Friday, November 11, 2016

คนเคยมีสีกลับใจ กับคำถามที่ชวนพิจารณา!!

ได้มาจากกลุ่มไลน์ที่ 80 % เป็นสลิ่ม คนโพสต์กล้าหาญมากโพสต์มาตั้งแต่ ๕ ทุ่มเมื่อคืน จนบัดนี้ในกลุ่มเงียบกริบ

"ลองอ่านข้อมูล..ดูของอีก
ฟากหนึ่งให้เข้าใจ (อย่างเป็นกลาง) แล้วพิจารณาด้วย "ปัญญาชน" ของท่าน แล้วพิจารณาคำถามทั้งหมดว่าพวกเราคือ "กบในกะลา" หรือไม่

1)รัฐบาลนี้ถูกต่อต้านจากองค์กรระหว่างประเทศเกือบทั้งหมด ไม่มีใครลงนามความร่วมมือด้วยมา2ปีกว่า เพราะอะไร?

2) รัฐบาลนี้ส่งหมายจับดร.ทักษิณไปรัฐบาลอื่นทุกประเทศ ไม่มีใครจับเลย แต่เขากลับให้เกียรติดร.ทักษิณ ทั้งๆที่ประเทศเหล่านั้นจริยธรรมสูงกว่า จริงจังกว่าเรามากมาย รวมทั้งองค์กรระหว่างประเทศ, สื่อต่างประเทศระดับโลก ให้เกียรติระดับเชิญไปปาฐกถา เชิญเป็นที่ปรึกษาของรัฐบาลนับสิบประเทศ เชิญให้มาลงทุน แย่งกันให้สถานะประชาชน ให้พาสปอร์ตนับสิบประเทศ แต่สื่อไทยไม่ได้ออกข่าวและคนไทยไม่รู้เรื่อง...ทำไม?

3) ต่างประเทศ, องค์กรต่างประเทศ ไม่ให้เกียรติประยุทธในฐานะส่วนบุคคล แต่ให้เกียร์ตในฐานะตัวแทนประเทศตามมารยาทเท่านั้น ทำไม?

4) พวกอนุรักษ์นิยมขวาจัดไปนัดประท้วง ดร. ทักษิณที่เมกา ทำไมเขาไม่ให้เกียรติ ให้ประท้วงในคอกที่จัดไว้ และให้ลงจากตึกในลิฟขนขยะ(เจิมศักดิ์ลงเฟสบุคส่วนตัวเอง) แต่พวกสนับสนุนให้อิสระเดินบนถนน ทำไม?

5) ดร.ทักษิณไปทำธุรกิจต่างประเทศโดยรัฐบาลต่างๆเชิญชวน เกือบสิบประเทศ รำ่รวยกว่าสมัยอยู่เมืองไทย ไม่เกี่ยวกับการใช้อำนาจหน้าที่ ไม่มีเรื่องทุจริตเลย แสดงว่าอัจฉริยะจริงใช่ไหม?

6) คนไทยถูกกรอกหูว่าทักษิณโกงจนฝังไว้ในหัว และรวมหัวเค้นหาความผิดและวันนี้มีอำนาจเผด็จการเต็ม แต่ทำไมเอาผิดได้เพียงเซ็นชื่อรับรองให้เมียซื้อที่ดิน ตามระเบียบราชการเท่านั้น และศาลตัดสินแล้วว่าการซื้อขายไม่ผิด เป็นคดีที่อ่อนมาก..

แต่"เสาโรงพักโด่เด่" มันชัดเจน เห็นตำตา แต่ไม่มีคนด่าว่า"โคตรโกง"..สนธิ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นคนเปิดประโยค"โคตรโกง" ตัวเองถูกศาลตัดสินโกงบริษัทมหาชน จำคุก85ปี คนไทยกลับไม่ด่าว่า"โคตรโกง" ทำไม?

และหากเกิดในรัฐบาลทักษิณ และกรณีจำคุก85ปีคือทักษิณ เราจะมีอาการอย่างไร?

7) คนที่จำว่าทักษิณโกง ก็จำมาจาก การปราศรัยของเวทีสนธิ(คนโกง)และเวทีสุเทพ(มีคดีโกงเพียบ) แต่แสดงออกว่าเกลียดโกง คุณก็เชื่อแบบงมงาย...งงตัวเองไม๊?

8) คนที่เกลียดเข้าไส้ว่า ทักษิณโกง จริงๆตัวเองทำมาหากินเหน็ดเหนื่อยทั้งวันไม่เคยค้นหาข้อมูลจริง และไม่เคยจริงจังกับเรื่องเหล่านี้มาก่อน แต่ที่ด่าๆและคำอธิบายก็พูดตาม"คนที่เกลียดทักษิณ" จนตัวเองเกลียดเข้าไส้ไปด้วย พูดตามวาทะกรรมในทีวี และจับกลุ่มด่าว่า ย้ำซึ่งกันและกัน และหาพวกเชื่อตามๆกันมา แต่บอกว่าฉันศึกษาข้อมูลทะลุปรุโปร่ง งงตัวเองไม๊?

9) ทุกคนก็รู้ว่า ดาราค่าตัวแพงมาก ค่าจ้างออกงานครั้งละเป็นแสนๆ คนพวกนี้โกงภาษีหนักมากที่สุด แต่แสดงอารมณ์บนเวทีเหมือนกำลังแสดงละครว่าเกลียดโกง จนคนฟังอินไปด้วยจริงจัง ลืมไปว่านั่นมันการแสดงบนเวที ทั้งๆที่รู้ว่าดาราพวกนี้ขี้โกงภาษีมาตลอด.. สนธิลิ้มขี้โกงก็รู้ โรงพักเสาโด่เด่ก็ขี้โกงก็รู้ แต่เราก็รักเขา ทั้งๆที่ก็รู้ว่าเขาโกง..งงตัวเองไม๊?

หรือจริงๆแล้วเราไม่ได้เกลียดคนขี้โกงจริงๆ แต่มันทำให้เราดูเป็นคนดี หรือตามกระแส เพราะเราถูกปลุกระดม จึงแสดงออกไปได้ขนาดนั้น?(ตั้งแต่ตอนที่ยังไม่มีพวกเสื้อแดง เสื้อแดงก่อนหน้านั้นใส่เสื้อเหลือง โพกหัวเหลือง เพิ่งมีเสื้อแดงตอนคัดค้านรัฐธรรมนูญปี 2550 )

10) ก่อนทักษิณบริหาร ประเทศเราอยู่ในสภาพล้มละลายเงินคงคลังเหลือ280ล้านยูเอสดอลล่าร์ แต่มีหนี้สินมหาศาล จะต้องใช้หนี้อีก50ปี ถึงรุ่นลูกหลาน

แต่2ปีใช้หนี้หมด เงินคงคลังกลับมาที่2400ล้านยูเอส และขึ้นมาถึงเกือบสองหมื่นภายใน4ปี และกลับมาเป็นประเทศให้กู้เร็วมากๆ ทุกประเทศทึ่งเรามาก ไม่เห็นต้องใช้หนี้ถึง50ปีเป็นภาระลูกหลาน เราไม่พูดถึง

กลับมามีเงินเหลือขึ้นเงินเดือนข้าราชการ2ครั้ง มี30บาทรักษาทุกโรค(เมกายังเอาไปทำตาม)มีกองทุนหมู่บ้านจนถึงทุกวันนี้ เราก็ไม่พูดถึง

แต่คนที่ถูกตัดสินโกง85ปี มาบอกว่าทักษิณอยู่ต่อ"ประเทศจะเหลือแต่กระดูก" งงตัวเองไม๊ว่าเราเชื่อไปได้ยังไง?

พวกโกงประเทศทั้งนั้นที่ปลุกระดมเรา เราก็เครียด กังวล แล้วเราก็เชื่อเรื่องโกหก แต่เราก็เชื่อว่าเราฉลาด เราไม่ตั้งสติทบทวนเรื่องเก่าๆดูหรือ ?

จากประเทศกำลังรุ่งเรือง วันนี้ทำท่าจะเหลือแต่กระดูก คนที่โกหก หลอกเรามา เราไม่เคยคิดถามหาว่าเขาต้องรับผิดชอบอย่างไร? ยังร่วมมือเขาลากกันต่อไปจนกว่าจะเหลือแต่กระดูกจริงๆอย่างนั้นหรือ?
หรือว่าเราปิดกั้นตัวเองเกินไป ไม่รับรู้ข้อมูลอื่นๆ ไม่ตามข่าวต่างประเทศ หมกมุ่นอยู่กับความเกลียด ที่ถูกปฎิบัติการจิตวิทยาฝังหัว

สรุป เราเป็น"กบอยู่ในกะลาจริงๆ" แล้ว

เอวัง ..ฝากให้คิดต่อเท่านั้นนะครับ"

คนเคยมีสีกลับใจ กับคำถามที่ชวนพิจารณา!!

ได้มาจากกลุ่มไลน์ที่ 80 % เป็นสลิ่ม คนโพสต์กล้าหาญมากโพสต์มาตั้งแต่ ๕ ทุ่มเมื่อคืน จนบัดนี้ในกลุ่มเงียบกริบ

"ลองอ่านข้อมูล..ดูของอีก
ฟากหนึ่งให้เข้าใจ (อย่างเป็นกลาง) แล้วพิจารณาด้วย "ปัญญาชน" ของท่าน แล้วพิจารณาคำถามทั้งหมดว่าพวกเราคือ "กบในกะลา" หรือไม่

1)รัฐบาลนี้ถูกต่อต้านจากองค์กรระหว่างประเทศเกือบทั้งหมด ไม่มีใครลงนามความร่วมมือด้วยมา2ปีกว่า เพราะอะไร?

