หากได้รับการพัฒนาเต็มที่ เด็กไทยมีศักยภาพไกลในทุกด้านเช่นกัน
Saturday, August 1, 2015
VTV Cup 2015 | Liaoning (CHN) vs (THA) Thailand [FULL HD]
หากได้รับการพัฒนาเต็มที่ เด็กไทยมีศักยภาพไกลในทุกด้านเช่นกัน
Friday, July 31, 2015
"กษิต ภิรมย์" เตรียมเดินสายชี้แจงนานาชาติปมปัญหาประเทศ (ตัวมันเอง)
"กษิต ภิรมย์" เตรียมเดินสายชี้แจงนานาชาติปมปัญหาประเทศ (เอาตัวมันไปโชว์ว่าปมสำคัญปมหนึ่ง คือมันเอง)
Thursday, July 30, 2015
"การปรองดอง" แก้ปัญหารัฐไทย ได้จริงหรือ? ชวนคิดชวนคุย กับ ดร.เพียงดิน รักไทย 31 ก.ค. 2558
อย่านิ่งเฉย...!! ประชาชนมดแดงล้มช้าง สร้างชาติใหม่ สู่ระบอบใหม่ ของประชาชนอย่างแท้จริง วันนี้ ท่านสมัครร่วมขบวนหรือยัง? ประชาชนจะยิ่งใหญ่ได้ ก็เพราะการรวมตัวกันอย่างมหาศาลและมีการวางแผนประสานงานกันอย่างดีเท่านั้น อย่าได้แค่อ่าน สังเกตุการณ์ หรือกล้า ๆ กลัวเลยนะครับ ได้เวลาของประชาพาไปแล้ว เราจะรับสมัครไปเรื่อย ๆ ในขณะที่การจัดตั้งเครือข่าย ก็ดำเนินต่อไปครับ http://goo.gl/forms/SiV79VOD0H
ฟังคุณยงยุทธ ติยะไพรัช พูดเรื่อง การหาทางออกด้วยการปรองดอง
ฟังคุณยงยุทธ ติยะไพรัช พูดเรื่อง การหาทางออกด้วยการปรองดอง
เด็กสาวบ้านนอกคนนี้ อาจจะเป็นนายกหญิงที่เก่งกว่าคุณยิ่งลักษณ์ แต่ทำไม ฝันแค่อยากเป็นแอร์ (คนรับใช้)
เด็กสาวบ้านนอกคนนี้ อาจจะเป็นนายกหญิงที่เก่งกว่าคุณยิ่งลักษณ์ แต่ทำไม ฝันแค่อยากเป็นแอร์ (คนรับใช้)
มวนคัก!! มาเบิง สาวน่อย ลูกซาวนา เฮียนกะปึ๋ก โตดำขี่หมี่ อยากสิเป็นแอร์แปล [อย่างฮา มาดูสาวน้อยลูกชาวนา เรียนก็โง่ ตัวดำปิ๊ดปี๋ อยากเป็นแอร์] #TheAngel นางฟ้าติดปีก
Posted by CiNNtv3 (FanPage) on Saturday, July 12, 2014
Wednesday, July 29, 2015
"ดิฉันโดนโปรแกรม remote neural monitoring อยู่ค่ะ"
"ดิฉันโดนโปรแกรม remote neural monitoring อยู่ค่ะ"
ภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้รับร้องเรียนการละเมิดสิทธิมนุษยชนในมิติที่ค่อนข้างแปลกมาก ท่านใดมีประสบการณ์คล้าย ๆ เรื่องนี้ หรือมีข้อมูลใด ๆ กรุณาส่งมาได้ที่ president@tahr-globla.org ครับ
ขอบคุณครับ
=========================================
ดิฉันโดนโปรแกรม remote neural monitoring อยู่ค่ะ ซึ่งโปรแกรมนี้มีเหยื่ออยู่ในประเทศมากพอสมควรค่ะ คนที่มีเครื่องมือที่เรียกว่าThe ULTIMATE WEAPONS
จะสามารถล่วงละเมิดเหยื่อได้อย่างสารเลวทีสุด
โดยอาวุธชนิดนี้จะมีผลเสียกับร่างกายอย่างมากมายค่ะ เพราะมันคืออาวุธไมโครเวฟที่เวฟเราอยู่ตลอดเวลา ทำให้เราร่างกายเสื่อม เป็นมะเร็ง ตาบอด ผิวหนังเป็นแผลพุพองและมีผลเสียอีกหลายสิบข้อค่ะ และเห็นทุกอย่างที่เราเห็นได้ยินทุกคำพูดของเรา รู้รหัสการเงิน เวลาเราอาบน้ำแก้ผ้าก็จะสามารถเห็นเราได้ อ่านความคิดและพูดใส่เราด้วยคำพูดที่เดรัจฉาน ซึ่งเราจะได้ยินแค่คนเดียวค่ะ เพราะมันคือเทคโนโลยี voice to skull
ซึ่งถ้าเหยื่อไม่รู้ว่าตัวเองโดนเทคโนโลยีนี้อาจจะฆ่าตัวตายได้ค่ะ เพราะคนรอบข้างจะคิดว่าสติไม่ดีซึ่งจริงๆแล้ว เพราะโดนอาวุธชนิดนี้ทำร้ายค่ะ ซึงนั่นก็คือจุดประสงค์อย่างหนึ่งของพวกสัตว์เดรัจฉานที่เอาอาวุธชนิดนี้มาทำร้ายผู้อื่นค่ะ
