Saturday, April 16, 2016

ภาพเป็นข่าว


ภาพเป็นข่าว


ใครคือคนจ้าง........... ทรราช ประยุทธ์ ทำรัฐประหาร

ใครคือคนจ้าง........... ทรราช ประยุทธ์ ทำรัฐประหาร

สิ้นแล้ว............ทรราช ประยุทธ์ตายคาที่ ถูกกระชากหน้ากาก จับโกหกได้ แต่ทำเป็นเฉย กรณีรับสินบน"นายเจริญ-นางวรรณา( นอมินีทุนอำมาตย์สามานตย์" ในรูปแบบการซื้อที่ดินไร้ราคาของพ่อประยุทธ์ให้ราคาสูงเกินจริงไปได้ถึง 600 ล้าน เจาะฐานข้อมูลปานามาลีก แล้วทรราช ประยุทธ์เน่าแน่ก่อนจะเรียกคนไทย 21 คนที่มีรายชื่อในปานามาลีกมาสอบ เอาเรื่องฉาวโฉ่ที่เสี่ยเจริญ-นางวรรณายกเอาเงินส่วนที่ฟอกอยู่เมืองนอกมาจ้างทรราช ประยุทธ์ทำการยึดอำนาจก่อนเลย

-
คนไทยสิ้นสงสัย!เสี่ยเจริญโยก"หุ้นใหญ่"ซื้อที่ดินห่างไกลความเจริญของพ่อประยุทธ์ มีที่อยู่ชื่อบริษัทของเสี่ยเจริญบนเกาะบริติชเวอร์จิน แหล่งฟอกเงินผิดกฎหมายของมาเฟียทั่วโลก หนึ่งในนั้นคือ นายเจริญ-นางวรรณา ผัวเมียนักธุรกิจชั่วจ้างพลเอกประยุทธ์ยึดอำนาจ 22 พ.ค.57 หลังจากยึดอำนาจบริษัทเสี่ยเจริญ-นางวรรณาได้รับประโยชน์เอื้อทางธุรกิจมากมาย ประจานนายเจริญ-นางวรรณาได้เน่าไปทั่วโลกแล้ว
-
บิดาทรราช ประยุทธ์แก่มากแล้ว ไม่อยากลวงโลกเหมือนลูกชาย เกิดความไม่สบายใจรับราชการมาจนเกษียณแค่พันเอก และไม่เคยมีเงินมากพอสะสมซื้อที่ดินทิ้งไว้จนขายได้ราคาสูง 600 ล้าน เวรกรรมที่ประยุทธ์ก่อกรรมทำเข็ญ อย่ายกให้พ่อที่แก่เฒ่า พ่อไม่รู้เรื่อง ไม่สนใจอะไรแล้ว ตอนนี้นอนอย่างเดียว
-
ข้อมูลเพิ่มเติม http://isranews.org/isranews-scoop/item/34206-com02_34206.html



ใครคือคนจ้าง........... ทรราช ประยุทธ์ ทำรัฐประหาร

ใครคือคนจ้าง........... ทรราช ประยุทธ์ ทำรัฐประหาร

สิ้นแล้ว............ทรราช ประยุทธ์ตายคาที่ ถูกกระชากหน้ากาก จับโกหกได้ แต่ทำเป็นเฉย กรณีรับสินบน"นายเจริญ-นางวรรณา( นอมินีทุนอำมาตย์สามานตย์" ในรูปแบบการซื้อที่ดินไร้ราคาของพ่อประยุทธ์ให้ราคาสูงเกินจริงไปได้ถึง 600 ล้าน เจาะฐานข้อมูลปานามาลีก แล้วทรราช ประยุทธ์เน่าแน่ก่อนจะเรียกคนไทย 21 คนที่มีรายชื่อในปานามาลีกมาสอบ เอาเรื่องฉาวโฉ่ที่เสี่ยเจริญ-นางวรรณายกเอาเงินส่วนที่ฟอกอยู่เมืองนอกมาจ้างทรราช ประยุทธ์ทำการยึดอำนาจก่อนเลย

-
คนไทยสิ้นสงสัย!เสี่ยเจริญโยก"หุ้นใหญ่"ซื้อที่ดินห่างไกลความเจริญของพ่อประยุทธ์ มีที่อยู่ชื่อบริษัทของเสี่ยเจริญบนเกาะบริติชเวอร์จิน แหล่งฟอกเงินผิดกฎหมายของมาเฟียทั่วโลก หนึ่งในนั้นคือ นายเจริญ-นางวรรณา ผัวเมียนักธุรกิจชั่วจ้างพลเอกประยุทธ์ยึดอำนาจ 22 พ.ค.57 หลังจากยึดอำนาจบริษัทเสี่ยเจริญ-นางวรรณาได้รับประโยชน์เอื้อทางธุรกิจมากมาย ประจานนายเจริญ-นางวรรณาได้เน่าไปทั่วโลกแล้ว
-
บิดาทรราช ประยุทธ์แก่มากแล้ว ไม่อยากลวงโลกเหมือนลูกชาย เกิดความไม่สบายใจรับราชการมาจนเกษียณแค่พันเอก และไม่เคยมีเงินมากพอสะสมซื้อที่ดินทิ้งไว้จนขายได้ราคาสูง 600 ล้าน เวรกรรมที่ประยุทธ์ก่อกรรมทำเข็ญ อย่ายกให้พ่อที่แก่เฒ่า พ่อไม่รู้เรื่อง ไม่สนใจอะไรแล้ว ตอนนี้นอนอย่างเดียว
-
ข้อมูลเพิ่มเติม http://isranews.org/isranews-scoop/item/34206-com02_34206.html



มาร์คกลายเป็นแม้ว....!!! มันก็เท่ากับความเป็นไปไม่ได้ นั้นเอง

ผมอ่านบทความนี้แล้ว ตอนแรกแปลกใจ  แต่พออ่านเนื้อในก็เข้าใจว่า คุณ ใบตองสื่ออะไร  คำว่ามารค์เป็นแม้วนั้น มันคือเป็นไปไม่ได้ นั้นเอง

-------------------------------------------------------------------------

มาร์คกลายเป็นแม้ว....!!!

ใบตองแห้ง
 
คืนก่อนผมนอนฝันร้าย ฝันว่าพรรคประชาธิปัตย์ได้เป็น นายกฯ เหมือนปี 2535 ตื่นมา อ้าวที่ไหนได้ โดนจับกล่องยาสามัญประจำบ้าน ยังดีที่ไม่โดนความผิดฐานเป็นภัยความมั่นคง เพราะหมอวรงค์ยืนยัน เทียบ "ขันแดง" ไม่ได้ นั่นขันของทักษิณ "ผู้เหิมเกริมในอำนาจ"
 
-
แหมโดนจับกระทั่งขัน ยังเป็น "ผู้เหิมเกริมในอำนาจ" ฉลาดพูดนะ รัฐบาลเพื่อไทยเคยจับยาสามัญประจำบ้านหรือ
 
-
ปชป.อุตส่าห์โชว์ฟอร์มพระเอก แถลงไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญ ไม่เห็นด้วยและไม่รับคำถามพ่วง พร้อมเรียกร้องประชามติเปิดกว้างให้คัดค้านโดยเสรี ที่ไหนได้ แทนที่จะได้ดอกไม้กลับโดนก้อนอิฐ ไม่ใช่แค่ คสช. แต่จากสื่อและแฟนคลับคนชั้นกลางที่เคยเชียร์ขัดขวาง เอ๊ย บอยคอตเลือกตั้งนั่นเอง
 
-
สุดหล่ออย่างอภิสิทธิ์ ยังไม่พ้นข้อหา "รัฐธรรมนูญปราบโกง นักการเมืองต่อต้านแปลว่านักการเมืองโกง" ทั้งที่อุตส่าห์ไม่เห็นด้วยกับร่างมีชัยแบบข้างๆ คูๆ เช่น อ้างว่าปราบโกงไม่หนำใจ ทำไมยกเลิกถอดถอน ฯลฯ ตรงข้ามกับ "นิติราษฎร์" หรือ "ประชาธิปไตยใหม่" ที่คัดค้านการให้อำนาจศาลองค์กรอิสระล้นเกิน
 
-
โถจะให้อภิสิทธิ์วิจารณ์อำนาจศาลองค์กรอิสระได้ไง ในเมื่อได้เป็นนายกฯ เพราะศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคพลังประชาชน
 
-
คนอีกข้างเลยยังไม่เชื่อใจ มองว่า "มาร์ค" แทงกั๊ก ขณะที่แฟนคลับก็สับสน บางคนเห็นตาม แต่บางคนที่เปลี่ยนไปเป็นแฟนคลับ "ลุงตู่" ก็ด่าเช็ด นักการเมืองไม่ต่างกัน อยากได้อำนาจจากเลือกตั้งแล้วเข้ามาคอร์รัปชั่น สู้ทหารที่ได้อำนาจจากรัฐประหารไม่ได้ ซื่อตรงที่ซู้ด รัฐประหารมีพระคุณ ปฏิรูปบ้านเมือง ทำเพื่อประชาชนนับแสนโครงการ นี่ถ้า คสช.ทำสำเร็จนะ ประชาชนจะไม่เลือกนักการเมืองอีกแล้ว
 
-
"เผด็จการสร้าง ประชาธิปไตยผลาญ" คนไทยชูคำขวัญอวดชาวโลก แต่ไม่ทราบว่านับรวมยุคสฤษดิ์ ถนอม ที่ลงเอยด้วยยึดทรัพย์และนองเลือดไหม รัฐบาลหอยก็มาจาก 6 ตุลา รสช.ขาลงก็นองเลือด คมช.ก็ฝากวิกฤตไว้ 8 ปี
 
-
เพิ่งเห็นยุคนี้สมัยนี้แหละ ที่นักการเมืองถูกเฉดหัวว่าไม่ใช่ตัวแทนประชาชน ออกมาพูดไม่รับร่าง ไม่รับคำถามพ่วง ถูกชี้หน้าว่าชี้นำประชาชน ล่วงล้ำสิทธิประชาชน ไม่ให้เกียรติประชาชน ฯลฯ
 
-
อ้าวแล้วที่ให้ ส.ว.มาจากสรรหา ให้เกียรติประชาชนไหม ประชาชนไม่สามารถเลือกคนดีได้ ต้องให้ ส.ว.ร่วมเลือก นายกฯ กับ ส.ส.
 
-
ร่างรัฐธรรมนูญพ่วงคำถาม ดีงามเหลือเกิน กรธ.โฆษณาสรรพคุณ "ขื่อแปของบ้านเมือง" บางคนเอาไปตีขลุม ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญคือไม่ยอมรับขื่อแป ไปๆ มาๆ คนล้มเลือกตั้ง ล้มรัฐธรรมนูญ ล้วนถูกและดี แต่พอร่างรัฐธรรมนูญมาให้ลงประชามติ กลับบอกว่าใครไม่รับชั่วเลว ไม่ยอมรับกติกา แล้วก็เตรียมข้อหาไว้ไม่อั้น บิดเบือน ชี้นำ ปลุกระดม คุก 10 ปี สวนทางพม่าปล่อยนักโทษการเมือง
 
-
บางคนบอกว่านักการเมืองถ้าไม่รับร่างรัฐธรรมนูญก็ไม่ต้องลงเลือกตั้ง เอ๊ะ ถ้างั้นชาวบ้านไม่รับร่าง ก็ต้องไม่มีสิทธิเลือกตั้ง ไม่มีสิทธิเรียนฟรี สิทธิรักษาพยาบาล ฯลฯ สิครับ สิทธิเหล่านี้เป็นของประชาชนมาก่อน ไม่ใช่รัฐธรรมนูญนี้ประทานให้ เช่นเดียวกับ "อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชน" สิทธิเลือกตั้ง สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นของเราอยู่แล้ว แต่รัฐประหารระงับไว้ชั่วคราว ไม่ใช่บุญคุณของร่างรัฐธรรมนูญให้สิทธิเลือกตั้ง ที่โต้แย้งกันคือคืนสิทธิและอำนาจไม่เต็ม ต่างหาก
 
-
นี่คนละเรื่องนะครับกับความรับผิดชอบของ สนช. สปท. ซึ่งควรประกาศไม่เป็น ส.ว.สรรหา เพราะตั้งคำถามพ่วงไว้ถ้ามาเป็นโดยประชาชนไม่ได้เลือก ก็จะถูกครหา "ชงเองกินเอง" ตรงกันข้ามถ้าจะสมัคร ส.ส. ก็เชิญตามสบาย ขอให้มีคนเลือก
 
-
เมื่อเห็นนักการเมืองไม่ใช่ตัวแทนประชาชน ก็ดีเหมือนกัน จะได้วัดใจชาวบ้าน เพราะเลือกตั้งปี"54 พรรคเพื่อไทยประชาธิปัตย์ได้คะแนนรวมกัน 27 ล้านเสียง ลองดูซิจะเหลือแค่ไหน โดยเฉพาะในคำถามพ่วง อย่าลืมนะว่าต่อให้ร่างผ่านแต่คำถามพ่วงไม่ผ่าน ก็ต้องมีคนรับผิดชอบเช่นกัน
 
-
ประเด็นสำคัญคือถ้าแยกแยะผลลัพธ์ ก็ไม่ทราบลงประชามติแล้วจะได้อะไร ถ้าร่างไม่ผ่าน คำถามไม่ผ่าน ไม่ว่าข้อไหน ผลลัพธ์จะทำให้ปั่นป่วน อย่าพูดเลยว่า "ไม่รับก็ร่างใหม่" ถึงตอนนั้นมันไม่ง่ายอย่างที่พูดหรอก หรือถ้าร่างผ่าน คำถามพ่วงผ่าน ทั้งที่ 2 พรรคใหญ่ค้าน แล้วจะมีเลือกตั้งไปทำไม ในเมื่อผู้มีอำนาจก็ไม่ไว้วางใจนักการเมืองเช่นกัน
 
-
มีเลือกตั้งบอกชาวโลก ในขณะที่ความขัดแย้งรออยู่เห็นๆ เพียงแต่เปลี่ยนขั้วขัดแย้งใหม่ ระหว่าง คสช.กับ 2 พรรคใหญ่ เท่านั้นเอง


มาร์คกลายเป็นแม้ว....!!! มันก็เท่ากับความเป็นไปไม่ได้ นั้นเอง

ผมอ่านบทความนี้แล้ว ตอนแรกแปลกใจ  แต่พออ่านเนื้อในก็เข้าใจว่า คุณ ใบตองสื่ออะไร  คำว่ามารค์เป็นแม้วนั้น มันคือเป็นไปไม่ได้ นั้นเอง

-------------------------------------------------------------------------

มาร์คกลายเป็นแม้ว....!!!

