Thursday, July 12, 2018
แผนรุกเขมือบชาติไทย ของ "ระบอบวชิราลงกรณ์" โดย ดร. เพียงดิน รักไทย ๑๒ ก.ค. ๒๕๖๑
แผนรุกเขมือบชาติไทย ของ "ระบอบวชิราลงกรณ์" โดย ดร. เพียงดิน รักไทย ๑๒ ก.ค. ๒๕๖๑
แผนรุกเขมือบชาติไทย ของ "ระบอบวชิราลงกรณ์" โดย ดร. เพียงดิน รักไทย ๑๒ ก.ค. ๒๕๖๑
Wednesday, July 11, 2018
รีดภาษีคนไทยเฉย
รีดภาษีคนไทยเฉย
Tuesday, July 10, 2018
ชนชั้นปกครองไทย วางแผนสยบคนไทยอย่างไร?
การวางรากฐานในการปกครองของระบอบเผด็จการ 5 ด้าน
1.ประวัติศาสตร์
2.ภูมิศาสตร์
3.สังคมศาสตร์
4.เศรษฐศาสตร์
5.ศาสนศาสตร์
1.1 ด้านประวัติศาสตร์
คือการเขียน ประวัติศาสตร์ เพื่อการให้ได้มาซึ่งสิทธิในการปกครอง
2.1 ด้านภูมิศาสตร์
คือ การวางกำลังในการปกป้องและปกครองประเทศ โดยการสร้างกองกำลังไว้ในจุดยุทธศาสตร์สำคัญของประเทศ
3.1 ด้านสังคมศาสตร์
คือการสร้างกฏระเบียบ วัฒนธรรม ประเภณี ไว้ควบคุมในระบอบการปกครอง
4.1 ด้านเศรษฐศาสตร์
คือการสร้างระบบเศรษฐกิจชนชั้น(เศรษฐกิจแบบศักดินาสวามิภักดิ์)เพื่อควบคุมรายได้ของประชากร และระบบเศรษฐกิจของประเทศ
5.1 ด้านศาสนศาสตร์
คือการใช้ศาสนาเป็นตัวบ่มเพาะความคิดให้อยู่ในขอบเขตอันจำกัดด้วยความเชื่อ ต่างๆเพื่อการปกครอง
+++++ บวกกับกระบวนการล้างหัวกระบาน ดังนี้
1.ประกาศเป้าหมาย
2.สลายพฤติกรรม
3.ชี้นำความคิด
4.ปกปิดข้อมูล
5.เทิดทูล สรรเสริญ
6.หมางเมินความจริง
7.กำจัดทิ้ง อุปสรรค
8.จงรักภักดี
9.มอบชีวีให้อุดมการณ์ ก็จะควบคุมได้ทั้งประเทศและก็กอบโกยกันได้อย่างสะบายใจ เขาทำกันอย่างนี้นะพวกเผด็จการนะ มีลูกสอนลูกมีหลานสอนหลานมีเพื่อนบอกเพื่อน บอกต่อให้ทั่วถึงนะครับ จะได้เท่าทันเผด็จการ
และใช้ตรวจสอบประชาธิปไตยจอมปลอมได้อีกด้วย
ชนชั้นปกครองไทย วางแผนสยบคนไทยอย่างไร?