ถ้าทางคุณสามารถหาคนที่มีเครื่องมือชนิดนี้ได้หรือรู้จักคนที่มีเครื่องมืออาวุธชนิดนี้ คุณจะสามารถช่วยเหยื่อได้ทั้งประเทศค่ะ เพราะคนที่มีอาวุธชนิดนี้เหมือนกันจะสามารถหาตัวคนที่ทำร้ายเราได้ ซึ่งคนที่มีอาวุธชนิดนี้ก็จะเป็นพวกทหาร ตำรวจ จนถึงพวกชาวบ้านธรรมดาที่รู้เรื่องเทคโนโลยีนี้ค่ะ
ตามแต่ว่าจะใช้อาวุธชนิดนี้อย่างสารเลวขนาดไหน คิดว่ามีพวกเกี่ยวกับการเมืองกลุ่มใหญ่ที่จะพยายามควบคุมจิตเหยื่อให้เลือกตัวเองด้วยค่ะ
ดิฉันอยากซื้ออุปกรณ์และจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเองค่ะ แต่ทางบ้านไม่เชื่อเรื่องเทคโนโลยีที่ดิฉันโดน ทำให้ดิฉันไม่มีเงินทุนที่จะจัดการพวกสัตว์เดรัจฉานต่างๆที่เอาอาวุธมาทำร้ายและพยายามควบคุมจิตใจผู้คน ช่วยดิฉันและเหยื่อคนอื่นๆด้วยนะคะ
ทางออกประเทศไทย อ.ชูพงศ์-ดร.เพียงดิน 29 ก.ค. 2558 ตอน ผีตัวใหม่ น่ากลัวกว่า ผีคอมมิวนิสต์ & เหี้ยจะกัดกันแน่แล้ว หรือ?
ทางออกประเทศไทย อ.ชูพงศ์-ดร.เพียงดิน 29 ก.ค. 2558 ตอน ผีตัวใหม่ น่ากลัวกว่า ผีคอมมิวนิสต์ & เหี้ยจะกัดกันแน่แล้ว หรือ?
ทางออกประเทศไทย อ.ชูพงศ์-ดร.เพียงดิน 29 ก.ค. 58 ตอน ผีตัวใหม่ น่ากลัวกว่า ผีคอมมิวนิสต์ และเหี้ยจะกัดกันเลือดนอง หรือ?
- การแบ่งผลประโยชน์ของพวกเขา ประชาชนได้อะไร?
- ความขัดแยังของเหี้ย มันจะกัดกันจริงหรือ?
- บูรพาพยัคฆ์ จะห้ำหั่นกับ วงศ์เทวัญ แน่แล้วหรือ?
- สุเทพ สึกมาทำอะไร?
- การตัดสินคดี และนัยสำคัญทางการเมือง
- อื่น ๆ
ทางออกประเทศไทย อ.ชูพงศ์-ดร.เพียงดิน 29 ก.ค. 58 ตอน ผีตัวใหม่ น่ากลัวกว่า ผีคอมมิวนิสต์ และเหี้ยจะกัดกันเลือดนอง หรือ?
- การแบ่งผลประโยชน์ของพวกเขา ประชาชนได้อะไร?
- ความขัดแยังของเหี้ย มันจะกัดกันจริงหรือ?
- บูรพาพยัคฆ์ จะห้ำหั่นกับ วงศ์เทวัญ แน่แล้วหรือ?
- สุเทพ สึกมาทำอะไร?
- การตัดสินคดี และนัยสำคัญทางการเมือง
- อื่น ๆ
รวมคลิป ทางออกประเทศไทย ล่าสุด ทางนปช.ยูเอสเอและมหาวิทยาลัยประชาชน
- ทางออกประเทศไทย อ.ชูพงษ์-ดร.เพียงดิน 7 มิ.ย. 2558 ตอน เมื่อตะวันตกดิน กับศึกใหญ่ที่ต้องจัดทัพประ...
- ทางออกประเทศไทย อ.ชูพงศ์-ดร.เพียงดิน 13 ก.ค. 2558 ตอน วิบากกรรมคนไทย ใครต้องรับผิดชอบ?
- ทางออกประเทศไทย 3 ก.ค. 2558 อ.ชูพงศ์-ดร.เพียงดิน ตอน กับดักเกมเลือกตั้ง เด จา วู & สรุปสถานการณ...
- ทางออกประเทศไทย อ.ชูพงษ์-ดร.เพียงดิน ตอน "เจ้าไปทำอะไรให้พวกเอ็ง?" ทำไมจองหมิ่น จ้องล้มพระองค์ท่าน?"
- ทางออกประเทศไทย อ.ชูพงษ์-ดร.เพียงดิน ตอน วันอำมหิตย์ แห่งชาติ 9 มิถุนา (สาระเข้มข้นเป็นพิเศษ)
- ทางออกประเทศไทย อ.ชูพงศ์-ดร.เพียงดิน 25 พฤษภาคม 2558 ชะตากรรมประยุทธ์ และห้วงวิกฤติประเทศไทย
- ทางออกประเทศไทย อ.ชูพงศ์-ดร.เพียงดิน 20 ก.ค. 58 ตอน ปรับขบวน ปรับยุทธวิธี ขุดรากถอนโคนระบอบราชาธิ...
- ทางออกประเทศไทย อ.ชูพงศ์-ดร.เพียงดิน 29 มิ.ย. 2558 ตอน ล้วงลึก เบื้องหลังดาวดิน vs. เบื้องหลังประ...
