Saturday, September 3, 2016

อาการของในหลวง ๒ กันยายน ๒๕๕๙ (ตามรายงานข่าว)... แต่ความจริงคือ.......?

คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้รายงานสรุปพระอาการระหว่างวันที่ ๑ สิงหาคม - ๒ กันยายน ๒๕๕๙ ว่า

          ภายหลังการถวายพระโอสถปฏิชีวนะ เมื่อวันที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๕๙ ถึงวันที่ ๒ สิงหาคม ๒๕๕๙ (ตามแถลงการณ์สำนักพระราชวัง ฉบับที่ ๓๑) พระอาการต่าง ๆ ดีขึ้น ในระหว่างเดือนสิงหาคม ๒๕๕๙ ยังมีพระปรอท (ไข้) ต่ำ ๆ นาน ๆ ครั้ง โดยไม่มีลักษณะของการติดเชื้อ จนเมื่อวันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๙ ทรงหายพระทัยเร็ว มีพระเสมหะเหนียวข้นมาก ผลการตรวจในห้องปฏิบัติการของพระเสมหะ และพระโลหิตบ่งชี้ถึงการอักเสบติดเชื้อที่รุนแรง แม้ผลเอกซเรย์พระปัปผาสะ (ปอด) ในช่วงบ่ายของวันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๙ ไม่พบการอักเสบ แต่คณะแพทย์ ฯ ได้ถวายพระโอสถปฏิชีวนะ ในช่วงเวลาค่ำความดันพระโลหิตลดต่ำลง     เริ่มมีพระปรอท (ไข้) ปริมาณพระบังคนเบา (ปัสสาวะ) น้อยลง คณะแพทย์ ฯ ได้ถวายพระโอสถเพื่อเพิ่มความดันพระโลหิต แต่พระบังคนเบา (ปัสสาวะ) ยังคงมีปริมาณน้อย





      วันที่ ๑ กันยายน ๒๕๕๙ ทรงหายพระทัยเร็ว   พระบังคนเบา (ปัสสาวะ) ยังมีปริมาณน้อย   แม้ได้ถวายพระโอสถขับพระบังคนเบา (ปัสสาวะ) แล้ว    ผลการตรวจพระโลหิตบ่งว่าการทำงานของพระวักกะ (ไต) ลดลง ผลเอกซเรย์พระปัปผาสะ (ปอด) พบเริ่มมีน้ำคั่งในพระปัปผาสะ (ปอด)   คณะแพทย์ ฯ จึงขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถวายการรักษา   ด้วยการดึงน้ำออกจากพระโลหิตโดยวิธี Continuous renal replacement therapy (CRRT) เ  พื่อนำปริมาณน้ำส่วนเกินออก   คณะแพทย์ ฯ ได้เริ่มถวายการรักษาดังกล่าวตั้งแต่ช่วงบ่าย ผลเอกซเรย์พระปัปผาสะ (ปอด) ในช่วงเย็นพบน้ำคั่งในพระปัปผาสะ (ปอด) ลดลง


          วันนี้ ทรงหายพระทัยดีขึ้น ความดันพระโลหิตดีขึ้นเป็นลำดับ ไม่มีพระปรอท (ไข้) คณะแพทย์ ฯ จะเฝ้าติดตามพระอาการอย่างใกล้ชิดต่อไป

อาการของในหลวง ๒ กันยายน ๒๕๕๙ (ตามรายงานข่าว)... แต่ความจริงคือ.......?

คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้รายงานสรุปพระอาการระหว่างวันที่ ๑ สิงหาคม - ๒ กันยายน ๒๕๕๙ ว่า

          ภายหลังการถวายพระโอสถปฏิชีวนะ เมื่อวันที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๕๙ ถึงวันที่ ๒ สิงหาคม ๒๕๕๙ (ตามแถลงการณ์สำนักพระราชวัง ฉบับที่ ๓๑) พระอาการต่าง ๆ ดีขึ้น ในระหว่างเดือนสิงหาคม ๒๕๕๙ ยังมีพระปรอท (ไข้) ต่ำ ๆ นาน ๆ ครั้ง โดยไม่มีลักษณะของการติดเชื้อ จนเมื่อวันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๙ ทรงหายพระทัยเร็ว มีพระเสมหะเหนียวข้นมาก ผลการตรวจในห้องปฏิบัติการของพระเสมหะ และพระโลหิตบ่งชี้ถึงการอักเสบติดเชื้อที่รุนแรง แม้ผลเอกซเรย์พระปัปผาสะ (ปอด) ในช่วงบ่ายของวันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๙ ไม่พบการอักเสบ แต่คณะแพทย์ ฯ ได้ถวายพระโอสถปฏิชีวนะ ในช่วงเวลาค่ำความดันพระโลหิตลดต่ำลง     เริ่มมีพระปรอท (ไข้) ปริมาณพระบังคนเบา (ปัสสาวะ) น้อยลง คณะแพทย์ ฯ ได้ถวายพระโอสถเพื่อเพิ่มความดันพระโลหิต แต่พระบังคนเบา (ปัสสาวะ) ยังคงมีปริมาณน้อย





      วันที่ ๑ กันยายน ๒๕๕๙ ทรงหายพระทัยเร็ว   พระบังคนเบา (ปัสสาวะ) ยังมีปริมาณน้อย   แม้ได้ถวายพระโอสถขับพระบังคนเบา (ปัสสาวะ) แล้ว    ผลการตรวจพระโลหิตบ่งว่าการทำงานของพระวักกะ (ไต) ลดลง ผลเอกซเรย์พระปัปผาสะ (ปอด) พบเริ่มมีน้ำคั่งในพระปัปผาสะ (ปอด)   คณะแพทย์ ฯ จึงขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถวายการรักษา   ด้วยการดึงน้ำออกจากพระโลหิตโดยวิธี Continuous renal replacement therapy (CRRT) เ  พื่อนำปริมาณน้ำส่วนเกินออก   คณะแพทย์ ฯ ได้เริ่มถวายการรักษาดังกล่าวตั้งแต่ช่วงบ่าย ผลเอกซเรย์พระปัปผาสะ (ปอด) ในช่วงเย็นพบน้ำคั่งในพระปัปผาสะ (ปอด) ลดลง


          วันนี้ ทรงหายพระทัยดีขึ้น ความดันพระโลหิตดีขึ้นเป็นลำดับ ไม่มีพระปรอท (ไข้) คณะแพทย์ ฯ จะเฝ้าติดตามพระอาการอย่างใกล้ชิดต่อไป

Friday, September 2, 2016

น้ำใจ และความเห็นแก่ตัว ของคนไทย!!

An essence of truth here. Must be corrected.

เป็นบทสนทนาสั้นๆของฝรั่ง 2 คน
ที่ดูแล้วเดาว่าน่าจะเป็น "อาจารย์"ของโรงเรียนนานาชาติแห่งหนึ่งบนถนนสุขุมวิท
ทั้งคู่คุยกันด้วยสีหน้าเบื่อหน่ายเมืองไทย
ในระหว่างนั่งรอแซนด์วิชอยู่ในร้านซับเวย์
ที่ไม่มีลูกค้าอื่นใดนอกจากผม

พวกเขาพูดเรื่องทางเท้าซึ่งในประเทศเรา
ไม่ได้ออกแบบไว้ให้"คน"เดิน

แต่มีไว้ให้พ่อค้าแม่ค้าขายของ
ไว้ให้มอเตอร์ไซค์รับจ้างขี่สวนทางและไว้จอดรถ

แล้วฝรั่งคนหนึ่งก็พูดว่า
"พื้นฐานของคนประเทศผมคือวินัย
แต่พื้นฐานของคนไทยคือความเห็นแก่ตัว"

"คนในประเทศผมจะคิดแล้วคิดอีก"
ถ้าการจอดรถของเขาทำให้ใครลำบาก
และทุกครั้งจะจบลงด้วยการบอกตัวเองว่า "ไม่จอดดีกว่า" 
หรือไม่ก็ไปจอดไกลๆ แล้วเดินย้อนมา

แต่คนไทยไม่…

คนไทยจะ "เห็นแก่ตัว" ทุกที่ที่มีจังหวะ
ไม่ว่ามันจะเป็นการจอดบนทางเท้า
บนเลนจักรยานและแม้กระทั่งปากซอย
หรือกลับรถแล้วจอดทันที
เพราะสันดานพื้นฐานของคนไทยคือ"ความเห็นแก่ตัว"
และ "บังคับให้คนอื่นต้องหลบ" 
เพื่อให้ตนเองได้รับสิทธิพิเศษหรือความสบายมากที่สุดเสมอ

เมื่อไรที่ความเห็นแก่ตัวของคนไทยไม่ได้รับการตอบสนอง
คนไทยจะเรียกหา"น้ำใจ"

เขาเคยนึกว่า"น้ำใจ"ของคนไทยช่างแสนดี

แต่วันนี้เขารู้แล้วว่า"น้ำใจ"คือข้ออ้างของความเห็นแก่ตัว

ไม่ยอมให้แซงคิวในร้านอาหาร = ไม่มีน้ำใจ

ไม่ยอมให้จอดรถซื้อของกระพริบไฟ = ไม่มีน้ำใจ
[แม้จะทำให้รถติดยาวไปอีก 3 กิโลเมตร]

ไม่ยอมหลบให้รถมอเตอร์ไซค์ที่ขี่สวนเลนบนทางเท้า = ไม่มีน้ำใจ

ฝรั่งคนหนึ่งบอกว่า"น้ำใจ"
คือภาษาไทยคำแรกๆที่เขาเรียนรู้ ตอนมาถึงประเทศนี้
แต่ปัจจุบันมันคือคำที่น่า"ขยะแขยง[Disgusting]"สำหรับเขา
เพราะมันคือการที่คนไทยจ้องจะเอาเปรียบกันทุกวิถีทาง
เท่าที่จะทำได้โดยไม่สนใจใครทั้งนั้น

ตอนผมฟังประโยคแรกว่า"พื้นฐานของคนประเทศผมคือวินัย แต่พื้นฐานของคนไทย
คือความเห็นแก่ตัว"ก็อยากจะค้านเหมือนกัน

แต่หลังจากที่พยายามคิดหาเหตุผล
สุดท้ายผมก็นั่งทานเบอร์เกอร์ต่อไปเงียบๆ
พลางนึกถึงแฟนเก่าสาวญี่ปุ่นที่เคยตกใจ
ตอนเห็นร้านก๋วยเตี๋ยวข้างทางเทน้ำแกงจากหม้อลงบนถนน
กับคำถามที่ว่า"แล้วถ้ามีหนูมีแมลงสาปมาทำรัง ใครจะรับผิดชอบ?"

และ"ทำไมเราต้องมีน้ำใจให้คนเห็นแก่ตัว"



น้ำใจ และความเห็นแก่ตัว ของคนไทย!!