ใบตองแห้ง
 
คืนก่อนผมนอนฝันร้าย ฝันว่าพรรคประชาธิปัตย์ได้เป็น นายกฯ เหมือนปี 2535 ตื่นมา อ้าวที่ไหนได้ โดนจับกล่องยาสามัญประจำบ้าน ยังดีที่ไม่โดนความผิดฐานเป็นภัยความมั่นคง เพราะหมอวรงค์ยืนยัน เทียบ "ขันแดง" ไม่ได้ นั่นขันของทักษิณ "ผู้เหิมเกริมในอำนาจ"
 
-
แหมโดนจับกระทั่งขัน ยังเป็น "ผู้เหิมเกริมในอำนาจ" ฉลาดพูดนะ รัฐบาลเพื่อไทยเคยจับยาสามัญประจำบ้านหรือ
 
-
ปชป.อุตส่าห์โชว์ฟอร์มพระเอก แถลงไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญ ไม่เห็นด้วยและไม่รับคำถามพ่วง พร้อมเรียกร้องประชามติเปิดกว้างให้คัดค้านโดยเสรี ที่ไหนได้ แทนที่จะได้ดอกไม้กลับโดนก้อนอิฐ ไม่ใช่แค่ คสช. แต่จากสื่อและแฟนคลับคนชั้นกลางที่เคยเชียร์ขัดขวาง เอ๊ย บอยคอตเลือกตั้งนั่นเอง
 
-
สุดหล่ออย่างอภิสิทธิ์ ยังไม่พ้นข้อหา "รัฐธรรมนูญปราบโกง นักการเมืองต่อต้านแปลว่านักการเมืองโกง" ทั้งที่อุตส่าห์ไม่เห็นด้วยกับร่างมีชัยแบบข้างๆ คูๆ เช่น อ้างว่าปราบโกงไม่หนำใจ ทำไมยกเลิกถอดถอน ฯลฯ ตรงข้ามกับ "นิติราษฎร์" หรือ "ประชาธิปไตยใหม่" ที่คัดค้านการให้อำนาจศาลองค์กรอิสระล้นเกิน
 
-
โถจะให้อภิสิทธิ์วิจารณ์อำนาจศาลองค์กรอิสระได้ไง ในเมื่อได้เป็นนายกฯ เพราะศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคพลังประชาชน
 
-
คนอีกข้างเลยยังไม่เชื่อใจ มองว่า "มาร์ค" แทงกั๊ก ขณะที่แฟนคลับก็สับสน บางคนเห็นตาม แต่บางคนที่เปลี่ยนไปเป็นแฟนคลับ "ลุงตู่" ก็ด่าเช็ด นักการเมืองไม่ต่างกัน อยากได้อำนาจจากเลือกตั้งแล้วเข้ามาคอร์รัปชั่น สู้ทหารที่ได้อำนาจจากรัฐประหารไม่ได้ ซื่อตรงที่ซู้ด รัฐประหารมีพระคุณ ปฏิรูปบ้านเมือง ทำเพื่อประชาชนนับแสนโครงการ นี่ถ้า คสช.ทำสำเร็จนะ ประชาชนจะไม่เลือกนักการเมืองอีกแล้ว
 
-
"เผด็จการสร้าง ประชาธิปไตยผลาญ" คนไทยชูคำขวัญอวดชาวโลก แต่ไม่ทราบว่านับรวมยุคสฤษดิ์ ถนอม ที่ลงเอยด้วยยึดทรัพย์และนองเลือดไหม รัฐบาลหอยก็มาจาก 6 ตุลา รสช.ขาลงก็นองเลือด คมช.ก็ฝากวิกฤตไว้ 8 ปี
 
-
เพิ่งเห็นยุคนี้สมัยนี้แหละ ที่นักการเมืองถูกเฉดหัวว่าไม่ใช่ตัวแทนประชาชน ออกมาพูดไม่รับร่าง ไม่รับคำถามพ่วง ถูกชี้หน้าว่าชี้นำประชาชน ล่วงล้ำสิทธิประชาชน ไม่ให้เกียรติประชาชน ฯลฯ
 
-
อ้าวแล้วที่ให้ ส.ว.มาจากสรรหา ให้เกียรติประชาชนไหม ประชาชนไม่สามารถเลือกคนดีได้ ต้องให้ ส.ว.ร่วมเลือก นายกฯ กับ ส.ส.
 
-
ร่างรัฐธรรมนูญพ่วงคำถาม ดีงามเหลือเกิน กรธ.โฆษณาสรรพคุณ "ขื่อแปของบ้านเมือง" บางคนเอาไปตีขลุม ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญคือไม่ยอมรับขื่อแป ไปๆ มาๆ คนล้มเลือกตั้ง ล้มรัฐธรรมนูญ ล้วนถูกและดี แต่พอร่างรัฐธรรมนูญมาให้ลงประชามติ กลับบอกว่าใครไม่รับชั่วเลว ไม่ยอมรับกติกา แล้วก็เตรียมข้อหาไว้ไม่อั้น บิดเบือน ชี้นำ ปลุกระดม คุก 10 ปี สวนทางพม่าปล่อยนักโทษการเมือง
 
-
บางคนบอกว่านักการเมืองถ้าไม่รับร่างรัฐธรรมนูญก็ไม่ต้องลงเลือกตั้ง เอ๊ะ ถ้างั้นชาวบ้านไม่รับร่าง ก็ต้องไม่มีสิทธิเลือกตั้ง ไม่มีสิทธิเรียนฟรี สิทธิรักษาพยาบาล ฯลฯ สิครับ สิทธิเหล่านี้เป็นของประชาชนมาก่อน ไม่ใช่รัฐธรรมนูญนี้ประทานให้ เช่นเดียวกับ "อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชน" สิทธิเลือกตั้ง สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นของเราอยู่แล้ว แต่รัฐประหารระงับไว้ชั่วคราว ไม่ใช่บุญคุณของร่างรัฐธรรมนูญให้สิทธิเลือกตั้ง ที่โต้แย้งกันคือคืนสิทธิและอำนาจไม่เต็ม ต่างหาก
 
-
นี่คนละเรื่องนะครับกับความรับผิดชอบของ สนช. สปท. ซึ่งควรประกาศไม่เป็น ส.ว.สรรหา เพราะตั้งคำถามพ่วงไว้ถ้ามาเป็นโดยประชาชนไม่ได้เลือก ก็จะถูกครหา "ชงเองกินเอง" ตรงกันข้ามถ้าจะสมัคร ส.ส. ก็เชิญตามสบาย ขอให้มีคนเลือก
 
-
เมื่อเห็นนักการเมืองไม่ใช่ตัวแทนประชาชน ก็ดีเหมือนกัน จะได้วัดใจชาวบ้าน เพราะเลือกตั้งปี"54 พรรคเพื่อไทยประชาธิปัตย์ได้คะแนนรวมกัน 27 ล้านเสียง ลองดูซิจะเหลือแค่ไหน โดยเฉพาะในคำถามพ่วง อย่าลืมนะว่าต่อให้ร่างผ่านแต่คำถามพ่วงไม่ผ่าน ก็ต้องมีคนรับผิดชอบเช่นกัน
 
-
ประเด็นสำคัญคือถ้าแยกแยะผลลัพธ์ ก็ไม่ทราบลงประชามติแล้วจะได้อะไร ถ้าร่างไม่ผ่าน คำถามไม่ผ่าน ไม่ว่าข้อไหน ผลลัพธ์จะทำให้ปั่นป่วน อย่าพูดเลยว่า "ไม่รับก็ร่างใหม่" ถึงตอนนั้นมันไม่ง่ายอย่างที่พูดหรอก หรือถ้าร่างผ่าน คำถามพ่วงผ่าน ทั้งที่ 2 พรรคใหญ่ค้าน แล้วจะมีเลือกตั้งไปทำไม ในเมื่อผู้มีอำนาจก็ไม่ไว้วางใจนักการเมืองเช่นกัน
 
-
มีเลือกตั้งบอกชาวโลก ในขณะที่ความขัดแย้งรออยู่เห็นๆ เพียงแต่เปลี่ยนขั้วขัดแย้งใหม่ ระหว่าง คสช.กับ 2 พรรคใหญ่ เท่านั้นเอง


รัฐบาลโจร คสช.​แดกด่วนและแดกยาวในโครงการเมกกะโปรเจคใดบ้าง?

Via #กูต้องใด้ 100 ล้าน

การพัฒนาโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศในปี 2558-2559 ระยะเร่งด่วน 20 โครงการ 

วงเงินรวม 1.796 ล้านล้านบาท 

#โครงการที่ได้เริ่มก่อสร้างแล้ว คือ 

1. รถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น ระยะทาง 185 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 2.6 หมื่นล้านบาท การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ได้ลงนามกับผู้รับเหมาเพื่อเริ่มก่อสร้างไปตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยจะใช้เวลาดำเนินการรวม 36 เดือน จะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการได้ในเดือนมกราคม 2562 

2. ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สายพัทยา-มาบตาพุด ระยะทาง 32 กม. วงเงิน 2 หมื่นล้านบาท ที่แบ่งการก่อสร้างออกเป็น 13 สัญญา กรมทางหลวง (ทล.) ได้ประกวดราคาและเริ่มทยอยลงนามกับบริษัทผู้รับเหมาที่ชนะการประมูลเพื่อเริ่มดำเนินการก่อสร้างไปแล้วตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมามีกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดให้บริการในปี 2562 

3. โครงการพัฒนาท่าเทียบเรือชายฝั่ง (ท่าเทียบเรือ A) ที่ท่าเรือแหลมฉบัง วงเงิน 1.86 พันล้านบาท อยู่ระหว่างการก่อสร้างแล้ว โดยการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ได้ลงนามกับบริษัทผู้รับเหมาไปเมื่อเดือนธันวาคม 2558 กำหนดแล้วเสร็จในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2560 เปิดให้บริการในปี 2561 

#โครงการที่อยู่ระหว่างการประกวดราคา

4. มอเตอร์เวย์ สายบางปะอิน-นครราชสีมา ระยะทาง 196 กม. วงเงิน 8.46 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น 40 สัญญา ปัจจุบันอยู่ระหว่างประกวดราคางานโยธา โดยได้เปิดซองประกวดราคาตอนที่ 7 ทางแยกต่างระดับสระบุรีแล้ว ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนต่อรองราคา คาดว่า ทล.จะลงนามกับผู้รับเหมาได้ในวันที่ 29 เมษายนนี้ ส่วนตอนที่เหลืออยู่ระหว่างประกวดราคาเช่นเดียวกัน กำหนดแล้วเสร็จและเปิดให้บริการในปี 2563 

5. การพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 วงเงิน 5.16 หมื่นล้านบาท บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.ได้ประกาศขายซองประกวดราคาแล้ว 2 งาน คือ งานจ้างก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (ชั้น B2 ชั้น B1 และชั้น G) ลานจอดอากาศยานประชิดอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 และส่วนต่อเชื่อมอุโมงค์ด้านทิศใต้ และงานจ้างก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค กำหนดให้ยื่นซองวันที่ 21 มิถุนายนนี้ คาดว่าจะเริ่มการก่อสร้างได้ในเดือนสิงหาคมนี้ 

6. การพัฒนาศูนย์การขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 1 วงเงิน 2 พันล้านบาท ได้ประกวดราคาแล้ว โดยจะลงนามในสัญญากับบริษัทผู้รับเหมาในเดือนเมษายนนี้ เริ่มก่อสร้างเดือนพฤษภาคม แล้วเสร็จปี 2561

#โครงการที่ผ่านการพิจารณาจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อจัดทำรายละเอียดประกวดราคา 

7. รถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ระยะทาง 34.5 กม. วงเงิน 5.34 หมื่นล้านบาท ครม.ได้อนุมัติไปเมื่อวันที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมา การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) จะใช้เวลา 3 เดือนกำหนดรายละเอียดต่างๆ จากนั้นจะเปิดประกวดราคาได้ในเดือนมิถุนายน มีกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดบริการปี 2562 

8. รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ระยะทาง 29.1 กม. วงเงิน 5.1 หมื่นล้านบาท ก็เป็นอีกโครงการที่ ครม.ได้อนุมัติไปเมื่อวันที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมา รฟม.จะใช้เวลา 3 เดือน กำหนดรายละเอียดก่อนเปิดประกวดราคาได้เดือนมิถุนายน ก่อสร้างแล้วเสร็จเปิดบริการปี 2562 เช่นเดียวกัน 

#โครงการที่บอร์ดอนุมัติ -คณะกรรมการ (บอร์ด) ได้อนุมัติ และอยู่ระหว่างการเสนอกระทรวงคมนาคม เพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาของ ครม. 

9. รถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กม. วงเงิน 2.98 หมื่นล้านบาท บอร์ด ร.ฟ.ท.อนุมัติโครงการแล้ว อยู่ระหว่างนำเสนอกระทรวงคมนาคม เพื่อนำเข้า ครม.อนุมัติ คาดว่าจะประกวดราคาได้ไม่เกินเดือนกันยายน ลงนามในสัญญาเดือนตุลาคม ก่อสร้างแล้วเสร็จเดือนกันยายน 2562 

10. รถไฟทางคู่ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 148 กม. วงเงิน 2.48 หมื่นล้านบาท บอร์ด ร.ฟ.ท.อนุมัติแล้วเช่นเดียวกัน อยู่ระหว่างนำเสนอกระทรวงคมนาคม เพื่อนำเข้า ครม.อนุมัติ คาดว่าจะประกวดราคาได้ระหว่างเดือนกรกฎาคม-พฤศจิกายน ลงนามในสัญญาเดือนธันวาคม ก่อสร้างเสร็จเดือนธันวาคม 2562 

11. รถไฟทางคู่ ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 167 กม. วงเงิน 1.72 หมื่นล้านบาท อยู่ระหว่างการพิจารณาของกระทรวงคมนาคม เพื่อเสนอ ครม.อนุมัติแล้ว มีกำหนดประกวดราคาไม่เกินเดือนสิงหาคม ลงนามในสัญญากันยายน ก่อสร้างแล้วเสร็จปี 2562 

12. รถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี ระยะทาง 21 กม. วงเงิน 1.1 แสนล้านบาท บอร์ด รฟม.อนุมัติแล้ว กระทรวงคมนาคมจะนำเสนอ ครม.ในเดือนเมษายนนี้ จากนั้นจะใช้เวลาประมาณ 3 เดือน กำหนดรายละเอียดเงื่อนไขการประกวดราคา (ทีโออาร์) เพื่อเปิดประกวดราคาหาผู้รับเหมาเข้ามาก่อสร้างได้ 

#โครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการตามขั้นตอน 

13. มอเตอร์เวย์ สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ระยะทาง 96 กม. วงเงิน 5.56 หมื่นล้านบาท อยู่ระหว่างทบทวนรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนเมษายนนี้ แบ่งก่อสร้างออกเป็น 25 สัญญา และงานระบบ 1 สัญญา กำหนดลงนามกับผู้รับเหมาได้ในวันที่ 31 กรกฎาคม แล้วเสร็จพร้อมเปิดบริการในปี 2563 

