ดร. เพียงดิน 
ส่งข้อมูลลับผ่านช่องทางที่ปลอดภัยทางลิ้งค์ต่อไปนี้
หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt



ตบหน้า "สลิ่มหลงโลก" WPI ให้เกียรติ ดร. ทักษิณ เสมอ ดร.​ บันคีมูน!! ดร. เพียงดิน 9 มี.ค. 2559

ดร. เพียงดิน 9 มี.ค. 2559 ตอน ตบหน้า "สลิ่มหลงโลก" WPI ให้เกียรติ ดร. ทักษิณ เสมอ ดร.​ บันคีมูน!!
หรือ
----------------------
สนับสนุนแนวทางมดแดงล้มช้าง ของ คณะราษฎรเสรีไทย กับ ดร. เพียงดิน 
ส่งข้อมูลลับผ่านช่องทางที่ปลอดภัยทางลิ้งค์ต่อไปนี้
หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt



Tuesday, March 8, 2016

กษัตริย์ไทยไม่เคยยิ้ม ตอน 26 ขวาพิฆาตซ้าย & เบื้องหลังตุลาเลือด (ต่อ)

กษัตริย์ไทยไม่เคยยิ้ม ตอน 26 ขวาพิฆาตซ้าย & เบื้องหลังตุลาเลือด (ต่อ)

https://youtu.be/ofLTFeZfE10

หรือ

https://youtu.be/0b_bsOVxsvY

----------------------

 

กษัตริย์ไทยไม่เคยยิ้ม ตอน 25 ขวาพิฆาตซ้าย เบื้องหลังตุลาเลือด!!

https://youtu.be/lmyaRfus7pM

หรือ

https://youtu.be/QK2qvQ-sJfw

----------------------

 

กษัตริย์ไทยไม่เคยยิ้ม ตอน 24 กษัตริย์นักประชาธิปไตย? เบื้องหลังตุลาฯเลือด

https://youtu.be/J4oO-j06T3o  หรือ

https://youtu.be/6-3EqIkDnEM  หรือ

https://youtu.be/TvQDa8eR2jg

----------------------

 

สนับสนุนแนวทางมดแดงล้มช้าง ของ คณะราษฎรเสรีไทย กับ ดร. เพียงดิน

ส่งข้อมูลลับผ่านช่องทางที่ปลอดภัยทางลิ้งค์ต่อไปนี้

http://tinyurl.com/o2rzao8

หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt

 

----------------------

สนับสนุนการเผยแพร่โดย ภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน และมหาวิทยาลัยประชาชน เพื่อสาธารณะประโยชน์ ในการสร้างจิตสำนึกทางประชาธิปไตย สันติวิธี และการเคารพหลักสิทธิมนุษยชน

กษัตริย์ไทยไม่เคยยิ้ม ตอน 26 ขวาพิฆาตซ้าย & เบื้องหลังตุลาเลือด (ต่อ)

กษัตริย์ไทยไม่เคยยิ้ม ตอน 26 ขวาพิฆาตซ้าย & เบื้องหลังตุลาเลือด (ต่อ)

https://youtu.be/ofLTFeZfE10

หรือ

https://youtu.be/0b_bsOVxsvY

----------------------

 

กษัตริย์ไทยไม่เคยยิ้ม ตอน 25 ขวาพิฆาตซ้าย เบื้องหลังตุลาเลือด!!

https://youtu.be/lmyaRfus7pM

หรือ

https://youtu.be/QK2qvQ-sJfw

----------------------

 

กษัตริย์ไทยไม่เคยยิ้ม ตอน 24 กษัตริย์นักประชาธิปไตย? เบื้องหลังตุลาฯเลือด

https://youtu.be/J4oO-j06T3o  หรือ

https://youtu.be/6-3EqIkDnEM  หรือ

https://youtu.be/TvQDa8eR2jg

----------------------

 

สนับสนุนแนวทางมดแดงล้มช้าง ของ คณะราษฎรเสรีไทย กับ ดร. เพียงดิน

ส่งข้อมูลลับผ่านช่องทางที่ปลอดภัยทางลิ้งค์ต่อไปนี้

http://tinyurl.com/o2rzao8

หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt

 

----------------------

สนับสนุนการเผยแพร่โดย ภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน และมหาวิทยาลัยประชาชน เพื่อสาธารณะประโยชน์ ในการสร้างจิตสำนึกทางประชาธิปไตย สันติวิธี และการเคารพหลักสิทธิมนุษยชน