An essence of truth here. Must be corrected.

เป็นบทสนทนาสั้นๆของฝรั่ง 2 คน
ที่ดูแล้วเดาว่าน่าจะเป็น "อาจารย์"ของโรงเรียนนานาชาติแห่งหนึ่งบนถนนสุขุมวิท
ทั้งคู่คุยกันด้วยสีหน้าเบื่อหน่ายเมืองไทย
ในระหว่างนั่งรอแซนด์วิชอยู่ในร้านซับเวย์
ที่ไม่มีลูกค้าอื่นใดนอกจากผม

พวกเขาพูดเรื่องทางเท้าซึ่งในประเทศเรา
ไม่ได้ออกแบบไว้ให้"คน"เดิน

แต่มีไว้ให้พ่อค้าแม่ค้าขายของ
ไว้ให้มอเตอร์ไซค์รับจ้างขี่สวนทางและไว้จอดรถ

แล้วฝรั่งคนหนึ่งก็พูดว่า
"พื้นฐานของคนประเทศผมคือวินัย
แต่พื้นฐานของคนไทยคือความเห็นแก่ตัว"

"คนในประเทศผมจะคิดแล้วคิดอีก"
ถ้าการจอดรถของเขาทำให้ใครลำบาก
และทุกครั้งจะจบลงด้วยการบอกตัวเองว่า "ไม่จอดดีกว่า" 
หรือไม่ก็ไปจอดไกลๆ แล้วเดินย้อนมา

แต่คนไทยไม่…

คนไทยจะ "เห็นแก่ตัว" ทุกที่ที่มีจังหวะ
ไม่ว่ามันจะเป็นการจอดบนทางเท้า
บนเลนจักรยานและแม้กระทั่งปากซอย
หรือกลับรถแล้วจอดทันที
เพราะสันดานพื้นฐานของคนไทยคือ"ความเห็นแก่ตัว"
และ "บังคับให้คนอื่นต้องหลบ" 
เพื่อให้ตนเองได้รับสิทธิพิเศษหรือความสบายมากที่สุดเสมอ

เมื่อไรที่ความเห็นแก่ตัวของคนไทยไม่ได้รับการตอบสนอง
คนไทยจะเรียกหา"น้ำใจ"

เขาเคยนึกว่า"น้ำใจ"ของคนไทยช่างแสนดี

แต่วันนี้เขารู้แล้วว่า"น้ำใจ"คือข้ออ้างของความเห็นแก่ตัว

ไม่ยอมให้แซงคิวในร้านอาหาร = ไม่มีน้ำใจ

ไม่ยอมให้จอดรถซื้อของกระพริบไฟ = ไม่มีน้ำใจ
[แม้จะทำให้รถติดยาวไปอีก 3 กิโลเมตร]

ไม่ยอมหลบให้รถมอเตอร์ไซค์ที่ขี่สวนเลนบนทางเท้า = ไม่มีน้ำใจ

ฝรั่งคนหนึ่งบอกว่า"น้ำใจ"
คือภาษาไทยคำแรกๆที่เขาเรียนรู้ ตอนมาถึงประเทศนี้
แต่ปัจจุบันมันคือคำที่น่า"ขยะแขยง[Disgusting]"สำหรับเขา
เพราะมันคือการที่คนไทยจ้องจะเอาเปรียบกันทุกวิถีทาง
เท่าที่จะทำได้โดยไม่สนใจใครทั้งนั้น

ตอนผมฟังประโยคแรกว่า"พื้นฐานของคนประเทศผมคือวินัย แต่พื้นฐานของคนไทย
คือความเห็นแก่ตัว"ก็อยากจะค้านเหมือนกัน

แต่หลังจากที่พยายามคิดหาเหตุผล
สุดท้ายผมก็นั่งทานเบอร์เกอร์ต่อไปเงียบๆ
พลางนึกถึงแฟนเก่าสาวญี่ปุ่นที่เคยตกใจ
ตอนเห็นร้านก๋วยเตี๋ยวข้างทางเทน้ำแกงจากหม้อลงบนถนน
กับคำถามที่ว่า"แล้วถ้ามีหนูมีแมลงสาปมาทำรัง ใครจะรับผิดชอบ?"

และ"ทำไมเราต้องมีน้ำใจให้คนเห็นแก่ตัว"



น้ำใจ และความเห็นแก่ตัว ของคนไทย!!

An essence of truth here. Must be corrected.

เป็นบทสนทนาสั้นๆของฝรั่ง 2 คน
ที่ดูแล้วเดาว่าน่าจะเป็น "อาจารย์"ของโรงเรียนนานาชาติแห่งหนึ่งบนถนนสุขุมวิท
ทั้งคู่คุยกันด้วยสีหน้าเบื่อหน่ายเมืองไทย
ในระหว่างนั่งรอแซนด์วิชอยู่ในร้านซับเวย์
ที่ไม่มีลูกค้าอื่นใดนอกจากผม

พวกเขาพูดเรื่องทางเท้าซึ่งในประเทศเรา
ไม่ได้ออกแบบไว้ให้"คน"เดิน

แต่มีไว้ให้พ่อค้าแม่ค้าขายของ
ไว้ให้มอเตอร์ไซค์รับจ้างขี่สวนทางและไว้จอดรถ

แล้วฝรั่งคนหนึ่งก็พูดว่า
"พื้นฐานของคนประเทศผมคือวินัย
แต่พื้นฐานของคนไทยคือความเห็นแก่ตัว"

"คนในประเทศผมจะคิดแล้วคิดอีก"
ถ้าการจอดรถของเขาทำให้ใครลำบาก
และทุกครั้งจะจบลงด้วยการบอกตัวเองว่า "ไม่จอดดีกว่า" 
หรือไม่ก็ไปจอดไกลๆ แล้วเดินย้อนมา

แต่คนไทยไม่…

คนไทยจะ "เห็นแก่ตัว" ทุกที่ที่มีจังหวะ
ไม่ว่ามันจะเป็นการจอดบนทางเท้า
บนเลนจักรยานและแม้กระทั่งปากซอย
หรือกลับรถแล้วจอดทันที
เพราะสันดานพื้นฐานของคนไทยคือ"ความเห็นแก่ตัว"
และ "บังคับให้คนอื่นต้องหลบ" 
เพื่อให้ตนเองได้รับสิทธิพิเศษหรือความสบายมากที่สุดเสมอ

เมื่อไรที่ความเห็นแก่ตัวของคนไทยไม่ได้รับการตอบสนอง
คนไทยจะเรียกหา"น้ำใจ"

เขาเคยนึกว่า"น้ำใจ"ของคนไทยช่างแสนดี

แต่วันนี้เขารู้แล้วว่า"น้ำใจ"คือข้ออ้างของความเห็นแก่ตัว

ไม่ยอมให้แซงคิวในร้านอาหาร = ไม่มีน้ำใจ

ไม่ยอมให้จอดรถซื้อของกระพริบไฟ = ไม่มีน้ำใจ
[แม้จะทำให้รถติดยาวไปอีก 3 กิโลเมตร]

ไม่ยอมหลบให้รถมอเตอร์ไซค์ที่ขี่สวนเลนบนทางเท้า = ไม่มีน้ำใจ

ฝรั่งคนหนึ่งบอกว่า"น้ำใจ"
คือภาษาไทยคำแรกๆที่เขาเรียนรู้ ตอนมาถึงประเทศนี้
แต่ปัจจุบันมันคือคำที่น่า"ขยะแขยง[Disgusting]"สำหรับเขา
เพราะมันคือการที่คนไทยจ้องจะเอาเปรียบกันทุกวิถีทาง
เท่าที่จะทำได้โดยไม่สนใจใครทั้งนั้น

ตอนผมฟังประโยคแรกว่า"พื้นฐานของคนประเทศผมคือวินัย แต่พื้นฐานของคนไทย
คือความเห็นแก่ตัว"ก็อยากจะค้านเหมือนกัน

แต่หลังจากที่พยายามคิดหาเหตุผล
สุดท้ายผมก็นั่งทานเบอร์เกอร์ต่อไปเงียบๆ
พลางนึกถึงแฟนเก่าสาวญี่ปุ่นที่เคยตกใจ
ตอนเห็นร้านก๋วยเตี๋ยวข้างทางเทน้ำแกงจากหม้อลงบนถนน
กับคำถามที่ว่า"แล้วถ้ามีหนูมีแมลงสาปมาทำรัง ใครจะรับผิดชอบ?"

และ"ทำไมเราต้องมีน้ำใจให้คนเห็นแก่ตัว"



Thursday, September 1, 2016

เรื่องเล่า อาถรรพ์ เพชรซาอุ

ให้มาติดตามจนรู้ว่าเพชรสีฟ้าชุดใหญ่อยู่ที่ป้าสมจิต เปรมิกาได้ไปรายงานให้ป้าทราบเพื่อหาทางแก้ไข 
แต่ป้าสั่งจัดการ สังหารปิดปากราชวงศ์ทั้งสองคนของซาอุ โดยให้ตำรวจที่ชื่อสมนึก กรรมสนองเป็นคนจัดทีมสังหาร โดยการฆ่ารัดคอเอาศพไปทิ้งแถวบ้านบึง ชลบุรี ตามที่ปรากฏเป็นข่าว วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2533 เกิดเหตุฆาตกรรมนักการทูตซาอุ 3 คน ถูกยิงเสียชีวิต 

หลังจากนั้น 12 กุมภาพันธ์ 2533 นายมูฮัมหมัด อัลรูไวลี่ ( Mohammad Al-Ruwaily ) นักธุรกิจเชื้อพระวงศ์เพื่อนของนักการทูตทั้งสาม ได้เดินทางมากรุงเทพ เพื่อสืบสวนหาเครื่องเพชรดังกล่าว แต่เขาถูกลักพาตัวและถูกฆ่า คนที่ต้องเอาศพไปทิ้งไม่กล้าไปเอง จึงใช้ลูกน้องตำรวจสองคนไปจัดการ พอตอนยกศพลงจากรถ ลูกน้องสองคนนี้เห็นแหวน หัวเข็มขัดทองคำประจำราชวงศ์พร้อมทั้งกระเป๋าเงินจึงแอบหยิบเอามาเป็นของตน พอมาสมัยรักสินได้ส่งมือปราบฝีมือดีชื่อทวี สอดส่ายไปสืบจนได้ตัวคนหามศพทั้งสองคนพร้อมแหวนและหัวเข็มขัดทองคำประจำราชวงศ์ซาอุส่งกลับคืน 