2) รัฐบาลนี้ส่งหมายจับดร.ทักษิณไปรัฐบาลอื่นทุกประเทศ ไม่มีใครจับเลย แต่เขากลับให้เกียรติดร.ทักษิณ ทั้งๆที่ประเทศเหล่านั้นจริยธรรมสูงกว่า จริงจังกว่าเรามากมาย รวมทั้งองค์กรระหว่างประเทศ, สื่อต่างประเทศระดับโลก ให้เกียรติระดับเชิญไปปาฐกถา เชิญเป็นที่ปรึกษาของรัฐบาลนับสิบประเทศ เชิญให้มาลงทุน แย่งกันให้สถานะประชาชน ให้พาสปอร์ตนับสิบประเทศ แต่สื่อไทยไม่ได้ออกข่าวและคนไทยไม่รู้เรื่อง...ทำไม?

3) ต่างประเทศ, องค์กรต่างประเทศ ไม่ให้เกียรติประยุทธในฐานะส่วนบุคคล แต่ให้เกียร์ตในฐานะตัวแทนประเทศตามมารยาทเท่านั้น ทำไม?

4) พวกอนุรักษ์นิยมขวาจัดไปนัดประท้วง ดร. ทักษิณที่เมกา ทำไมเขาไม่ให้เกียรติ ให้ประท้วงในคอกที่จัดไว้ และให้ลงจากตึกในลิฟขนขยะ(เจิมศักดิ์ลงเฟสบุคส่วนตัวเอง) แต่พวกสนับสนุนให้อิสระเดินบนถนน ทำไม?

5) ดร.ทักษิณไปทำธุรกิจต่างประเทศโดยรัฐบาลต่างๆเชิญชวน เกือบสิบประเทศ รำ่รวยกว่าสมัยอยู่เมืองไทย ไม่เกี่ยวกับการใช้อำนาจหน้าที่ ไม่มีเรื่องทุจริตเลย แสดงว่าอัจฉริยะจริงใช่ไหม?

6) คนไทยถูกกรอกหูว่าทักษิณโกงจนฝังไว้ในหัว และรวมหัวเค้นหาความผิดและวันนี้มีอำนาจเผด็จการเต็ม แต่ทำไมเอาผิดได้เพียงเซ็นชื่อรับรองให้เมียซื้อที่ดิน ตามระเบียบราชการเท่านั้น และศาลตัดสินแล้วว่าการซื้อขายไม่ผิด เป็นคดีที่อ่อนมาก..

แต่"เสาโรงพักโด่เด่" มันชัดเจน เห็นตำตา แต่ไม่มีคนด่าว่า"โคตรโกง"..สนธิ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นคนเปิดประโยค"โคตรโกง" ตัวเองถูกศาลตัดสินโกงบริษัทมหาชน จำคุก85ปี คนไทยกลับไม่ด่าว่า"โคตรโกง" ทำไม?

และหากเกิดในรัฐบาลทักษิณ และกรณีจำคุก85ปีคือทักษิณ เราจะมีอาการอย่างไร?

7) คนที่จำว่าทักษิณโกง ก็จำมาจาก การปราศรัยของเวทีสนธิ(คนโกง)และเวทีสุเทพ(มีคดีโกงเพียบ) แต่แสดงออกว่าเกลียดโกง คุณก็เชื่อแบบงมงาย...งงตัวเองไม๊?

8) คนที่เกลียดเข้าไส้ว่า ทักษิณโกง จริงๆตัวเองทำมาหากินเหน็ดเหนื่อยทั้งวันไม่เคยค้นหาข้อมูลจริง และไม่เคยจริงจังกับเรื่องเหล่านี้มาก่อน แต่ที่ด่าๆและคำอธิบายก็พูดตาม"คนที่เกลียดทักษิณ" จนตัวเองเกลียดเข้าไส้ไปด้วย พูดตามวาทะกรรมในทีวี และจับกลุ่มด่าว่า ย้ำซึ่งกันและกัน และหาพวกเชื่อตามๆกันมา แต่บอกว่าฉันศึกษาข้อมูลทะลุปรุโปร่ง งงตัวเองไม๊?

9) ทุกคนก็รู้ว่า ดาราค่าตัวแพงมาก ค่าจ้างออกงานครั้งละเป็นแสนๆ คนพวกนี้โกงภาษีหนักมากที่สุด แต่แสดงอารมณ์บนเวทีเหมือนกำลังแสดงละครว่าเกลียดโกง จนคนฟังอินไปด้วยจริงจัง ลืมไปว่านั่นมันการแสดงบนเวที ทั้งๆที่รู้ว่าดาราพวกนี้ขี้โกงภาษีมาตลอด.. สนธิลิ้มขี้โกงก็รู้ โรงพักเสาโด่เด่ก็ขี้โกงก็รู้ แต่เราก็รักเขา ทั้งๆที่ก็รู้ว่าเขาโกง..งงตัวเองไม๊?

หรือจริงๆแล้วเราไม่ได้เกลียดคนขี้โกงจริงๆ แต่มันทำให้เราดูเป็นคนดี หรือตามกระแส เพราะเราถูกปลุกระดม จึงแสดงออกไปได้ขนาดนั้น?(ตั้งแต่ตอนที่ยังไม่มีพวกเสื้อแดง เสื้อแดงก่อนหน้านั้นใส่เสื้อเหลือง โพกหัวเหลือง เพิ่งมีเสื้อแดงตอนคัดค้านรัฐธรรมนูญปี 2550 )

10) ก่อนทักษิณบริหาร ประเทศเราอยู่ในสภาพล้มละลายเงินคงคลังเหลือ280ล้านยูเอสดอลล่าร์ แต่มีหนี้สินมหาศาล จะต้องใช้หนี้อีก50ปี ถึงรุ่นลูกหลาน

แต่2ปีใช้หนี้หมด เงินคงคลังกลับมาที่2400ล้านยูเอส และขึ้นมาถึงเกือบสองหมื่นภายใน4ปี และกลับมาเป็นประเทศให้กู้เร็วมากๆ ทุกประเทศทึ่งเรามาก ไม่เห็นต้องใช้หนี้ถึง50ปีเป็นภาระลูกหลาน เราไม่พูดถึง

กลับมามีเงินเหลือขึ้นเงินเดือนข้าราชการ2ครั้ง มี30บาทรักษาทุกโรค(เมกายังเอาไปทำตาม)มีกองทุนหมู่บ้านจนถึงทุกวันนี้ เราก็ไม่พูดถึง

แต่คนที่ถูกตัดสินโกง85ปี มาบอกว่าทักษิณอยู่ต่อ"ประเทศจะเหลือแต่กระดูก" งงตัวเองไม๊ว่าเราเชื่อไปได้ยังไง?

พวกโกงประเทศทั้งนั้นที่ปลุกระดมเรา เราก็เครียด กังวล แล้วเราก็เชื่อเรื่องโกหก แต่เราก็เชื่อว่าเราฉลาด เราไม่ตั้งสติทบทวนเรื่องเก่าๆดูหรือ ?

จากประเทศกำลังรุ่งเรือง วันนี้ทำท่าจะเหลือแต่กระดูก คนที่โกหก หลอกเรามา เราไม่เคยคิดถามหาว่าเขาต้องรับผิดชอบอย่างไร? ยังร่วมมือเขาลากกันต่อไปจนกว่าจะเหลือแต่กระดูกจริงๆอย่างนั้นหรือ?
หรือว่าเราปิดกั้นตัวเองเกินไป ไม่รับรู้ข้อมูลอื่นๆ ไม่ตามข่าวต่างประเทศ หมกมุ่นอยู่กับความเกลียด ที่ถูกปฎิบัติการจิตวิทยาฝังหัว

สรุป เราเป็น"กบอยู่ในกะลาจริงๆ" แล้ว

เอวัง ..ฝากให้คิดต่อเท่านั้นนะครับ"

คนเคยมีสีกลับใจ กับคำถามที่ชวนพิจารณา!!

ได้มาจากกลุ่มไลน์ที่ 80 % เป็นสลิ่ม คนโพสต์กล้าหาญมากโพสต์มาตั้งแต่ ๕ ทุ่มเมื่อคืน จนบัดนี้ในกลุ่มเงียบกริบ

"ลองอ่านข้อมูล..ดูของอีก
ฟากหนึ่งให้เข้าใจ (อย่างเป็นกลาง) แล้วพิจารณาด้วย "ปัญญาชน" ของท่าน แล้วพิจารณาคำถามทั้งหมดว่าพวกเราคือ "กบในกะลา" หรือไม่

1)รัฐบาลนี้ถูกต่อต้านจากองค์กรระหว่างประเทศเกือบทั้งหมด ไม่มีใครลงนามความร่วมมือด้วยมา2ปีกว่า เพราะอะไร?

2) รัฐบาลนี้ส่งหมายจับดร.ทักษิณไปรัฐบาลอื่นทุกประเทศ ไม่มีใครจับเลย แต่เขากลับให้เกียรติดร.ทักษิณ ทั้งๆที่ประเทศเหล่านั้นจริยธรรมสูงกว่า จริงจังกว่าเรามากมาย รวมทั้งองค์กรระหว่างประเทศ, สื่อต่างประเทศระดับโลก ให้เกียรติระดับเชิญไปปาฐกถา เชิญเป็นที่ปรึกษาของรัฐบาลนับสิบประเทศ เชิญให้มาลงทุน แย่งกันให้สถานะประชาชน ให้พาสปอร์ตนับสิบประเทศ แต่สื่อไทยไม่ได้ออกข่าวและคนไทยไม่รู้เรื่อง...ทำไม?