การวางรากฐานในการปกครองของระบอบเผด็จการ 5 ด้าน
1.ประวัติศาสตร์
2.ภูมิศาสตร์
3.สังคมศาสตร์
4.เศรษฐศาสตร์
5.ศาสนศาสตร์
1.1 ด้านประวัติศาสตร์
คือการเขียน ประวัติศาสตร์ เพื่อการให้ได้มาซึ่งสิทธิในการปกครอง
2.1 ด้านภูมิศาสตร์
คือ การวางกำลังในการปกป้องและปกครองประเทศ โดยการสร้างกองกำลังไว้ในจุดยุทธศาสตร์สำคัญของประเทศ
3.1 ด้านสังคมศาสตร์
คือการสร้างกฏระเบียบ วัฒนธรรม ประเภณี ไว้ควบคุมในระบอบการปกครอง
4.1 ด้านเศรษฐศาสตร์
คือการสร้างระบบเศรษฐกิจชนชั้น(เศรษฐกิจแบบศักดินาสวามิภักดิ์)เพื่อควบคุมรายได้ของประชากร และระบบเศรษฐกิจของประเทศ
5.1 ด้านศาสนศาสตร์
คือการใช้ศาสนาเป็นตัวบ่มเพาะความคิดให้อยู่ในขอบเขตอันจำกัดด้วยความเชื่อ ต่างๆเพื่อการปกครอง
+++++ บวกกับกระบวนการล้างหัวกระบาน ดังนี้
1.ประกาศเป้าหมาย
2.สลายพฤติกรรม
3.ชี้นำความคิด
4.ปกปิดข้อมูล
5.เทิดทูล สรรเสริญ
6.หมางเมินความจริง
7.กำจัดทิ้ง อุปสรรค
8.จงรักภักดี
9.มอบชีวีให้อุดมการณ์ ก็จะควบคุมได้ทั้งประเทศและก็กอบโกยกันได้อย่างสะบายใจ เขาทำกันอย่างนี้นะพวกเผด็จการนะ มีลูกสอนลูกมีหลานสอนหลานมีเพื่อนบอกเพื่อน บอกต่อให้ทั่วถึงนะครับ จะได้เท่าทันเผด็จการ
และใช้ตรวจสอบประชาธิปไตยจอมปลอมได้อีกด้วย
ตั้งสติให้มั่น! หัวใจสำคัญของการต่อสู้ล้มเผด็จการ สร้างประชาธิปไตย โดยพลังประชาชน
หัวใจสำคัญของแนวทางปฏิวัติมดแดงล้มช้าง
หนึ่ง การพัฒนาศักยภาพของประชาชน คือหัวใจสำคัญที่สุดของกระบวนการปฏิวัติ (ปัจจัยสู่ชัยชนะ) และผลของการปฏิวัติ (ชัยชนะ) ที่ยั่งยืน โดยปัจจัยที่เอื้อให้การพัฒนาและการประสพชัยชนะได้อย่างแท้จริงและรวดเร็ว คือ ความไม่กลัว ความฉลาดเท่าทันเกมเผด็จการ และการใช้ความได้เปรียบทุกรูปแบบในการสร้างความเปลี่ยนแปลง
สอง การใช้จุดแข็งสู้จุดอ่อนของเผด็จการ กล่าวคือ ต้องใช้ความได้เปรียบเช่น จำนวนอันมหาศาลของประชาชนผู้ถูกกดขี่ ความชอบธรรมของประชาชนในฐานะเจ้าของอำนาจอธิปไตยที่แท้จริง หลักการประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนที่เป็นที่ยอมรับทั่วโลก สันติวิธีที่จะทำให้อำนาจปืนและอำนาจเถื่อนเสื่อมสมรรถภาพ เครื่องมือสื่อสารทุกชนิดที่ช่วยเผยแพร่ความรู้ ความจริง ข่าวสาร และการประสานงาน ตลอดจนความได้เปรียบทางชัยภูมิ
สาม การยืนบนหลักการสากล อันได้แก่ หลักประชาธิปไตยที่แท้จริงและสมบูรณ์ หลักสิทธิมนุษยชน สันติวิธี และความจริง คือสิ่งดีที่ปวงชนปฏิวัติต้องยึดถือและพัฒนาตัวเองให้สอดคล้อง ในขณะที่จะต้องต่อต้าน ขจัด หรือทำลายสิ่งที่ตรงข้ามในทุกมิติที่ทำได้ บนสติและความหยั่งรู้ว่า ปวงชนต้องทำตัวหรือยกระดับคุณภาพของตนให้สอดคล้องกับสิ่งที่เป็นเป้าหมายของการปฏิวัติด้วย (เทียบเคียงได้กับหัวใจของศาสนาพุทธ คือ ทำความดี ละเว้นความชั่ว และทำใจให้ปราศจากกิเลส)