เป็นพยาน เท็จใส่ความว่าชำมะลอเป็นคนเอาเพชรไป นายตำรวจลูกน้องของชำมะลอจึงจับตัวลูกและเมียเสี่ยสันติ เพื่อเป็นตัวประกันต่อรองกับเสี่ยสันติ แต่ทำให้ต้องเสียชีวิต กลายเป็นคดีฆาตกรรม ที่ชำมะลอและพรรคพวกต้องรับโทษถึงขั้นจำคุกตลอดชีวิตและต่อมาก็โดนเพิ่มโทษถึงประหารชีวิต เพื่อปิดปากปิดคดี ให้ผู้ร้ายตัวจริงที่ยักยอกเพชรสีน้ำเงินลอยนวลต่อไป
หัวหน้ารักสินให้มือปราบทำการสอบสวนตรวจสอบจนได้ความจริงทั้งหมด จึงเข้าไปขอร้องป้าสมจิตให้คืนเพชรสีน้ำเงินแก่ราชวงศ์ซาอุ เพราะได้คุยตกลงกับซาอุไว้เรียบร้อยแล้ว ไม่ให้เอาเรื่องกัน เพื่อจะได้รื้อฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อแรงงานไทย และเศรษฐกิจของประเทศจำนวนมหาศาล ที่ถูกสั่งระงับไปเป็นเวลาหลายปี โดยรักสินจะซื้อเพชรที่สวยและแพงไม่แพ้กัน มาให้ป้าสมจิตแทนของเดิมที่ต้องคืนให้เขาไป แต่ป้าไม่ยอม และโกรธมาก เหมือนถูกหยามเกียรติ กลายเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ป้าต้องรีบกำจัดรักสิน


นายเกรียงไกรถูกตัดสินจำคุกที่อยุธยา ฐานลักทรัพย์นายจ้าง และลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โทษจำคุก 7 ปี สารภาพลดโทษกึ่งหนึ่ง คือ จำคุก 3 ปี 6 เดือน แต่ติดคุกจริง แค่ 2 ปี 8 เดือน ส่วนนิยายที่ว่าป้าแบ่งเพชรเป็นสามส่วนก็คงจะเป็นได้ยาก ป้าคงไม่ยอมแบ่งให้มันด้อยค่าลงไปโดยไม่จำเป็น เพราะป้าเชื่อว่าเพชรสีน้ำเงินเป็นของป้าจริงๆ เป็นวาสนาของป้าที่ได้ครอบครองเพชรสีน้ำเงินแม้ว่าเมื่อก่อนมันจะไม่ใช่ของป้าก็ตาม และป้าจะไม่ยอมคืนให้ใครเด็ดขาด เช่นเดียวกับที่ลุงได้สั่งพวกหัวหน้าเสื้อเหลือง ให้ไปทวงเขาพระวิหารคืนมาให้ได้ เพราะลุงสมชายเชื่อมาตลอดว่าเขาพระวิหารเป็นของลุงจริงๆ
ต้นปี 2554 กรมสืบสวนคดีพิเศษซึ่งได้รับความไว้วางใจจากประเทศซาอุและรัฐบาลไทยได้พบของกลางเพิ่มเติม และได้ส่งมอบให้ทางการซาอุได้ดูแล้ว แต่ถ้าได้เพชรสีน้ำเงินคืนก็จะทำพิธีส่งมอบ ที่ฝ่ายปกครองทุกยุคทุกสมัยได้ทุ่มเททั้งงบประมาณ เวลา และเจ้าหน้าที่ เพื่อจะนำของกลางมาคืนให้ซาอุ และกระชับความสัมพันธ์ระหว่างเมืองทั้งสอง ท่านรองผู้กองได้ประกาศว่า 

"ใครที่ครอบครองเพชรซาอุ หากต้องการจะส่งเพชรคืนสามารถใส่ห่อส่งคืนได้ที่กองสืบสวนคดีพิเศษ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะมีความผิดเพราะคดีขาดอายุความแล้ว ถึงแม้ว่าท่านครอบครองไว้ก็ไม่สามารถทำให้รวยเพิ่มขึ้น ตรงกันข้ามหากเรานำไปคืนแก่เจ้าของเขา ทางซาอุอาจจะให้คนไทยเข้าไปทำงาน หรือให้คนซาอุมาเที่ยวประเทศไทย เป็นการสร้างรายได้ให้กับการท่องเที่ยวเป็นจำนวนมหาศาล แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือศักดิ์ศรีของชาวไทย ที่จะไม่ให้ใครต่อว่าได้ว่าเป็นคนขี้โกง" คำประกาศของท่านรองอธิบดีคงไม่มีผลมากนัก เพราะนายกรักสินก็เคยเสนอป้าสมจิตมานานแล้ว ขนาดว่าจะซื้อให้ใหม่ชุดใหญ่กว่าเดิม แต่ป้าสมจิตแกก็ยังไม่ยอม แถมยังเร่งหาทางกำจัดรักสินโดยเร็วที่สุดอีกด้วย

เรื่องเล่า อาถรรพ์ เพชรซาอุ

ให้มาติดตามจนรู้ว่าเพชรสีฟ้าชุดใหญ่อยู่ที่ป้าสมจิต เปรมิกาได้ไปรายงานให้ป้าทราบเพื่อหาทางแก้ไข 
แต่ป้าสั่งจัดการ สังหารปิดปากราชวงศ์ทั้งสองคนของซาอุ โดยให้ตำรวจที่ชื่อสมนึก กรรมสนองเป็นคนจัดทีมสังหาร โดยการฆ่ารัดคอเอาศพไปทิ้งแถวบ้านบึง ชลบุรี ตามที่ปรากฏเป็นข่าว วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2533 เกิดเหตุฆาตกรรมนักการทูตซาอุ 3 คน ถูกยิงเสียชีวิต 

หลังจากนั้น 12 กุมภาพันธ์ 2533 นายมูฮัมหมัด อัลรูไวลี่ ( Mohammad Al-Ruwaily ) นักธุรกิจเชื้อพระวงศ์เพื่อนของนักการทูตทั้งสาม ได้เดินทางมากรุงเทพ เพื่อสืบสวนหาเครื่องเพชรดังกล่าว แต่เขาถูกลักพาตัวและถูกฆ่า คนที่ต้องเอาศพไปทิ้งไม่กล้าไปเอง จึงใช้ลูกน้องตำรวจสองคนไปจัดการ พอตอนยกศพลงจากรถ ลูกน้องสองคนนี้เห็นแหวน หัวเข็มขัดทองคำประจำราชวงศ์พร้อมทั้งกระเป๋าเงินจึงแอบหยิบเอามาเป็นของตน พอมาสมัยรักสินได้ส่งมือปราบฝีมือดีชื่อทวี สอดส่ายไปสืบจนได้ตัวคนหามศพทั้งสองคนพร้อมแหวนและหัวเข็มขัดทองคำประจำราชวงศ์ซาอุส่งกลับคืน 

เป็นพยาน เท็จใส่ความว่าชำมะลอเป็นคนเอาเพชรไป นายตำรวจลูกน้องของชำมะลอจึงจับตัวลูกและเมียเสี่ยสันติ เพื่อเป็นตัวประกันต่อรองกับเสี่ยสันติ แต่ทำให้ต้องเสียชีวิต กลายเป็นคดีฆาตกรรม ที่ชำมะลอและพรรคพวกต้องรับโทษถึงขั้นจำคุกตลอดชีวิตและต่อมาก็โดนเพิ่มโทษถึงประหารชีวิต เพื่อปิดปากปิดคดี ให้ผู้ร้ายตัวจริงที่ยักยอกเพชรสีน้ำเงินลอยนวลต่อไป
หัวหน้ารักสินให้มือปราบทำการสอบสวนตรวจสอบจนได้ความจริงทั้งหมด จึงเข้าไปขอร้องป้าสมจิตให้คืนเพชรสีน้ำเงินแก่ราชวงศ์ซาอุ เพราะได้คุยตกลงกับซาอุไว้เรียบร้อยแล้ว ไม่ให้เอาเรื่องกัน เพื่อจะได้รื้อฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อแรงงานไทย และเศรษฐกิจของประเทศจำนวนมหาศาล ที่ถูกสั่งระงับไปเป็นเวลาหลายปี โดยรักสินจะซื้อเพชรที่สวยและแพงไม่แพ้กัน มาให้ป้าสมจิตแทนของเดิมที่ต้องคืนให้เขาไป แต่ป้าไม่ยอม และโกรธมาก เหมือนถูกหยามเกียรติ กลายเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ป้าต้องรีบกำจัดรักสิน


นายเกรียงไกรถูกตัดสินจำคุกที่อยุธยา ฐานลักทรัพย์นายจ้าง และลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โทษจำคุก 7 ปี สารภาพลดโทษกึ่งหนึ่ง คือ จำคุก 3 ปี 6 เดือน แต่ติดคุกจริง แค่ 2 ปี 8 เดือน ส่วนนิยายที่ว่าป้าแบ่งเพชรเป็นสามส่วนก็คงจะเป็นได้ยาก ป้าคงไม่ยอมแบ่งให้มันด้อยค่าลงไปโดยไม่จำเป็น เพราะป้าเชื่อว่าเพชรสีน้ำเงินเป็นของป้าจริงๆ เป็นวาสนาของป้าที่ได้ครอบครองเพชรสีน้ำเงินแม้ว่าเมื่อก่อนมันจะไม่ใช่ของป้าก็ตาม และป้าจะไม่ยอมคืนให้ใครเด็ดขาด เช่นเดียวกับที่ลุงได้สั่งพวกหัวหน้าเสื้อเหลือง ให้ไปทวงเขาพระวิหารคืนมาให้ได้ เพราะลุงสมชายเชื่อมาตลอดว่าเขาพระวิหารเป็นของลุงจริงๆ
ต้นปี 2554 กรมสืบสวนคดีพิเศษซึ่งได้รับความไว้วางใจจากประเทศซาอุและรัฐบาลไทยได้พบของกลางเพิ่มเติม และได้ส่งมอบให้ทางการซาอุได้ดูแล้ว แต่ถ้าได้เพชรสีน้ำเงินคืนก็จะทำพิธีส่งมอบ ที่ฝ่ายปกครองทุกยุคทุกสมัยได้ทุ่มเททั้งงบประมาณ เวลา และเจ้าหน้าที่ เพื่อจะนำของกลางมาคืนให้ซาอุ และกระชับความสัมพันธ์ระหว่างเมืองทั้งสอง ท่านรองผู้กองได้ประกาศว่า 