14. รถไฟทางคู่ ช่วงนครปฐม-หัวหิน ระยะทาง 165 กม. วงเงิน 2 หมื่นล้านบาท อยู่ระหว่างขั้นตอนอีไอเอเช่นเดียวกัน กำหนดประกวดราคาระหว่างเดือนกรกฎาคม?พฤศจิกายน ลงนามในสัญญาเดือนธันวาคม ก่อสร้างเสร็จเดือนธันวาคม 2562 

15. โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ ระยะทาง 23.6 กม. วงเงิน 1.31 แสนล้านบาท อยู่ระหว่างอีไอเอเพิ่มเติมส่วนต่อขยายช่วงราษฎร์บูรณะ-วงแหวนกาญจนาภิเษก ประมาณ 5 กม. เพราะมีการย้ายศูนย์ซ่อมบำรุงออกไป ตามแผนเดิมจะเข้า ครม.ในเดือนเมษายนนี้ 

#โครงการที่เหลือก็อยู่ระหว่างดำเนินการ  

16. โครงการความร่วมมือรถไฟไทย-จีน หรือรถไฟความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 250 กม. วงเงิน 1.7 แสนล้านบาท #ขณะนี้อยู่ระหว่างสรุปรายละเอียดการดำเนินโครงการโดยเฉพาะเรื่องของแหล่งเงินกู้รวมถึงวงเงินค่าก่อสร้างที่ชัดเจน หลังได้กำหนดให้ไทยลงทุนเองทั้งหมด แต่ยังใช้เทคโนโลยีของจีนตามกรอบความร่วมมือเดิม ซึ่งไทยและจีนจะมีการประชุมร่วมกันอย่างเป็นทางการครั้งที่ 10 ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน หลังเทศกาลสงกรานต์ ตั้งเป้าหมายก่อสร้างระหว่างเดือนสิงหาคม-กันยายนนี้ เปิดบริการปี 2562  

17. รถไฟความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพฯ-หัวหิน ระยะทาง 211 กม. วงเงิน 9.46 หมื่นล้านบาท เมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ร.ฟ.ท.ได้เสนอรายละเอียดผลการศึกษาเกี่ยวกับรูปแบบการร่วมทุน และการบริหารโครงการเสนอให้กระทรวงคมนาคมพิจารณา ก่อนนำเสนอให้คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ดำเนินการตามกระบวนการให้เอกชนร่วมทุน(พีพีพี)ต่อไป 

18. รถไฟความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพฯ-พัทยา-ระยอง ระยะทาง 193.5 กม. วงเงิน 1.52 แสนล้านบาท ได้เสนอรายละเอียดผลการศึกษาเกี่ยวกับรูปแบบการร่วมทุน และการบริหารโครงการเสนอให้กระทรวงคมนาคมพิจารณา เพื่อนำเสนอ สคร.ดำเนินการตามกระบวนการพีพีพีแล้วเช่นเดียวกัน 

19. โครงการความร่วมมือด้านระบบรางไทย-ญี่ปุ่น โดยเฉพาะรถไฟความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ระยะทาง 672 กม. ยังอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ของทางญี่ปุ่น คาดว่าจะก่อสร้างได้ในปี 2561 

20. ระบบรถไฟชานเมือง สายสีแดงอ่อน ช่วงบางซื่อ-พญาไท-มักกะสัน-หัวหมาก และสายสีแดงเข้ม ช่วงบางซื่อ-หัวลำโพง ระยะทาง 21 กม. วงเงิน 1.1 แสนล้านบาท ร.ฟ.ท.คาดว่าจะประกวดราคาได้เดือนกรกฎาคมนี้

#เพิ่มเติมโครงการเร่งด่วน

กระทรวงคมนาคม จะนำส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงสมุทรปราการ-บางปู ระยะทาง 7 กม. วงเงิน 1.3 หมื่นล้านบาท และช่วงคูคต-ลำลูกกา ระยะทาง 7 กม. วงเงิน 1.9 หมื่นล้านบาท ขึ้นมาเป็นโครงการระยะเร่งด่วนด้วย 

ขณะนี้อยู่ระหว่างปรับแบบ 
คาดว่าอีก 2-3 เดือน จะเสนอ ครม.ได้

เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2559 ที่ผ่านมา บอร์ด ร.ฟ.ท.ได้อนุมัติรถไฟทางคู่เส้นทางใหม่เพิ่มเติมอีก 2 สาย คือ 

- สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 363 กม. วงเงิน 7.69 หมื่นล้านบาท 

- สายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม ระยะทาง 355 กม. วงเงิน 6 หมื่นล้านบาท 

รวมวงเงิน 2 โครงการกว่า 1.37 แสนล้านบาท 

หลังจากนี้จะส่งเรื่องให้กระทรวงคมนาคมพิจารณา ก่อน ครม. เห็นชอบโครงการภายในเดือนพฤษภาคม-มิถุนายนนี้ 

จากนั้นจะจัดทำเงื่อนไขการประกวดราคา (ทีโออาร์) และเปิดประกวดราคาได้ภายในเดือนตุลาคม 2559-มกราคม 2560 โดยจะดำเนินการควบคู่กับการเวนคืนที่ดินและอีไอเอ 

คาดว่าจะแล้วเสร็จในกลางปี 2561 จากนั้นจึงจะเริ่มก่อสร้างปลายปี 2561 ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 48 เดือน แล้วเสร็จทั้งหมดในปี 2565 

จะเดินหน้าได้ตามแผนงานที่กำหนดจริงหรือไม่ 

------ > ประชาชนมัวสนใจเรื่องอื่นๆ และเรื่องปากหมา 
จนลืมไปว่า ไอ้ตู่มันอนุมัติงบประมาณได้มหาศาล 
เงินภาษีประชาชน เงินกู้ เงินอนาคตทั้งนั้น 

ค่าหัวคิวยุคนี้ 30-40% ผู้รับเหมาต่างรู้กันดี 

กว่าจะเสร็จงานร่างรัฐธรรมนูญ คงอนุมัติกันไปอีกหลายโครงการ 
และแน่นอนมีหลายคนกระเป๋าตุง สบายใจเฉิบ

นี่คสช.ต้านคอรัปชั่นจริงๆ ใช่ไหม?

รัฐบาลโจร คสช.​แดกด่วนและแดกยาวในโครงการเมกกะโปรเจคใดบ้าง?

Via #กูต้องใด้ 100 ล้าน

การพัฒนาโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศในปี 2558-2559 ระยะเร่งด่วน 20 โครงการ 

วงเงินรวม 1.796 ล้านล้านบาท 

#โครงการที่ได้เริ่มก่อสร้างแล้ว คือ 

1. รถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น ระยะทาง 185 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 2.6 หมื่นล้านบาท การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ได้ลงนามกับผู้รับเหมาเพื่อเริ่มก่อสร้างไปตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยจะใช้เวลาดำเนินการรวม 36 เดือน จะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการได้ในเดือนมกราคม 2562 

2. ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สายพัทยา-มาบตาพุด ระยะทาง 32 กม. วงเงิน 2 หมื่นล้านบาท ที่แบ่งการก่อสร้างออกเป็น 13 สัญญา กรมทางหลวง (ทล.) ได้ประกวดราคาและเริ่มทยอยลงนามกับบริษัทผู้รับเหมาที่ชนะการประมูลเพื่อเริ่มดำเนินการก่อสร้างไปแล้วตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมามีกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดให้บริการในปี 2562 

3. โครงการพัฒนาท่าเทียบเรือชายฝั่ง (ท่าเทียบเรือ A) ที่ท่าเรือแหลมฉบัง วงเงิน 1.86 พันล้านบาท อยู่ระหว่างการก่อสร้างแล้ว โดยการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ได้ลงนามกับบริษัทผู้รับเหมาไปเมื่อเดือนธันวาคม 2558 กำหนดแล้วเสร็จในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2560 เปิดให้บริการในปี 2561 

#โครงการที่อยู่ระหว่างการประกวดราคา

4. มอเตอร์เวย์ สายบางปะอิน-นครราชสีมา ระยะทาง 196 กม. วงเงิน 8.46 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น 40 สัญญา ปัจจุบันอยู่ระหว่างประกวดราคางานโยธา โดยได้เปิดซองประกวดราคาตอนที่ 7 ทางแยกต่างระดับสระบุรีแล้ว ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนต่อรองราคา คาดว่า ทล.จะลงนามกับผู้รับเหมาได้ในวันที่ 29 เมษายนนี้ ส่วนตอนที่เหลืออยู่ระหว่างประกวดราคาเช่นเดียวกัน กำหนดแล้วเสร็จและเปิดให้บริการในปี 2563 

5. การพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 วงเงิน 5.16 หมื่นล้านบาท บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.ได้ประกาศขายซองประกวดราคาแล้ว 2 งาน คือ งานจ้างก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (ชั้น B2 ชั้น B1 และชั้น G) ลานจอดอากาศยานประชิดอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 และส่วนต่อเชื่อมอุโมงค์ด้านทิศใต้ และงานจ้างก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค กำหนดให้ยื่นซองวันที่ 21 มิถุนายนนี้ คาดว่าจะเริ่มการก่อสร้างได้ในเดือนสิงหาคมนี้ 

6. การพัฒนาศูนย์การขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 1 วงเงิน 2 พันล้านบาท ได้ประกวดราคาแล้ว โดยจะลงนามในสัญญากับบริษัทผู้รับเหมาในเดือนเมษายนนี้ เริ่มก่อสร้างเดือนพฤษภาคม แล้วเสร็จปี 2561

#โครงการที่ผ่านการพิจารณาจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อจัดทำรายละเอียดประกวดราคา 

7. รถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ระยะทาง 34.5 กม. วงเงิน 5.34 หมื่นล้านบาท ครม.ได้อนุมัติไปเมื่อวันที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมา การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) จะใช้เวลา 3 เดือนกำหนดรายละเอียดต่างๆ จากนั้นจะเปิดประกวดราคาได้ในเดือนมิถุนายน มีกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดบริการปี 2562 

8. รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ระยะทาง 29.1 กม. วงเงิน 5.1 หมื่นล้านบาท ก็เป็นอีกโครงการที่ ครม.ได้อนุมัติไปเมื่อวันที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมา รฟม.จะใช้เวลา 3 เดือน กำหนดรายละเอียดก่อนเปิดประกวดราคาได้เดือนมิถุนายน ก่อสร้างแล้วเสร็จเปิดบริการปี 2562 เช่นเดียวกัน 

#โครงการที่บอร์ดอนุมัติ -คณะกรรมการ (บอร์ด) ได้อนุมัติ และอยู่ระหว่างการเสนอกระทรวงคมนาคม เพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาของ ครม. 

9. รถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กม. วงเงิน 2.98 หมื่นล้านบาท บอร์ด ร.ฟ.ท.อนุมัติโครงการแล้ว อยู่ระหว่างนำเสนอกระทรวงคมนาคม เพื่อนำเข้า ครม.อนุมัติ คาดว่าจะประกวดราคาได้ไม่เกินเดือนกันยายน ลงนามในสัญญาเดือนตุลาคม ก่อสร้างแล้วเสร็จเดือนกันยายน 2562 

10. รถไฟทางคู่ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 148 กม. วงเงิน 2.48 หมื่นล้านบาท บอร์ด ร.ฟ.ท.อนุมัติแล้วเช่นเดียวกัน อยู่ระหว่างนำเสนอกระทรวงคมนาคม เพื่อนำเข้า ครม.อนุมัติ คาดว่าจะประกวดราคาได้ระหว่างเดือนกรกฎาคม-พฤศจิกายน ลงนามในสัญญาเดือนธันวาคม ก่อสร้างเสร็จเดือนธันวาคม 2562 

11. รถไฟทางคู่ ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 167 กม. วงเงิน 1.72 หมื่นล้านบาท อยู่ระหว่างการพิจารณาของกระทรวงคมนาคม เพื่อเสนอ ครม.อนุมัติแล้ว มีกำหนดประกวดราคาไม่เกินเดือนสิงหาคม ลงนามในสัญญากันยายน ก่อสร้างแล้วเสร็จปี 2562 

12. รถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี ระยะทาง 21 กม. วงเงิน 1.1 แสนล้านบาท บอร์ด รฟม.อนุมัติแล้ว กระทรวงคมนาคมจะนำเสนอ ครม.ในเดือนเมษายนนี้ จากนั้นจะใช้เวลาประมาณ 3 เดือน กำหนดรายละเอียดเงื่อนไขการประกวดราคา (ทีโออาร์) เพื่อเปิดประกวดราคาหาผู้รับเหมาเข้ามาก่อสร้างได้ 

#โครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการตามขั้นตอน 

13. มอเตอร์เวย์ สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ระยะทาง 96 กม. วงเงิน 5.56 หมื่นล้านบาท อยู่ระหว่างทบทวนรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนเมษายนนี้ แบ่งก่อสร้างออกเป็น 25 สัญญา และงานระบบ 1 สัญญา กำหนดลงนามกับผู้รับเหมาได้ในวันที่ 31 กรกฎาคม แล้วเสร็จพร้อมเปิดบริการในปี 2563 

14. รถไฟทางคู่ ช่วงนครปฐม-หัวหิน ระยะทาง 165 กม. วงเงิน 2 หมื่นล้านบาท อยู่ระหว่างขั้นตอนอีไอเอเช่นเดียวกัน กำหนดประกวดราคาระหว่างเดือนกรกฎาคม?พฤศจิกายน ลงนามในสัญญาเดือนธันวาคม ก่อสร้างเสร็จเดือนธันวาคม 2562 

15. โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ ระยะทาง 23.6 กม. วงเงิน 1.31 แสนล้านบาท อยู่ระหว่างอีไอเอเพิ่มเติมส่วนต่อขยายช่วงราษฎร์บูรณะ-วงแหวนกาญจนาภิเษก ประมาณ 5 กม. เพราะมีการย้ายศูนย์ซ่อมบำรุงออกไป ตามแผนเดิมจะเข้า ครม.ในเดือนเมษายนนี้ 

#โครงการที่เหลือก็อยู่ระหว่างดำเนินการ  

16. โครงการความร่วมมือรถไฟไทย-จีน หรือรถไฟความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 250 กม. วงเงิน 1.7 แสนล้านบาท #ขณะนี้อยู่ระหว่างสรุปรายละเอียดการดำเนินโครงการโดยเฉพาะเรื่องของแหล่งเงินกู้รวมถึงวงเงินค่าก่อสร้างที่ชัดเจน หลังได้กำหนดให้ไทยลงทุนเองทั้งหมด แต่ยังใช้เทคโนโลยีของจีนตามกรอบความร่วมมือเดิม ซึ่งไทยและจีนจะมีการประชุมร่วมกันอย่างเป็นทางการครั้งที่ 10 ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน หลังเทศกาลสงกรานต์ ตั้งเป้าหมายก่อสร้างระหว่างเดือนสิงหาคม-กันยายนนี้ เปิดบริการปี 2562  

17. รถไฟความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพฯ-หัวหิน ระยะทาง 211 กม. วงเงิน 9.46 หมื่นล้านบาท เมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ร.ฟ.ท.ได้เสนอรายละเอียดผลการศึกษาเกี่ยวกับรูปแบบการร่วมทุน และการบริหารโครงการเสนอให้กระทรวงคมนาคมพิจารณา ก่อนนำเสนอให้คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ดำเนินการตามกระบวนการให้เอกชนร่วมทุน(พีพีพี)ต่อไป 

18. รถไฟความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพฯ-พัทยา-ระยอง ระยะทาง 193.5 กม. วงเงิน 1.52 แสนล้านบาท ได้เสนอรายละเอียดผลการศึกษาเกี่ยวกับรูปแบบการร่วมทุน และการบริหารโครงการเสนอให้กระทรวงคมนาคมพิจารณา เพื่อนำเสนอ สคร.ดำเนินการตามกระบวนการพีพีพีแล้วเช่นเดียวกัน 

19. โครงการความร่วมมือด้านระบบรางไทย-ญี่ปุ่น โดยเฉพาะรถไฟความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ระยะทาง 672 กม. ยังอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ของทางญี่ปุ่น คาดว่าจะก่อสร้างได้ในปี 2561 

20. ระบบรถไฟชานเมือง สายสีแดงอ่อน ช่วงบางซื่อ-พญาไท-มักกะสัน-หัวหมาก และสายสีแดงเข้ม ช่วงบางซื่อ-หัวลำโพง ระยะทาง 21 กม. วงเงิน 1.1 แสนล้านบาท ร.ฟ.ท.คาดว่าจะประกวดราคาได้เดือนกรกฎาคมนี้

#เพิ่มเติมโครงการเร่งด่วน

กระทรวงคมนาคม จะนำส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงสมุทรปราการ-บางปู ระยะทาง 7 กม. วงเงิน 1.3 หมื่นล้านบาท และช่วงคูคต-ลำลูกกา ระยะทาง 7 กม. วงเงิน 1.9 หมื่นล้านบาท ขึ้นมาเป็นโครงการระยะเร่งด่วนด้วย 

ขณะนี้อยู่ระหว่างปรับแบบ 
คาดว่าอีก 2-3 เดือน จะเสนอ ครม.ได้

เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2559 ที่ผ่านมา บอร์ด ร.ฟ.ท.ได้อนุมัติรถไฟทางคู่เส้นทางใหม่เพิ่มเติมอีก 2 สาย คือ 

- สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 363 กม. วงเงิน 7.69 หมื่นล้านบาท 

- สายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม ระยะทาง 355 กม. วงเงิน 6 หมื่นล้านบาท 

รวมวงเงิน 2 โครงการกว่า 1.37 แสนล้านบาท 

หลังจากนี้จะส่งเรื่องให้กระทรวงคมนาคมพิจารณา ก่อน ครม. เห็นชอบโครงการภายในเดือนพฤษภาคม-มิถุนายนนี้ 

จากนั้นจะจัดทำเงื่อนไขการประกวดราคา (ทีโออาร์) และเปิดประกวดราคาได้ภายในเดือนตุลาคม 2559-มกราคม 2560 โดยจะดำเนินการควบคู่กับการเวนคืนที่ดินและอีไอเอ 

คาดว่าจะแล้วเสร็จในกลางปี 2561 จากนั้นจึงจะเริ่มก่อสร้างปลายปี 2561 ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 48 เดือน แล้วเสร็จทั้งหมดในปี 2565 

จะเดินหน้าได้ตามแผนงานที่กำหนดจริงหรือไม่ 

------ > ประชาชนมัวสนใจเรื่องอื่นๆ และเรื่องปากหมา 
จนลืมไปว่า ไอ้ตู่มันอนุมัติงบประมาณได้มหาศาล 
เงินภาษีประชาชน เงินกู้ เงินอนาคตทั้งนั้น 

ค่าหัวคิวยุคนี้ 30-40% ผู้รับเหมาต่างรู้กันดี 

กว่าจะเสร็จงานร่างรัฐธรรมนูญ คงอนุมัติกันไปอีกหลายโครงการ 
และแน่นอนมีหลายคนกระเป๋าตุง สบายใจเฉิบ

นี่คสช.ต้านคอรัปชั่นจริงๆ ใช่ไหม?

พร้อมเป็น “เม็ดกรวด” ในสะพานนำคนไทยก้าวข้ามความขัดแย้ง

พร้อมเป็น "เม็ดกรวด" ในสะพานนำคนไทยก้าวข้ามความขัดแย้ง

--------------------------

เมื่อวันที่ 15 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวัฒนา เมืองสุข ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยมีเนื้อหาเรียกร้องถึงความเป็นธรรม กรณีถูก คสช.เข้าควบคุมตัวไปปรับทัศนคติ ซึ่งล่าสุดเมื่อวันที่ 14 เมษายน ทหารได้เดินทางไปที่บ้านของตนอีกครั้ง ตนยืนยันว่าจะเข้าพบในวันที่ 18 เมษายนอย่างแน่นอน ขอให้ยกกำลังกลับไป นอกจากนี้ นายวัฒนายังระบุว่า ตนไม่เคยคิดท้าทายอำนาจ คสช. ในขณะเดียวกันก็ไม่เคยผิดข้อตกลงที่ทำไว้แต่อย่างใด ขออย่าบิดเบือนเพื่อใช้อำนาจตามอำเภอใจ อีกทั้งการนำตนไปปรับทัศนคติก็ไม่ได้ทำให้ตนเปลี่ยนความคิด พร้อมกับปิดท้ายว่า พร้อมเป็นเพียงเม็ดกรวดเล็กๆ ในสะพานที่จะนำคนไทยก้าวข้ามความขัดแย้ง จึงขอความกรุณาทบทวนคำสั่ง แล้วร่วมมือทำให้ประเทศไทยน่าอยู่สำหรับคนทุกสีจะดีกว่าหรือไม่ ดังข้อความต่อไปนี้

-
"ขอความเป็นธรรมให้ผมด้วย"
-

หลังจากที่ผมได้โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงว่า การแสดงความเห็นของผมที่ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญไม่เป็นความผิดตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 3/2558 แต่วานนี้ (14 เมษายน) ทหารก็ยังยกกำลังมาที่บ้านเพื่อจะควบคุมตัวผมไปปรับทัศนคติ โดยทีมโฆษก คสช.เปิดเผยสาเหตุการเชิญตัวว่า ผมให้ความเห็นในเชิงไม่สร้างสรรค์ ผิดข้อตกลงที่ให้ไว้ และมีเจตนาท้าทายอำนาจของ คสช. ขณะนี้กองกำลังยังปักหลักปิดหน้าบ้านจนลูกเมียผมเข้าบ้านไม่ได้ ต้องย้ายไปหาที่นอนใหม่ ยกกำลังกลับไปเถิดครับ วันจันทร์ที่ 18 เมษายน เวลา 11.00 น. ผมเสร็จธุระแล้วจะมาพบท่านแน่นอน อย่าใช้วิธีสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเลย ไม่ใช่วิธีของชายชาติทหารครับ

-
เมื่อคราวที่ คสช.ยึดอำนาจการปกครอง ผมและนักการเมืองอื่นประมาณ 200 คน ถูกเรียกไปรายงานตัวและถูกนำตัวควบคุมตัวเป็นเวลา 3-7 วัน ก่อนที่จะปล่อยตัวเจ้าหน้าที่ได้เอาเอกสารมาให้ผมลงนามมีเงื่อนไขว่า 
-
(1) จะไม่เดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่ได้รับอนุมัติจากหัวหน้า คสช. 
-
(2) จะละเว้นการเคลื่อนไหวหรือประชุมทางการเมือง ณ ที่ใดๆ และ 
-
(3) หากฝ่าฝืนหรือดำเนินการช่วยเหลือสนับสนุนกิจกรรมทางการเมือง ยินยอมถูกดำเนินคดีและระงับธุรกรรมทางการเงิน ดังนั้น การแสดงความเห็นของผมที่ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญซึ่งเหมือนกับที่หัวหน้าพรรคการเมืองและผู้บริหารของทั้งสองพรรค จึงไม่ได้เป็นการทำผิดข้อตกลงที่ให้ไว้ อีกทั้งการผิดข้อตกลงก็ไม่ได้ให้อำนาจ คสช.นำกำลังมาควบคุมตัวผมไปไหนทั้งสิ้นนะครับ

-
ท่านมีอำนาจที่จะดำเนินคดีหรือระงับธุรกรรมทางการเงินตามข้อตกลงเท่านั้น ทั้งนี้ เป็นตามข้อตกลงที่ผมโพสต์มาให้ดูเป็นหลักฐานด้วยแล้ว ขอความกรุณาอย่าบิดเบือนเพื่อใช้อำนาจตามอำเภอใจเลยครับ

-
ผมเป็นเพียงนักการเมืองเล็กๆ คนหนึ่งที่ต้องการเห็นบ้านเมืองมีความเจริญก้าวหน้า ผมเชื่อว่าการเปิดเสรีภาพทางความคิดจะนำไปสู่การพัฒนาอย่างสร้างสรรค์ ส่วนหลักนิติธรรมและประชาธิปไตยที่แท้จริงจะทำให้คนไทยทุกสีทุกกลุ่มสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ แม้จะคิดเห็นไม่ตรงกันก็ตาม ผมต่อสู้เพื่อหลักการที่ถูกต้อง ไม่ได้ทำเพื่อสีหรือกลุ่มการเมืองใด การแสดงความคิดเห็นของผมเป็นไปโดยสุจริตเพื่อส่วนรวม ผมไม่เคยโกรธกับการที่ท่านยกกำลังมาควบคุมตัวผม และได้อโหสิกรรมให้แล้วทุกครั้ง เพราะเชื่อว่าแม้เราจะมีความคิดที่ต่างกันแต่มีเป้าหมายตรงกันคือเพื่อประเทศชาติ แต่การที่ท่านยกกำลังมาควบคุมตัวผมทำให้ครอบครัวผมเดือดร้อน ลูกผมต้องออกมาต่อสู้เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยผม การนำตัวผมไปปรับทัศนคติไม่ได้ทำให้ผมเปลี่ยนความคิด ผมไม่เคยคิดท้าทายอำนาจของ คสช. ทั้งไม่ได้ทำผิดกฎหมายหรือข้อตกลงใดๆ เพียงแต่อาจคิดเห็นไม่เหมือนท่าน ผมพร้อมที่เป็นเพียงเม็ดกรวดเล็กๆ ในสะพานที่จะนำคนไทยก้าวข้ามความขัดแย้ง จึงขอความเป็นธรรมช่วยกรุณาทบทวนคำสั่ง มาร่วมมือกันทำประเทศไทยให้น่าอยู่สำหรับคนไทยทุกสีทุกกลุ่มดีกว่ามั้ยครับ

-

วัฒนา เมืองสุข
พรรคเพื่อไทย
15 เมษายน 2559



พร้อมเป็น “เม็ดกรวด” ในสะพานนำคนไทยก้าวข้ามความขัดแย้ง

พร้อมเป็น "เม็ดกรวด" ในสะพานนำคนไทยก้าวข้ามความขัดแย้ง

--------------------------

เมื่อวันที่ 15 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวัฒนา เมืองสุข ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยมีเนื้อหาเรียกร้องถึงความเป็นธรรม กรณีถูก คสช.เข้าควบคุมตัวไปปรับทัศนคติ ซึ่งล่าสุดเมื่อวันที่ 14 เมษายน ทหารได้เดินทางไปที่บ้านของตนอีกครั้ง ตนยืนยันว่าจะเข้าพบในวันที่ 18 เมษายนอย่างแน่นอน ขอให้ยกกำลังกลับไป นอกจากนี้ นายวัฒนายังระบุว่า ตนไม่เคยคิดท้าทายอำนาจ คสช. ในขณะเดียวกันก็ไม่เคยผิดข้อตกลงที่ทำไว้แต่อย่างใด ขออย่าบิดเบือนเพื่อใช้อำนาจตามอำเภอใจ อีกทั้งการนำตนไปปรับทัศนคติก็ไม่ได้ทำให้ตนเปลี่ยนความคิด พร้อมกับปิดท้ายว่า พร้อมเป็นเพียงเม็ดกรวดเล็กๆ ในสะพานที่จะนำคนไทยก้าวข้ามความขัดแย้ง จึงขอความกรุณาทบทวนคำสั่ง แล้วร่วมมือทำให้ประเทศไทยน่าอยู่สำหรับคนทุกสีจะดีกว่าหรือไม่ ดังข้อความต่อไปนี้

-
"ขอความเป็นธรรมให้ผมด้วย"
-

หลังจากที่ผมได้โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงว่า การแสดงความเห็นของผมที่ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญไม่เป็นความผิดตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 3/2558 แต่วานนี้ (14 เมษายน) ทหารก็ยังยกกำลังมาที่บ้านเพื่อจะควบคุมตัวผมไปปรับทัศนคติ โดยทีมโฆษก คสช.เปิดเผยสาเหตุการเชิญตัวว่า ผมให้ความเห็นในเชิงไม่สร้างสรรค์ ผิดข้อตกลงที่ให้ไว้ และมีเจตนาท้าทายอำนาจของ คสช. ขณะนี้กองกำลังยังปักหลักปิดหน้าบ้านจนลูกเมียผมเข้าบ้านไม่ได้ ต้องย้ายไปหาที่นอนใหม่ ยกกำลังกลับไปเถิดครับ วันจันทร์ที่ 18 เมษายน เวลา 11.00 น. ผมเสร็จธุระแล้วจะมาพบท่านแน่นอน อย่าใช้วิธีสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเลย ไม่ใช่วิธีของชายชาติทหารครับ

-
เมื่อคราวที่ คสช.ยึดอำนาจการปกครอง ผมและนักการเมืองอื่นประมาณ 200 คน ถูกเรียกไปรายงานตัวและถูกนำตัวควบคุมตัวเป็นเวลา 3-7 วัน ก่อนที่จะปล่อยตัวเจ้าหน้าที่ได้เอาเอกสารมาให้ผมลงนามมีเงื่อนไขว่า 
-
(1) จะไม่เดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่ได้รับอนุมัติจากหัวหน้า คสช. 
-
(2) จะละเว้นการเคลื่อนไหวหรือประชุมทางการเมือง ณ ที่ใดๆ และ 
-
(3) หากฝ่าฝืนหรือดำเนินการช่วยเหลือสนับสนุนกิจกรรมทางการเมือง ยินยอมถูกดำเนินคดีและระงับธุรกรรมทางการเงิน ดังนั้น การแสดงความเห็นของผมที่ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญซึ่งเหมือนกับที่หัวหน้าพรรคการเมืองและผู้บริหารของทั้งสองพรรค จึงไม่ได้เป็นการทำผิดข้อตกลงที่ให้ไว้ อีกทั้งการผิดข้อตกลงก็ไม่ได้ให้อำนาจ คสช.นำกำลังมาควบคุมตัวผมไปไหนทั้งสิ้นนะครับ