- ทางอออกประเทศไทย -อ.ชูพงศ์-ดร.เพียงดิน 6 กรกฎาคม 2558 "ระบอบราชาธิปไตย และระบบสมมุติเทพ กำลังทำ...
- ทางออกประเทศไทย (27 มิ.ย. 2558) ตอน สรุปประเด็นประจำสัปดาห์ ปรากฎการณ์ดาวดิน และจุดจบระบอบราชาธิป...
- ทางออกประเทศไทย 19 มิถุนายน 2558 อ.ชูพงษ์-ดร.เพียงดิน ตอน จุดอ่อน-จุดแข็ง คณะราษฎร 2475
- ทางออกประเทศไทย 16 มิ.ย. 2558 ตอน .ผ่าสมอง “สงค์ ฟันดำ” ผ่าสมอง “เหล่ อัลไต” โดย อ.ชูพงษ์ - ดร...
- ทางอออกประเทศไทย อ.ชูพงษ์-ดร.เพียงดิน 2 มิ.ย. 2558 ตอน ไล่หมา ล่าเผด็จการ สานสร้าง ปชต.สมบูรณ์
- ทางออกประเทศไทย อ.ชูพงษ์-ดร.เพียงดิน 5 มิ.ย. 2558 "ผู้ร้ายข้ามแดน (ตัวจริง) และ โมหะ ในหัวเหี้ย"
- ทางออกประเทศไทย อ.ชูพงศ์-ดร.เพียงดิน 17 ก.ค. 2558 ตอน เมื่อแม่น้ำห้าสายกระจายพิษ ประชาชนต้องทำอย่...
Tuesday, July 28, 2015
รายซื่อ องคมนตรี ที่วางแผนการโคนล้มระบอบประชาธิปไตย
รายซื่อ องคมนตรี ที่วางแผนการโคนล้มระบอบประชาธิปไตย
ชื่อองคมนตรี หน้าที่ดูแลในการโค่นล้ม พรรคพลังประชาชน ตำแหน่ง
-------------------------------------------------------------------------------------
พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ดูแล สายทหารและข้าราชการหลายกระทรวงและเป็นประธานโค่นระบอบทักษิณและพรรค ทรท ในอดีต ประธานองคมนตรี
นายธานินทร์ กรัยวิเชียร
ดูแลสาย ศาลและระบบ ตุลาการ มีข้าราชการในกระทรวงยุติธรรมรายงานสายตรงตลอด เป็นผู้ออกใบสั่งล่วงหน้าในการเล่นงาน
ทั้งคุณ ยงยุทธ์ หมอเลี้ยบ รวมทั้งคดีต่างๆ กับนายกสมัคร สุนทรเวชด้วย องคมนตรี
หม่อมหลวงอัสนี ปราโมช
คนนี้ ดูแลสาย(หมอชนบท)คนในสายตรง สนิท กับสายประชาธิปัตย์และสายหมอชนบททั่วประเทศและมีข้าราชการในกระทรวงสายสาธารณ
สุขรายงานความเคลื่อนไหวตลอด เช่นเรื่องการเล่นงานไชยา สะสมทรัพย์
องคมนตรี
พลอากาศเอก กำธน สินธวานนท์
ดุแลสายทหารอากาศ และมีส่วนในการกำหนดสเปค การสั่งชื้อเครื่องบินของกองทัพอากาศ รวมถึงอยู่เบื้องหลัง ส่งปัจจัย สนับสนุน
ข้าราชการสายม็อบพันธมิตร ในการปิดสนามบินในภาคใต้ และเคยเป็น บอร์ดการบินไทย มีส่วนในการชักชวนการบินไทยหยุดงาน สายนี้
มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงการบินไทยรายงานตรงตลอด
องคมนตรี
พลอากาศเอก สิทธิ เศวตศิลา
ดูแลสายกระทรวงการต่างประเทศมีข้าราชการระดับสูงในกระทรวงคอยรายงานความเคลื่อนไหวของอดีตนายก ทักษิณ ตลอดเวลาข้อมุล
ต่างๆในกระทรวงต่างประเทศมักจะอยู่ในสายองคมนตรี
องคมนตรี
นายอำพล เสนาณรงค์ คนนี้ดูแลข้าราชการหลายกระทรวง องคมนตรี
พลเอก พิจิตร กุลละวณิชย์ สายมูลนิธิการกุศลต่างๆแต่ไม่ค่อยเด่นเท่าที่ควร และค่อยกำกับสายทหารในส่วนภูมิภาค
องคมนตรี
นายจำรัส เขมะจารุ
เคยดำรงตำแหน่งประธานศาลฎีกา และเป็นเจ้านายเก่าของนายจรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญคนปัจจุบัน ในการกลั่นแกล้ง
นายกฯ สมัคร เรื่องรายการชิมไปบ่นไป
องคมนตรี
หม่อมราชวงค์เทพกมล เทวกุล คนนี้เป็นผู้นำเงินและหาฐานสนับสนุนม็อบพันธมิตร เป็นกลุ่มสายเจ้านายศักดินา คอยโค่นล้ม พรรค พปช และผลักดันสูตร 70-30 องคมนตรี