"ใครที่ครอบครองเพชรซาอุ หากต้องการจะส่งเพชรคืนสามารถใส่ห่อส่งคืนได้ที่กองสืบสวนคดีพิเศษ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะมีความผิดเพราะคดีขาดอายุความแล้ว ถึงแม้ว่าท่านครอบครองไว้ก็ไม่สามารถทำให้รวยเพิ่มขึ้น ตรงกันข้ามหากเรานำไปคืนแก่เจ้าของเขา ทางซาอุอาจจะให้คนไทยเข้าไปทำงาน หรือให้คนซาอุมาเที่ยวประเทศไทย เป็นการสร้างรายได้ให้กับการท่องเที่ยวเป็นจำนวนมหาศาล แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือศักดิ์ศรีของชาวไทย ที่จะไม่ให้ใครต่อว่าได้ว่าเป็นคนขี้โกง" คำประกาศของท่านรองอธิบดีคงไม่มีผลมากนัก เพราะนายกรักสินก็เคยเสนอป้าสมจิตมานานแล้ว ขนาดว่าจะซื้อให้ใหม่ชุดใหญ่กว่าเดิม แต่ป้าสมจิตแกก็ยังไม่ยอม แถมยังเร่งหาทางกำจัดรักสินโดยเร็วที่สุดอีกด้วย

เรื่องรักแสนเศร้า ระหว่าง พ.ท ณรงเดชน์ นันทโพธิเดช กับ ราชินีสาวสวย


​พ.ท ณรงเดชน์ นันทโพธิเดช เป็นหลานนายเลียง ไชยกาล ส.ส อุบลฯ พรรคประชาธิปัตย์(คนที่บิดเบือนและนำข้อมูลเท็จกรณี ร.8 ไปป่าวประกาศทั่วบ้านทั่วเมืองอย่างให้คนตะโกนในโรงหนังว่าปรีดีย์ฆ่าในหลวงแม้ภายหลังจะสำนึกผิดขอโทษท่านปรีดีแล้วก็ตาม เพราะถูกอำมาตย์มันหักหลัง)
 พท.ณรงค์เดชไปเป็นทูตทหารที่อเมริกา (การที่ณรงค์เดชได้ไปเป็นทูตทหารเพราะเจ๊ดันให้ขึ้นเพื่อที่จะติดยศสูงขึ้น แต่จริงๆภายในใจของเจ๊ไม่อยากให้ไปเลย)แต่ถูกเรียกตัวไปดูงานอิสราเอล เลยถูกเก็บที่นั่น ซึ่งบางคนยังเข้าใจผิดคิดว่าตายที่อเมริกา

แม้ว่าเรียนไม่ค่อยเก่ง แต่เขามีความจงรักภักดีและฝีปากสูงมาก เพื่อนๆบางคนจึงแอบอิจฉาบ้าง 
คือไม่ต้องออกรบเจ๊เองก็รักและประทับใจเขามาก เพราะเขาเป็นคนที่มีความเข้าใจความต้องการของผู้หญิงได้ดี
สาเหตุการตายของเขาก็มาจากจดหมาย ที่มีดอกกุหลาบ นั่นเอง หนังสืองานศพเขาจึงเป็นการเขียนรำพึงรำพันจากใจของเจ๊ 
แม้แต่ร่างไร้วิญญาณของเขาเองก็ยังมีผู้หญิงแย่งกันเอาไปเพื่อทำพิธีทางศาสนา คนหนึ่งคือหญิงผู้สูงศักดิ์ คนหนึ่งคือนักร้อง (แต่เมียจริงๆกลับไม่มีสิทธิ์)
ภาพที่อยู่หน้าศพของณรงเดช มีเพียงผู้หญิงคนเดียวที่เสียใจประหนึ่งสูญสิ้นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตแต่มีผู้ชายบางคน(ผัวเจ๊)กลับมีแววตากระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ภายในใจ
หลังการเสียชีวิตของณรงเดช เธอเองก็ไม่ต้องการมีชีวิตอยู่อีกต่อไปแต่เธอถูกควบคุมตลอด24ชม.ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวกับณรงค์เดช จะต้องนำออกมาทิ้งและทำลายทั้งหมด
เธองดออกงานหลายปี เพราะความตรอมใจในระหว่างที่งดออกงานต่างๆนั้นเธอจึงกินและนอนเท่านั้นทำให้เธออ้วนตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
ความรักที่เธอมีและได้รับจากณรงเดชนั้น มันเป็นความรักความภักดีที่บริสุทธิ์ ที่เธอไม่เคยได้รับมาก่อนเธอจึงรักและหวงแหนแทบชีวาวาย(ก็แง๋มึงแต่งกับไอ้.....หวังอำนาจนี่หว่า   *เป็นไปได้ว่าณรงค์เดชอาจเป็นผู้ที่ไม่เคยมีความสัมพันธุ์กับเจ๊มากเพราะดูแล้วค่อนข้างบริสุทธิ์ใจกับเจ๊)เและทันทีที่เเธอตั้งสติได้ ความแค้นในใจจึงบังเกิดขึ้นทันที
เพราะเธอไม่ได้สูญเสียเพียงคนรัก แต่เธอสูญเสียทั้งบิดาด้วยฝีมือจากคนๆเดียวกัน(บิดาของเจ๊ก็โดนวางยาตายขณะกำลังวิ่งออกกำลัง
โดยแพทย์ลงความเห็นว่าหัวใจวายตาย 
ตอนพ่อตายแค้นน้อยกว่าตอนชู้ตายดอกทองไม่มีใครเกิน)การชำระแค้นระหว่าง2ตระกูลจึงมีขึ้นอย่างลับๆ ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
ความซวยจึงเกิดขึ้นกับประชาชนอย่างหนักขึ้นตามลำดับไปด้วย มันคือเงาแห่งหายนะที่ปกคลุมเรา

เรื่องรักแสนเศร้า ระหว่าง พ.ท ณรงเดชน์ นันทโพธิเดช กับ ราชินีสาวสวย


​พ.ท ณรงเดชน์ นันทโพธิเดช เป็นหลานนายเลียง ไชยกาล ส.ส อุบลฯ พรรคประชาธิปัตย์(คนที่บิดเบือนและนำข้อมูลเท็จกรณี ร.8 ไปป่าวประกาศทั่วบ้านทั่วเมืองอย่างให้คนตะโกนในโรงหนังว่าปรีดีย์ฆ่าในหลวงแม้ภายหลังจะสำนึกผิดขอโทษท่านปรีดีแล้วก็ตาม เพราะถูกอำมาตย์มันหักหลัง)
 พท.ณรงค์เดชไปเป็นทูตทหารที่อเมริกา (การที่ณรงค์เดชได้ไปเป็นทูตทหารเพราะเจ๊ดันให้ขึ้นเพื่อที่จะติดยศสูงขึ้น แต่จริงๆภายในใจของเจ๊ไม่อยากให้ไปเลย)แต่ถูกเรียกตัวไปดูงานอิสราเอล เลยถูกเก็บที่นั่น ซึ่งบางคนยังเข้าใจผิดคิดว่าตายที่อเมริกา

แม้ว่าเรียนไม่ค่อยเก่ง แต่เขามีความจงรักภักดีและฝีปากสูงมาก เพื่อนๆบางคนจึงแอบอิจฉาบ้าง 
คือไม่ต้องออกรบเจ๊เองก็รักและประทับใจเขามาก เพราะเขาเป็นคนที่มีความเข้าใจความต้องการของผู้หญิงได้ดี
สาเหตุการตายของเขาก็มาจากจดหมาย ที่มีดอกกุหลาบ นั่นเอง หนังสืองานศพเขาจึงเป็นการเขียนรำพึงรำพันจากใจของเจ๊ 
แม้แต่ร่างไร้วิญญาณของเขาเองก็ยังมีผู้หญิงแย่งกันเอาไปเพื่อทำพิธีทางศาสนา คนหนึ่งคือหญิงผู้สูงศักดิ์ คนหนึ่งคือนักร้อง (แต่เมียจริงๆกลับไม่มีสิทธิ์)
ภาพที่อยู่หน้าศพของณรงเดช มีเพียงผู้หญิงคนเดียวที่เสียใจประหนึ่งสูญสิ้นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตแต่มีผู้ชายบางคน(ผัวเจ๊)กลับมีแววตากระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ภายในใจ
หลังการเสียชีวิตของณรงเดช เธอเองก็ไม่ต้องการมีชีวิตอยู่อีกต่อไปแต่เธอถูกควบคุมตลอด24ชม.ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวกับณรงค์เดช จะต้องนำออกมาทิ้งและทำลายทั้งหมด
เธองดออกงานหลายปี เพราะความตรอมใจในระหว่างที่งดออกงานต่างๆนั้นเธอจึงกินและนอนเท่านั้นทำให้เธออ้วนตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
ความรักที่เธอมีและได้รับจากณรงเดชนั้น มันเป็นความรักความภักดีที่บริสุทธิ์ ที่เธอไม่เคยได้รับมาก่อนเธอจึงรักและหวงแหนแทบชีวาวาย(ก็แง๋มึงแต่งกับไอ้.....หวังอำนาจนี่หว่า   *เป็นไปได้ว่าณรงค์เดชอาจเป็นผู้ที่ไม่เคยมีความสัมพันธุ์กับเจ๊มากเพราะดูแล้วค่อนข้างบริสุทธิ์ใจกับเจ๊)เและทันทีที่เเธอตั้งสติได้ ความแค้นในใจจึงบังเกิดขึ้นทันที
เพราะเธอไม่ได้สูญเสียเพียงคนรัก แต่เธอสูญเสียทั้งบิดาด้วยฝีมือจากคนๆเดียวกัน(บิดาของเจ๊ก็โดนวางยาตายขณะกำลังวิ่งออกกำลัง
โดยแพทย์ลงความเห็นว่าหัวใจวายตาย 
ตอนพ่อตายแค้นน้อยกว่าตอนชู้ตายดอกทองไม่มีใครเกิน)การชำระแค้นระหว่าง2ตระกูลจึงมีขึ้นอย่างลับๆ ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
ความซวยจึงเกิดขึ้นกับประชาชนอย่างหนักขึ้นตามลำดับไปด้วย มันคือเงาแห่งหายนะที่ปกคลุมเรา

เรื่องรักแสนเศร้า ระหว่าง พ.ท ณรงเดชน์ นันทโพธิเดช กับ ราชินีสาวสวย


​พ.ท ณรงเดชน์ นันทโพธิเดช เป็นหลานนายเลียง ไชยกาล ส.ส อุบลฯ พรรคประชาธิปัตย์(คนที่บิดเบือนและนำข้อมูลเท็จกรณี ร.8 ไปป่าวประกาศทั่วบ้านทั่วเมืองอย่างให้คนตะโกนในโรงหนังว่าปรีดีย์ฆ่าในหลวงแม้ภายหลังจะสำนึกผิดขอโทษท่านปรีดีแล้วก็ตาม เพราะถูกอำมาตย์มันหักหลัง)
 พท.ณรงค์เดชไปเป็นทูตทหารที่อเมริกา (การที่ณรงค์เดชได้ไปเป็นทูตทหารเพราะเจ๊ดันให้ขึ้นเพื่อที่จะติดยศสูงขึ้น แต่จริงๆภายในใจของเจ๊ไม่อยากให้ไปเลย)แต่ถูกเรียกตัวไปดูงานอิสราเอล เลยถูกเก็บที่นั่น ซึ่งบางคนยังเข้าใจผิดคิดว่าตายที่อเมริกา