-
ท่านมีอำนาจที่จะดำเนินคดีหรือระงับธุรกรรมทางการเงินตามข้อตกลงเท่านั้น ทั้งนี้ เป็นตามข้อตกลงที่ผมโพสต์มาให้ดูเป็นหลักฐานด้วยแล้ว ขอความกรุณาอย่าบิดเบือนเพื่อใช้อำนาจตามอำเภอใจเลยครับ

-
ผมเป็นเพียงนักการเมืองเล็กๆ คนหนึ่งที่ต้องการเห็นบ้านเมืองมีความเจริญก้าวหน้า ผมเชื่อว่าการเปิดเสรีภาพทางความคิดจะนำไปสู่การพัฒนาอย่างสร้างสรรค์ ส่วนหลักนิติธรรมและประชาธิปไตยที่แท้จริงจะทำให้คนไทยทุกสีทุกกลุ่มสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ แม้จะคิดเห็นไม่ตรงกันก็ตาม ผมต่อสู้เพื่อหลักการที่ถูกต้อง ไม่ได้ทำเพื่อสีหรือกลุ่มการเมืองใด การแสดงความคิดเห็นของผมเป็นไปโดยสุจริตเพื่อส่วนรวม ผมไม่เคยโกรธกับการที่ท่านยกกำลังมาควบคุมตัวผม และได้อโหสิกรรมให้แล้วทุกครั้ง เพราะเชื่อว่าแม้เราจะมีความคิดที่ต่างกันแต่มีเป้าหมายตรงกันคือเพื่อประเทศชาติ แต่การที่ท่านยกกำลังมาควบคุมตัวผมทำให้ครอบครัวผมเดือดร้อน ลูกผมต้องออกมาต่อสู้เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยผม การนำตัวผมไปปรับทัศนคติไม่ได้ทำให้ผมเปลี่ยนความคิด ผมไม่เคยคิดท้าทายอำนาจของ คสช. ทั้งไม่ได้ทำผิดกฎหมายหรือข้อตกลงใดๆ เพียงแต่อาจคิดเห็นไม่เหมือนท่าน ผมพร้อมที่เป็นเพียงเม็ดกรวดเล็กๆ ในสะพานที่จะนำคนไทยก้าวข้ามความขัดแย้ง จึงขอความเป็นธรรมช่วยกรุณาทบทวนคำสั่ง มาร่วมมือกันทำประเทศไทยให้น่าอยู่สำหรับคนไทยทุกสีทุกกลุ่มดีกว่ามั้ยครับ

-

วัฒนา เมืองสุข
พรรคเพื่อไทย
15 เมษายน 2559



7 สิงหาคม 2559 ทั่วประเทศ ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญโจร

ประธาน กกต.ระบุ ไม่จัดพิมพ์ข้อดี-ข้อเสีย ของร่างรัฐธรรมนูญเผยแพร่
-

สำนักข่าวไทยรายงานว่า นายศุภชัย สมเจริญ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีที่หลายฝ่ายติติงมา เรื่องที่ กกต. เสนอให้มีการจัดพิมพ์ข้อดีและข้อเสียของร่างรัฐธรรมนูญเผยแพร่ก่อนหน้านี้ว่า กกต.เพียงแต่เสนอความเห็นเท่านั้น เพราะตัวอย่างในการทำประชามติกรณีแยกสก็อตแลนด์ออกจากสหราชอาณาจักร ก็มีการจัดทำข้อดี-ข้อเสียเผยแพร่เช่นกัน แต่เมื่อมีข้อท้วงติงมา เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา กกต.ก็จะไม่มีการนำแนวคิดนี้มาใช้ ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้มีการดำเนินการใด ๆ 
-

นายศุภชัย ยังกล่าวว่า ไม่หนักใจเรื่องคำถามที่สองในการทำประชามติ โดยจะยึดถ้อยคำตามที่สภานิติบัญบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้สรุปไว้ แม้ก่อนหน้านี้จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า คำถามดังกล่าวเป็นคำถามที่เข้าใจยาก เพราะกฎหมายได้กำหนดให้เป็นอำนาจหน้าที่ของ สนช. ที่จะเสนอคำถาม ส่วนกกต.มีหน้าที่เพียงจัดพิมพ์คำถามในบัตรออกเสียงเท่านั้น ไม่สามารถวิพากษ์วิจารณ์อะไรได้
-

"ขณะนี้ กกต.ได้รับคำถาม รวมถึง หลักการและเหตุผลของคำถามจาก สนช.แล้ว สนช.จะเป็นผู้เผยแพร่หลักการและเหตุผลของคำถามเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดความชัดเจน" นายศุภชัย กล่าว
-

นายศุภชัยยังกล่าวว่า ในการประชุม กกต. ในวันจันทร์ที่ 18 เม.ย. นี้ จะพิจารณาประกาศวันลงประชามติอย่างเป็นทางการ ภายหลังจากได้รับสรุปสาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญ จากคณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ในวันที่ 12 เมษายน ซึ่ง กกต.จะต้องกำหนดวันลงประชามติหลังจากนั้นไม่น้อยกว่า 90 วัน และไม่เกินกว่า 120 วัน ดังนั้น เบื้องต้นจึงมีความชัดเจนว่า การลงประชามติจะมีขึ้นในวันที่ 7 สิงหาคมนี้ ซึ่งเป็นไปตามโรดแมปที่กำหนดไว้ 
-

Cr. บีบีซีไทย - BBC Thai

--------------------------------

( ภาพประกอบจากแฟ้มภาพทรราช คสช. : สถุนมีชัย ฤชุพันธุ์  ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญโจร ในวันเปิดตัวร่างรัฐธรรมนูญใหม่ 29 มี.ค. 2559 )


7 สิงหาคม 2559 ทั่วประเทศ ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญโจร

ประธาน กกต.ระบุ ไม่จัดพิมพ์ข้อดี-ข้อเสีย ของร่างรัฐธรรมนูญเผยแพร่
-

สำนักข่าวไทยรายงานว่า นายศุภชัย สมเจริญ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีที่หลายฝ่ายติติงมา เรื่องที่ กกต. เสนอให้มีการจัดพิมพ์ข้อดีและข้อเสียของร่างรัฐธรรมนูญเผยแพร่ก่อนหน้านี้ว่า กกต.เพียงแต่เสนอความเห็นเท่านั้น เพราะตัวอย่างในการทำประชามติกรณีแยกสก็อตแลนด์ออกจากสหราชอาณาจักร ก็มีการจัดทำข้อดี-ข้อเสียเผยแพร่เช่นกัน แต่เมื่อมีข้อท้วงติงมา เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา กกต.ก็จะไม่มีการนำแนวคิดนี้มาใช้ ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้มีการดำเนินการใด ๆ 
-

นายศุภชัย ยังกล่าวว่า ไม่หนักใจเรื่องคำถามที่สองในการทำประชามติ โดยจะยึดถ้อยคำตามที่สภานิติบัญบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้สรุปไว้ แม้ก่อนหน้านี้จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า คำถามดังกล่าวเป็นคำถามที่เข้าใจยาก เพราะกฎหมายได้กำหนดให้เป็นอำนาจหน้าที่ของ สนช. ที่จะเสนอคำถาม ส่วนกกต.มีหน้าที่เพียงจัดพิมพ์คำถามในบัตรออกเสียงเท่านั้น ไม่สามารถวิพากษ์วิจารณ์อะไรได้
-

"ขณะนี้ กกต.ได้รับคำถาม รวมถึง หลักการและเหตุผลของคำถามจาก สนช.แล้ว สนช.จะเป็นผู้เผยแพร่หลักการและเหตุผลของคำถามเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดความชัดเจน" นายศุภชัย กล่าว
-

นายศุภชัยยังกล่าวว่า ในการประชุม กกต. ในวันจันทร์ที่ 18 เม.ย. นี้ จะพิจารณาประกาศวันลงประชามติอย่างเป็นทางการ ภายหลังจากได้รับสรุปสาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญ จากคณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ในวันที่ 12 เมษายน ซึ่ง กกต.จะต้องกำหนดวันลงประชามติหลังจากนั้นไม่น้อยกว่า 90 วัน และไม่เกินกว่า 120 วัน ดังนั้น เบื้องต้นจึงมีความชัดเจนว่า การลงประชามติจะมีขึ้นในวันที่ 7 สิงหาคมนี้ ซึ่งเป็นไปตามโรดแมปที่กำหนดไว้ 
-

Cr. บีบีซีไทย - BBC Thai

--------------------------------

( ภาพประกอบจากแฟ้มภาพทรราช คสช. : สถุนมีชัย ฤชุพันธุ์  ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญโจร ในวันเปิดตัวร่างรัฐธรรมนูญใหม่ 29 มี.ค. 2559 )


สารจาก เสรีชน ประกาศสู้เพื่อ ลูกหลานไทย


สารจาก เสรีชน ประกาศสู้เพื่อ ลูกหลานไทย


อำมาตย์ไทยและสมุน ทรราช ให้ประโยชน์อะไรกับประเทศ บ้าง

อำมาตย์ไทยและสมุน ทรราช ให้ประโยชน์อะไรกับประเทศ บ้าง
-

ตลอดชีวิตของผมเกือบ 60  ปี ผมได้เห็นการนำเงินภาษีของแผ่นดิน หรืออีกนัยหนึ่ง ก็คือเงินภาษี จากพี่น้องประชาชน ทั้งประเทศ ที่ต้องเสียให้กับรัฐ ไม่ว่าจะเป็น ร้านค้า 7   ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ และอาหาร  น้ำมัน ปุ๋ย และทุกอย่างที่ ประชาชน ไม่ได้ปลูกกินเอง ก็ล้วนแล้วแต่ต้องเสียภาษี ทั้งสิ้น  แม้กระทั้งที่ดิน ที่ประชาชนเป็นเจ้าของ ก็ต้องเสียภาษี

-

เคยมีใครคิดบางไหมว่า  การเดินทางไปต่างประเทศ ของอำมาตยและ สมุนวงศ์วาน ของพวกเขาเหล่า ใช้เงินจากภาษีของประชาชน ทั้งสิ้น 

-

การเดินทางไปต่างประเทศทุกครั้ง ต้องมีข้าราชบริวาน รับใช้ หรือแม้แต่ ทรราช ประยุทธ์  เมื่อคราวที่ต้องเดินทางไป ประชุม ที่ สหรัฐอเมริกา ซึ่งต้องพาเมียไปด้วยทุกครั้งและ บริวานรับใช้กว่าอีก 20 ชีวิต ก็ล้วนแล้วแต่ ใช้ภาษีของประชาชนทั้งสิ้น จนการประชุมในต่างประเทศ บางครั้งใช้เงินกว่า 60 กว่าล้านบาท  นั้นก็เงินของประชาชนทั้งสิ้น 

-

พวกอำมาตย์ทรราช เหล่านั้น ใช้เงินภาษีของประชาชน  ที่ได้มาจากกองเลือดและคราบน้ำตาของประชาชน อย่างปรีดิ์เปรม  เบิกค่าเดินทาง  ค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าอาหาร ค่าที่พัก ที่ต้องเป็นอันดับ 1 ของประเทศนั้น ๆ เท่านั้น 

-

พวกอำมาตย์ทรราช เหล่านั้น กินเที่ยว ในต่างประเทศเป็นว่าเล่น 

จน ............................................จน   การบินไทยเจ๊ง  ในขณะที่สายการบิน ของหลายประเทศ ไดเกำไล จากการบิน บางสายการบินได้เงินเป็นกอบเป็นกำ กว่า แสนล้านเหรียญ สหรัฐ ต่อปี  ทำไมการบินไทยเจีงล่ะ ก็เพราะ พวกอำมาตย์ทรราช เหล่านั้น บินฟรี  ไงล่ะ

-
เครือข่ายของการบินไทย ก็มีอต่ ลูกท่านหลานเธอ ทั้งสิ้น และสนันสนุน อย่างเป้นทางการด้วย พรรคประชาธิปัตย์ ที่มีเส้รสายโยงใยในการบินไทยมาอย่างยาวนาน  และเมื่อคราวที่ กปปส. เคลื่อนไหว ก็ได้ พนักงานของการบินไทยเข้าร่วมการประท้วง อย่างเต็มที่ ดังข่าวที่ปรากฏ ตามสื่อต่างๆ 


ทุกวันนี้ พวกอำมาตย์ทรราช เหล่านั้น ได้ให้ประโยนช์อะไรบ้างกับประชาชน ผู้เป็นเจ้าของเงิน และเป็นเจ้าของประเทศ 
-
รัฐธรรมนูญ ที่สืบทอดอำนาจ ทรราช คสช. หรือ
-
หรือ  ม. 44  ที่ทรราช สามารถทำอะไรก็ได้เวลาใหนก็ได้ ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างไงก็ได้ 
-
หรือ จะจับคุม ขัง และอุ้มประชาชนไป ซ้อม ในค่ายหรือในที่ลับตาคน ก็ได้ใช่ไหม
-
หรือ อำนาจของทรราช จพตั้งแต่ง ลูกหลาน เข้ารับราชการในกรมกองพร้อมติดยศ ร้อยตรี ด้วยอำนาจพิเศษมากมาย ในขณะ ที่ประชาชน ส่วนใหญ่กว่า ล้าน ๆ คน ตกงาน  อย่างกรณีของ หลานของทรราช ประยุทธ์ อย่างงั้นหรือ 
-

หันมามอง พรรคประชาธิปัตย์ ผู้มีสายโยงใยกับ พวกอำมาตย์ทรราช เหล่านั้นกันบางว่า พรรคที่ฆ่าคนตายครั้งแล้วครั้งเหล่า ในเมืองหลวงนั้น ทำอะไรก็ไม่เคยผิด ทั้งโกง งบประมาณมาทุกยุค ทุกสมัย  

-
พรรคประชาธิปัตย์คือพรรคการเมืองที่นายควง อภัยวงศ์ นำทองคำหลายสิบเล่มเกวียน จากเมือง พระตะบอง กัมพูชา (อาณานิคมของฝรั่งเศสในอดีต และเมืองประเทศราชของสยาม) 