สี่ ประชาชนจะต้องเข้าใจปัญหาเชิงโครงสร้าง (ระบอบ) ที่ครอบงำ เอารัดเอาเปรียบ กดขี่ ข่มเหง และยัดเยียดความทุกข์ให้พวกเขาในทุกมิติ คือ การเมืองการปกครอง การทหาร เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม การศึกษา ศาสนา สาธารณสุข และการต่างประเทศ โดยต้องเข้าใจว่า ตัวบุคคล โครงสร้างองค์กรหรือสถาบันต่าง ๆ กลไกและเครื่องมือต่าง ๆ ความเชื่อและวิถีปฏิบัติที่ครอบงำ (วัฒนธรรม) และจิตสำนึกที่ถูกสร้างขึ้นโดยชนชั้นที่ได้เปรียบหรือเอาเปรียบ และจะต้องช่วยกันยกระดับคนรอบข้าง ให้เป็นผู้รู้และเข้าใจอย่างเท่าทันต่อการกดขี่และเอารัดเอาเปรียบเชิงโครงสร้างเหล่านั้น เพื่อเป็นฐานสำหรับการเคลื่อนไหวต่อสู้ในทุกมิติ
ห้า ความสำเร็จของการปฏิวัติประชาชนในยุคปัจจุบัน ต้องอยู่บนความพร้อมของปัจจัยด้านต่าง ๆ ที่สานสอดกัน คือ มวลชนที่พร้อมทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพ อุดมการณ์ร่วมและแนวทางที่เป็นเอกภาพ ขบวนนำที่มีความชอบธรรมและจริงจังต่อระบอบประชาธิปไตย กองทัพที่ต้องรับใช้ประชาชน และมหามิตรประเทศที่พร้อมช่วยเหลืออย่างจริงจัง
หก เป้าหมายของการปฏิวัติ เป็นไปตามยุทธศาสตร์รับ ยัน รุก และรุกฆาต ในแต่ละมิติตามภววิสัยที่เป็นจริง แต่จะต้องมุ่งให้ประชาชนตาสว่างทั้งแผ่นดิน ต่อต้านขัดขืนสิ่งชั่วร้ายในทุกมิติ แล้วไม่ยอมรับให้ผู้ปกครองเถื่อนปกครองอีกต่อไป และเมื่อความพร้อมมาถึง ประชาชนจะยึดอำนาจคืนมา เพื่อจัดการสร้างชาติใหม่บนหลักการในข้อ สาม ข้างต้น (ล้มช้าง สร้างชาติ)
เจ็ด การปฏิวัติประชาชนมดแดงล้มช้าง ยึดหลักการใช้พลังธรรมอันมหาศาลขับไล่อธรรม หรือเอาน้ำดีมหาศาลไล่น้ำเสีย เพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียอย่างควบคุมไม่ได้และยืดเยื้อเกินไป เช่นการสังหารประชาชนมือเปล่าอย่างโหดร้าย หรือสงครามกลางเมือง หรือการแทรกแซงของต่างประเทศ บนความเสียหายของชาติ
แปด การปฏิวัติประชาชนมดแดงล้มช้าง ถือเป็นการแก้ปัญหาในบ้านของคนไทยทุกคน ที่เป็นพี่น้องร่วมชาติ ไม่ใช่ศัตรูต่างด้าวที่ต้องเข่นฆ่ากันให้อาสัญ ดังนั้น เป้าหมายจึงอยู่ที่การสร้างสภาวะที่ทำให้คนที่ทำผิดได้เกิดสำนึกแล้วกลับตัว เพื่อก้าวร่วมกันต่อไป ดังนั้น การคิดสร้างสรรค์ การปรับจิตสำนึก การให้ความเป็นธรรม การเคารพหลักสิทธิมนุษยชน และการใช้อารยวิธี จึงเป็นสิ่งที่ขบวนปฏิวัติต้องยึดถือด้วยความรับผิดชอบต่อชะตากรรมของบ้านเกิดเมืองนอนร่วมกันของประชาชนทุกคน
เก้า การลุกขึ้นประกาศจุดยืนไม่ยอมรับการปกครองอันมิชอบของเครือเผด็จการทรราชย์ของคนไทยทั่วประเทศในทุกจังหวัด คือวันดีเดย์ และวันนั้น จะถูกกำหนดด้วยความพร้อมของทั้งขบวนในข้อห้า และภววิสัยที่เอื้อให้เกิดความสำเร็จที่ยั่งยืนบนความเสียหายที่น้อยที่สุด