แม้ว่าเรียนไม่ค่อยเก่ง แต่เขามีความจงรักภักดีและฝีปากสูงมาก เพื่อนๆบางคนจึงแอบอิจฉาบ้าง 
คือไม่ต้องออกรบเจ๊เองก็รักและประทับใจเขามาก เพราะเขาเป็นคนที่มีความเข้าใจความต้องการของผู้หญิงได้ดี
สาเหตุการตายของเขาก็มาจากจดหมาย ที่มีดอกกุหลาบ นั่นเอง หนังสืองานศพเขาจึงเป็นการเขียนรำพึงรำพันจากใจของเจ๊ 
แม้แต่ร่างไร้วิญญาณของเขาเองก็ยังมีผู้หญิงแย่งกันเอาไปเพื่อทำพิธีทางศาสนา คนหนึ่งคือหญิงผู้สูงศักดิ์ คนหนึ่งคือนักร้อง (แต่เมียจริงๆกลับไม่มีสิทธิ์)
ภาพที่อยู่หน้าศพของณรงเดช มีเพียงผู้หญิงคนเดียวที่เสียใจประหนึ่งสูญสิ้นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตแต่มีผู้ชายบางคน(ผัวเจ๊)กลับมีแววตากระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ภายในใจ
หลังการเสียชีวิตของณรงเดช เธอเองก็ไม่ต้องการมีชีวิตอยู่อีกต่อไปแต่เธอถูกควบคุมตลอด24ชม.ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวกับณรงค์เดช จะต้องนำออกมาทิ้งและทำลายทั้งหมด
เธองดออกงานหลายปี เพราะความตรอมใจในระหว่างที่งดออกงานต่างๆนั้นเธอจึงกินและนอนเท่านั้นทำให้เธออ้วนตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
ความรักที่เธอมีและได้รับจากณรงเดชนั้น มันเป็นความรักความภักดีที่บริสุทธิ์ ที่เธอไม่เคยได้รับมาก่อนเธอจึงรักและหวงแหนแทบชีวาวาย(ก็แง๋มึงแต่งกับไอ้.....หวังอำนาจนี่หว่า   *เป็นไปได้ว่าณรงค์เดชอาจเป็นผู้ที่ไม่เคยมีความสัมพันธุ์กับเจ๊มากเพราะดูแล้วค่อนข้างบริสุทธิ์ใจกับเจ๊)เและทันทีที่เเธอตั้งสติได้ ความแค้นในใจจึงบังเกิดขึ้นทันที
เพราะเธอไม่ได้สูญเสียเพียงคนรัก แต่เธอสูญเสียทั้งบิดาด้วยฝีมือจากคนๆเดียวกัน(บิดาของเจ๊ก็โดนวางยาตายขณะกำลังวิ่งออกกำลัง
โดยแพทย์ลงความเห็นว่าหัวใจวายตาย 
ตอนพ่อตายแค้นน้อยกว่าตอนชู้ตายดอกทองไม่มีใครเกิน)การชำระแค้นระหว่าง2ตระกูลจึงมีขึ้นอย่างลับๆ ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
ความซวยจึงเกิดขึ้นกับประชาชนอย่างหนักขึ้นตามลำดับไปด้วย มันคือเงาแห่งหายนะที่ปกคลุมเรา

ขบวนการค้ายาเสพติดของเครือภูมิพล(1)

ขบวนการค้ายาเสพติดของเครือภูมิพล(1)

ในขณะที่ครอบครัวของภูมิพลได้ไปอยู่ต่างประเทศเสียนาน ทำให้อำนาจและบารมีรวมทั้งเงินทองก็ยังมีน้อย และพวกเจ้าก็ทำมาค้าขายไม่เป็นอยู่แล้ว ดังนั้นการที่จะหาเงินมาเพื่อสร้างฐานอำนาจและบารมี จึงทำได้ยาก ประกอบกับพระบิดาคือเจ้าชายมหิดอนก็มาเสียชีวิตเมื่ออายุได้เพียง 37 ปี พระนางสังวานมีสามีใหม่และมีบริษัทอยู่ในสวิสเซอร์แลนด์ ส่งมอร์ฟีน ให้กับโรงพยาบาลต่างๆในสหรัฐและอีกหลายประเทศ กลายเป็นช่องทางค้ายาเสพติดประเภทฝิ่นและเฮโรอีน
เฮโรอีนหรือผงขาวที่วงการตำรวจเรียกว่าแป้งที่บริสุทธิ์ที่สุดมีแหล่งผลิตในรัฐฉานของพม่า บริเวณชายแดนติดกับมณฑลยูนานของจีน โดยมีพวกว้าแดง ที่ใช้เมืองยอนเป็นแหล่งผลิต เป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์เหมาะสำหรับการปลูกฝิ่น พวกปลูกฝิ่น เป็นชาวจีนที่อพยพมาตั้งถิ่นฐานมีทั้งจีน ลีซอ มูเซอร์ อีก้อ โดยเรียกตัวเองว่าเป็นพวกโกกั้งแปลว่าว่าดอย9ยอด หลังสงครามโลกครั้งที่2 พรรคก๊กมินตั๋งของเจียงไคเช็ค ได้ได้ถอยทัพหนีพรรคคอมมิวนิสต์จีนไปตั้งรัฐบาลใหม่ยังเกาะฟอร์โมซาหรือไต้หวัน
โดยได้วางกำลังป้องกันการไล่ล่าไว้ที่มณฑลยูนนาน แต่ถูกกองทัพของพรรคคอมมิวนิสต์ตีแตกพ่ายและถอยร่นไปยังลาว เวียดนาม และพม่า โดยมีกองกำลังนับหมื่นคน รัฐบาลพม่าดำเนินการปราบปรามกองกำลังทหารจีนพลัดถิ่นเหล่านี้อย่างจริงจัง ในปี 2504 คงเหลือแต่กองทัพที่ 3 ของนายพลหลี่ เหวิน ฝาน และกองทัพที่ 5 ของนายพล ต้วน ซี เหวิน ที่นำกำลังอพยพหนีการกวาดล้างของพม่าเข้าสู่ภาคเหนือของประเทศไทย โดยกองทัพที่ 3 ก็มาถึงอำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ และกองทัพที่ 5 มาปักหลักอยู่ที่ดอยแม่สลอง อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย
ต่อมาสหรัฐอเมริกาได้สร้างแนวยับยั้งคอมมิวนิสต์โดยขอความร่วมมือจากรัฐบาลไทยให้สนับสนุนกองพล 93 ของเจียงไคเช็ค ที่ตกค้างอยู่ในประเทศไทยประมาณ 3 หมื่นคน มีการตั้งโรงเรียนการสอนภาษาจีนที่ดอยแม่สะลอง
คณะรัฐมนตรีมีมติในปี 2521 ให้จัดตั้งคณะกรรมการพิจารณาให้สัญชาติแก่อดีตทหารจีนคณะชาติ เมื่อกองพล 93 ได้เข้ามาอยู่ในพื้นที่ที่เหมาะสมกับการปลูกฝิ่น และอาศัยที่เป็นคนจีนด้วยกันจึงได้ประสานงานกับกลุ่มโกกั้งที่อยู่ในรัฐฉานหรือที่เรียกว่ารัฐว้าของพม่า โดยกองพล 93รับจ้างลำเลียงฝิ่นการตั้งด่านภาษีเถื่อนและการค้าอาวุธสงคราม
โดยมีการประสานงานกับรัฐบาลและทหารไทยที่ทาง อเมริกาสนับสนุนให้ต่อต้านคอมมิวส์นิสต์ทำให้ภูมิพลเห็นช่องทางในการหาเงินเพื่อสร้างฐานอำนาจให้กับราชวงศ์ซึ่งกำลังอ่อนไหวอยู่ในเวลานั้น จึงได้ร่วมมือกับทหารไทยและพวกกองพล 93 รวมทั้งพวกโกกั้ง เพื่อค้าฝิ่น
กลุ่มโกกั้งที่ได้ร่วมมือกับภูมิพล โดยส่งนายจิมมี่ หยาง มาสร้างโรงแรมรินคำที่เชียงใหม่ในปี 2512 โดยนายจิมมี่ หยาง ประสานงานกับโรงพยาบาลแมคคอร์มิคเชียงใหม่ ที่อเมริกาให้การสนับสนุน ใช้เป็นศูนย์กลางในการติดต่อการค้าผงขาวในภาคเหนือ โดยลุงสมชายได้สร้างศูนย์สงเคราะห์ชาวเขาขึ้นมาเพื่อประสานงานกับสองศูนย์กลางนี้โดยใช้โครงการหลวงและการปลูกพืชทดแทนฝิ่นบังหน้า เป็นที่มาของเส้นทางยาเสพติดโกกั้งสู่ประเทศไทย หรือ มาลีวัวปา 4 เส้นทาง

ขบวนการค้ายาเสพติดของเครือภูมิพล(1)

ขบวนการค้ายาเสพติดของเครือภูมิพล(1)