-
พรรคประชาธิปัตย์ นำทองเหล่า มาเพื่อใช้ในการก่อตั้ง พรรคประชาธิปัตย์ โดยขนเข้าสยาม ทางเกวียน   และวันที่ 6 เมษายน ของทุกปี เป็นวันจักรีและวันก่อตั้ง  พรรคประชาธิปัตย์  คงไม่ต้องบอกว่า อำมาตย์ทรราช กับ พรรคประชาธิปัตย์ มีความ สัมพันธ์กันอย่างไร  หรือไม่ก็ สมาชิกของพรรค มาจาก กระทรวง ทบวงกรมใหน 

พรรคประชาธิปัตย์ โดยเป้าหมายหลักก็เพื่อ นำพรรคการเมือง มารองรับ การใช้อำนาจเผด็จการทรราช นั้นเอง ในระบอบประชาธิปไตยแบบไทยๆ ของราชสำนัก สยาม

-
เพื่อหลีกเลี่ยงข้อครหาว่า  เชื้อพระวงศ์ ลูกหลานรัชกาลที่ 5 ผู้ยอมเสียดินแดนกว่า 2 เท่าในปัจจุบัน เพื่อ รักษาตระกูล ใคร เพื่อใตร พี่น้องประชาชน ที่ถูกทิ้งไว้ใน มาเลย์ เขมร ลาว พม่า พวกเขาเหล่านั้น ไม่ใช่ ประชาชนคนไทยหรือ 

-

ข้ออ้างของ  พวกอำมาตย์ทรราช  ว่า ประเทศ ไม่ตกเป็นเมืองขึ้นของ ยุค
ล่าอาณานิคมในช่วงต้น ถึงกลางราชวงศ์จักรี และทหารไทย จึงมักใช้ข้ออ้างวาปกป้องสถาบันฯ ซ้ำๆ
-

หรืออีกนัยหนึ่ง ก็มากกว่าการปกป้อง ประเทศสยาม หากแต่เป็นการปกป้อง  พวกอำมาตย์ทรราช ตระกลู หนึ่ง เท่านั้น 

-
การรำลึกถึง พวกอำมาตย์ทรราชราชวงศ์จักรี ที่ยอมเสียดินแดนของสยามมากกว่าที่เหลืออยู่เพื่อรักษาวงศตระกูล และเป็นเจ้าของที่ดินสยาม งั้นหรือ

-
พวกเขายอมเสียดินแดนต่างๆ เพื่อให้ราชวงศ์จักรียังคงอยู่คู่สยามจนบัดนี้
วันจักรี 6 เมษายนของทุกปี  เป็นวันรำลึกถึงการกุมอำนาจ และสร้างความ
ร่ำรวย บนความทุกข์ของประชาชน พ่อค้า แม่ค้าทั่วกรุงเทพฯ
-
มาวันนี้ กรุงเทพมหานคร ซึ่งผู้ว่าก็เป็นคน ของ ประชาธิปัตย์ ไล่จัด ระเบียบกรุงเทพมหานครนับสิบปี ด้วยวิธีการตัดช่องทางทำมาหากินของพ่อค้า และแม่ค้าชาวบ้านที่อยู่อาศัย
-
ด้วยเหตุผลแบบ ส้นตีนว่า 
-
เพื่อความสวยงามของกรุงเทพฯ
-

คนที่เคยมีรายได้ จากการทำมาหากินรายย่อย ทั้งหลายตั้งแผงลอยข้างถนนตั้งแต่ ริมคลองผดุงกรุง-เกษม 
-
ตลาดโบ๊เบ๊ขายเสื้อผ้า 
ตลาดคลองถมข้างถนน 
ตลาดริมถนนประตูน้ำ
ตลาดเฉลิมลาภ เฉลิมโลก 
-
ถูกสำนักงานทรัพย์สิน ขับบไล่ที่อยู่ ไม่ต่อสัญญา อาคารพาณิชย์ 
-

เปลี่ยนสัญญาจากระยะยาว เป็นปีต่อปี และเก็บค่าเงินกินเปล่า ล้วนเป็นผล
จากนโยบายของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ทั้งสิ้น
-
พรรคประชาธิปัตย์ โดยผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครนับตั้งแต่ การก่อสร้าง
และไล่รื้อที่อยู่อาศัยตามนโยบายพัฒนารายได้ของสำนักงานทรัพย์สินฯโดย นายจิรายุ อิสรเสนา ณ.อยุธยาที่เข้าบริหารสำนักงานทรัพย์สินฯในราวปี 2528 จนบัดนี้ บ้านเมืองถูกนโยบายทุนนิยม 
-

ของเจ้าของประเทศ (ลูกหลานเจ้าราชวงศ์จักรี) เป็นผู้กำหนดนโยบายจน
ทุกวันนี้   แย่ยิ่งกว่าเจ้าอาณานิคมเพราะเมียนมาร์ เปลี่ยนระบอบประธานาธิบดีนาน แล้ว
-
เจ้าแผ่นดินเมียนมาร์ สิ้นบทบาท หลังการให้อิสรภาพืแก่อาณานิคม
พม่าในปี 2490 
-
แต่สยามหรือไทยยังตกอยู่    .ภายใต้การชิง และรั้งอำนาจของหลานรัชกาล
ที่ 5 ทุกรุ่นที่เข้ามาบริหาร  ประเทศ 

-
แล้วอย่างนี้ ประชาชนยังต้องการ  พวกอำมาตย์ทรราช อยู่อีกหรือ

-

เสรีชน



อำมาตย์ไทยและสมุน ทรราช ให้ประโยชน์อะไรกับประเทศ บ้าง

อำมาตย์ไทยและสมุน ทรราช ให้ประโยชน์อะไรกับประเทศ บ้าง
-

ตลอดชีวิตของผมเกือบ 60  ปี ผมได้เห็นการนำเงินภาษีของแผ่นดิน หรืออีกนัยหนึ่ง ก็คือเงินภาษี จากพี่น้องประชาชน ทั้งประเทศ ที่ต้องเสียให้กับรัฐ ไม่ว่าจะเป็น ร้านค้า 7   ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ และอาหาร  น้ำมัน ปุ๋ย และทุกอย่างที่ ประชาชน ไม่ได้ปลูกกินเอง ก็ล้วนแล้วแต่ต้องเสียภาษี ทั้งสิ้น  แม้กระทั้งที่ดิน ที่ประชาชนเป็นเจ้าของ ก็ต้องเสียภาษี

-

เคยมีใครคิดบางไหมว่า  การเดินทางไปต่างประเทศ ของอำมาตยและ สมุนวงศ์วาน ของพวกเขาเหล่า ใช้เงินจากภาษีของประชาชน ทั้งสิ้น 

-

การเดินทางไปต่างประเทศทุกครั้ง ต้องมีข้าราชบริวาน รับใช้ หรือแม้แต่ ทรราช ประยุทธ์  เมื่อคราวที่ต้องเดินทางไป ประชุม ที่ สหรัฐอเมริกา ซึ่งต้องพาเมียไปด้วยทุกครั้งและ บริวานรับใช้กว่าอีก 20 ชีวิต ก็ล้วนแล้วแต่ ใช้ภาษีของประชาชนทั้งสิ้น จนการประชุมในต่างประเทศ บางครั้งใช้เงินกว่า 60 กว่าล้านบาท  นั้นก็เงินของประชาชนทั้งสิ้น 

-

พวกอำมาตย์ทรราช เหล่านั้น ใช้เงินภาษีของประชาชน  ที่ได้มาจากกองเลือดและคราบน้ำตาของประชาชน อย่างปรีดิ์เปรม  เบิกค่าเดินทาง  ค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าอาหาร ค่าที่พัก ที่ต้องเป็นอันดับ 1 ของประเทศนั้น ๆ เท่านั้น 

-

พวกอำมาตย์ทรราช เหล่านั้น กินเที่ยว ในต่างประเทศเป็นว่าเล่น 

จน ............................................จน   การบินไทยเจ๊ง  ในขณะที่สายการบิน ของหลายประเทศ ไดเกำไล จากการบิน บางสายการบินได้เงินเป็นกอบเป็นกำ กว่า แสนล้านเหรียญ สหรัฐ ต่อปี  ทำไมการบินไทยเจีงล่ะ ก็เพราะ พวกอำมาตย์ทรราช เหล่านั้น บินฟรี  ไงล่ะ

-
เครือข่ายของการบินไทย ก็มีอต่ ลูกท่านหลานเธอ ทั้งสิ้น และสนันสนุน อย่างเป้นทางการด้วย พรรคประชาธิปัตย์ ที่มีเส้รสายโยงใยในการบินไทยมาอย่างยาวนาน  และเมื่อคราวที่ กปปส. เคลื่อนไหว ก็ได้ พนักงานของการบินไทยเข้าร่วมการประท้วง อย่างเต็มที่ ดังข่าวที่ปรากฏ ตามสื่อต่างๆ 


ทุกวันนี้ พวกอำมาตย์ทรราช เหล่านั้น ได้ให้ประโยนช์อะไรบ้างกับประชาชน ผู้เป็นเจ้าของเงิน และเป็นเจ้าของประเทศ 
-
รัฐธรรมนูญ ที่สืบทอดอำนาจ ทรราช คสช. หรือ
-
หรือ  ม. 44  ที่ทรราช สามารถทำอะไรก็ได้เวลาใหนก็ได้ ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างไงก็ได้ 
-
หรือ จะจับคุม ขัง และอุ้มประชาชนไป ซ้อม ในค่ายหรือในที่ลับตาคน ก็ได้ใช่ไหม
-
หรือ อำนาจของทรราช จพตั้งแต่ง ลูกหลาน เข้ารับราชการในกรมกองพร้อมติดยศ ร้อยตรี ด้วยอำนาจพิเศษมากมาย ในขณะ ที่ประชาชน ส่วนใหญ่กว่า ล้าน ๆ คน ตกงาน  อย่างกรณีของ หลานของทรราช ประยุทธ์ อย่างงั้นหรือ 
-

หันมามอง พรรคประชาธิปัตย์ ผู้มีสายโยงใยกับ พวกอำมาตย์ทรราช เหล่านั้นกันบางว่า พรรคที่ฆ่าคนตายครั้งแล้วครั้งเหล่า ในเมืองหลวงนั้น ทำอะไรก็ไม่เคยผิด ทั้งโกง งบประมาณมาทุกยุค ทุกสมัย  

-
พรรคประชาธิปัตย์คือพรรคการเมืองที่นายควง อภัยวงศ์ นำทองคำหลายสิบเล่มเกวียน จากเมือง พระตะบอง กัมพูชา (อาณานิคมของฝรั่งเศสในอดีต และเมืองประเทศราชของสยาม) 

-
พรรคประชาธิปัตย์ นำทองเหล่า มาเพื่อใช้ในการก่อตั้ง พรรคประชาธิปัตย์ โดยขนเข้าสยาม ทางเกวียน   และวันที่ 6 เมษายน ของทุกปี เป็นวันจักรีและวันก่อตั้ง  พรรคประชาธิปัตย์  คงไม่ต้องบอกว่า อำมาตย์ทรราช กับ พรรคประชาธิปัตย์ มีความ สัมพันธ์กันอย่างไร  หรือไม่ก็ สมาชิกของพรรค มาจาก กระทรวง ทบวงกรมใหน 

พรรคประชาธิปัตย์ โดยเป้าหมายหลักก็เพื่อ นำพรรคการเมือง มารองรับ การใช้อำนาจเผด็จการทรราช นั้นเอง ในระบอบประชาธิปไตยแบบไทยๆ ของราชสำนัก สยาม

-
เพื่อหลีกเลี่ยงข้อครหาว่า  เชื้อพระวงศ์ ลูกหลานรัชกาลที่ 5 ผู้ยอมเสียดินแดนกว่า 2 เท่าในปัจจุบัน เพื่อ รักษาตระกูล ใคร เพื่อใตร พี่น้องประชาชน ที่ถูกทิ้งไว้ใน มาเลย์ เขมร ลาว พม่า พวกเขาเหล่านั้น ไม่ใช่ ประชาชนคนไทยหรือ 

-

ข้ออ้างของ  พวกอำมาตย์ทรราช  ว่า ประเทศ ไม่ตกเป็นเมืองขึ้นของ ยุค
ล่าอาณานิคมในช่วงต้น ถึงกลางราชวงศ์จักรี และทหารไทย จึงมักใช้ข้ออ้างวาปกป้องสถาบันฯ ซ้ำๆ
-

หรืออีกนัยหนึ่ง ก็มากกว่าการปกป้อง ประเทศสยาม หากแต่เป็นการปกป้อง  พวกอำมาตย์ทรราช ตระกลู หนึ่ง เท่านั้น 

-
การรำลึกถึง พวกอำมาตย์ทรราชราชวงศ์จักรี ที่ยอมเสียดินแดนของสยามมากกว่าที่เหลืออยู่เพื่อรักษาวงศตระกูล และเป็นเจ้าของที่ดินสยาม งั้นหรือ

-
พวกเขายอมเสียดินแดนต่างๆ เพื่อให้ราชวงศ์จักรียังคงอยู่คู่สยามจนบัดนี้
วันจักรี 6 เมษายนของทุกปี  เป็นวันรำลึกถึงการกุมอำนาจ และสร้างความ
ร่ำรวย บนความทุกข์ของประชาชน พ่อค้า แม่ค้าทั่วกรุงเทพฯ
-
มาวันนี้ กรุงเทพมหานคร ซึ่งผู้ว่าก็เป็นคน ของ ประชาธิปัตย์ ไล่จัด ระเบียบกรุงเทพมหานครนับสิบปี ด้วยวิธีการตัดช่องทางทำมาหากินของพ่อค้า และแม่ค้าชาวบ้านที่อยู่อาศัย
-
ด้วยเหตุผลแบบ ส้นตีนว่า 
-
เพื่อความสวยงามของกรุงเทพฯ
-

คนที่เคยมีรายได้ จากการทำมาหากินรายย่อย ทั้งหลายตั้งแผงลอยข้างถนนตั้งแต่ ริมคลองผดุงกรุง-เกษม 
-
ตลาดโบ๊เบ๊ขายเสื้อผ้า 
ตลาดคลองถมข้างถนน 
ตลาดริมถนนประตูน้ำ
ตลาดเฉลิมลาภ เฉลิมโลก 
-
ถูกสำนักงานทรัพย์สิน ขับบไล่ที่อยู่ ไม่ต่อสัญญา อาคารพาณิชย์ 
-

เปลี่ยนสัญญาจากระยะยาว เป็นปีต่อปี และเก็บค่าเงินกินเปล่า ล้วนเป็นผล
จากนโยบายของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ทั้งสิ้น
-
พรรคประชาธิปัตย์ โดยผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครนับตั้งแต่ การก่อสร้าง
และไล่รื้อที่อยู่อาศัยตามนโยบายพัฒนารายได้ของสำนักงานทรัพย์สินฯโดย นายจิรายุ อิสรเสนา ณ.อยุธยาที่เข้าบริหารสำนักงานทรัพย์สินฯในราวปี 2528 จนบัดนี้ บ้านเมืองถูกนโยบายทุนนิยม 
-