3) ต่างประเทศ, องค์กรต่างประเทศ ไม่ให้เกียรติประยุทธในฐานะส่วนบุคคล แต่ให้เกียร์ตในฐานะตัวแทนประเทศตามมารยาทเท่านั้น ทำไม?

4) พวกอนุรักษ์นิยมขวาจัดไปนัดประท้วง ดร. ทักษิณที่เมกา ทำไมเขาไม่ให้เกียรติ ให้ประท้วงในคอกที่จัดไว้ และให้ลงจากตึกในลิฟขนขยะ(เจิมศักดิ์ลงเฟสบุคส่วนตัวเอง) แต่พวกสนับสนุนให้อิสระเดินบนถนน ทำไม?

5) ดร.ทักษิณไปทำธุรกิจต่างประเทศโดยรัฐบาลต่างๆเชิญชวน เกือบสิบประเทศ รำ่รวยกว่าสมัยอยู่เมืองไทย ไม่เกี่ยวกับการใช้อำนาจหน้าที่ ไม่มีเรื่องทุจริตเลย แสดงว่าอัจฉริยะจริงใช่ไหม?

6) คนไทยถูกกรอกหูว่าทักษิณโกงจนฝังไว้ในหัว และรวมหัวเค้นหาความผิดและวันนี้มีอำนาจเผด็จการเต็ม แต่ทำไมเอาผิดได้เพียงเซ็นชื่อรับรองให้เมียซื้อที่ดิน ตามระเบียบราชการเท่านั้น และศาลตัดสินแล้วว่าการซื้อขายไม่ผิด เป็นคดีที่อ่อนมาก..

แต่"เสาโรงพักโด่เด่" มันชัดเจน เห็นตำตา แต่ไม่มีคนด่าว่า"โคตรโกง"..สนธิ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นคนเปิดประโยค"โคตรโกง" ตัวเองถูกศาลตัดสินโกงบริษัทมหาชน จำคุก85ปี คนไทยกลับไม่ด่าว่า"โคตรโกง" ทำไม?

และหากเกิดในรัฐบาลทักษิณ และกรณีจำคุก85ปีคือทักษิณ เราจะมีอาการอย่างไร?

7) คนที่จำว่าทักษิณโกง ก็จำมาจาก การปราศรัยของเวทีสนธิ(คนโกง)และเวทีสุเทพ(มีคดีโกงเพียบ) แต่แสดงออกว่าเกลียดโกง คุณก็เชื่อแบบงมงาย...งงตัวเองไม๊?

8) คนที่เกลียดเข้าไส้ว่า ทักษิณโกง จริงๆตัวเองทำมาหากินเหน็ดเหนื่อยทั้งวันไม่เคยค้นหาข้อมูลจริง และไม่เคยจริงจังกับเรื่องเหล่านี้มาก่อน แต่ที่ด่าๆและคำอธิบายก็พูดตาม"คนที่เกลียดทักษิณ" จนตัวเองเกลียดเข้าไส้ไปด้วย พูดตามวาทะกรรมในทีวี และจับกลุ่มด่าว่า ย้ำซึ่งกันและกัน และหาพวกเชื่อตามๆกันมา แต่บอกว่าฉันศึกษาข้อมูลทะลุปรุโปร่ง งงตัวเองไม๊?

9) ทุกคนก็รู้ว่า ดาราค่าตัวแพงมาก ค่าจ้างออกงานครั้งละเป็นแสนๆ คนพวกนี้โกงภาษีหนักมากที่สุด แต่แสดงอารมณ์บนเวทีเหมือนกำลังแสดงละครว่าเกลียดโกง จนคนฟังอินไปด้วยจริงจัง ลืมไปว่านั่นมันการแสดงบนเวที ทั้งๆที่รู้ว่าดาราพวกนี้ขี้โกงภาษีมาตลอด.. สนธิลิ้มขี้โกงก็รู้ โรงพักเสาโด่เด่ก็ขี้โกงก็รู้ แต่เราก็รักเขา ทั้งๆที่ก็รู้ว่าเขาโกง..งงตัวเองไม๊?

หรือจริงๆแล้วเราไม่ได้เกลียดคนขี้โกงจริงๆ แต่มันทำให้เราดูเป็นคนดี หรือตามกระแส เพราะเราถูกปลุกระดม จึงแสดงออกไปได้ขนาดนั้น?(ตั้งแต่ตอนที่ยังไม่มีพวกเสื้อแดง เสื้อแดงก่อนหน้านั้นใส่เสื้อเหลือง โพกหัวเหลือง เพิ่งมีเสื้อแดงตอนคัดค้านรัฐธรรมนูญปี 2550 )

10) ก่อนทักษิณบริหาร ประเทศเราอยู่ในสภาพล้มละลายเงินคงคลังเหลือ280ล้านยูเอสดอลล่าร์ แต่มีหนี้สินมหาศาล จะต้องใช้หนี้อีก50ปี ถึงรุ่นลูกหลาน

แต่2ปีใช้หนี้หมด เงินคงคลังกลับมาที่2400ล้านยูเอส และขึ้นมาถึงเกือบสองหมื่นภายใน4ปี และกลับมาเป็นประเทศให้กู้เร็วมากๆ ทุกประเทศทึ่งเรามาก ไม่เห็นต้องใช้หนี้ถึง50ปีเป็นภาระลูกหลาน เราไม่พูดถึง

กลับมามีเงินเหลือขึ้นเงินเดือนข้าราชการ2ครั้ง มี30บาทรักษาทุกโรค(เมกายังเอาไปทำตาม)มีกองทุนหมู่บ้านจนถึงทุกวันนี้ เราก็ไม่พูดถึง

แต่คนที่ถูกตัดสินโกง85ปี มาบอกว่าทักษิณอยู่ต่อ"ประเทศจะเหลือแต่กระดูก" งงตัวเองไม๊ว่าเราเชื่อไปได้ยังไง?

พวกโกงประเทศทั้งนั้นที่ปลุกระดมเรา เราก็เครียด กังวล แล้วเราก็เชื่อเรื่องโกหก แต่เราก็เชื่อว่าเราฉลาด เราไม่ตั้งสติทบทวนเรื่องเก่าๆดูหรือ ?

จากประเทศกำลังรุ่งเรือง วันนี้ทำท่าจะเหลือแต่กระดูก คนที่โกหก หลอกเรามา เราไม่เคยคิดถามหาว่าเขาต้องรับผิดชอบอย่างไร? ยังร่วมมือเขาลากกันต่อไปจนกว่าจะเหลือแต่กระดูกจริงๆอย่างนั้นหรือ?
หรือว่าเราปิดกั้นตัวเองเกินไป ไม่รับรู้ข้อมูลอื่นๆ ไม่ตามข่าวต่างประเทศ หมกมุ่นอยู่กับความเกลียด ที่ถูกปฎิบัติการจิตวิทยาฝังหัว

สรุป เราเป็น"กบอยู่ในกะลาจริงๆ" แล้ว

เอวัง ..ฝากให้คิดต่อเท่านั้นนะครับ"

Thursday, November 10, 2016

จดหมายแสดงความยินดีต่อว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมพ์ จากท่านจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการองค์การเสรีไทยฯ



จดหมายแสดงความยินดีต่อว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมพ์ จากท่านจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการองค์การเสรีไทยฯ



จดหมายแสดงความยินดีต่อว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมพ์ จากท่านจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการองค์การเสรีไทยฯ



จดหมายแสดงความยินดีต่อว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมพ์ จากท่านจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการองค์การเสรีไทยฯ



จดหมายแสดงความยินดีต่อว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมพ์ จากท่านจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการองค์การเสรีไทยฯ



จดหมายแสดงความยินดีต่อว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมพ์ จากท่านจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการองค์การเสรีไทยฯ



ดร. เพียงดิน รักไทย 10 พ.ย. 2559 ตอน ทำไมมีการประท้วง Trump อนาคตจะเป็นอย่างไร?

ดร. เพียงดิน รักไทย 10 พ.ย. 2559 ตอน ทำไมมีการประท้วง Trump อนาคตจะเป็นอย่างไร?
****************************
หากท่านคิดดี หวังดี และมั่นใจในความดีของท่าน ขอให้ปาวารณาตัว ร่วมเป็นมดแดงล้มช้าง ได้ที่
หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt
หากลิ้งค์ข้างบนถูกบล็อก ให้ส่งรายละเอียดไปที่ 4everche@gmail.com โดยระบุ 1. ชื่อ (จัดตั้งหรือชื่อกลุ่ม) 2. จำนวนสมาชิกในเครือข่าย 3. จังหวัดและอำเภอ 4. อีเมล์ 5. ไลน์หรือเบอร์โทรศัพท์ 6. อาชีพของท่านหรือสมาชิก



ดร. เพียงดิน รักไทย 10 พ.ย. 2559 ตอน ทำไมมีการประท้วง Trump อนาคตจะเป็นอย่างไร?

ดร. เพียงดิน รักไทย 10 พ.ย. 2559 ตอน ทำไมมีการประท้วง Trump อนาคตจะเป็นอย่างไร?
****************************
หากท่านคิดดี หวังดี และมั่นใจในความดีของท่าน ขอให้ปาวารณาตัว ร่วมเป็นมดแดงล้มช้าง ได้ที่
หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt
หากลิ้งค์ข้างบนถูกบล็อก ให้ส่งรายละเอียดไปที่ 4everche@gmail.com โดยระบุ 1. ชื่อ (จัดตั้งหรือชื่อกลุ่ม) 2. จำนวนสมาชิกในเครือข่าย 3. จังหวัดและอำเภอ 4. อีเมล์ 5. ไลน์หรือเบอร์โทรศัพท์ 6. อาชีพของท่านหรือสมาชิก



ดร. เพียงดิน รักไทย 10 พ.ย. 2559 ตอน ทำไมมีการประท้วง Trump อนาคตจะเป็นอย่างไร?