นายเกษม วัฒนชัย
คนนี้เป็นคนดูแลสายการศึกษาและเป็นไส้ศึกของ พปช คอยอยู่เบื้องหลังสายการศึกษา มีความสนิทกับวิจิตร ศรีสะอ้านในการให้นักศึกษา
ออกมาเคลื่อนไหวและภาคการศึกษาต่างๆ
องคมนตรี
นายพลากร สุวรรณรัฐ
คนนี้ดุแลสายรัฐวิสาหกิจ คอยกำกับให้หยุดงาน รวมทั้งให้ การรถไฟ การไฟฟ้าออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล พปช เพราะในอดีตเคย
กำกับการไฟฟ้ามาก่อน
นายสวัสดิ์ วัฒนายากร เคยดำรงตำแหน่งตุลาการสาลปกครองสูงสุดและกำกับระบบศาลปกครองเพื่อโค่นพรรค พปช องคมนตรี
นายสันติ ทักราล เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการตัดสินคดีของศาลกับคนใน พรรค พปช องคมนตรี
พลเรือเอก ชุมพล ปัจจุสานนท์ คนนี้ มาจากสายทหารเรือ คอยกำกับดูแลตลอดเวลา การเคลื่อนย้ายโผทหารเรือ มักมีคนผู้นี้คอยตรวจเช็คก่อนเสมอ องคมนตรี
นายอรรถนิติ ดิษฐอำนาจ ที่ปรึกษา ทางกฎหมายขององคมนตรี ในการเล่นงาน สส พรรค พปช องคมนตรี
สุเทพ สึกมาทำไม? ข่าวลับกรองแล้ว ทหาร กอ.รมน.ส่งมา 28 ก.ค. 2558
สุเทพ สึกมาทำไม? ข่าวลับกรองแล้ว ทหาร กอ.รมน.ส่งมา 28 ก.ค. 2558
เกมการเมืองพิษเศรษฐกิจ! บีบสุเทพลูกป๋าเดินออกจากวัด มุ่งธุรกิจการเมือง เรื่องมีอยู่ว่ามีนายทุนฝั่งทางป๋า ขัดใจนายกลุงตู่แล้ว เคาะตัวเลขลงขันตัดขาดประยุทธ์ ส่งผลดีให้กับทางอุดมเดชไปเต็มๆ พวกกระจอกข่าวอดลือสะพัดไม่ได้ เตรียมส่งอุดมเดชให้ปฎิวัติซ้อนเพื่อตัดหาง ปรีชา-ธีรชัย ออกนอกแถว ผบ.ทบ. มรสุมทางการเมืองจะพัดพา พวกคนของป๋าผงาดครองอำนาจทางการเมืองยาว ก่อนมี
การเมืองใหม่ ใช้แกน อุดมเดช-สุเทพ ตกลงเป็นหุ้นส่วนชนรัฐบาลประยุทธ์ให้ล้มครืนเป็นสุญญากาศ เขี่ยประวิตร-ประยุทธ์ทิ้ง เริ่มคำจำกัดความการปิดประเทศถาวร พลเอกอุดมเดช-นายสุเทพต้องอยู่ในวงที่ป๋าเตรียมขีดเส้นให้ อุดมเดชได้รับตำแหน่งนายกคนใหม่ไปครอง สุเทพได้เงินก่อนใหญ่ไปเพราะกล้าประกาศไม่ลงเลือกตั้งสุเทพเชื่อว่าตามเกมโรดแม๊บที่รับมาไม่มีการเลือกตั้งในประเทศนี้แน่นอนหลังอุดมเดชยึดอำนาจแล้ว
ย่างเข้ากลางเดือนสิงหา ก่อนถึงเดือนกันยา ตามที่คนใกล้ชิดของพลเอกอุดมเดช เผลอไปปล่อยข่าวรั่วไว้ทางอีสานตอนบน แหล่งขุมกำลังจะขนจากหน่วยรบพิเศษ นรศ.ลพบุรี เตรียมการไว้พร้อมหมดหลายเดือนแล้ว
เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา แต่ละฝ่ายของกองทัพที่แปรพักตร์ไปมา เมื่อผลประโยชน์ลงตัว ได้มีการแจกเงินทุนให้ทุกคนเพื่อเป็นขวัญแขะกำลังใจในการส่องสุมกำลังแข่งกัน สายข่าวของนายกรัฐมนตรีได้รู้การระแคะระคายถึงเรื่องการจ่ายเงินส่งค่าจ้างให้ผบ.ทบ. ทำปฏิวัติซ้อน จากการลงขันของพวกนายทุนสายป๋า ใช้ต้นทุนสูงทั้งกำลังเงินและชีวิตของทหารทุกระดับชั้น เป็นการชิงอำนาจกันเองของทหาร โดยทางพลเอกประยุทธ์ถึงกับต้องข่มพลเอกสุรยุทธ์ในที่สาธารณะ เพื่อบอกใบ้เป็นนัยๆพี่อย่าพยายามนะ นายกรู้หมดใครทำอะไร ทหารก็จะมีแต่ความระแวงระวังตัวกันสูงขึ้นไป ผู้พันสายคุมกำลังคนหนึ่งแจ้งมาว่ามีสัญญาณแปลกๆส่งพลังสูง ให้วางเฉยกับการเคลื่อนไหวของฝ่ายล้มรัฐบาล ทางฝ่ายทหารคุมสายการข่าวก็เชื่อว่าการปฏิวัติซ้อนจะเกิดขึ้นแน่นอน