ของเจ้าของประเทศ (ลูกหลานเจ้าราชวงศ์จักรี) เป็นผู้กำหนดนโยบายจน
ทุกวันนี้   แย่ยิ่งกว่าเจ้าอาณานิคมเพราะเมียนมาร์ เปลี่ยนระบอบประธานาธิบดีนาน แล้ว
-
เจ้าแผ่นดินเมียนมาร์ สิ้นบทบาท หลังการให้อิสรภาพืแก่อาณานิคม
พม่าในปี 2490 
-
แต่สยามหรือไทยยังตกอยู่    .ภายใต้การชิง และรั้งอำนาจของหลานรัชกาล
ที่ 5 ทุกรุ่นที่เข้ามาบริหาร  ประเทศ 

-
แล้วอย่างนี้ ประชาชนยังต้องการ  พวกอำมาตย์ทรราช อยู่อีกหรือ

-

เสรีชน



โจรกบฏที่อ้างจะมาปราบคอรัปชั่น แต่เล่นบทอิเหนา.. และเชิญชวนส่งจดหมายถึงผู้นำทั่วโลก

โจรกบฏที่อ้างจะมาปราบคอรัปชั่น แต่เล่นบทอิเหนา.. และเชิญชวนส่งจดหมายถึงผู้นำทั่วโลก
โดย ดร. เพียงดิน รักไทย  16 เมษายน 2559
---------------------
***Download ร่างจดหมาย เพื่อส่งผู้นำนานาชาติต่าง  ที่ http://tinyurl.com/gsetacg
***โปรดช่วยกันกระจายและส่งให้มากที่สุดนะครับ ขอบคุณครับ


สนับสนุนแนวทางมดแดงล้มช้าง ของ คณะราษฎรเสรีไทย กับ ดรเพียงดิน
ส่งข้อมูลลับผ่านช่องทางที่ปลอดภัยทางลิ้งค์ต่อไปนี้
หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt
****ลิ้งค์ล่าสุด  http://tinyurl.com/gssuvm2
และรายงานการปฏิบัติงานและความคืบหน้าเครือข่าย ได้ที่ 4everche@gmail.com
----------------------
สนับสนุนการเผยแพร่โดย ภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน และมหาวิทยาลัยประชาชน เพื่อสาธารณะประโยชน์ ในการสร้างจิตสำนึกทางประชาธิปไตย สันติวิธี และการเคารพหลักสิทธิมนุษยชน

โจรกบฏที่อ้างจะมาปราบคอรัปชั่น แต่เล่นบทอิเหนา.. และเชิญชวนส่งจดหมายถึงผู้นำทั่วโลก

โจรกบฏที่อ้างจะมาปราบคอรัปชั่น แต่เล่นบทอิเหนา.. และเชิญชวนส่งจดหมายถึงผู้นำทั่วโลก
โดย ดร. เพียงดิน รักไทย  16 เมษายน 2559
---------------------
***Download ร่างจดหมาย เพื่อส่งผู้นำนานาชาติต่าง  ที่ http://tinyurl.com/gsetacg
***โปรดช่วยกันกระจายและส่งให้มากที่สุดนะครับ ขอบคุณครับ


สนับสนุนแนวทางมดแดงล้มช้าง ของ คณะราษฎรเสรีไทย กับ ดรเพียงดิน
ส่งข้อมูลลับผ่านช่องทางที่ปลอดภัยทางลิ้งค์ต่อไปนี้
หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt
****ลิ้งค์ล่าสุด  http://tinyurl.com/gssuvm2
และรายงานการปฏิบัติงานและความคืบหน้าเครือข่าย ได้ที่ 4everche@gmail.com
----------------------
สนับสนุนการเผยแพร่โดย ภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน และมหาวิทยาลัยประชาชน เพื่อสาธารณะประโยชน์ ในการสร้างจิตสำนึกทางประชาธิปไตย สันติวิธี และการเคารพหลักสิทธิมนุษยชน

Friday, April 15, 2016

มันสะท้อนว่าบ้านเมืองเรายังป่าเถื่อนอยู่ครับ

มันสะท้อนว่าบ้านเมืองเรายังป่าเถื่อนอยู่ครับ

---------------------------------------------------------

บัตรประชาชนกับห้องดับจิต

เขียนความเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์บ้านเมืองไปบ้างแล้ว เดี๋ยวคงทยอยขึ้นให้อ่านกันได้ ตอนนี้ขอคุยเรื่องที่สนใจสักเรื่อง ไม่ใช่เรื่องการเมืองโดยตรงแต่จะว่าไม่เกี่ยวกับการเมืองก็ไม่ได้อีกเหมือนกัน

-
เมื่อไม่นานมานี้ มีข่าวว่ามีการเสนอให้ใช้มาตรการเพิกถอนบัตรประชาชนกับผู้ที่ไม่ชำระหนี้กองทุนกู้ยืมที่ผูกพันกับรายได้ในอนาคต(กยศ.) จะเป็นเพราะได้พยายามหาวิธีต่างๆมาแล้วไม่สำเร็จหรืออย่างไรไม่ทราบได้ ก็เลยคิดจะใช้วิธีนี้

-
เรื่องกยศ.ที่ผิดเพี้ยนไปจากแนวความคิดเดิมจนจำไม่ได้แล้วนั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับการศึกษา ถ้าจะคุยก็คุยกันได้ยาว แต่ขออนุญาตที่จะไม่พูดถึงในวันนี้

-
ที่อยากจะพูดถึง ก็คือ การจะใช้วิธีเพิกถอนบัตรประชาชนซึ่งออกจะเป็นเรื่องร้ายแรงเอาการอยู่ ใครถูกเพิกถอนบัตรประชาชนก็คงเดือดร้อนสาหัสสากรรจ์ จะติดต่ออะไรก็ไม่สะดวก ไปไหนมาไหนถูกตรวจสอบแล้วไม่มีก็อาจถูกควบคุมตัวหรือถูกดำเนินคดีเอาได้ ขึ้นเครื่องบินก็จะยุ่งยากหรือถึงขั้นตกเครื่องเอาดื้อๆ

-
แต่ทั้งหลายทั้งปวงนี้เป็นเพียงตัวอย่างความเดือดร้อนที่อาจจะเกิดขึ้นจากการไม่มีบัตรประชาชนเท่านั้น ที่สำคัญในระบบกฎหมายและวัฒนธรรมของไทยซึ่งต่างจากบางประเทศที่เขาอาจไม่ต้องมีบัตรประชาชนกัน บัตรประชาชนของคนไทยกลายเป็นเครื่องแสดงความเป็นคนไทยกับเขาคนหนึ่ง พอไม่มีบัตรประชาชนเสียแล้ว นอกจากเสียสิทธิ์ต่างๆมากมาย ยังต้องสูญเสียศักดิ์ศรีของความเป็นคนอีกด้วย

-
การใช้วิธีเพิกถอนบัตรประชาชนมาจัดการกับนักศึกษาหรือบัณฑิตที่ค้างหนี้จึงไม่เพียงเป็นเรื่องเกินกว่าเหตุไปมาก แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความไม่เข้าใจความสำคัญของสิทธิและศักดิ์ศรีของความเป็นคนที่ผู้มีอำนาจอยากจะลิดรอนกันเมื่อไรอย่างไรก็ได้

-
อีกเรื่องหนึ่งที่เพิ่งเกิดในช่วงสงกรานต์และไม่พบว่ามีการวิพากษ์วิจารณ์เหมือนเรื่องบัตรประชาชนคือเรื่องการส่งคนเมาแล้วขับไปเข้าห้องดับจิตและให้ช่วยแต่งศพ

-
การจะหาทางแก้ปัญหาเมาแล้วขับนั้นเป็นเรื่องที่ควรทำเพราะเมาแล้วขับเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตและบาดเจ็บบนถนนมากที่สุด แต่บทลงโทษก็มีอยู่แล้ว เพียงแต่จะบังคับใช้กฎหมายให้เข้มงวดจริงจังและรณรงค์กันอย่างไร

-
ส่วนการให้คนที่ทำผิดกฎหมายไปบำเพ็ญประโยชน์แก่สังคมก็เป็นวิธีการที่ช่วยให้คนได้เรียนรู้และปรับตัวให้เป็นคนที่ดีของสังคมได้ ในหลายๆประเทศก็ใช้กันอยู่ แต่จะให้ไปทำอะไรให้แก่สังคมจะต้องมีหลักมีเกณฑ์ที่เหมาะสม ไม่ใช่อยากจะให้เขาไปทำอะไรก็ได้แล้วแต่ผู้มีอำนาจหน้าที่จะคิดกันตามใจชอบ

-
ผมเคยต้องเกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาอุบัติเหตุบนถนนซึ่งรวมถึงเรื่องเมาแล้วขับมาก่อน แต่ที่เคยทำอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้ผมคิดถึงเรื่องนี้มากเป็นพิเศษ ก็คือ การเคยเป็นนักศึกษาแพทย์ที่ต้องเรียนผ่าศพในวิชากายวิภาคศาสตร์

-
การเข้าไปในห้องดับจิตและการแต่งศพนั้น สำหรับผู้ที่คุ้นเคยแล้วก็เห็นเป็นเรื่องธรรมดา แต่สำหรับหลายๆคน อาจเป็นเรื่องน่าหวาดกลัวจนถึงขั้นกระทบต่อสุขภาพจิตอย่างรุนแรงได้ การบังคับให้ผู้กระทำผิดกฎหมายต้องไปอยู่ในห้องดับจิตหรือแต่งศพจึงเป็นการละเมิดสิทธิ์ของเขา เป็นการทำร้ายเขาอย่างที่ไม่ควรให้เกิดขึ้น อีกทั้งการทำงานในห้องดับจิตและการแต่งศพก็เป็นงานอันมีเกียรติ ไม่ควรเอามาคิดมาพูดกันในลักษณะเป็นเรื่องที่มีไว้ลงโทษคนทำผิดกฎหมายให้สาแก่ใจ

-
จะลงโทษคนทำผิดกฎหมายก็ลงโทษกันไปตามที่กฎหมายบัญญัติ ส่วนการจะให้คนทำผิดกฎหมายไปบำเพ็ญประโยชน์แก่สังคมควรมีหลักเกณฑ์ให้ชัดเจนที่ต้องกำหนดประเภทของกิจกรรมอย่างเหมาะสม มีทางเลือก เป็นไปโดยสมัครใจและคำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดกับผู้ทำกิจกรรมนั้นด้วย
ทั้งเรื่องเพิกถอนบัตรประชาชนและส่งคนเข้าห้องดับจิตนี้ ทำให้เห็นว่าในสังคมไทยยังมีปัญหาความไม่เข้าใจในเรื่องสิทธิและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อยู่ไม่น้อย ที่น่าเป็นห่วง คือ มีปัญหานี้อยู่ในหมู่ผู้ที่มีอำนาจหน้าที่ให้คุณให้โทษต่อผู้คนทั่วไปเสียด้วย


-
มันสะท้อนว่าบ้านเมืองเรายังป่าเถื่อนอยู่ครับ

-
Chaturon Chaisang


มันสะท้อนว่าบ้านเมืองเรายังป่าเถื่อนอยู่ครับ

มันสะท้อนว่าบ้านเมืองเรายังป่าเถื่อนอยู่ครับ

---------------------------------------------------------

บัตรประชาชนกับห้องดับจิต

เขียนความเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์บ้านเมืองไปบ้างแล้ว เดี๋ยวคงทยอยขึ้นให้อ่านกันได้ ตอนนี้ขอคุยเรื่องที่สนใจสักเรื่อง ไม่ใช่เรื่องการเมืองโดยตรงแต่จะว่าไม่เกี่ยวกับการเมืองก็ไม่ได้อีกเหมือนกัน

-
เมื่อไม่นานมานี้ มีข่าวว่ามีการเสนอให้ใช้มาตรการเพิกถอนบัตรประชาชนกับผู้ที่ไม่ชำระหนี้กองทุนกู้ยืมที่ผูกพันกับรายได้ในอนาคต(กยศ.) จะเป็นเพราะได้พยายามหาวิธีต่างๆมาแล้วไม่สำเร็จหรืออย่างไรไม่ทราบได้ ก็เลยคิดจะใช้วิธีนี้

-
เรื่องกยศ.ที่ผิดเพี้ยนไปจากแนวความคิดเดิมจนจำไม่ได้แล้วนั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับการศึกษา ถ้าจะคุยก็คุยกันได้ยาว แต่ขออนุญาตที่จะไม่พูดถึงในวันนี้

-
ที่อยากจะพูดถึง ก็คือ การจะใช้วิธีเพิกถอนบัตรประชาชนซึ่งออกจะเป็นเรื่องร้ายแรงเอาการอยู่ ใครถูกเพิกถอนบัตรประชาชนก็คงเดือดร้อนสาหัสสากรรจ์ จะติดต่ออะไรก็ไม่สะดวก ไปไหนมาไหนถูกตรวจสอบแล้วไม่มีก็อาจถูกควบคุมตัวหรือถูกดำเนินคดีเอาได้ ขึ้นเครื่องบินก็จะยุ่งยากหรือถึงขั้นตกเครื่องเอาดื้อๆ

-
แต่ทั้งหลายทั้งปวงนี้เป็นเพียงตัวอย่างความเดือดร้อนที่อาจจะเกิดขึ้นจากการไม่มีบัตรประชาชนเท่านั้น ที่สำคัญในระบบกฎหมายและวัฒนธรรมของไทยซึ่งต่างจากบางประเทศที่เขาอาจไม่ต้องมีบัตรประชาชนกัน บัตรประชาชนของคนไทยกลายเป็นเครื่องแสดงความเป็นคนไทยกับเขาคนหนึ่ง พอไม่มีบัตรประชาชนเสียแล้ว นอกจากเสียสิทธิ์ต่างๆมากมาย ยังต้องสูญเสียศักดิ์ศรีของความเป็นคนอีกด้วย

-
การใช้วิธีเพิกถอนบัตรประชาชนมาจัดการกับนักศึกษาหรือบัณฑิตที่ค้างหนี้จึงไม่เพียงเป็นเรื่องเกินกว่าเหตุไปมาก แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความไม่เข้าใจความสำคัญของสิทธิและศักดิ์ศรีของความเป็นคนที่ผู้มีอำนาจอยากจะลิดรอนกันเมื่อไรอย่างไรก็ได้

-
อีกเรื่องหนึ่งที่เพิ่งเกิดในช่วงสงกรานต์และไม่พบว่ามีการวิพากษ์วิจารณ์เหมือนเรื่องบัตรประชาชนคือเรื่องการส่งคนเมาแล้วขับไปเข้าห้องดับจิตและให้ช่วยแต่งศพ