สิบ ชัยชนะที่แท้จริงที่เกิดขึ้นได้ทุกวัน คือการเปลี่ยนให้ประชาชนเป็นผู้รู้และเข้าใจปัญหาเชิงโครงสร้าง แล้วยกตนขึ้นเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง ด้วยวิถีปฏิวัติในแต่ละวันที่พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเมื่อประชาชนคือผู้ที่ทำตัวสอดคล้องกับหลักการการปกครองของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชนได้จนเป็นนิสัยประจำชาติแล้ว ความสำเร็จที่ยั่งยืนจึงจะได้รับการประกันในที่สุด
piangdin
UNRAD, 2011
ตั้งสติให้มั่น! หัวใจสำคัญของการต่อสู้ล้มเผด็จการ สร้างประชาธิปไตย โดยพลังประชาชน
หัวใจสำคัญของแนวทางปฏิวัติมดแดงล้มช้าง
หนึ่ง การพัฒนาศักยภาพของประชาชน คือหัวใจสำคัญที่สุดของกระบวนการปฏิวัติ (ปัจจัยสู่ชัยชนะ) และผลของการปฏิวัติ (ชัยชนะ) ที่ยั่งยืน โดยปัจจัยที่เอื้อให้การพัฒนาและการประสพชัยชนะได้อย่างแท้จริงและรวดเร็ว คือ ความไม่กลัว ความฉลาดเท่าทันเกมเผด็จการ และการใช้ความได้เปรียบทุกรูปแบบในการสร้างความเปลี่ยนแปลง
สอง การใช้จุดแข็งสู้จุดอ่อนของเผด็จการ กล่าวคือ ต้องใช้ความได้เปรียบเช่น จำนวนอันมหาศาลของประชาชนผู้ถูกกดขี่ ความชอบธรรมของประชาชนในฐานะเจ้าของอำนาจอธิปไตยที่แท้จริง หลักการประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนที่เป็นที่ยอมรับทั่วโลก สันติวิธีที่จะทำให้อำนาจปืนและอำนาจเถื่อนเสื่อมสมรรถภาพ เครื่องมือสื่อสารทุกชนิดที่ช่วยเผยแพร่ความรู้ ความจริง ข่าวสาร และการประสานงาน ตลอดจนความได้เปรียบทางชัยภูมิ
สาม การยืนบนหลักการสากล อันได้แก่ หลักประชาธิปไตยที่แท้จริงและสมบูรณ์ หลักสิทธิมนุษยชน สันติวิธี และความจริง คือสิ่งดีที่ปวงชนปฏิวัติต้องยึดถือและพัฒนาตัวเองให้สอดคล้อง ในขณะที่จะต้องต่อต้าน ขจัด หรือทำลายสิ่งที่ตรงข้ามในทุกมิติที่ทำได้ บนสติและความหยั่งรู้ว่า ปวงชนต้องทำตัวหรือยกระดับคุณภาพของตนให้สอดคล้องกับสิ่งที่เป็นเป้าหมายของการปฏิวัติด้วย (เทียบเคียงได้กับหัวใจของศาสนาพุทธ คือ ทำความดี ละเว้นความชั่ว และทำใจให้ปราศจากกิเลส)
สี่ ประชาชนจะต้องเข้าใจปัญหาเชิงโครงสร้าง (ระบอบ) ที่ครอบงำ เอารัดเอาเปรียบ กดขี่ ข่มเหง และยัดเยียดความทุกข์ให้พวกเขาในทุกมิติ คือ การเมืองการปกครอง การทหาร เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม การศึกษา ศาสนา สาธารณสุข และการต่างประเทศ โดยต้องเข้าใจว่า ตัวบุคคล โครงสร้างองค์กรหรือสถาบันต่าง ๆ กลไกและเครื่องมือต่าง ๆ ความเชื่อและวิถีปฏิบัติที่ครอบงำ (วัฒนธรรม) และจิตสำนึกที่ถูกสร้างขึ้นโดยชนชั้นที่ได้เปรียบหรือเอาเปรียบ และจะต้องช่วยกันยกระดับคนรอบข้าง ให้เป็นผู้รู้และเข้าใจอย่างเท่าทันต่อการกดขี่และเอารัดเอาเปรียบเชิงโครงสร้างเหล่านั้น เพื่อเป็นฐานสำหรับการเคลื่อนไหวต่อสู้ในทุกมิติ