ดร. เพียงดิน รักไทย 10 พ.ย. 2559 ตอน ทำไมมีการประท้วง Trump อนาคตจะเป็นอย่างไร?
****************************
หากท่านคิดดี หวังดี และมั่นใจในความดีของท่าน ขอให้ปาวารณาตัว ร่วมเป็นมดแดงล้มช้าง ได้ที่
หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt
หากลิ้งค์ข้างบนถูกบล็อก ให้ส่งรายละเอียดไปที่ 4everche@gmail.com โดยระบุ 1. ชื่อ (จัดตั้งหรือชื่อกลุ่ม) 2. จำนวนสมาชิกในเครือข่าย 3. จังหวัดและอำเภอ 4. อีเมล์ 5. ไลน์หรือเบอร์โทรศัพท์ 6. อาชีพของท่านหรือสมาชิก



ดร. เพียงดิน รักไทย 10 พ.ย. 2559 ตอน ทำไมมีการประท้วง Trump อนาคตจะเป็นอย่างไร?

ดร. เพียงดิน รักไทย 10 พ.ย. 2559 ตอน ทำไมมีการประท้วง Trump อนาคตจะเป็นอย่างไร?
****************************
หากท่านคิดดี หวังดี และมั่นใจในความดีของท่าน ขอให้ปาวารณาตัว ร่วมเป็นมดแดงล้มช้าง ได้ที่
หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt
หากลิ้งค์ข้างบนถูกบล็อก ให้ส่งรายละเอียดไปที่ 4everche@gmail.com โดยระบุ 1. ชื่อ (จัดตั้งหรือชื่อกลุ่ม) 2. จำนวนสมาชิกในเครือข่าย 3. จังหวัดและอำเภอ 4. อีเมล์ 5. ไลน์หรือเบอร์โทรศัพท์ 6. อาชีพของท่านหรือสมาชิก



ดร. เพียงดิน รักไทย 10 พ.ย. 2559 ตอน ทำไมมีการประท้วง Trump อนาคตจะเป็นอย่างไร?

ดร. เพียงดิน รักไทย 10 พ.ย. 2559 ตอน ทำไมมีการประท้วง Trump อนาคตจะเป็นอย่างไร?
****************************
หากท่านคิดดี หวังดี และมั่นใจในความดีของท่าน ขอให้ปาวารณาตัว ร่วมเป็นมดแดงล้มช้าง ได้ที่
หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt
หากลิ้งค์ข้างบนถูกบล็อก ให้ส่งรายละเอียดไปที่ 4everche@gmail.com โดยระบุ 1. ชื่อ (จัดตั้งหรือชื่อกลุ่ม) 2. จำนวนสมาชิกในเครือข่าย 3. จังหวัดและอำเภอ 4. อีเมล์ 5. ไลน์หรือเบอร์โทรศัพท์ 6. อาชีพของท่านหรือสมาชิก



ดร. เพียงดิน รักไทย 10 พ.ย. 2559 ตอน ทำไมมีการประท้วง Trump อนาคตจะเป็นอย่างไร?

ดร. เพียงดิน รักไทย 10 พ.ย. 2559 ตอน ทำไมมีการประท้วง Trump อนาคตจะเป็นอย่างไร?
****************************
หากท่านคิดดี หวังดี และมั่นใจในความดีของท่าน ขอให้ปาวารณาตัว ร่วมเป็นมดแดงล้มช้าง ได้ที่
หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt
หากลิ้งค์ข้างบนถูกบล็อก ให้ส่งรายละเอียดไปที่ 4everche@gmail.com โดยระบุ 1. ชื่อ (จัดตั้งหรือชื่อกลุ่ม) 2. จำนวนสมาชิกในเครือข่าย 3. จังหวัดและอำเภอ 4. อีเมล์ 5. ไลน์หรือเบอร์โทรศัพท์ 6. อาชีพของท่านหรือสมาชิก



ดร. เพียงดิน รักไทย 10 พ.ย. 2559 ตอน ทำไมมีการประท้วง Trump อนาคตจะเป็นอย่างไร?

ดร. เพียงดิน รักไทย 10 พ.ย. 2559 ตอน ทำไมมีการประท้วง Trump อนาคตจะเป็นอย่างไร?

****************************
หากท่านคิดดี หวังดี และมั่นใจในความดีของท่าน ขอให้ปาวารณาตัว ร่วมเป็นมดแดงล้มช้าง ได้ที่
หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt

หากลิ้งค์ข้างบนถูกบล็อก ให้ส่งรายละเอียดไปที่ 4everche@gmail.com โดยระบุ 1. ชื่อ (จัดตั้งหรือชื่อกลุ่ม)  2. จำนวนสมาชิกในเครือข่าย 3. จังหวัดและอำเภอ  4. อีเมล์  5. ไลน์หรือเบอร์โทรศัพท์  6. อาชีพของท่านหรือสมาชิก



ดร. เพียงดิน รักไทย 10 พ.ย. 2559 ตอน ทำไมมีการประท้วง Trump อนาคตจะเป็นอย่างไร?

ดร. เพียงดิน รักไทย 10 พ.ย. 2559 ตอน ทำไมมีการประท้วง Trump อนาคตจะเป็นอย่างไร?

****************************
หากท่านคิดดี หวังดี และมั่นใจในความดีของท่าน ขอให้ปาวารณาตัว ร่วมเป็นมดแดงล้มช้าง ได้ที่
หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt

หากลิ้งค์ข้างบนถูกบล็อก ให้ส่งรายละเอียดไปที่ 4everche@gmail.com โดยระบุ 1. ชื่อ (จัดตั้งหรือชื่อกลุ่ม)  2. จำนวนสมาชิกในเครือข่าย 3. จังหวัดและอำเภอ  4. อีเมล์  5. ไลน์หรือเบอร์โทรศัพท์  6. อาชีพของท่านหรือสมาชิก



ดร. เพียงดิน รักไทย 10 พ.ย. 2559 ตอน ทำไมมีการประท้วง Trump อนาคตจะเป็นอย่างไร?

ดร. เพียงดิน รักไทย 10 พ.ย. 2559 ตอน ทำไมมีการประท้วง Trump อนาคตจะเป็นอย่างไร?

****************************
หากท่านคิดดี หวังดี และมั่นใจในความดีของท่าน ขอให้ปาวารณาตัว ร่วมเป็นมดแดงล้มช้าง ได้ที่
หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt

หากลิ้งค์ข้างบนถูกบล็อก ให้ส่งรายละเอียดไปที่ 4everche@gmail.com โดยระบุ 1. ชื่อ (จัดตั้งหรือชื่อกลุ่ม)  2. จำนวนสมาชิกในเครือข่าย 3. จังหวัดและอำเภอ  4. อีเมล์  5. ไลน์หรือเบอร์โทรศัพท์  6. อาชีพของท่านหรือสมาชิก



ดร. เพียงดิน รักไทย 10 พ.ย. 2559 ตอน ทำไมมีการประท้วง Trump อนาคตจะเป็นอย่างไร?

ดร. เพียงดิน รักไทย 10 พ.ย. 2559 ตอน ทำไมมีการประท้วง Trump อนาคตจะเป็นอย่างไร?

****************************
หากท่านคิดดี หวังดี และมั่นใจในความดีของท่าน ขอให้ปาวารณาตัว ร่วมเป็นมดแดงล้มช้าง ได้ที่
หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt

หากลิ้งค์ข้างบนถูกบล็อก ให้ส่งรายละเอียดไปที่ 4everche@gmail.com โดยระบุ 1. ชื่อ (จัดตั้งหรือชื่อกลุ่ม)  2. จำนวนสมาชิกในเครือข่าย 3. จังหวัดและอำเภอ  4. อีเมล์  5. ไลน์หรือเบอร์โทรศัพท์  6. อาชีพของท่านหรือสมาชิก



ดร. เพียงดิน รักไทย 10 พ.ย. 2559 ตอน ทำไมมีการประท้วง Trump อนาคตจะเป็นอย่างไร?

ดร. เพียงดิน รักไทย 10 พ.ย. 2559 ตอน ทำไมมีการประท้วง Trump อนาคตจะเป็นอย่างไร?

****************************
หากท่านคิดดี หวังดี และมั่นใจในความดีของท่าน ขอให้ปาวารณาตัว ร่วมเป็นมดแดงล้มช้าง ได้ที่
หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt

หากลิ้งค์ข้างบนถูกบล็อก ให้ส่งรายละเอียดไปที่ 4everche@gmail.com โดยระบุ 1. ชื่อ (จัดตั้งหรือชื่อกลุ่ม)  2. จำนวนสมาชิกในเครือข่าย 3. จังหวัดและอำเภอ  4. อีเมล์  5. ไลน์หรือเบอร์โทรศัพท์  6. อาชีพของท่านหรือสมาชิก



ดร. เพียงดิน รักไทย 10 พ.ย. 2559 ตอน ทำไมมีการประท้วง Trump อนาคตจะเป็นอย่างไร?

ดร. เพียงดิน รักไทย 10 พ.ย. 2559 ตอน ทำไมมีการประท้วง Trump อนาคตจะเป็นอย่างไร?