ในขณะที่ครอบครัวของภูมิพลได้ไปอยู่ต่างประเทศเสียนาน ทำให้อำนาจและบารมีรวมทั้งเงินทองก็ยังมีน้อย และพวกเจ้าก็ทำมาค้าขายไม่เป็นอยู่แล้ว ดังนั้นการที่จะหาเงินมาเพื่อสร้างฐานอำนาจและบารมี จึงทำได้ยาก ประกอบกับพระบิดาคือเจ้าชายมหิดอนก็มาเสียชีวิตเมื่ออายุได้เพียง 37 ปี พระนางสังวานมีสามีใหม่และมีบริษัทอยู่ในสวิสเซอร์แลนด์ ส่งมอร์ฟีน ให้กับโรงพยาบาลต่างๆในสหรัฐและอีกหลายประเทศ กลายเป็นช่องทางค้ายาเสพติดประเภทฝิ่นและเฮโรอีน
เฮโรอีนหรือผงขาวที่วงการตำรวจเรียกว่าแป้งที่บริสุทธิ์ที่สุดมีแหล่งผลิตในรัฐฉานของพม่า บริเวณชายแดนติดกับมณฑลยูนานของจีน โดยมีพวกว้าแดง ที่ใช้เมืองยอนเป็นแหล่งผลิต เป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์เหมาะสำหรับการปลูกฝิ่น พวกปลูกฝิ่น เป็นชาวจีนที่อพยพมาตั้งถิ่นฐานมีทั้งจีน ลีซอ มูเซอร์ อีก้อ โดยเรียกตัวเองว่าเป็นพวกโกกั้งแปลว่าว่าดอย9ยอด หลังสงครามโลกครั้งที่2 พรรคก๊กมินตั๋งของเจียงไคเช็ค ได้ได้ถอยทัพหนีพรรคคอมมิวนิสต์จีนไปตั้งรัฐบาลใหม่ยังเกาะฟอร์โมซาหรือไต้หวัน
โดยได้วางกำลังป้องกันการไล่ล่าไว้ที่มณฑลยูนนาน แต่ถูกกองทัพของพรรคคอมมิวนิสต์ตีแตกพ่ายและถอยร่นไปยังลาว เวียดนาม และพม่า โดยมีกองกำลังนับหมื่นคน รัฐบาลพม่าดำเนินการปราบปรามกองกำลังทหารจีนพลัดถิ่นเหล่านี้อย่างจริงจัง ในปี 2504 คงเหลือแต่กองทัพที่ 3 ของนายพลหลี่ เหวิน ฝาน และกองทัพที่ 5 ของนายพล ต้วน ซี เหวิน ที่นำกำลังอพยพหนีการกวาดล้างของพม่าเข้าสู่ภาคเหนือของประเทศไทย โดยกองทัพที่ 3 ก็มาถึงอำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ และกองทัพที่ 5 มาปักหลักอยู่ที่ดอยแม่สลอง อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย
ต่อมาสหรัฐอเมริกาได้สร้างแนวยับยั้งคอมมิวนิสต์โดยขอความร่วมมือจากรัฐบาลไทยให้สนับสนุนกองพล 93 ของเจียงไคเช็ค ที่ตกค้างอยู่ในประเทศไทยประมาณ 3 หมื่นคน มีการตั้งโรงเรียนการสอนภาษาจีนที่ดอยแม่สะลอง
คณะรัฐมนตรีมีมติในปี 2521 ให้จัดตั้งคณะกรรมการพิจารณาให้สัญชาติแก่อดีตทหารจีนคณะชาติ เมื่อกองพล 93 ได้เข้ามาอยู่ในพื้นที่ที่เหมาะสมกับการปลูกฝิ่น และอาศัยที่เป็นคนจีนด้วยกันจึงได้ประสานงานกับกลุ่มโกกั้งที่อยู่ในรัฐฉานหรือที่เรียกว่ารัฐว้าของพม่า โดยกองพล 93รับจ้างลำเลียงฝิ่นการตั้งด่านภาษีเถื่อนและการค้าอาวุธสงคราม
โดยมีการประสานงานกับรัฐบาลและทหารไทยที่ทาง อเมริกาสนับสนุนให้ต่อต้านคอมมิวส์นิสต์ทำให้ภูมิพลเห็นช่องทางในการหาเงินเพื่อสร้างฐานอำนาจให้กับราชวงศ์ซึ่งกำลังอ่อนไหวอยู่ในเวลานั้น จึงได้ร่วมมือกับทหารไทยและพวกกองพล 93 รวมทั้งพวกโกกั้ง เพื่อค้าฝิ่น
กลุ่มโกกั้งที่ได้ร่วมมือกับภูมิพล โดยส่งนายจิมมี่ หยาง มาสร้างโรงแรมรินคำที่เชียงใหม่ในปี 2512 โดยนายจิมมี่ หยาง ประสานงานกับโรงพยาบาลแมคคอร์มิคเชียงใหม่ ที่อเมริกาให้การสนับสนุน ใช้เป็นศูนย์กลางในการติดต่อการค้าผงขาวในภาคเหนือ โดยลุงสมชายได้สร้างศูนย์สงเคราะห์ชาวเขาขึ้นมาเพื่อประสานงานกับสองศูนย์กลางนี้โดยใช้โครงการหลวงและการปลูกพืชทดแทนฝิ่นบังหน้า เป็นที่มาของเส้นทางยาเสพติดโกกั้งสู่ประเทศไทย หรือ มาลีวัวปา 4 เส้นทาง

Wednesday, August 31, 2016

ลิ้งค์รับชมการถ่ายทอดสดเครือข่ายมดแดงล้มช้าง สร้างชาติ ร่วมกับเครือข่ายพันธมิตรเปลี่ยนระบอบสู่เสรี ปชต.

ลิ้งค์รับชมการถ่ายทอดสดเครือข่ายมดแดงล้มช้าง สร้างชาติ

ร่วมกับเครือข่ายพันธมิตรเปลี่ยนระบอบ


https://youtu.be/7zMte2Rh_Cw  ดร. เพียงดิน รักไทย Official 

https://youtu.be/vpCwUZPAhiw  เครือข่ายมดแดงล้มช้าง Official 

https://youtu.be/q5Py0Rc2_MI มหาวิทยาลัยประชาชน Official 

https://youtu.be/KtjReVAIpC4 ห้องสมุดมหาวิทยาลัยประชาชน 

https://youtu.be/HjBfQbTpULE OFHD Official องค์การเสรีไทยฯ 

https://youtu.be/PTHvgmdttaI  เครือข่ายเปลี่ยนระบอบ Official 





ลิ้งค์รับชมการถ่ายทอดสดเครือข่ายมดแดงล้มช้าง สร้างชาติ ร่วมกับเครือข่ายพันธมิตรเปลี่ยนระบอบสู่เสรี ปชต.

ลิ้งค์รับชมการถ่ายทอดสดเครือข่ายมดแดงล้มช้าง สร้างชาติ

ร่วมกับเครือข่ายพันธมิตรเปลี่ยนระบอบ


https://youtu.be/7zMte2Rh_Cw  ดร. เพียงดิน รักไทย Official 

https://youtu.be/vpCwUZPAhiw  เครือข่ายมดแดงล้มช้าง Official 

https://youtu.be/q5Py0Rc2_MI มหาวิทยาลัยประชาชน Official 

https://youtu.be/KtjReVAIpC4 ห้องสมุดมหาวิทยาลัยประชาชน 

https://youtu.be/HjBfQbTpULE OFHD Official องค์การเสรีไทยฯ 

https://youtu.be/PTHvgmdttaI  เครือข่ายเปลี่ยนระบอบ Official 





ลิ้งค์รับชมการถ่ายทอดสดเครือข่ายมดแดงล้มช้าง สร้างชาติ ร่วมกับเครือข่ายพันธมิตรเปลี่ยนระบอบสู่เสรี ปชต.

ลิ้งค์รับชมการถ่ายทอดสดเครือข่ายมดแดงล้มช้าง สร้างชาติ

ร่วมกับเครือข่ายพันธมิตรเปลี่ยนระบอบ


https://youtu.be/7zMte2Rh_Cw  ดร. เพียงดิน รักไทย Official 

https://youtu.be/vpCwUZPAhiw  เครือข่ายมดแดงล้มช้าง Official 

https://youtu.be/q5Py0Rc2_MI มหาวิทยาลัยประชาชน Official 

https://youtu.be/KtjReVAIpC4 ห้องสมุดมหาวิทยาลัยประชาชน 

https://youtu.be/HjBfQbTpULE OFHD Official องค์การเสรีไทยฯ 

https://youtu.be/PTHvgmdttaI  เครือข่ายเปลี่ยนระบอบ Official 





จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ "คนต้องเท่ากับคน" 31 สิงหาคม 2559

จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ "คนต้องเท่ากับคน" 31 สิงหาคม  2559

https://youtu.be/t1kbqbNl_Bo     

https://youtu.be/DAkUPyizCAg     

https://youtu.be/Yx83qlHaFIE     

https://youtu.be/6DdwbogkPG8     



---------------------

***Download ร่างจดหมาย เพื่อส่งผู้นำนานาชาติต่าง ๆ ที่ http://tinyurl.com/gsetacg     

***โปรดช่วยกันกระจายและส่งให้มากที่สุดนะครับ ขอบคุณครับ

สนับสนุนแนวทางมดแดงล้มช้าง ของ คณะราษฎรเสรีไทย กับ ดร. เพียงดิน 

ส่งข้อมูลลับผ่านช่องทางที่ปลอดภัยทางลิ้งค์ต่อไปนี้

http://tinyurl.com/o2rzao8     

หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt     

****ลิ้งค์ล่าสุด  http://tinyurl.com/gssuvm2     

และรายงานการปฏิบัติงานและความคืบหน้าเครือข่าย ได้ที่ 4everche@gmail.com     

----------------------

สนับสนุนการเผยแพร่โดย ภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน และมหาวิทยาลัยประชาชน เพื่อสาธารณะประโยชน์ ในการสร้างจิตสำนึกทางประชาธิปไตย สันติวิธี และการเคารพหลักสิทธิมนุษยชน



จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ "คนต้องเท่ากับคน" 31 สิงหาคม 2559

จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ "คนต้องเท่ากับคน" 31 สิงหาคม  2559

https://youtu.be/t1kbqbNl_Bo     

https://youtu.be/DAkUPyizCAg     

https://youtu.be/Yx83qlHaFIE     

https://youtu.be/6DdwbogkPG8     



---------------------

***Download ร่างจดหมาย เพื่อส่งผู้นำนานาชาติต่าง ๆ ที่ http://tinyurl.com/gsetacg     

***โปรดช่วยกันกระจายและส่งให้มากที่สุดนะครับ ขอบคุณครับ

สนับสนุนแนวทางมดแดงล้มช้าง ของ คณะราษฎรเสรีไทย กับ ดร. เพียงดิน 

ส่งข้อมูลลับผ่านช่องทางที่ปลอดภัยทางลิ้งค์ต่อไปนี้

http://tinyurl.com/o2rzao8     

หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt     

****ลิ้งค์ล่าสุด  http://tinyurl.com/gssuvm2     

และรายงานการปฏิบัติงานและความคืบหน้าเครือข่าย ได้ที่ 4everche@gmail.com     

----------------------

สนับสนุนการเผยแพร่โดย ภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน และมหาวิทยาลัยประชาชน เพื่อสาธารณะประโยชน์ ในการสร้างจิตสำนึกทางประชาธิปไตย สันติวิธี และการเคารพหลักสิทธิมนุษยชน



จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ "คนต้องเท่ากับคน" 31 สิงหาคม 2559

จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ "คนต้องเท่ากับคน" 31 สิงหาคม  2559

https://youtu.be/t1kbqbNl_Bo     

https://youtu.be/DAkUPyizCAg     

https://youtu.be/Yx83qlHaFIE     

https://youtu.be/6DdwbogkPG8     



---------------------

***Download ร่างจดหมาย เพื่อส่งผู้นำนานาชาติต่าง ๆ ที่ http://tinyurl.com/gsetacg     

***โปรดช่วยกันกระจายและส่งให้มากที่สุดนะครับ ขอบคุณครับ

สนับสนุนแนวทางมดแดงล้มช้าง ของ คณะราษฎรเสรีไทย กับ ดร. เพียงดิน 

ส่งข้อมูลลับผ่านช่องทางที่ปลอดภัยทางลิ้งค์ต่อไปนี้

http://tinyurl.com/o2rzao8     

หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt     

****ลิ้งค์ล่าสุด  http://tinyurl.com/gssuvm2     

และรายงานการปฏิบัติงานและความคืบหน้าเครือข่าย ได้ที่ 4everche@gmail.com     

----------------------

สนับสนุนการเผยแพร่โดย ภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน และมหาวิทยาลัยประชาชน เพื่อสาธารณะประโยชน์ ในการสร้างจิตสำนึกทางประชาธิปไตย สันติวิธี และการเคารพหลักสิทธิมนุษยชน



Fwd: Breaking News


Brazil's Senate voted 61-20 to remove President Dilma Rousseff from office, finding her guilty of breaking budgetary laws in an impeachment trial.