ห้า ความสำเร็จของการปฏิวัติประชาชนในยุคปัจจุบัน ต้องอยู่บนความพร้อมของปัจจัยด้านต่าง ๆ ที่สานสอดกัน คือ มวลชนที่พร้อมทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพ อุดมการณ์ร่วมและแนวทางที่เป็นเอกภาพ ขบวนนำที่มีความชอบธรรมและจริงจังต่อระบอบประชาธิปไตย กองทัพที่ต้องรับใช้ประชาชน และมหามิตรประเทศที่พร้อมช่วยเหลืออย่างจริงจัง
หก เป้าหมายของการปฏิวัติ เป็นไปตามยุทธศาสตร์รับ ยัน รุก และรุกฆาต ในแต่ละมิติตามภววิสัยที่เป็นจริง แต่จะต้องมุ่งให้ประชาชนตาสว่างทั้งแผ่นดิน ต่อต้านขัดขืนสิ่งชั่วร้ายในทุกมิติ แล้วไม่ยอมรับให้ผู้ปกครองเถื่อนปกครองอีกต่อไป และเมื่อความพร้อมมาถึง ประชาชนจะยึดอำนาจคืนมา เพื่อจัดการสร้างชาติใหม่บนหลักการในข้อ สาม ข้างต้น (ล้มช้าง สร้างชาติ)
เจ็ด การปฏิวัติประชาชนมดแดงล้มช้าง ยึดหลักการใช้พลังธรรมอันมหาศาลขับไล่อธรรม หรือเอาน้ำดีมหาศาลไล่น้ำเสีย เพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียอย่างควบคุมไม่ได้และยืดเยื้อเกินไป เช่นการสังหารประชาชนมือเปล่าอย่างโหดร้าย หรือสงครามกลางเมือง หรือการแทรกแซงของต่างประเทศ บนความเสียหายของชาติ
แปด การปฏิวัติประชาชนมดแดงล้มช้าง ถือเป็นการแก้ปัญหาในบ้านของคนไทยทุกคน ที่เป็นพี่น้องร่วมชาติ ไม่ใช่ศัตรูต่างด้าวที่ต้องเข่นฆ่ากันให้อาสัญ ดังนั้น เป้าหมายจึงอยู่ที่การสร้างสภาวะที่ทำให้คนที่ทำผิดได้เกิดสำนึกแล้วกลับตัว เพื่อก้าวร่วมกันต่อไป ดังนั้น การคิดสร้างสรรค์ การปรับจิตสำนึก การให้ความเป็นธรรม การเคารพหลักสิทธิมนุษยชน และการใช้อารยวิธี จึงเป็นสิ่งที่ขบวนปฏิวัติต้องยึดถือด้วยความรับผิดชอบต่อชะตากรรมของบ้านเกิดเมืองนอนร่วมกันของประชาชนทุกคน
เก้า การลุกขึ้นประกาศจุดยืนไม่ยอมรับการปกครองอันมิชอบของเครือเผด็จการทรราชย์ของคนไทยทั่วประเทศในทุกจังหวัด คือวันดีเดย์ และวันนั้น จะถูกกำหนดด้วยความพร้อมของทั้งขบวนในข้อห้า และภววิสัยที่เอื้อให้เกิดความสำเร็จที่ยั่งยืนบนความเสียหายที่น้อยที่สุด
สิบ ชัยชนะที่แท้จริงที่เกิดขึ้นได้ทุกวัน คือการเปลี่ยนให้ประชาชนเป็นผู้รู้และเข้าใจปัญหาเชิงโครงสร้าง แล้วยกตนขึ้นเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง ด้วยวิถีปฏิวัติในแต่ละวันที่พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเมื่อประชาชนคือผู้ที่ทำตัวสอดคล้องกับหลักการการปกครองของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชนได้จนเป็นนิสัยประจำชาติแล้ว ความสำเร็จที่ยั่งยืนจึงจะได้รับการประกันในที่สุด