****************************
หากท่านคิดดี หวังดี และมั่นใจในความดีของท่าน ขอให้ปาวารณาตัว ร่วมเป็นมดแดงล้มช้าง ได้ที่
หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt

หากลิ้งค์ข้างบนถูกบล็อก ให้ส่งรายละเอียดไปที่ 4everche@gmail.com โดยระบุ 1. ชื่อ (จัดตั้งหรือชื่อกลุ่ม)  2. จำนวนสมาชิกในเครือข่าย 3. จังหวัดและอำเภอ  4. อีเมล์  5. ไลน์หรือเบอร์โทรศัพท์  6. อาชีพของท่านหรือสมาชิก



Wednesday, November 9, 2016

ดร. เพียงดิน รักไทย 9 พ.ย. 2559 ทำไม Donald Trump ชนะ? แล้วโลกจะแตกไหม?

ดร. เพียงดิน รักไทย 9 พ.ย. 2559 ทำไม Donald Trump ชนะ? แล้วโลกจะแตกไหม?

****************************
หากท่านคิดดี หวังดี และมั่นใจในความดีของท่าน ขอให้ปาวารณาตัว ร่วมเป็นมดแดงล้มช้าง ได้ที่
หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt

หากลิ้งค์ข้างบนถูกบล็อก ให้ส่งรายละเอียดไปที่ 4everche@gmail.com โดยระบุ 1. ชื่อ (จัดตั้งหรือชื่อกลุ่ม)  2. จำนวนสมาชิกในเครือข่าย 3. จังหวัดและอำเภอ  4. อีเมล์  5. ไลน์หรือเบอร์โทรศัพท์  6. อาชีพของท่านหรือสมาชิก




ดร. เพียงดิน รักไทย 9 พ.ย. 2559 ทำไม Donald Trump ชนะ? แล้วโลกจะแตกไหม?

ดร. เพียงดิน รักไทย 9 พ.ย. 2559 ทำไม Donald Trump ชนะ? แล้วโลกจะแตกไหม?

****************************
หากท่านคิดดี หวังดี และมั่นใจในความดีของท่าน ขอให้ปาวารณาตัว ร่วมเป็นมดแดงล้มช้าง ได้ที่
หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt

หากลิ้งค์ข้างบนถูกบล็อก ให้ส่งรายละเอียดไปที่ 4everche@gmail.com โดยระบุ 1. ชื่อ (จัดตั้งหรือชื่อกลุ่ม)  2. จำนวนสมาชิกในเครือข่าย 3. จังหวัดและอำเภอ  4. อีเมล์  5. ไลน์หรือเบอร์โทรศัพท์  6. อาชีพของท่านหรือสมาชิก




ดร. เพียงดิน รักไทย 9 พ.ย. 2559 ทำไม Donald Trump ชนะ? แล้วโลกจะแตกไหม?

ดร. เพียงดิน รักไทย 9 พ.ย. 2559 ทำไม Donald Trump ชนะ? แล้วโลกจะแตกไหม?

****************************
หากท่านคิดดี หวังดี และมั่นใจในความดีของท่าน ขอให้ปาวารณาตัว ร่วมเป็นมดแดงล้มช้าง ได้ที่
หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt

หากลิ้งค์ข้างบนถูกบล็อก ให้ส่งรายละเอียดไปที่ 4everche@gmail.com โดยระบุ 1. ชื่อ (จัดตั้งหรือชื่อกลุ่ม)  2. จำนวนสมาชิกในเครือข่าย 3. จังหวัดและอำเภอ  4. อีเมล์  5. ไลน์หรือเบอร์โทรศัพท์  6. อาชีพของท่านหรือสมาชิก




ดร. เพียงดิน รักไทย 9 พ.ย. 2559 ทำไม Donald Trump ชนะ? แล้วโลกจะแตกไหม?

ดร. เพียงดิน รักไทย 9 พ.ย. 2559 ทำไม Donald Trump ชนะ? แล้วโลกจะแตกไหม?

****************************
หากท่านคิดดี หวังดี และมั่นใจในความดีของท่าน ขอให้ปาวารณาตัว ร่วมเป็นมดแดงล้มช้าง ได้ที่
หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt

หากลิ้งค์ข้างบนถูกบล็อก ให้ส่งรายละเอียดไปที่ 4everche@gmail.com โดยระบุ 1. ชื่อ (จัดตั้งหรือชื่อกลุ่ม)  2. จำนวนสมาชิกในเครือข่าย 3. จังหวัดและอำเภอ  4. อีเมล์  5. ไลน์หรือเบอร์โทรศัพท์  6. อาชีพของท่านหรือสมาชิก




ดร. เพียงดิน รักไทย 9 พ.ย. 2559 ทำไม Donald Trump ชนะ? แล้วโลกจะแตกไหม?

ดร. เพียงดิน รักไทย 9 พ.ย. 2559 ทำไม Donald Trump ชนะ? แล้วโลกจะแตกไหม?

****************************
หากท่านคิดดี หวังดี และมั่นใจในความดีของท่าน ขอให้ปาวารณาตัว ร่วมเป็นมดแดงล้มช้าง ได้ที่
หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt

หากลิ้งค์ข้างบนถูกบล็อก ให้ส่งรายละเอียดไปที่ 4everche@gmail.com โดยระบุ 1. ชื่อ (จัดตั้งหรือชื่อกลุ่ม)  2. จำนวนสมาชิกในเครือข่าย 3. จังหวัดและอำเภอ  4. อีเมล์  5. ไลน์หรือเบอร์โทรศัพท์  6. อาชีพของท่านหรือสมาชิก




ดร. เพียงดิน รักไทย 9 พ.ย. 2559 ทำไม Donald Trump ชนะ? แล้วโลกจะแตกไหม?

ดร. เพียงดิน รักไทย 9 พ.ย. 2559 ทำไม Donald Trump ชนะ? แล้วโลกจะแตกไหม?

****************************
หากท่านคิดดี หวังดี และมั่นใจในความดีของท่าน ขอให้ปาวารณาตัว ร่วมเป็นมดแดงล้มช้าง ได้ที่
หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt

หากลิ้งค์ข้างบนถูกบล็อก ให้ส่งรายละเอียดไปที่ 4everche@gmail.com โดยระบุ 1. ชื่อ (จัดตั้งหรือชื่อกลุ่ม)  2. จำนวนสมาชิกในเครือข่าย 3. จังหวัดและอำเภอ  4. อีเมล์  5. ไลน์หรือเบอร์โทรศัพท์  6. อาชีพของท่านหรือสมาชิก




Monday, November 7, 2016

ดร. เพียงดิน รักไทย 8 พย 2559 ตอน วาทกรรม หนักแผ่นดิน กับ กรณีชาวนาไทย (ฉบับสมบูรณ์)

ดร. เพียงดิน รักไทย 8 พย 2559 ตอน วาทกรรม หนักแผ่นดิน กับ กรณีชาวนาไทย (ฉบับสมบูรณ์)

****************************
หากท่านคิดดี หวังดี และมั่นใจในความดีของท่าน ขอให้ปาวารณาตัว ร่วมเป็นมดแดงล้มช้าง ได้ที่
หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt

หากลิ้งค์ข้างบนถูกบล็อก ให้ส่งรายละเอียดไปที่ 4everche@gmail.com โดยระบุ 1. ชื่อ (จัดตั้งหรือชื่อกลุ่ม)  2. จำนวนสมาชิกในเครือข่าย 3. จังหวัดและอำเภอ  4. อีเมล์  5. ไลน์หรือเบอร์โทรศัพท์  6. อาชีพของท่านหรือสมาชิก

ดร. เพียงดิน รักไทย 8 พย 2559 ตอน วาทกรรม หนักแผ่นดิน กับ กรณีชาวนาไทย (ฉบับสมบูรณ์)

ดร. เพียงดิน รักไทย 8 พย 2559 ตอน วาทกรรม หนักแผ่นดิน กับ กรณีชาวนาไทย (ฉบับสมบูรณ์)

****************************
หากท่านคิดดี หวังดี และมั่นใจในความดีของท่าน ขอให้ปาวารณาตัว ร่วมเป็นมดแดงล้มช้าง ได้ที่
หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt

หากลิ้งค์ข้างบนถูกบล็อก ให้ส่งรายละเอียดไปที่ 4everche@gmail.com โดยระบุ 1. ชื่อ (จัดตั้งหรือชื่อกลุ่ม)  2. จำนวนสมาชิกในเครือข่าย 3. จังหวัดและอำเภอ  4. อีเมล์  5. ไลน์หรือเบอร์โทรศัพท์  6. อาชีพของท่านหรือสมาชิก

ดร. เพียงดิน รักไทย 8 พย 2559 ตอน วาทกรรม หนักแผ่นดิน กับ กรณีชาวนาไทย (ฉบับสมบูรณ์)

ดร. เพียงดิน รักไทย 8 พย 2559 ตอน วาทกรรม หนักแผ่นดิน กับ กรณีชาวนาไทย (ฉบับสมบูรณ์)

****************************
หากท่านคิดดี หวังดี และมั่นใจในความดีของท่าน ขอให้ปาวารณาตัว ร่วมเป็นมดแดงล้มช้าง ได้ที่
หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt

หากลิ้งค์ข้างบนถูกบล็อก ให้ส่งรายละเอียดไปที่ 4everche@gmail.com โดยระบุ 1. ชื่อ (จัดตั้งหรือชื่อกลุ่ม)  2. จำนวนสมาชิกในเครือข่าย 3. จังหวัดและอำเภอ  4. อีเมล์  5. ไลน์หรือเบอร์โทรศัพท์  6. อาชีพของท่านหรือสมาชิก

Sunday, November 6, 2016

The Truth of October 6, 1976: A Student Massacre that Still Waits for Answers

The Truth of October 6, 1976: A Student Massacre that Still Waits for Answers

ANN NORMAN·SUNDAY, NOVEMBER 6, 2016

 By Ann Norman 




Truth is a thing that doesn't die ความจริงคือสิ่งที่ไม่ตาย---as the saying goes. And one day we may know the truth of the Thammasat University Massacre, of 50 to 100 student demonstrators on October 6, 1976. That day college students were killed by an army, police, and vigilante mob in ways so gruesome you can't ever "unsee" the images. Not only were the students butchered in various and unusual ways, but their dead bodies were desecrated and even raped. The iconic picture from this event is the bloodied and lifeless body of a young person, hanging from a tree, being beaten with a folding chair, while a circle of people watch, some smiling. In addition to the dead, thousands were arrested and were made to strip to the waist and crawl on the ground as a form of humiliation. The event was instigated by accusations that the students were communists and that they had insulted the Crown Prince. In fact, the students had been protesting the return of an exiled dictator to Thailand as well as the assassination of a labor activist. Many of the demonstrators, who had not previously been communists, were radicalized by the shocking turn of events and fled into the jungle to join the communists for several years. A day after the massacre, a coup replaced the democratic government with yet another dictatorship. No one was ever prosecuted for the massacre; everyone involved was granted amnesty. 