[7/28/15, 6:14:06 AM] แมงโม้: ข่าวด่วน ทางทอมใช้ความเป็นอาจารย์สยบสายกำลังเหล่
Monday, July 27, 2015
ปฏิวัติปวงชน "มดแดงล้มช้าง: 10 ภาษากายที่นักพูดควรรู้
10 ภาษากายที่นักพูดควรรู้
หลายคนอาจจะคิดว่า Presentation ที่ดีนั้นอยู่ที่ทักษะการพูดเป็นหลัก แต่จริงๆ แล้วภาษากายเป็นสิ่งสำคัญเท่าๆ กับภาษาพูดเลยทีเดียว 10 อย่างที่นักพูดทุกคนควรรู้ สรุปมาได้ดังนี้
1. ยืดอก มือและแขนเปิดกว้าง: เพิ่มความมั่นใจ เพราะท่ายืดอกตัวตรง
ทำให้หายใจได้สะดวกกว่า ทำให้รู้สึกผ่อนคลายมากกว่า
2. ยิ้ม: ง่ายๆ แต่เป็นอาวุธสำคัญที่ทำให้ผู้ฟังผ่อนคลาย รู้สึกเป็นกันเองกับเรา
3. ใช้มือและแขนประกอบการเล่าเรื่อง มองตาผู้ฟัง: ทำให้ผู้ฟังตั้งใจฟังและอินไปกับเรา
4. ใจเย็น ไม่รีบร้อน: การไม่ลุกลี้ลุกลน ทำให้เราดูมั่นใจ น่าเชื่อถือ
5. เดิน: เช่น ถ้าพูด 3 ประเด็น ให้เดินเปลี่ยนจุดยืนเล็กน้อยเมื่อเปลี่ยนประเด็นจะทำให้คนฟังเข้าใจง่ายขึ้นว่าขึ้นประเด็นใหม่
6. อวัยวะสัมพันธ์: ใช้ให้หลากหลายและเหมาะสม ทั้งหัว แขน และมือ ควรให้เป็นธรรมชาติและสอดประสานกันเพื่อให้ผู้ฟังตั้งใจฟังสิ่งที่เราพูดไปจนจบ
7. ชี้นิ้ว: เพื่อให้ผู้ฟังตั้งใจฟังในสิ่งที่เรากำลังพูด ให้ชี้นิ้วพร้อมกับมองไปที่ presentation จะทำให้ผู้ฟังยังอยู่กับเรา (ดึงสมาธิผู้ฟังกลับมา)
8. ผ่อนคลาย: ทำท่าทางเปิดและผ่อนคลาย จะทำให้ผู้ฟังมีส่วนร่วมได้ง่ายขึ้น
9. จังหวะ: มีจังหวะหยุดและหายใจที่เหมาะสม ทำใหเราตอบคำถามได้ดีขึ้น (ได้คิด)
10. ท่าทาง: ใช้ท่าทางในเชิงบวก ได้แก่ การพยักหน้า ยืดอก มองตา ยิ้ม
หลายคนอาจจะคิดว่า Presentation ที่ดีนั้นอยู่ที่ทักษะการพูดเป็นหลัก แต่จริงๆ แล้วภาษากายเป็นสิ่งสำคัญเท่าๆ กับภาษาพูดเลยทีเดียว 10 อย่างที่นักพูดทุกคนควรรู้ สรุปมาได้ดังนี้
1. ยืดอก มือและแขนเปิดกว้าง: เพิ่มความมั่นใจ เพราะท่ายืดอกตัวตรง
ทำให้หายใจได้สะดวกกว่า ทำให้รู้สึกผ่อนคลายมากกว่า
2. ยิ้ม: ง่ายๆ แต่เป็นอาวุธสำคัญที่ทำให้ผู้ฟังผ่อนคลาย รู้สึกเป็นกันเองกับเรา
3. ใช้มือและแขนประกอบการเล่าเรื่อง มองตาผู้ฟัง: ทำให้ผู้ฟังตั้งใจฟังและอินไปกับเรา
4. ใจเย็น ไม่รีบร้อน: การไม่ลุกลี้ลุกลน ทำให้เราดูมั่นใจ น่าเชื่อถือ
5. เดิน: เช่น ถ้าพูด 3 ประเด็น ให้เดินเปลี่ยนจุดยืนเล็กน้อยเมื่อเปลี่ยนประเด็นจะทำให้คนฟังเข้าใจง่ายขึ้นว่าขึ้นประเด็นใหม่
6. อวัยวะสัมพันธ์: ใช้ให้หลากหลายและเหมาะสม ทั้งหัว แขน และมือ ควรให้เป็นธรรมชาติและสอดประสานกันเพื่อให้ผู้ฟังตั้งใจฟังสิ่งที่เราพูดไปจนจบ
7. ชี้นิ้ว: เพื่อให้ผู้ฟังตั้งใจฟังในสิ่งที่เรากำลังพูด ให้ชี้นิ้วพร้อมกับมองไปที่ presentation จะทำให้ผู้ฟังยังอยู่กับเรา (ดึงสมาธิผู้ฟังกลับมา)
8. ผ่อนคลาย: ทำท่าทางเปิดและผ่อนคลาย จะทำให้ผู้ฟังมีส่วนร่วมได้ง่ายขึ้น
9. จังหวะ: มีจังหวะหยุดและหายใจที่เหมาะสม ทำใหเราตอบคำถามได้ดีขึ้น (ได้คิด)
10. ท่าทาง: ใช้ท่าทางในเชิงบวก ได้แก่ การพยักหน้า ยืดอก มองตา ยิ้ม