-
การจะหาทางแก้ปัญหาเมาแล้วขับนั้นเป็นเรื่องที่ควรทำเพราะเมาแล้วขับเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตและบาดเจ็บบนถนนมากที่สุด แต่บทลงโทษก็มีอยู่แล้ว เพียงแต่จะบังคับใช้กฎหมายให้เข้มงวดจริงจังและรณรงค์กันอย่างไร

-
ส่วนการให้คนที่ทำผิดกฎหมายไปบำเพ็ญประโยชน์แก่สังคมก็เป็นวิธีการที่ช่วยให้คนได้เรียนรู้และปรับตัวให้เป็นคนที่ดีของสังคมได้ ในหลายๆประเทศก็ใช้กันอยู่ แต่จะให้ไปทำอะไรให้แก่สังคมจะต้องมีหลักมีเกณฑ์ที่เหมาะสม ไม่ใช่อยากจะให้เขาไปทำอะไรก็ได้แล้วแต่ผู้มีอำนาจหน้าที่จะคิดกันตามใจชอบ

-
ผมเคยต้องเกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาอุบัติเหตุบนถนนซึ่งรวมถึงเรื่องเมาแล้วขับมาก่อน แต่ที่เคยทำอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้ผมคิดถึงเรื่องนี้มากเป็นพิเศษ ก็คือ การเคยเป็นนักศึกษาแพทย์ที่ต้องเรียนผ่าศพในวิชากายวิภาคศาสตร์

-
การเข้าไปในห้องดับจิตและการแต่งศพนั้น สำหรับผู้ที่คุ้นเคยแล้วก็เห็นเป็นเรื่องธรรมดา แต่สำหรับหลายๆคน อาจเป็นเรื่องน่าหวาดกลัวจนถึงขั้นกระทบต่อสุขภาพจิตอย่างรุนแรงได้ การบังคับให้ผู้กระทำผิดกฎหมายต้องไปอยู่ในห้องดับจิตหรือแต่งศพจึงเป็นการละเมิดสิทธิ์ของเขา เป็นการทำร้ายเขาอย่างที่ไม่ควรให้เกิดขึ้น อีกทั้งการทำงานในห้องดับจิตและการแต่งศพก็เป็นงานอันมีเกียรติ ไม่ควรเอามาคิดมาพูดกันในลักษณะเป็นเรื่องที่มีไว้ลงโทษคนทำผิดกฎหมายให้สาแก่ใจ

-
จะลงโทษคนทำผิดกฎหมายก็ลงโทษกันไปตามที่กฎหมายบัญญัติ ส่วนการจะให้คนทำผิดกฎหมายไปบำเพ็ญประโยชน์แก่สังคมควรมีหลักเกณฑ์ให้ชัดเจนที่ต้องกำหนดประเภทของกิจกรรมอย่างเหมาะสม มีทางเลือก เป็นไปโดยสมัครใจและคำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดกับผู้ทำกิจกรรมนั้นด้วย
ทั้งเรื่องเพิกถอนบัตรประชาชนและส่งคนเข้าห้องดับจิตนี้ ทำให้เห็นว่าในสังคมไทยยังมีปัญหาความไม่เข้าใจในเรื่องสิทธิและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อยู่ไม่น้อย ที่น่าเป็นห่วง คือ มีปัญหานี้อยู่ในหมู่ผู้ที่มีอำนาจหน้าที่ให้คุณให้โทษต่อผู้คนทั่วไปเสียด้วย


-
มันสะท้อนว่าบ้านเมืองเรายังป่าเถื่อนอยู่ครับ

-
Chaturon Chaisang


“จาตุรนต์” ชี้ ประชามติแบบ “มัดมือชก” มีแต่เพิ่มความขัดแย้ง

"จาตุรนต์" ชี้ ประชามติแบบ "มัดมือชก" มีแต่เพิ่มความขัดแย้ง
-

เมื่อวันที่ 15 เมษายน นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กถึงแนวทางของ คสช.ในการหาทางออกหากรัฐธรรมนูญที่ไม่ผ่านประชามติว่า ที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่ายังไม่รู้จะทำอย่างไรก็มีเหตุผลอยู่ มาถึงขั้นนี้ การจะกำหนดให้ชัดลงไปว่าถ้าร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านในการลงประชามติแล้วจะเจอกับอะไรนั้น อาจจะทำไม่ได้และไม่แน่ว่าจะเป็นผลดีเสียแล้ว เช่น สมมุติ คสช.มอบให้นายวิษณุเป็นคนเตรียมการ และนายวิษณุบอกว่าจะเอาร่าง 3-4 ฉบับมายำเข้าด้วยกัน แต่จะแถมเรื่องนายกฯคนนอกเข้าไปด้วย และเมื่อคำถามพ่วงตกไป แต่เกิดจะให้ ส.ว.มีอำนาจลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯได้ แล้วจะทำกันอย่างไร พูดง่ายๆ ก็คือ หากบอกว่าถ้าไม่ผ่านจะได้รัฐธรรมนูญที่แย่กว่าเดิมแน่ๆ คนก็ต้องจำยอมออกเสียงให้ผ่าน หรือในทางตรงข้าม หากบอกว่าถ้าไม่ผ่านจะได้รัฐธรรมนูญที่ดีกว่าเดิมแน่ๆ คนก็จะออกเสียงไม่ให้ผ่าน

-
นายจาตุรนต์กล่าวว่า การจัดให้มีการลงประชามตินั้น โดยตัวมันเองหมายความว่า คสช.ยินยอมให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินว่าจะยอมรับร่างที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ซึ่ง คสช.แต่งตั้งขึ้นมาร่างภายใต้คำแนะนำของแม่น้ำอีก 4 สายนี้หรือไม่ หากผ่านก็ดำเนินการขั้นตอนต่อไปซึ่งกำหนดไว้แล้ว แต่ถ้าไม่ผ่านแล้วบอกว่า คสช.ก็จะกำหนดเอาตามใจชอบ ก็เท่ากับไม่ให้ประชาชนมีสิทธิเลือกอะไรเลย กลายเป็นออกหัวหรือก้อยก็เป็นตาม คสช.หมด อย่างนั้นไม่อาจเรียกได้ว่าเป็นการลงประชามติ

-
ทางที่ดีที่สุดคือการตั้งประเด็นถามประชาชนไปเสียเลย เหมือนมีคำถามพ่วงเพิ่มขึ้นว่า ถ้าไม่ผ่านจะให้ทำอย่างไร แต่สิ่งนี้คงไม่มีทางเกิดขึ้นเพราะใจไม่กว้างพอ ดังนั้น สิ่งที่จะทำได้และควรทำก็คือ การยืนยันว่าหากไม่ผ่าน จะยอมรับการตัดสินของประชาชนและการดำเนินการต่อไปจะรับฟังความเห็นฝ่ายต่างๆ ให้มากขึ้น

-
นายจาตุรนต์กล่าวว่า การลงประชามติที่เสรีและเป็นธรรมจะช่วยลดความขัดแย้งแตกแยกในสังคม เพราะฝ่ายต่างๆ ได้แลกเปลี่ยนและรับรู้ข้อมูลและความคิดเห็นอย่างเต็มที่ เมื่อผลออกมาอย่างไร แม้จะมีคนที่ยังไม่เห็นด้วย แต่ก็จะไม่ติดใจและมีโอกาสยอมรับได้มาก แต่ถ้าการลงประชามติทำไปแบบมัดมือชกอยู่ข้างเดียว ผลที่ออกมาก็บอกไม่ได้ว่าเป็นความเห็นของคนส่วนใหญ่ ความไม่พอใจก็จะยังมีอยู่มาก เมื่อปัญหาต่างๆ เกิดขึ้นตามมาในภายหลังก็จะกลายเป็นความขัดแย้งแตกแยกในสังคมอย่างไม่จบไม่สิ้น จากนี้ไปจึงควรจะเปิดโอกาสและส่งเสริมให้มีการแสดงความคิดเห็นได้อย่างเสรี ไม่ใช่ผู้มีอำนาจสามารถพูดชี้นำสนับสนุนได้เต็มที่ แต่ผู้เห็นต่างกลับถูกคุกคาม จำกัดเสรีภาพหรืออิสรภาพอย่างที่เป็นอยู่

Cr. MatichonOnline



“จาตุรนต์” ชี้ ประชามติแบบ “มัดมือชก” มีแต่เพิ่มความขัดแย้ง

"จาตุรนต์" ชี้ ประชามติแบบ "มัดมือชก" มีแต่เพิ่มความขัดแย้ง
-

เมื่อวันที่ 15 เมษายน นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กถึงแนวทางของ คสช.ในการหาทางออกหากรัฐธรรมนูญที่ไม่ผ่านประชามติว่า ที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่ายังไม่รู้จะทำอย่างไรก็มีเหตุผลอยู่ มาถึงขั้นนี้ การจะกำหนดให้ชัดลงไปว่าถ้าร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านในการลงประชามติแล้วจะเจอกับอะไรนั้น อาจจะทำไม่ได้และไม่แน่ว่าจะเป็นผลดีเสียแล้ว เช่น สมมุติ คสช.มอบให้นายวิษณุเป็นคนเตรียมการ และนายวิษณุบอกว่าจะเอาร่าง 3-4 ฉบับมายำเข้าด้วยกัน แต่จะแถมเรื่องนายกฯคนนอกเข้าไปด้วย และเมื่อคำถามพ่วงตกไป แต่เกิดจะให้ ส.ว.มีอำนาจลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯได้ แล้วจะทำกันอย่างไร พูดง่ายๆ ก็คือ หากบอกว่าถ้าไม่ผ่านจะได้รัฐธรรมนูญที่แย่กว่าเดิมแน่ๆ คนก็ต้องจำยอมออกเสียงให้ผ่าน หรือในทางตรงข้าม หากบอกว่าถ้าไม่ผ่านจะได้รัฐธรรมนูญที่ดีกว่าเดิมแน่ๆ คนก็จะออกเสียงไม่ให้ผ่าน

-
นายจาตุรนต์กล่าวว่า การจัดให้มีการลงประชามตินั้น โดยตัวมันเองหมายความว่า คสช.ยินยอมให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินว่าจะยอมรับร่างที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ซึ่ง คสช.แต่งตั้งขึ้นมาร่างภายใต้คำแนะนำของแม่น้ำอีก 4 สายนี้หรือไม่ หากผ่านก็ดำเนินการขั้นตอนต่อไปซึ่งกำหนดไว้แล้ว แต่ถ้าไม่ผ่านแล้วบอกว่า คสช.ก็จะกำหนดเอาตามใจชอบ ก็เท่ากับไม่ให้ประชาชนมีสิทธิเลือกอะไรเลย กลายเป็นออกหัวหรือก้อยก็เป็นตาม คสช.หมด อย่างนั้นไม่อาจเรียกได้ว่าเป็นการลงประชามติ

-
ทางที่ดีที่สุดคือการตั้งประเด็นถามประชาชนไปเสียเลย เหมือนมีคำถามพ่วงเพิ่มขึ้นว่า ถ้าไม่ผ่านจะให้ทำอย่างไร แต่สิ่งนี้คงไม่มีทางเกิดขึ้นเพราะใจไม่กว้างพอ ดังนั้น สิ่งที่จะทำได้และควรทำก็คือ การยืนยันว่าหากไม่ผ่าน จะยอมรับการตัดสินของประชาชนและการดำเนินการต่อไปจะรับฟังความเห็นฝ่ายต่างๆ ให้มากขึ้น

-
นายจาตุรนต์กล่าวว่า การลงประชามติที่เสรีและเป็นธรรมจะช่วยลดความขัดแย้งแตกแยกในสังคม เพราะฝ่ายต่างๆ ได้แลกเปลี่ยนและรับรู้ข้อมูลและความคิดเห็นอย่างเต็มที่ เมื่อผลออกมาอย่างไร แม้จะมีคนที่ยังไม่เห็นด้วย แต่ก็จะไม่ติดใจและมีโอกาสยอมรับได้มาก แต่ถ้าการลงประชามติทำไปแบบมัดมือชกอยู่ข้างเดียว ผลที่ออกมาก็บอกไม่ได้ว่าเป็นความเห็นของคนส่วนใหญ่ ความไม่พอใจก็จะยังมีอยู่มาก เมื่อปัญหาต่างๆ เกิดขึ้นตามมาในภายหลังก็จะกลายเป็นความขัดแย้งแตกแยกในสังคมอย่างไม่จบไม่สิ้น จากนี้ไปจึงควรจะเปิดโอกาสและส่งเสริมให้มีการแสดงความคิดเห็นได้อย่างเสรี ไม่ใช่ผู้มีอำนาจสามารถพูดชี้นำสนับสนุนได้เต็มที่ แต่ผู้เห็นต่างกลับถูกคุกคาม จำกัดเสรีภาพหรืออิสรภาพอย่างที่เป็นอยู่

Cr. MatichonOnline



แดง ๆ วันนี้

เหลือแค่ทาง ลุกขึ้นมา ฆ่า กันเอง.. 



เสื้อแดงตัวนี้ งามมาก 



แม่สาวเสื้อแดง คนนี้ แรงงงงง 

แดง ๆ วันนี้

เหลือแค่ทาง ลุกขึ้นมา ฆ่า กันเอง.. 



เสื้อแดงตัวนี้ งามมาก 



แม่สาวเสื้อแดง คนนี้ แรงงงงง 

อ ชูพงศ์ เปลี่ยนระบอบ 15 เมษ 59 ตอน พฤษภาทมิฬ รอบใหม่

อ ชูพงศ์ เปลี่ยนระบอบ 15 เมษ 59

ตอน

พฤษภาทมิฬ รอบใหม่ เกิดหรือไม่เกิด ?

เผด็จการอยู่ยาวหรือไม่? เกิดศึกชิงวังหรือไม่

ทำไมจึง­มีการเรียกร้องให้ ฟ้าชายขึ้นครองราชย์ให้เร็วที่สุด

แล้วฟ้าชายขึ้นได้หรือไม่?

การต่อสู้ของคนเสื้อแดงเป้าหมายอยู่ที่ไห­น?

อ ชูพงศ์ เปลี่ยนระบอบ 15 เมษ 59 ตอน พฤษภาทมิฬ รอบใหม่

อ ชูพงศ์ เปลี่ยนระบอบ 15 เมษ 59

ตอน

พฤษภาทมิฬ รอบใหม่ เกิดหรือไม่เกิด ?

เผด็จการอยู่ยาวหรือไม่? เกิดศึกชิงวังหรือไม่

ทำไมจึง­มีการเรียกร้องให้ ฟ้าชายขึ้นครองราชย์ให้เร็วที่สุด

แล้วฟ้าชายขึ้นได้หรือไม่?

การต่อสู้ของคนเสื้อแดงเป้าหมายอยู่ที่ไห­น?