piangdin
UNRAD, 2011
รองอธิบดีกรมป่าไม้แฉเอง คนไทยขายชาติเอาป่าสงวนออกเอกสารเป็นเท็จไปหลอกขาย
รองอธิบดีกรมป่าไม้แฉเอง คนไทยขายชาติเอาป่าสงวนออกเอกสารเป็นเท็จไปหลอกขาย
ด่วนที่สุด ทนายกล้าตาย.. ร่างจดหมายถวายฎีกา ต่อองค์ในหลวง ร.10 ขอให้พลเอกประยุทธ์ลาออก
ด่วนที่สุด ทนายกล้าตาย.. ร่างจดหมายถวายฎีกา ต่อองค์ในหลวง ร.10 ขอให้พลเอกประยุทธ์ลาออก
เปิดหมด 4 บ.เครือข่ายเรือฟินิกซ์ หุ้นใหญ่ หญิงสาว อายุ 24 ปี
เปิดหมด 4 บ.เครือข่ายเรือฟินิกซ์ หุ้นใหญ่ หญิงสาว อายุ 24 ปี
เปิดเอกสาร บ.ทีซี บลู ดรีม เจ้าของเรือฟินิกซ์ ต้นเหตุ โศกนาฏกรรมหมู่ เรือล่ม จ.ภูเก็ต พบหุ้นใหญ่หญิงสาว อายุแค่ 24 ปี ในเครืออีก 2 แห่ง ตัวละครชุดเดียวกัน ขณะที่ กิจการทัวร์ใน จ.ชลบุรี กก.มีภูมิลำเนา เชียงใหม่ ลำปาง
จากกรณีเหตุเรือนำเที่ยว'ฟินิกซ์' ล่มที่เกาะเฮ จ.ภูเก็ตหลังเผชิญกับลมมรสุมและคลื่นลมแรงในช่วงเย็นวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลทำให้นักท่องเที่ยว 93 คน ลูกเรือและมัคคุเทศก์ 12 คน รวม 105 ชีวิต จมหายในทะเลเป็นจำนวนมาก ตัวเลข ณ วันที่ 9 ก.ค.2561 จำนวนผู้โดยสารบนเรือฟีชนิกซ์ 89 คน ในจำนวนนี้เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน 87 คน ชาวยุโรป 2 คน มีผู้รอดชีวิต 37 คน พบศพผู้เสียชีวิตแล้ว 41 คน ยังสูญหาย 11 คน ในจำนวนผู้สูญหายนี้มีชีวิตอยู่ 5 คน (อ่านประกอบ : เช็กสถานะ บ.เจ้าของเรือ 'ฟินิกซ์' แจ้งรายได้ 2.5 ล. กำไร 252,422 บ. มีกิจการ 4 แห่ง)
ล่าสุดสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า กรรมการและผู้หุ้นใหญ่บริษัท ทีซี บลู ดรีม จำกัด ผู้ประกอบการเรือขนส่งนักท่องเที่ยวลำดังกล่าว มีอายุเพียง 24 ปี ขณะจดทะเบียนก่อตั้ง
บริษัท ทีซี บลู ดรีม จำกัด จดทะเบียนก่อตั้งวันที่ 23 ส.ค. 2559 ทุน 2 ล้านบาท ต่อมาวันที่ 6 ก.ค. 2560 เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 4 ล้านบาท ประกอบธุรกิจท่องเที่ยว ที่ตั้งเลขที่ 43/84 หมู่ที่ 5 ต.ราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต ณ วันที่ 5 ก.ค. 2560 น.ส.วรลักษณ์ ฤกษ์ชัยกาล ถือหุ้นใหญ่ 39,000 หุ้น (97.50% ) นายจักรพันธ์ ฤกษ์ชัยกาล และ นางยินดี ฤกษ์ชัยกาล คนละ 500 หุ้น (คนละ 1.25%) รวม 40,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท น.ส.วรลักษณ์ ฤกษ์ชัยกาล เป็นกรรมการ
ผู้ถือหุ้นทั้ง 3 คนระบุในหนังสือบริคณห์สนธิอยู่บ้านเลขที่เดียวกัน 123/23 ถ.วิชิตสงคราม ต.ตลาดเหนือ อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต น.ส.วรลักษณ์ ระบุ อายุ 24 ปี , นายจักรพันธ์ อายุ 29 ปี และ นางยินดี อายุ 48 ปี