What makes this tragedy especially difficult to understand or accept is that only three years earlier, on October 14, 1973, a similar pro-democracy student uprising had ended in victory for the demonstrators, and that event continues to be celebrated today. Songs are still being written for the heroes of October 14---while those who died three years later on October 6 are ignored or regarded with suspicion, as if they possibly share some blame for being attacked by a bloodthirsty mob.  


What exactly happened October 6 and why? The facts are still discoverable: it occured in modern times, the victims were from the educated middle class, there were thousands of witnesses (now only be in their late 50s or early 60s), and the whole thing was filmed. (The images are distressing and you may not want or need to see them. But if you need proof, just google.) Because so many progressive Thais were there that day, it is unsurprisingly that I happen to know several of them, just as most Americans know someone directly affected by 9/11. Yet despite the opportunities to discover the truth about October 6 and learn from it, no consensus has emerged as to what happened, how it happened, and or why. And this is due to an active and ongoing campaign to silence the questions before they are even asked. How many died? Who is responsible? How can we prevent it from ever happening again? 


This year, just prior to the 40 anniversary of the event, The Nation ran an article with a promising title: "Lessons to be learned from the October 6, 1976 heartbreak." Such lessons presumably come from an examination of history, so I was surprised when the article began with attempt to shame and discourage those planning memorials for the 40th Anniversary: "Next week, several groups are planning to commemorate the tragedy of October 6, 1976. Indications suggest a large sum of 'mysterious' money has been made available to finance any group that can organize provocative commemorative projects."

 

Of course, there is a longstanding tradition in Thailand of condemning October 6 memorials as "provocative." In 2013, to mark the October 6 anniversary, a group Thammasat students staged a play called "Wolf Bride." Two students Patiwat 'Bank' Saraiyam (a man) and Pornthip 'Golf' Munkong (a woman) went to jail for two and a half years for lese majesty for putting on that play, and several other young actors had to flee the country to avoid lese majesty charges. Commemorations for the anniversary in 2014 were cancelled because of the ban on political gathering in the wake of the coup. This year, for 40th Anniversary of the massacre, Thammasat students invited Joshua Wong of the 2014 Hong Kong Umbrella Protests to come speak. But Wong was prevented from entering the country by immigration officials who surrounded him as soon as the plane landed. When he demanded to know why he was being detained, one warned him, "You know this is Thailand, it's like China. Not like Hong Kong." (Recall that in 1976, the Thammasat students were massacred after being branded as "communists." Forty years on, Thai official now SIDE with communists to suppress the speech of Thammasat students trying to commemorating that massacre! The whole geopolitical context can change, but nothing changes for Thai students demanding democracy.)  


And why can't we talk about October 6? The strong message from the powers-that-be is that talking about the event will be unpleasant and messy, and make it harder for the country to come together around national symbols of the monarchy. 


That much is true, as rabid royalists played a lead role in the events, and US diplomatic cables report that King Bhumipol at first appeared to treat the massacre as a necessary cost of doing business (in the war on communism) rather than a crime against humanity. The cables are shocking, but not all that shocking. US leaders have been equally accepting of "collateral damage" at certain points in history. Lots of horrible, ugly things happened in the 60s and 70s, both in Thailand and in America, during the war on communism. It was a time of social unrest, student protests, anti-communist fervor, war atrocities, secret undercover government activities, and yes even massacres. 


This year, in reading an article (that I can no longer access) on the October 6th event, I learned that the worst of the atrocities on October 6, such as the iconic hanging, may have been committed by a small group set up by the Thai equivalent of the US CIA. Reading Wikipedia, I learned that that secret Thai organization was funded by the US CIA to fight communism. A serious investigation of October is likely to dig up a lot of dirt that is uncomfortable to personal and national self-perceptions in either or both countries. It could lead anywhere.  So why not reconcile, move on, and just forget the ugly past?  


This is why we can't give it up: Because, in Thailand, 40 years after the massacre, Thais are STILL living under dictators; students are still trying to speak out about democracy, and they are still being shut down by those who brand them as dangerous troublemakers who disrespect royalty. There are still hysterical witch hunts. Leaders still look for scapegoats on which they can lay the blame for all of Thailand's troubles. And there is still a culture of impunity, that lets the well-connected get away with literally ANYTHING.  


And this is why tragedy of October 6, 1976, still haunts. This is why those who were affected cannot just forgive and move on. I asked someone who was there what I should write for this article. They said "Tell them we were just trying to speak up; the students had no rights to speak." And the students still cannot speak freely; they are still bullied and abused at the whims of the powerful. It is difficult to fix a problem if we can't even acknowledge that problem. When I practice my new-found Thai saying, "Truth is a thing that doesn't die" on my Thai friends, twice I have twice gotten the reply, "Truth is a thing that doesn't die. But in Thailand, people who say the truth might end up dead." Similarly, one Thai human rights group commemorated the 40th Anniversary by selling black T-shirts that say, "I think therefore, I am dead" and the date: "40th 6 October, 1976." 


Isn't it time to start fresh, and build society on a new foundation of truth and human rights? A society that is built on a foundation of happy myths is vulnerable to truth; and it must brutally and continually defend its inconvenient secrets by suppressing the human rights of students and others interested in pursuing facts where they lead. This month a representative of the Thai Alliance for Human Rights will be going to the International Criminal Court in The Hague to report on this massacre and other massacres in Thai history that could be labeled crimes against humanity. Neither Thailand (nor the United States) is a signatory to the Rome Treaty establishing the International Criminal Court, and crimes cannot be retroactively prosecuted even if Thailand does in the future decide to sign on. But at least, our organization will have a chance to report the crimes and be heard. And it indicates a method that Thai people could plausibly use in the future to hold even its most powerful people accountable, to end the culture of impunity, and so discourage future crimes against humanity.


ANN NORMAN is Executive Director of the Thai Alliance for Human Rights (TAHR)

Website:  http://tahr-global.org   Email: ann.norman@tahr-global.org

The Truth of October 6, 1976: A Student Massacre that Still Waits for Answers

The Truth of October 6, 1976: A Student Massacre that Still Waits for Answers

ANN NORMAN·SUNDAY, NOVEMBER 6, 2016

 By Ann Norman 




Truth is a thing that doesn't die ความจริงคือสิ่งที่ไม่ตาย---as the saying goes. And one day we may know the truth of the Thammasat University Massacre, of 50 to 100 student demonstrators on October 6, 1976. That day college students were killed by an army, police, and vigilante mob in ways so gruesome you can't ever "unsee" the images. Not only were the students butchered in various and unusual ways, but their dead bodies were desecrated and even raped. The iconic picture from this event is the bloodied and lifeless body of a young person, hanging from a tree, being beaten with a folding chair, while a circle of people watch, some smiling. In addition to the dead, thousands were arrested and were made to strip to the waist and crawl on the ground as a form of humiliation. The event was instigated by accusations that the students were communists and that they had insulted the Crown Prince. In fact, the students had been protesting the return of an exiled dictator to Thailand as well as the assassination of a labor activist. Many of the demonstrators, who had not previously been communists, were radicalized by the shocking turn of events and fled into the jungle to join the communists for several years. A day after the massacre, a coup replaced the democratic government with yet another dictatorship. No one was ever prosecuted for the massacre; everyone involved was granted amnesty. 


What makes this tragedy especially difficult to understand or accept is that only three years earlier, on October 14, 1973, a similar pro-democracy student uprising had ended in victory for the demonstrators, and that event continues to be celebrated today. Songs are still being written for the heroes of October 14---while those who died three years later on October 6 are ignored or regarded with suspicion, as if they possibly share some blame for being attacked by a bloodthirsty mob.  


What exactly happened October 6 and why? The facts are still discoverable: it occured in modern times, the victims were from the educated middle class, there were thousands of witnesses (now only be in their late 50s or early 60s), and the whole thing was filmed. (The images are distressing and you may not want or need to see them. But if you need proof, just google.) Because so many progressive Thais were there that day, it is unsurprisingly that I happen to know several of them, just as most Americans know someone directly affected by 9/11. Yet despite the opportunities to discover the truth about October 6 and learn from it, no consensus has emerged as to what happened, how it happened, and or why. And this is due to an active and ongoing campaign to silence the questions before they are even asked. How many died? Who is responsible? How can we prevent it from ever happening again? 