10 ภาษากายที่นักพูดควรรู้
10 ภาษากายที่นักพูดควรรู้
หลายคนอาจจะคิดว่า Presentation ที่ดีนั้นอยู่ที่ทักษะการพูดเป็นหลัก แต่จริงๆ แล้วภาษากายเป็นสิ่งสำคัญเท่าๆ กับภาษาพูดเลยทีเดียว 10 อย่างที่นักพูดทุกคนควรรู้ สรุปมาได้ดังนี้
1. ยืดอก มือและแขนเปิดกว้าง: เพิ่มความมั่นใจ เพราะท่ายืดอกตัวตรง
ทำให้หายใจได้สะดวกกว่า ทำให้รู้สึกผ่อนคลายมากกว่า
2. ยิ้ม: ง่ายๆ แต่เป็นอาวุธสำคัญที่ทำให้ผู้ฟังผ่อนคลาย รู้สึกเป็นกันเองกับเรา
3. ใช้มือและแขนประกอบการเล่าเรื่อง มองตาผู้ฟัง: ทำให้ผู้ฟังตั้งใจฟังและอินไปกับเรา
4. ใจเย็น ไม่รีบร้อน: การไม่ลุกลี้ลุกลน ทำให้เราดูมั่นใจ น่าเชื่อถือ
5. เดิน: เช่น ถ้าพูด 3 ประเด็น ให้เดินเปลี่ยนจุดยืนเล็กน้อยเมื่อเปลี่ยนประเด็นจะทำให้คนฟังเข้าใจง่ายขึ้นว่าขึ้นประเด็นใหม่
6. อวัยวะสัมพันธ์: ใช้ให้หลากหลายและเหมาะสม ทั้งหัว แขน และมือ ควรให้เป็นธรรมชาติและสอดประสานกันเพื่อให้ผู้ฟังตั้งใจฟังสิ่งที่เราพูดไปจนจบ
7. ชี้นิ้ว: เพื่อให้ผู้ฟังตั้งใจฟังในสิ่งที่เรากำลังพูด ให้ชี้นิ้วพร้อมกับมองไปที่ presentation จะทำให้ผู้ฟังยังอยู่กับเรา (ดึงสมาธิผู้ฟังกลับมา)
8. ผ่อนคลาย: ทำท่าทางเปิดและผ่อนคลาย จะทำให้ผู้ฟังมีส่วนร่วมได้ง่ายขึ้น
9. จังหวะ: มีจังหวะหยุดและหายใจที่เหมาะสม ทำใหเราตอบคำถามได้ดีขึ้น (ได้คิด)
10. ท่าทาง: ใช้ท่าทางในเชิงบวก ได้แก่ การพยักหน้า ยืดอก มองตา ยิ้ม
หลายคนอาจจะคิดว่า Presentation ที่ดีนั้นอยู่ที่ทักษะการพูดเป็นหลัก แต่จริงๆ แล้วภาษากายเป็นสิ่งสำคัญเท่าๆ กับภาษาพูดเลยทีเดียว 10 อย่างที่นักพูดทุกคนควรรู้ สรุปมาได้ดังนี้
1. ยืดอก มือและแขนเปิดกว้าง: เพิ่มความมั่นใจ เพราะท่ายืดอกตัวตรง
ทำให้หายใจได้สะดวกกว่า ทำให้รู้สึกผ่อนคลายมากกว่า
2. ยิ้ม: ง่ายๆ แต่เป็นอาวุธสำคัญที่ทำให้ผู้ฟังผ่อนคลาย รู้สึกเป็นกันเองกับเรา
3. ใช้มือและแขนประกอบการเล่าเรื่อง มองตาผู้ฟัง: ทำให้ผู้ฟังตั้งใจฟังและอินไปกับเรา
4. ใจเย็น ไม่รีบร้อน: การไม่ลุกลี้ลุกลน ทำให้เราดูมั่นใจ น่าเชื่อถือ
5. เดิน: เช่น ถ้าพูด 3 ประเด็น ให้เดินเปลี่ยนจุดยืนเล็กน้อยเมื่อเปลี่ยนประเด็นจะทำให้คนฟังเข้าใจง่ายขึ้นว่าขึ้นประเด็นใหม่
6. อวัยวะสัมพันธ์: ใช้ให้หลากหลายและเหมาะสม ทั้งหัว แขน และมือ ควรให้เป็นธรรมชาติและสอดประสานกันเพื่อให้ผู้ฟังตั้งใจฟังสิ่งที่เราพูดไปจนจบ
7. ชี้นิ้ว: เพื่อให้ผู้ฟังตั้งใจฟังในสิ่งที่เรากำลังพูด ให้ชี้นิ้วพร้อมกับมองไปที่ presentation จะทำให้ผู้ฟังยังอยู่กับเรา (ดึงสมาธิผู้ฟังกลับมา)
8. ผ่อนคลาย: ทำท่าทางเปิดและผ่อนคลาย จะทำให้ผู้ฟังมีส่วนร่วมได้ง่ายขึ้น
9. จังหวะ: มีจังหวะหยุดและหายใจที่เหมาะสม ทำใหเราตอบคำถามได้ดีขึ้น (ได้คิด)
10. ท่าทาง: ใช้ท่าทางในเชิงบวก ได้แก่ การพยักหน้า ยืดอก มองตา ยิ้ม
ท่านจารุพงศ์ เลขาธิการเสรีไทย & คนไทยแอลเอ ร่วมฉลอง 66 ปี วันคล้ายวันเกิด ดร.ทักษิณ ชินวัตร 26 กรกฎาคม 2558