จากการตรวจสอบพบว่า น.ส.วรลักษณ์ กรรมการและหุ้นใหญ่ บริษัท ทีซี บลู ดรีม จำกัด เป็นกรรมการและถือหุ้นใหญ่ อีก 2 บริษัท คือ บริษัท ทีซี ทู จำกัดจดทะเบียนก่อตั้งวันที่ 14 มิ.ย. 2561 และ บริษัท หลี่ แอนด์ เจิง จำกัด จดทะเบียนวันที่ 18 มิ.ย. 2561 ทั้งสองมีผู้ถือหุ้นชุดเดียวกัน
บริษัท ทีซี ทู จำกัด น.ส.วรลักษณ์ ถือหุ้นใหญ่ 38,000 หุ้น นายบุญชู ฤกษ์ชัยกาล และ นางยินดีฤกษ์ชัยกาล ถือคนละ 1,000 หุ้น รวม 40,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท
บริษัท หลี่ แอนด์ เจิง จำกัด น.ส.วรลักษณ์ ถือหุ้นใหญ่ 38,000 หุ้น นายบุญชู ฤกษ์ชัยกาล และ นางยินดีฤกษ์ชัยกาล ถือคนละ 1,000 หุ้น รวม 40,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท เช่นเดียวกัน
ขณะที่ บริษัท อะลอง ทราเวล จำกัด ประกอบธุรกิจ นำเที่ยว ที่ตั้งเลขที่ 141/29 หมู่ที่ 11 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี น.ส.วรลักษณ์ ถือหุ้น 10,000 หุ้น จากทั้งหมด 50,000 หุ้น ผู้ถือหุ้นอีก 2 คนคือนายแทน และ นายปกรณ์ มีภูมิลำเนาใน จ.เชียงใหม่ และ จ.ลำปาง ตามลำดับ
น่าสังเกตว่า ในการจดทะเบียนจัดตั้ง บริษัท ทีซี บลู ดรีม จำกัด บริษัท ทีซี ทู จำกัด และ บริษัท หลี่ แอนด์ เจิง จำกัด ทั้ง 3 แห่งใช้ผู้ลงลายมือชื่อรับรองเป็นพยานและผู้รับมอบอำนาจจดทะเบียนต่อนายทะเบียนหุ้นส่วนจังหวัดภูเก็ต บุคคลกลุ่มเดียวกัน
https://www.isranews.org/isranews/67619-report01-67619.html
เปิดหมด 4 บ.เครือข่ายเรือฟินิกซ์ หุ้นใหญ่ หญิงสาว อายุ 24 ปี
เปิดหมด 4 บ.เครือข่ายเรือฟินิกซ์ หุ้นใหญ่ หญิงสาว อายุ 24 ปี
เปิดเอกสาร บ.ทีซี บลู ดรีม เจ้าของเรือฟินิกซ์ ต้นเหตุ โศกนาฏกรรมหมู่ เรือล่ม จ.ภูเก็ต พบหุ้นใหญ่หญิงสาว อายุแค่ 24 ปี ในเครืออีก 2 แห่ง ตัวละครชุดเดียวกัน ขณะที่ กิจการทัวร์ใน จ.ชลบุรี กก.มีภูมิลำเนา เชียงใหม่ ลำปาง
จากกรณีเหตุเรือนำเที่ยว'ฟินิกซ์' ล่มที่เกาะเฮ จ.ภูเก็ตหลังเผชิญกับลมมรสุมและคลื่นลมแรงในช่วงเย็นวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลทำให้นักท่องเที่ยว 93 คน ลูกเรือและมัคคุเทศก์ 12 คน รวม 105 ชีวิต จมหายในทะเลเป็นจำนวนมาก ตัวเลข ณ วันที่ 9 ก.ค.2561 จำนวนผู้โดยสารบนเรือฟีชนิกซ์ 89 คน ในจำนวนนี้เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน 87 คน ชาวยุโรป 2 คน มีผู้รอดชีวิต 37 คน พบศพผู้เสียชีวิตแล้ว 41 คน ยังสูญหาย 11 คน ในจำนวนผู้สูญหายนี้มีชีวิตอยู่ 5 คน (อ่านประกอบ : เช็กสถานะ บ.เจ้าของเรือ 'ฟินิกซ์' แจ้งรายได้ 2.5 ล. กำไร 252,422 บ. มีกิจการ 4 แห่ง)
ล่าสุดสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า กรรมการและผู้หุ้นใหญ่บริษัท ทีซี บลู ดรีม จำกัด ผู้ประกอบการเรือขนส่งนักท่องเที่ยวลำดังกล่าว มีอายุเพียง 24 ปี ขณะจดทะเบียนก่อตั้ง