Interim President Michel Temer will assume the office of president.



----------------------------------------------
Get complete coverage of breaking news on CNN TV, CNN.com and CNN Mobile.
Watch CNN live or On Demand from your computer or mobile device using CNNgo.
----------------------------------------------


You have opted-in to receive this e-mail from CNN.com.
To unsubscribe from Breaking News e-mail alerts, go to: http://cnn.com/EMAIL/breakingnews/unsubscribe.html?l=domestic-adh-bn
One CNN Center Atlanta, GA 30303
(c) & (r) 2016 Cable News Network

Fwd: Breaking News


Brazil's Senate voted 61-20 to remove President Dilma Rousseff from office, finding her guilty of breaking budgetary laws in an impeachment trial.

Interim President Michel Temer will assume the office of president.



----------------------------------------------
Get complete coverage of breaking news on CNN TV, CNN.com and CNN Mobile.
Watch CNN live or On Demand from your computer or mobile device using CNNgo.
----------------------------------------------


You have opted-in to receive this e-mail from CNN.com.
To unsubscribe from Breaking News e-mail alerts, go to: http://cnn.com/EMAIL/breakingnews/unsubscribe.html?l=domestic-adh-bn
One CNN Center Atlanta, GA 30303
(c) & (r) 2016 Cable News Network

ดร. เพียงดิน รักไทย มดแดงจะล้ม คสช. -เครือข่ายราชาธิปไตยอย่างไร? ตอน 6 แนวรบกองทัพโจรมาเฟีย

ดร. เพียงดิน รักไทย มดแดงจะล้ม คสช. -เครือข่ายราชาธิปไตยอย่างไร? ตอน 6 แนวรบกองทัพโจรมาเฟีย
---------------------
***Download ร่างจดหมาย เพื่อส่งผู้นำนานาชาติต่าง ๆ ที่ http://tinyurl.com/gsetacg
***โปรดช่วยกันกระจายและส่งให้มากที่สุดนะครับ ขอบคุณครับ
สนับสนุนแนวทางมดแดงล้มช้าง ของ คณะราษฎรเสรีไทย กับ ดร. เพียงดิน 
ส่งข้อมูลลับผ่านช่องทางที่ปลอดภัยทางลิ้งค์ต่อไปนี้
หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt
****ลิ้งค์ล่าสุด http://tinyurl.com/gssuvm2
และรายงานการปฏิบัติงานและความคืบหน้าเครือข่าย ได้ที่ 4everche@gmail.com
----------------------
สนับสนุนการเผยแพร่โดย ภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน และมหาวิทยาลัยประชาชน เพื่อสาธารณะประโยชน์ ในการสร้างจิตสำนึกทางประชาธิปไตย สันติวิธี และการเคารพหลักสิทธิมนุษยชน

ดร. เพียงดิน รักไทย มดแดงจะล้ม คสช. -เครือข่ายราชาธิปไตยอย่างไร? ตอน 6 แนวรบกองทัพโจรมาเฟีย

ดร. เพียงดิน รักไทย มดแดงจะล้ม คสช. -เครือข่ายราชาธิปไตยอย่างไร? ตอน 6 แนวรบกองทัพโจรมาเฟีย
---------------------
***Download ร่างจดหมาย เพื่อส่งผู้นำนานาชาติต่าง ๆ ที่ http://tinyurl.com/gsetacg
***โปรดช่วยกันกระจายและส่งให้มากที่สุดนะครับ ขอบคุณครับ
สนับสนุนแนวทางมดแดงล้มช้าง ของ คณะราษฎรเสรีไทย กับ ดร. เพียงดิน 
ส่งข้อมูลลับผ่านช่องทางที่ปลอดภัยทางลิ้งค์ต่อไปนี้
หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt
****ลิ้งค์ล่าสุด http://tinyurl.com/gssuvm2
และรายงานการปฏิบัติงานและความคืบหน้าเครือข่าย ได้ที่ 4everche@gmail.com
----------------------
สนับสนุนการเผยแพร่โดย ภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน และมหาวิทยาลัยประชาชน เพื่อสาธารณะประโยชน์ ในการสร้างจิตสำนึกทางประชาธิปไตย สันติวิธี และการเคารพหลักสิทธิมนุษยชน

Monday, August 29, 2016

ตั้ง สนง.อิสลาม ประจำจังหวัดทุกอำเภอ (ให้ตบตาว่าจัดตั้งเพื่อประกอบพิธีฮัจย์)

ตั้ง สนง.อิสลาม ประจำจังหวัดทุกอำเภอ (ให้ตบตาว่าจัดตั้งเพื่อประกอบพิธีฮัจย์)

สนช.รับ...ร่าง พรบ.กิจการฮัจย์ ย้ายมากรมการปกครอง
... ทำให้อิสลามควบคุมระบบราชการทั่วประเทศเรียบร้อยแล้ว ...
อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัด... หลั่งน้ำตา รดแผ่นดิน..ห่วงลูกหลานไทย..
10 ส.ค.2559
สนช.รับแล้ววาระแรก...ร่าง พรบ.กิจการฮัจย์ ย้ายจากกรมการศาสนา มากรมการปกครอง...
-ต่อไปนี้อิสลาม ควบคุม ตำบล, อำเภอ, จังหวัด, กรมการปกครอง และกระทรวงมหาดไทยทั่วประเทศเรียบร้อยแล้ว..
ทำไมถึงต้องย้ายไปกรมการปกครอง
1.กรมการปกครองมีอำนาจในการสั่งการประชาชนมากกว่า กรมการศาสนา
2.กรมการปกครองมีงบประมาณมากกว่ากรมการศาสนา
3.ทุกอำเภอ และทุกจังหวัด จะต้องมีห้องทำงานให้กับ คณก.อิสลาม ประจำอำเภอ และประจำจังหวัดนั้นๆ
4.เพื่อสอดรับกับกฎหมายลูก ที่จะออกมาดังนี้.
4.1 ออกกฎหมายรองรับว่า ทั้ง 77 จังหวัด ทั่วประเทศ, จังหวัดใดที่มีมัสยิด 3 แห่ง ให้จังหวัดนั้นๆแต่งตั้ง คณก.กลางอิสลามประจำจังหวัด ปฏิบัติหน้าที่ดังนี้..
- คณก.อิสลาม ประจำจังหวัดให้ทำงาน และร่วม ประชุมกับ ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกครั้ง,คณก.อิสลาม ประจำอำเภอ ให้ทำงานและร่วมประชุมกับนายอำเภอทุกครั้ง(ข่าวกรองแล้ว ทราบว่า คณก.อิสลาม จะเตรียม ผู้หญิงอิสลามหน้าตาดี เพื่อจะเป็นเมียน้อยของนายอำเภอ และผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อต้องการลูกที่เป็นมุสลิม ฝ่ายพ่อไม่ต้องเปลี่ยนศาสนาเป็นมุสลิมก็ได้..ไม่เกินใน 5 ปี ข้างหน้า 2565 ก็จะได้ลูกมุสลิมทั่วประเทศไทยปกครองประชาชน) 
4.2 ออก กฎหมายรองรับ จังหวัดใด ที่มีมัสยิด 3 แห่ง ให้จังหวัดนั้นจัดตั้งศาลมุสลิมประจำจังหวัด ให้โต๊ะอีหม่าม เป็นผู้พิพากษาหัวหน้าศาล.. ให้ใช้มัสยิดใด มัสยิดหนึ่งเป็นที่ทำการของศาลมุสลิมไปก่อน...(ถ้าใครถามก็บอกว่า จะใช้บังคับเฉพาะคนมุสลิม แต่อีกไม่นาน คนไทยพุทธที่โง่อยู่ มีเรื่องกับมุสลิม ก็ต้องมาขึ้นศาลมุสลิมประจำจังหวัดนั้น ,ถ้ามีเรื่องให้คนมุสลิมรีบส่งเรื่องมาทันที) มีโต๊ะอีหม่าม เป็นผู้พิพากษาหัวหน้าศาล.. คนมุสลิมจะผิดอย่างไร ก็ต้องให้ชนะแน่นอน..
-ต่อไป คนไทยพุทธ มีข้อพิพาทกับคนไทยมุสลิม เกี่ยวกับ เรื่องที่ดิน, เรื่องอุบัติเหตุ และเรื่องอื่นๆ ก็ต้องขึ้นศาลมุสลิม
4.3 ออกกฎหมายชารีอะย์ มุสลิม เรื่องการนับถือศาสนา  คนไทยพุทธ แต่งงานกับอิสลามมุสลิม จะต้องเปลี่ยนนับถืออิสลามมุสลิมทั้งหมด...
แผนของอิสลาม
แผนที่ 1 ยึดกระทรวงศึกษาได้แล้ว
แผนที่ 2 ยึดกระทรวงมหาดไทย 
"เมื่อไรที่เราขอจัดตั้ง สนง.อิสลาม ประจำจังหวัดและอำเภอ ทุกอย่างก็จะสำเร็จเมื่อนั้น (ให้อ้างว่าเป็นการจัดตั้งเพื่อประกอบพิธีฮัจย์ ... อย่าเผยแพร่ให้คนพุทธรู้ข้อนี้สำคัญมาก.. เพราะมันกำลังถูกเรายึดทั้งประเทศแน่ๆ ถ้ารู้มันจะต่อต้านเราอย่างรุนแรง)"
แผนที่ 3 ยึดกระทรวงยุติธรรม...
เมื่อผู้หญิงที่ส่งให้เป็นเมียน้อย นายอำเภอ และผู้ว่าราชการจังหวัด  ลูกที่ได้จะเป็นมุสลิม
ให้ส่งลูกไปเรียน รัฐศาสตร์ และหรือ นิติศาสตร์เท่านั้นต่อไปจะได้คนมุสลิม เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดและเป็นผู้พิพากษาหัวหน้าศาล..  ต่อไปศาลมุสลิมประจำจังหวัด.. จะต้องทำงานร่วมกับศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกา  เมื่อเวลานั้น   อิสลาม มุสลิม ยึดได้ทั้งหมดแล้ว..ข้อพิพาท เรื่องที่ดินมรดก มีแน่นอนครับ  เช่น พ่อเป็นไทยพุทธ มีที่ดินอยู่ 1,000 ไร่  มีลูกสาว 2 คน
- ลูกสาวคนที่ 1  นับถือพุทธ แต่งงานกับชายพุทธ
-ลูกสาวคนที่ 2 นับถือพุทธ  แต่งงานกับชายมุสลิมตามกฎหมายชารีอะห์  ก็ต้องเปลี่ยนศาสนาเป็นอิสลาม   วันหนึ่งพ่อตาย ด้วยหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ไม่ได้แบ่งมรดกให้ฝ่ายลูกเขย เป็นอิสลามมุสลิมซึ่งแต่งงานกับลูกสาวคนที่ 2 และมีลูกด้วยกัน 3 คนเป็นอิสลามมุสลิม ทั้งหมด ด้วยเหตุนี้ลูกเขยอยากได้ที่ดินมรดก 1,000 ไร่ หรืออยากได้มากกว่าอีกฝ่ายหนึ่ง ก็ต้องส่งเรื่องไปที่ศาลมุสลิม ประจำจังหวัดนั้นๆ  ท่านทั้งหลายลองคิดดู จะให้ใครชนะคดี...
ถ้าไม่ใช่อิสลามมุสลิม..ท่านลองคิดดูนะครับ แต่เดิมอิสลามมุสลิมใช้จารีต ของศาสนาในการปฏิบัติ (ผู้ชายมีเมีย 4 คน เพื่อขยายศาสนาตัวเอง)  ชาวพุทธก็ไม่มีผลกระทบใดๆ  แต่ปัจจุบันอิสลามมุสลิม พยายามพลักดัน จารีต ของศาสนา ให้เป็นกฎหมาย ออกมาบังคับใช้ ซึ่งเป็นอันตรายร้ายแรงมาก ต่อชาวพุทธทุกคน...  เพราะถ้าขึ้นชื่อว่ากฎหมาย  ถ้าไม่ปฏิบัติก็มีความผิด ติดคุก ...ดัง พรบ.ฮัจย์ 2524
-ปลัดกระทรวงมหาดไทย  , อธิบดีกรมการศาสนา , อธิบดีกรมการปกครอง , และอธิบดี อื่นๆ อีกเกือบ 10 กระทรวง ต้องอำนวยความสะดวก ต่อกิจการฮัจย์ ถ้าไม่อำนวยความสะดวกต้องติดคุก 5 ปี... (ใช้กฎของป่าล้อมเมือง ต่อไปพระมหากษัตริย์ไทย ก็จะถูกคนอิสลามมุสลิมบีบ) รู้หรือยัง ทำไม อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัด... ถึงหลั่งน้ำตา เป็นห่วงลูกหลานไทย..
12 ส.ค.2559 เวลา 0110
              วอน คสช.ใช้สติ นำ  ม.44 ที่นำมาปิดปากชาวพุทธ  เอาไปล้างกฎหมายของมุสลิมหลาย ๆ ฉบับที่กำลังอยู่ในการพิจารณาของ สนช. เพราะ กฏหมายเหล่านี้เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาวไทยทั้งแผ่นดินอย่างรุนแรง ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในแผ่นดินนี้ เป็นกฏหมายขายชาติ ทำลายวัฒนธรรมประเพณี เปิดช่องให้ยึดแผ่นดินทั้งประเทศอย่างแท้จริง ตื่นเถิดชาวไทยทั้งหลายภัยจากลัทธิอิสลามกำลังรุกคืบกลืนแผ่นดินไทยเรื่อย ๆ ให้เป็นแผ่นดินมหาวินาศและวิบัติอย่างสมบูรณ์แบบในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้