This year, just prior to the 40 anniversary of the event, The Nation ran an article with a promising title: "Lessons to be learned from the October 6, 1976 heartbreak." Such lessons presumably come from an examination of history, so I was surprised when the article began with attempt to shame and discourage those planning memorials for the 40th Anniversary: "Next week, several groups are planning to commemorate the tragedy of October 6, 1976. Indications suggest a large sum of 'mysterious' money has been made available to finance any group that can organize provocative commemorative projects."

 

Of course, there is a longstanding tradition in Thailand of condemning October 6 memorials as "provocative." In 2013, to mark the October 6 anniversary, a group Thammasat students staged a play called "Wolf Bride." Two students Patiwat 'Bank' Saraiyam (a man) and Pornthip 'Golf' Munkong (a woman) went to jail for two and a half years for lese majesty for putting on that play, and several other young actors had to flee the country to avoid lese majesty charges. Commemorations for the anniversary in 2014 were cancelled because of the ban on political gathering in the wake of the coup. This year, for 40th Anniversary of the massacre, Thammasat students invited Joshua Wong of the 2014 Hong Kong Umbrella Protests to come speak. But Wong was prevented from entering the country by immigration officials who surrounded him as soon as the plane landed. When he demanded to know why he was being detained, one warned him, "You know this is Thailand, it's like China. Not like Hong Kong." (Recall that in 1976, the Thammasat students were massacred after being branded as "communists." Forty years on, Thai official now SIDE with communists to suppress the speech of Thammasat students trying to commemorating that massacre! The whole geopolitical context can change, but nothing changes for Thai students demanding democracy.)  


And why can't we talk about October 6? The strong message from the powers-that-be is that talking about the event will be unpleasant and messy, and make it harder for the country to come together around national symbols of the monarchy. 


That much is true, as rabid royalists played a lead role in the events, and US diplomatic cables report that King Bhumipol at first appeared to treat the massacre as a necessary cost of doing business (in the war on communism) rather than a crime against humanity. The cables are shocking, but not all that shocking. US leaders have been equally accepting of "collateral damage" at certain points in history. Lots of horrible, ugly things happened in the 60s and 70s, both in Thailand and in America, during the war on communism. It was a time of social unrest, student protests, anti-communist fervor, war atrocities, secret undercover government activities, and yes even massacres. 


This year, in reading an article (that I can no longer access) on the October 6th event, I learned that the worst of the atrocities on October 6, such as the iconic hanging, may have been committed by a small group set up by the Thai equivalent of the US CIA. Reading Wikipedia, I learned that that secret Thai organization was funded by the US CIA to fight communism. A serious investigation of October is likely to dig up a lot of dirt that is uncomfortable to personal and national self-perceptions in either or both countries. It could lead anywhere.  So why not reconcile, move on, and just forget the ugly past?  


This is why we can't give it up: Because, in Thailand, 40 years after the massacre, Thais are STILL living under dictators; students are still trying to speak out about democracy, and they are still being shut down by those who brand them as dangerous troublemakers who disrespect royalty. There are still hysterical witch hunts. Leaders still look for scapegoats on which they can lay the blame for all of Thailand's troubles. And there is still a culture of impunity, that lets the well-connected get away with literally ANYTHING.  


And this is why tragedy of October 6, 1976, still haunts. This is why those who were affected cannot just forgive and move on. I asked someone who was there what I should write for this article. They said "Tell them we were just trying to speak up; the students had no rights to speak." And the students still cannot speak freely; they are still bullied and abused at the whims of the powerful. It is difficult to fix a problem if we can't even acknowledge that problem. When I practice my new-found Thai saying, "Truth is a thing that doesn't die" on my Thai friends, twice I have twice gotten the reply, "Truth is a thing that doesn't die. But in Thailand, people who say the truth might end up dead." Similarly, one Thai human rights group commemorated the 40th Anniversary by selling black T-shirts that say, "I think therefore, I am dead" and the date: "40th 6 October, 1976." 


Isn't it time to start fresh, and build society on a new foundation of truth and human rights? A society that is built on a foundation of happy myths is vulnerable to truth; and it must brutally and continually defend its inconvenient secrets by suppressing the human rights of students and others interested in pursuing facts where they lead. This month a representative of the Thai Alliance for Human Rights will be going to the International Criminal Court in The Hague to report on this massacre and other massacres in Thai history that could be labeled crimes against humanity. Neither Thailand (nor the United States) is a signatory to the Rome Treaty establishing the International Criminal Court, and crimes cannot be retroactively prosecuted even if Thailand does in the future decide to sign on. But at least, our organization will have a chance to report the crimes and be heard. And it indicates a method that Thai people could plausibly use in the future to hold even its most powerful people accountable, to end the culture of impunity, and so discourage future crimes against humanity.


ANN NORMAN is Executive Director of the Thai Alliance for Human Rights (TAHR)

Website:  http://tahr-global.org   Email: ann.norman@tahr-global.org

The Truth of October 6, 1976: A Student Massacre that Still Waits for Answers

The Truth of October 6, 1976: A Student Massacre that Still Waits for Answers

ANN NORMAN·SUNDAY, NOVEMBER 6, 2016

 By Ann Norman 




Truth is a thing that doesn't die ความจริงคือสิ่งที่ไม่ตาย---as the saying goes. And one day we may know the truth of the Thammasat University Massacre, of 50 to 100 student demonstrators on October 6, 1976. That day college students were killed by an army, police, and vigilante mob in ways so gruesome you can't ever "unsee" the images. Not only were the students butchered in various and unusual ways, but their dead bodies were desecrated and even raped. The iconic picture from this event is the bloodied and lifeless body of a young person, hanging from a tree, being beaten with a folding chair, while a circle of people watch, some smiling. In addition to the dead, thousands were arrested and were made to strip to the waist and crawl on the ground as a form of humiliation. The event was instigated by accusations that the students were communists and that they had insulted the Crown Prince. In fact, the students had been protesting the return of an exiled dictator to Thailand as well as the assassination of a labor activist. Many of the demonstrators, who had not previously been communists, were radicalized by the shocking turn of events and fled into the jungle to join the communists for several years. A day after the massacre, a coup replaced the democratic government with yet another dictatorship. No one was ever prosecuted for the massacre; everyone involved was granted amnesty. 


What makes this tragedy especially difficult to understand or accept is that only three years earlier, on October 14, 1973, a similar pro-democracy student uprising had ended in victory for the demonstrators, and that event continues to be celebrated today. Songs are still being written for the heroes of October 14---while those who died three years later on October 6 are ignored or regarded with suspicion, as if they possibly share some blame for being attacked by a bloodthirsty mob.  


What exactly happened October 6 and why? The facts are still discoverable: it occured in modern times, the victims were from the educated middle class, there were thousands of witnesses (now only be in their late 50s or early 60s), and the whole thing was filmed. (The images are distressing and you may not want or need to see them. But if you need proof, just google.) Because so many progressive Thais were there that day, it is unsurprisingly that I happen to know several of them, just as most Americans know someone directly affected by 9/11. Yet despite the opportunities to discover the truth about October 6 and learn from it, no consensus has emerged as to what happened, how it happened, and or why. And this is due to an active and ongoing campaign to silence the questions before they are even asked. How many died? Who is responsible? How can we prevent it from ever happening again? 


This year, just prior to the 40 anniversary of the event, The Nation ran an article with a promising title: "Lessons to be learned from the October 6, 1976 heartbreak." Such lessons presumably come from an examination of history, so I was surprised when the article began with attempt to shame and discourage those planning memorials for the 40th Anniversary: "Next week, several groups are planning to commemorate the tragedy of October 6, 1976. Indications suggest a large sum of 'mysterious' money has been made available to finance any group that can organize provocative commemorative projects."

 

Of course, there is a longstanding tradition in Thailand of condemning October 6 memorials as "provocative." In 2013, to mark the October 6 anniversary, a group Thammasat students staged a play called "Wolf Bride." Two students Patiwat 'Bank' Saraiyam (a man) and Pornthip 'Golf' Munkong (a woman) went to jail for two and a half years for lese majesty for putting on that play, and several other young actors had to flee the country to avoid lese majesty charges. Commemorations for the anniversary in 2014 were cancelled because of the ban on political gathering in the wake of the coup. This year, for 40th Anniversary of the massacre, Thammasat students invited Joshua Wong of the 2014 Hong Kong Umbrella Protests to come speak. But Wong was prevented from entering the country by immigration officials who surrounded him as soon as the plane landed. When he demanded to know why he was being detained, one warned him, "You know this is Thailand, it's like China. Not like Hong Kong." (Recall that in 1976, the Thammasat students were massacred after being branded as "communists." Forty years on, Thai official now SIDE with communists to suppress the speech of Thammasat students trying to commemorating that massacre! The whole geopolitical context can change, but nothing changes for Thai students demanding democracy.)  


And why can't we talk about October 6? The strong message from the powers-that-be is that talking about the event will be unpleasant and messy, and make it harder for the country to come together around national symbols of the monarchy. 


That much is true, as rabid royalists played a lead role in the events, and US diplomatic cables report that King Bhumipol at first appeared to treat the massacre as a necessary cost of doing business (in the war on communism) rather than a crime against humanity. The cables are shocking, but not all that shocking. US leaders have been equally accepting of "collateral damage" at certain points in history. Lots of horrible, ugly things happened in the 60s and 70s, both in Thailand and in America, during the war on communism. It was a time of social unrest, student protests, anti-communist fervor, war atrocities, secret undercover government activities, and yes even massacres. 