บริษัท ทีซี บลู ดรีม จำกัด จดทะเบียนก่อตั้งวันที่ 23 ส.ค. 2559 ทุน 2 ล้านบาท ต่อมาวันที่ 6 ก.ค. 2560 เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 4 ล้านบาท ประกอบธุรกิจท่องเที่ยว ที่ตั้งเลขที่ 43/84 หมู่ที่ 5 ต.ราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต ณ วันที่ 5 ก.ค. 2560 น.ส.วรลักษณ์ ฤกษ์ชัยกาล ถือหุ้นใหญ่ 39,000 หุ้น (97.50% ) นายจักรพันธ์ ฤกษ์ชัยกาล และ นางยินดี ฤกษ์ชัยกาล คนละ 500 หุ้น (คนละ 1.25%) รวม 40,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท น.ส.วรลักษณ์ ฤกษ์ชัยกาล เป็นกรรมการ
ผู้ถือหุ้นทั้ง 3 คนระบุในหนังสือบริคณห์สนธิอยู่บ้านเลขที่เดียวกัน 123/23 ถ.วิชิตสงคราม ต.ตลาดเหนือ อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต น.ส.วรลักษณ์ ระบุ อายุ 24 ปี , นายจักรพันธ์ อายุ 29 ปี และ นางยินดี อายุ 48 ปี
จากการตรวจสอบพบว่า น.ส.วรลักษณ์ กรรมการและหุ้นใหญ่ บริษัท ทีซี บลู ดรีม จำกัด เป็นกรรมการและถือหุ้นใหญ่ อีก 2 บริษัท คือ บริษัท ทีซี ทู จำกัดจดทะเบียนก่อตั้งวันที่ 14 มิ.ย. 2561 และ บริษัท หลี่ แอนด์ เจิง จำกัด จดทะเบียนวันที่ 18 มิ.ย. 2561 ทั้งสองมีผู้ถือหุ้นชุดเดียวกัน
บริษัท ทีซี ทู จำกัด น.ส.วรลักษณ์ ถือหุ้นใหญ่ 38,000 หุ้น นายบุญชู ฤกษ์ชัยกาล และ นางยินดีฤกษ์ชัยกาล ถือคนละ 1,000 หุ้น รวม 40,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท
บริษัท หลี่ แอนด์ เจิง จำกัด น.ส.วรลักษณ์ ถือหุ้นใหญ่ 38,000 หุ้น นายบุญชู ฤกษ์ชัยกาล และ นางยินดีฤกษ์ชัยกาล ถือคนละ 1,000 หุ้น รวม 40,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท เช่นเดียวกัน
ขณะที่ บริษัท อะลอง ทราเวล จำกัด ประกอบธุรกิจ นำเที่ยว ที่ตั้งเลขที่ 141/29 หมู่ที่ 11 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี น.ส.วรลักษณ์ ถือหุ้น 10,000 หุ้น จากทั้งหมด 50,000 หุ้น ผู้ถือหุ้นอีก 2 คนคือนายแทน และ นายปกรณ์ มีภูมิลำเนาใน จ.เชียงใหม่ และ จ.ลำปาง ตามลำดับ
น่าสังเกตว่า ในการจดทะเบียนจัดตั้ง บริษัท ทีซี บลู ดรีม จำกัด บริษัท ทีซี ทู จำกัด และ บริษัท หลี่ แอนด์ เจิง จำกัด ทั้ง 3 แห่งใช้ผู้ลงลายมือชื่อรับรองเป็นพยานและผู้รับมอบอำนาจจดทะเบียนต่อนายทะเบียนหุ้นส่วนจังหวัดภูเก็ต บุคคลกลุ่มเดียวกัน
https://www.isranews.org/isranews/67619-report01-67619.html
Monday, July 9, 2018
What Great Philosophers Can Teach Us About How to Live: Alain de Botton ...
This clip alone helps to give a great introduction to prominent world philosophers.
I am a fan to this program.