ท่านจารุพงศ์ เลขาธิการเสรีไทย & คนไทยแอลเอ ร่วมฉลอง 66 ปี วันคล้ายวันเกิด ดร.ทักษิณ ชินวัตร 26 กรกฎาคม 2558 โดย ท่านจารุพงศ์ได้วิเคราะห์การเมืองไทยด้วยความห่วงใย และเรียกร้องให้คนไทยทั่วโลก ร่วมมือกับองค์การเสรีไทย เพื่อเปลี่ยนระบอบ https://youtu.be/YcStl2u7NHo
Sunday, July 26, 2015
Thaksin Shinawatra: Me and My Country (1)
ผมขอเริ่มตอนที่หนึ่งโดยการเล่าเรื่องเบื้องหลังก ารเจรจากับญี่ปุ่นในการสร้างสนามบินสุวรรณภูมิครับ ปี 2544 ผมได้ประกาศว่าจะยกเลิกการประกวดราคาก่อสร้างอาคารผู้โดยสารของสนามบินสุวรรณภูมิซึ่งประกวดราคาโดยรัฐบาลก่อนเป็นวงเงิน 54,000 ล้านบาทเศษ โดยออกแบบรองรับผู้โดยสารได้ 35 ล้านคน ซึ่งขณะนั้นผมเห็นว่าแพงและจำนวนผู้โดยสารที่รองรับได้น้อยไป เกรงจะไม่พอ เปิดปุ๊บก็ต้องเต็มปั๊บ ทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยในขณะนั้นก็วิ่งมาพบผมและขอคัดค้านเพราะเรากู้เงิน JBIC อยู่ โดยบอกว่าจะยกเลิกเงินกู้ ผมก็นั่งคิด เนื่องจากเรายังไม่พ้นวิกฤติเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นเมื่อ ก.ค. 40 แต่ถ้าเรากลัวไม่ได้กู้เงิน เราก็ต้องสร้างสนามบินที่แพงเกินจริงและรองรับผู้โดยสารได้น้อยเกินไป เพราะจะสร้างใหม่ทั้งทีอุตส่าห์รอกันมาตั้ง 40 ปี ขณะนั้นผมอ่านออกว่าทูตญี่ปุ่นกลัวว่าประกวดราคาใหม่บริษัทญี่ปุ่นจะไม่ชนะประมูล เรื่องการไม่ให้กู้เงินคงจะไม่จริง ผมก็เลยบอกไปว่าผมจำเป็นต้องยกเลิกการประมูลและแก้แบบใหม่ให้รองรับผู้โดยสารจาก 35 ล้านคนเป็น 45 ล้านคน ถ้าญี่ปุ่นไม่ให้กู้ก็ไม่เป็นไร ผมใช้เงินแบงค์กรุงไทยกับแบงค์ออมสินก็ได้ ผมก็เลิกการประมูล แก้แบบเป็น 45 ล้านคน และให้มีการประมูลใหม่ ผลปรากฎว่าราคาลดลงจาก 54,000 ล้านบาท เป็น 36,666 ล้านบาท ประหยัดไป 17,000 ล้านบาทเศษ พร้อมกับรองรับผู้โดยสารได้เพิ่มอีก 10 ล้านคน จาก 35 เป็น 45 ล้านคน ซึ่งขนาดเพิ่มแล้ววันนี้หลังจากเปิดไม่กี่ปีก็เต็มแล้ว ทั้งๆที่ไปใช้ดอนเมืองด้วย และในที่สุด ท่านทูตญี่ปุ่นคนเดิมก็กลับมาขอร้องให้เราใช้เงินกู้ JBIC ต่อไปเหมือนเดิม (การเจรจาต้องรู้ความต้องการของเขาและของเรา) ถ้าท่านจำได้ช่วงผมเป็นนายกฯใหม่ๆ ผมได้ประกาศว่าไทยจะไม่ยอมกู้เงินนอกเด็ดขาดยกเว้นสัญญาที่มีอยู่เดิม ทั้งๆที่ตอนนั้นเรามีเงินสำรองอยู่ 27-28 พันล้านเหรียญสหรัฐเท่านั้น แต่เรามีหนี้ต่างประเทศมากกว่าเงินสำรองเรามาก รวมทั้งหนี้ IMF ถึง 12,000 ล้าน
ผมเข้าใจโลกทุนนิยมดีครับ มันเปรียบเสมือนว่าเมื่อแดดออก มีแต่คนจะเอาร่มมาให้เราถือเต็มไปหมดทั้งๆที่เราไม่ต้องใช้ แต่ยามฝนตก เราอยากได้ร่มสักคันก็ไม่มีใครให้ยืม เพราะฉะนั้นจึงต้องสร้างคำว่า Trust & Confident ให้ได้ เงินถึงจะมา ผมเลยใช้นโยบายว่า กัดฟันไม่กู้เงินนอกเท่านั้น ต่างประเทศก็เริ่มมั่นใจขึ้น เงินต่างประเทศก็เริ่มเข้ามาประกอบกับการปรับนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทยในขณะนั้นให้สอดคล้องกัน ทำให้พ่อค้านำเข้าและส่งออกที่เก็บเงินไว้ต่างประเทศก็เริ่มนำกลับเข้ามา เสถียรภาพเงินบาทก็แข็งขึ้น เงินสำรองก็มากขึ้นจนเราสามารถใช้หนี้ IMF ได้ ซึ่งตอนเกิดวิกฤตตอนเราต้องยืมเงิน IMF ทุกคนก็คิดว่าต้องใช้เวลาเป็นสิบๆปีกว่าจะใช้หนี้ได้ ตอนที่ผมตัดสินใจใช้หนี้หลายคนก็ห้ามผมว่าทำไมต้องรีบใช้ เดี๋ยวเงินสำรองจะพร่องมากไปไม่พอใช้ บังเอิญผมมีประสบการณ์เป็นนักกู้เงินมาก่อน ถ้าเราเป็นหนี้แล้วใช้คืนได้เขาถึงว่าเราเป็นลูกค้าชั้นดีที่จะให้กู้มากขึ้นอีก ผมก็เลยสั่งให้ใช้หนี้ทั้งหมดทีเดียว หม่อมอุ๋ยขอต่อรองเป็นอีก6 เดือน ผมก็เลยบอกว่าผมประกาศเลยนะว่าอีก 6 เดือนจะชำระ ก็เลยเกิดการชำระหนี้ IMF ก่อนครบกำหนดถึง 2 ปี ทำให้ชื่อเสียงของประเทศไทยดีขึ้นมาก เงินก็เริ่มไหลเข้าประเทศไทยอย่างต่อเนื่องจนเรากลายเป็นประเทศที่เรียกว่าเป็น Net Creditor Nation คือเป็นประเทศที่มีเงินฝากเป็นเงินตราต่างประเทศมากกว่าเงินกู้ต่างประเทศ โดยรวมตัวเลขทั้งภาครัฐและภาคเอกชนด้วย เป็นครั้งแรกของไทย
สรุปก็คือว่าถ้าเรามียุทธศาสตร์การเงินและการทำงานที่ควบคู่กันได้ดี เราจะสร้างTrust & Confident ให้กับองค์กรของเรา(ซึ่งในที่นี้ก็คือประเทศ) แล้วเราจะเติบโตได้ เพราะจะมีเงินทุนเข้ามาให้เราได้ใช้บริหารและสร้างรายได้อย่างไม่จำกัดครับ วันนี้เอาเท่านี้ก่อนครับ////
ผมเข้าใจโลกทุนนิยมดีครับ มันเปรียบเสมือนว่าเมื่อแดดออก มีแต่คนจะเอาร่มมาให้เราถือเต็มไปหมดทั้งๆที่เราไม่ต้องใช้ แต่ยามฝนตก เราอยากได้ร่มสักคันก็ไม่มีใครให้ยืม เพราะฉะนั้นจึงต้องสร้างคำว่า Trust & Confident ให้ได้ เงินถึงจะมา ผมเลยใช้นโยบายว่า กัดฟันไม่กู้เงินนอกเท่านั้น ต่างประเทศก็เริ่มมั่นใจขึ้น เงินต่างประเทศก็เริ่มเข้ามาประกอบกับการปรับนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทยในขณะนั้นให้สอดคล้องกัน ทำให้พ่อค้านำเข้าและส่งออกที่เก็บเงินไว้ต่างประเทศก็เริ่มนำกลับเข้ามา เสถียรภาพเงินบาทก็แข็งขึ้น เงินสำรองก็มากขึ้นจนเราสามารถใช้หนี้ IMF ได้ ซึ่งตอนเกิดวิกฤตตอนเราต้องยืมเงิน IMF ทุกคนก็คิดว่าต้องใช้เวลาเป็นสิบๆปีกว่าจะใช้หนี้ได้ ตอนที่ผมตัดสินใจใช้หนี้หลายคนก็ห้ามผมว่าทำไมต้องรีบใช้ เดี๋ยวเงินสำรองจะพร่องมากไปไม่พอใช้ บังเอิญผมมีประสบการณ์เป็นนักกู้เงินมาก่อน ถ้าเราเป็นหนี้แล้วใช้คืนได้เขาถึงว่าเราเป็นลูกค้าชั้นดีที่จะให้กู้มากขึ้นอีก ผมก็เลยสั่งให้ใช้หนี้ทั้งหมดทีเดียว หม่อมอุ๋ยขอต่อรองเป็นอีก6 เดือน ผมก็เลยบอกว่าผมประกาศเลยนะว่าอีก 6 เดือนจะชำระ ก็เลยเกิดการชำระหนี้ IMF ก่อนครบกำหนดถึง 2 ปี ทำให้ชื่อเสียงของประเทศไทยดีขึ้นมาก เงินก็เริ่มไหลเข้าประเทศไทยอย่างต่อเนื่องจนเรากลายเป็นประเทศที่เรียกว่าเป็น Net Creditor Nation คือเป็นประเทศที่มีเงินฝากเป็นเงินตราต่างประเทศมากกว่าเงินกู้ต่างประเทศ โดยรวมตัวเลขทั้งภาครัฐและภาคเอกชนด้วย เป็นครั้งแรกของไทย
สรุปก็คือว่าถ้าเรามียุทธศาสตร์การเงินและการทำงานที่ควบคู่กันได้ดี เราจะสร้างTrust & Confident ให้กับองค์กรของเรา(ซึ่งในที่นี้ก็คือประเทศ) แล้วเราจะเติบโตได้ เพราะจะมีเงินทุนเข้ามาให้เราได้ใช้บริหารและสร้างรายได้อย่างไม่จำกัดครับ วันนี้เอาเท่านี้ก่อนครับ////
Subscribe to:
Posts (Atom)