This year, in reading an article (that I can no longer access) on the October 6th event, I learned that the worst of the atrocities on October 6, such as the iconic hanging, may have been committed by a small group set up by the Thai equivalent of the US CIA. Reading Wikipedia, I learned that that secret Thai organization was funded by the US CIA to fight communism. A serious investigation of October is likely to dig up a lot of dirt that is uncomfortable to personal and national self-perceptions in either or both countries. It could lead anywhere.  So why not reconcile, move on, and just forget the ugly past?  


This is why we can't give it up: Because, in Thailand, 40 years after the massacre, Thais are STILL living under dictators; students are still trying to speak out about democracy, and they are still being shut down by those who brand them as dangerous troublemakers who disrespect royalty. There are still hysterical witch hunts. Leaders still look for scapegoats on which they can lay the blame for all of Thailand's troubles. And there is still a culture of impunity, that lets the well-connected get away with literally ANYTHING.  


And this is why tragedy of October 6, 1976, still haunts. This is why those who were affected cannot just forgive and move on. I asked someone who was there what I should write for this article. They said "Tell them we were just trying to speak up; the students had no rights to speak." And the students still cannot speak freely; they are still bullied and abused at the whims of the powerful. It is difficult to fix a problem if we can't even acknowledge that problem. When I practice my new-found Thai saying, "Truth is a thing that doesn't die" on my Thai friends, twice I have twice gotten the reply, "Truth is a thing that doesn't die. But in Thailand, people who say the truth might end up dead." Similarly, one Thai human rights group commemorated the 40th Anniversary by selling black T-shirts that say, "I think therefore, I am dead" and the date: "40th 6 October, 1976." 


Isn't it time to start fresh, and build society on a new foundation of truth and human rights? A society that is built on a foundation of happy myths is vulnerable to truth; and it must brutally and continually defend its inconvenient secrets by suppressing the human rights of students and others interested in pursuing facts where they lead. This month a representative of the Thai Alliance for Human Rights will be going to the International Criminal Court in The Hague to report on this massacre and other massacres in Thai history that could be labeled crimes against humanity. Neither Thailand (nor the United States) is a signatory to the Rome Treaty establishing the International Criminal Court, and crimes cannot be retroactively prosecuted even if Thailand does in the future decide to sign on. But at least, our organization will have a chance to report the crimes and be heard. And it indicates a method that Thai people could plausibly use in the future to hold even its most powerful people accountable, to end the culture of impunity, and so discourage future crimes against humanity.


ANN NORMAN is Executive Director of the Thai Alliance for Human Rights (TAHR)

Website:  http://tahr-global.org   Email: ann.norman@tahr-global.org

The Truth of October 6, 1976: A Student Massacre that Still Waits for Answers

The Truth of October 6, 1976: A Student Massacre that Still Waits for Answers

ANN NORMAN·SUNDAY, NOVEMBER 6, 2016

 By Ann Norman 




Truth is a thing that doesn't die ความจริงคือสิ่งที่ไม่ตาย---as the saying goes. And one day we may know the truth of the Thammasat University Massacre, of 50 to 100 student demonstrators on October 6, 1976. That day college students were killed by an army, police, and vigilante mob in ways so gruesome you can't ever "unsee" the images. Not only were the students butchered in various and unusual ways, but their dead bodies were desecrated and even raped. The iconic picture from this event is the bloodied and lifeless body of a young person, hanging from a tree, being beaten with a folding chair, while a circle of people watch, some smiling. In addition to the dead, thousands were arrested and were made to strip to the waist and crawl on the ground as a form of humiliation. The event was instigated by accusations that the students were communists and that they had insulted the Crown Prince. In fact, the students had been protesting the return of an exiled dictator to Thailand as well as the assassination of a labor activist. Many of the demonstrators, who had not previously been communists, were radicalized by the shocking turn of events and fled into the jungle to join the communists for several years. A day after the massacre, a coup replaced the democratic government with yet another dictatorship. No one was ever prosecuted for the massacre; everyone involved was granted amnesty. 


What makes this tragedy especially difficult to understand or accept is that only three years earlier, on October 14, 1973, a similar pro-democracy student uprising had ended in victory for the demonstrators, and that event continues to be celebrated today. Songs are still being written for the heroes of October 14---while those who died three years later on October 6 are ignored or regarded with suspicion, as if they possibly share some blame for being attacked by a bloodthirsty mob.  


What exactly happened October 6 and why? The facts are still discoverable: it occured in modern times, the victims were from the educated middle class, there were thousands of witnesses (now only be in their late 50s or early 60s), and the whole thing was filmed. (The images are distressing and you may not want or need to see them. But if you need proof, just google.) Because so many progressive Thais were there that day, it is unsurprisingly that I happen to know several of them, just as most Americans know someone directly affected by 9/11. Yet despite the opportunities to discover the truth about October 6 and learn from it, no consensus has emerged as to what happened, how it happened, and or why. And this is due to an active and ongoing campaign to silence the questions before they are even asked. How many died? Who is responsible? How can we prevent it from ever happening again? 


This year, just prior to the 40 anniversary of the event, The Nation ran an article with a promising title: "Lessons to be learned from the October 6, 1976 heartbreak." Such lessons presumably come from an examination of history, so I was surprised when the article began with attempt to shame and discourage those planning memorials for the 40th Anniversary: "Next week, several groups are planning to commemorate the tragedy of October 6, 1976. Indications suggest a large sum of 'mysterious' money has been made available to finance any group that can organize provocative commemorative projects."

 

Of course, there is a longstanding tradition in Thailand of condemning October 6 memorials as "provocative." In 2013, to mark the October 6 anniversary, a group Thammasat students staged a play called "Wolf Bride." Two students Patiwat 'Bank' Saraiyam (a man) and Pornthip 'Golf' Munkong (a woman) went to jail for two and a half years for lese majesty for putting on that play, and several other young actors had to flee the country to avoid lese majesty charges. Commemorations for the anniversary in 2014 were cancelled because of the ban on political gathering in the wake of the coup. This year, for 40th Anniversary of the massacre, Thammasat students invited Joshua Wong of the 2014 Hong Kong Umbrella Protests to come speak. But Wong was prevented from entering the country by immigration officials who surrounded him as soon as the plane landed. When he demanded to know why he was being detained, one warned him, "You know this is Thailand, it's like China. Not like Hong Kong." (Recall that in 1976, the Thammasat students were massacred after being branded as "communists." Forty years on, Thai official now SIDE with communists to suppress the speech of Thammasat students trying to commemorating that massacre! The whole geopolitical context can change, but nothing changes for Thai students demanding democracy.)  


And why can't we talk about October 6? The strong message from the powers-that-be is that talking about the event will be unpleasant and messy, and make it harder for the country to come together around national symbols of the monarchy. 


That much is true, as rabid royalists played a lead role in the events, and US diplomatic cables report that King Bhumipol at first appeared to treat the massacre as a necessary cost of doing business (in the war on communism) rather than a crime against humanity. The cables are shocking, but not all that shocking. US leaders have been equally accepting of "collateral damage" at certain points in history. Lots of horrible, ugly things happened in the 60s and 70s, both in Thailand and in America, during the war on communism. It was a time of social unrest, student protests, anti-communist fervor, war atrocities, secret undercover government activities, and yes even massacres. 


This year, in reading an article (that I can no longer access) on the October 6th event, I learned that the worst of the atrocities on October 6, such as the iconic hanging, may have been committed by a small group set up by the Thai equivalent of the US CIA. Reading Wikipedia, I learned that that secret Thai organization was funded by the US CIA to fight communism. A serious investigation of October is likely to dig up a lot of dirt that is uncomfortable to personal and national self-perceptions in either or both countries. It could lead anywhere.  So why not reconcile, move on, and just forget the ugly past?  


This is why we can't give it up: Because, in Thailand, 40 years after the massacre, Thais are STILL living under dictators; students are still trying to speak out about democracy, and they are still being shut down by those who brand them as dangerous troublemakers who disrespect royalty. There are still hysterical witch hunts. Leaders still look for scapegoats on which they can lay the blame for all of Thailand's troubles. And there is still a culture of impunity, that lets the well-connected get away with literally ANYTHING.  


And this is why tragedy of October 6, 1976, still haunts. This is why those who were affected cannot just forgive and move on. I asked someone who was there what I should write for this article. They said "Tell them we were just trying to speak up; the students had no rights to speak." And the students still cannot speak freely; they are still bullied and abused at the whims of the powerful. It is difficult to fix a problem if we can't even acknowledge that problem. When I practice my new-found Thai saying, "Truth is a thing that doesn't die" on my Thai friends, twice I have twice gotten the reply, "Truth is a thing that doesn't die. But in Thailand, people who say the truth might end up dead." Similarly, one Thai human rights group commemorated the 40th Anniversary by selling black T-shirts that say, "I think therefore, I am dead" and the date: "40th 6 October, 1976." 


Isn't it time to start fresh, and build society on a new foundation of truth and human rights? A society that is built on a foundation of happy myths is vulnerable to truth; and it must brutally and continually defend its inconvenient secrets by suppressing the human rights of students and others interested in pursuing facts where they lead. This month a representative of the Thai Alliance for Human Rights will be going to the International Criminal Court in The Hague to report on this massacre and other massacres in Thai history that could be labeled crimes against humanity. Neither Thailand (nor the United States) is a signatory to the Rome Treaty establishing the International Criminal Court, and crimes cannot be retroactively prosecuted even if Thailand does in the future decide to sign on. But at least, our organization will have a chance to report the crimes and be heard. And it indicates a method that Thai people could plausibly use in the future to hold even its most powerful people accountable, to end the culture of impunity, and so discourage future crimes against humanity.


ANN NORMAN is Executive Director of the Thai Alliance for Human Rights (TAHR)

Website:  http://tahr-global.org   Email: ann.norman@tahr-global.org