ตั้ง สนง.อิสลาม ประจำจังหวัดทุกอำเภอ (ให้ตบตาว่าจัดตั้งเพื่อประกอบพิธีฮัจย์)

ตั้ง สนง.อิสลาม ประจำจังหวัดทุกอำเภอ (ให้ตบตาว่าจัดตั้งเพื่อประกอบพิธีฮัจย์)

สนช.รับ...ร่าง พรบ.กิจการฮัจย์ ย้ายมากรมการปกครอง
... ทำให้อิสลามควบคุมระบบราชการทั่วประเทศเรียบร้อยแล้ว ...
อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัด... หลั่งน้ำตา รดแผ่นดิน..ห่วงลูกหลานไทย..
10 ส.ค.2559
สนช.รับแล้ววาระแรก...ร่าง พรบ.กิจการฮัจย์ ย้ายจากกรมการศาสนา มากรมการปกครอง...
-ต่อไปนี้อิสลาม ควบคุม ตำบล, อำเภอ, จังหวัด, กรมการปกครอง และกระทรวงมหาดไทยทั่วประเทศเรียบร้อยแล้ว..
ทำไมถึงต้องย้ายไปกรมการปกครอง
1.กรมการปกครองมีอำนาจในการสั่งการประชาชนมากกว่า กรมการศาสนา
2.กรมการปกครองมีงบประมาณมากกว่ากรมการศาสนา
3.ทุกอำเภอ และทุกจังหวัด จะต้องมีห้องทำงานให้กับ คณก.อิสลาม ประจำอำเภอ และประจำจังหวัดนั้นๆ
4.เพื่อสอดรับกับกฎหมายลูก ที่จะออกมาดังนี้.
4.1 ออกกฎหมายรองรับว่า ทั้ง 77 จังหวัด ทั่วประเทศ, จังหวัดใดที่มีมัสยิด 3 แห่ง ให้จังหวัดนั้นๆแต่งตั้ง คณก.กลางอิสลามประจำจังหวัด ปฏิบัติหน้าที่ดังนี้..
- คณก.อิสลาม ประจำจังหวัดให้ทำงาน และร่วม ประชุมกับ ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกครั้ง,คณก.อิสลาม ประจำอำเภอ ให้ทำงานและร่วมประชุมกับนายอำเภอทุกครั้ง(ข่าวกรองแล้ว ทราบว่า คณก.อิสลาม จะเตรียม ผู้หญิงอิสลามหน้าตาดี เพื่อจะเป็นเมียน้อยของนายอำเภอ และผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อต้องการลูกที่เป็นมุสลิม ฝ่ายพ่อไม่ต้องเปลี่ยนศาสนาเป็นมุสลิมก็ได้..ไม่เกินใน 5 ปี ข้างหน้า 2565 ก็จะได้ลูกมุสลิมทั่วประเทศไทยปกครองประชาชน) 
4.2 ออก กฎหมายรองรับ จังหวัดใด ที่มีมัสยิด 3 แห่ง ให้จังหวัดนั้นจัดตั้งศาลมุสลิมประจำจังหวัด ให้โต๊ะอีหม่าม เป็นผู้พิพากษาหัวหน้าศาล.. ให้ใช้มัสยิดใด มัสยิดหนึ่งเป็นที่ทำการของศาลมุสลิมไปก่อน...(ถ้าใครถามก็บอกว่า จะใช้บังคับเฉพาะคนมุสลิม แต่อีกไม่นาน คนไทยพุทธที่โง่อยู่ มีเรื่องกับมุสลิม ก็ต้องมาขึ้นศาลมุสลิมประจำจังหวัดนั้น ,ถ้ามีเรื่องให้คนมุสลิมรีบส่งเรื่องมาทันที) มีโต๊ะอีหม่าม เป็นผู้พิพากษาหัวหน้าศาล.. คนมุสลิมจะผิดอย่างไร ก็ต้องให้ชนะแน่นอน..
-ต่อไป คนไทยพุทธ มีข้อพิพาทกับคนไทยมุสลิม เกี่ยวกับ เรื่องที่ดิน, เรื่องอุบัติเหตุ และเรื่องอื่นๆ ก็ต้องขึ้นศาลมุสลิม
4.3 ออกกฎหมายชารีอะย์ มุสลิม เรื่องการนับถือศาสนา  คนไทยพุทธ แต่งงานกับอิสลามมุสลิม จะต้องเปลี่ยนนับถืออิสลามมุสลิมทั้งหมด...
แผนของอิสลาม
แผนที่ 1 ยึดกระทรวงศึกษาได้แล้ว
แผนที่ 2 ยึดกระทรวงมหาดไทย 
"เมื่อไรที่เราขอจัดตั้ง สนง.อิสลาม ประจำจังหวัดและอำเภอ ทุกอย่างก็จะสำเร็จเมื่อนั้น (ให้อ้างว่าเป็นการจัดตั้งเพื่อประกอบพิธีฮัจย์ ... อย่าเผยแพร่ให้คนพุทธรู้ข้อนี้สำคัญมาก.. เพราะมันกำลังถูกเรายึดทั้งประเทศแน่ๆ ถ้ารู้มันจะต่อต้านเราอย่างรุนแรง)"
แผนที่ 3 ยึดกระทรวงยุติธรรม...
เมื่อผู้หญิงที่ส่งให้เป็นเมียน้อย นายอำเภอ และผู้ว่าราชการจังหวัด  ลูกที่ได้จะเป็นมุสลิม
ให้ส่งลูกไปเรียน รัฐศาสตร์ และหรือ นิติศาสตร์เท่านั้นต่อไปจะได้คนมุสลิม เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดและเป็นผู้พิพากษาหัวหน้าศาล..  ต่อไปศาลมุสลิมประจำจังหวัด.. จะต้องทำงานร่วมกับศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกา  เมื่อเวลานั้น   อิสลาม มุสลิม ยึดได้ทั้งหมดแล้ว..ข้อพิพาท เรื่องที่ดินมรดก มีแน่นอนครับ  เช่น พ่อเป็นไทยพุทธ มีที่ดินอยู่ 1,000 ไร่  มีลูกสาว 2 คน
- ลูกสาวคนที่ 1  นับถือพุทธ แต่งงานกับชายพุทธ
-ลูกสาวคนที่ 2 นับถือพุทธ  แต่งงานกับชายมุสลิมตามกฎหมายชารีอะห์  ก็ต้องเปลี่ยนศาสนาเป็นอิสลาม   วันหนึ่งพ่อตาย ด้วยหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ไม่ได้แบ่งมรดกให้ฝ่ายลูกเขย เป็นอิสลามมุสลิมซึ่งแต่งงานกับลูกสาวคนที่ 2 และมีลูกด้วยกัน 3 คนเป็นอิสลามมุสลิม ทั้งหมด ด้วยเหตุนี้ลูกเขยอยากได้ที่ดินมรดก 1,000 ไร่ หรืออยากได้มากกว่าอีกฝ่ายหนึ่ง ก็ต้องส่งเรื่องไปที่ศาลมุสลิม ประจำจังหวัดนั้นๆ  ท่านทั้งหลายลองคิดดู จะให้ใครชนะคดี...
ถ้าไม่ใช่อิสลามมุสลิม..ท่านลองคิดดูนะครับ แต่เดิมอิสลามมุสลิมใช้จารีต ของศาสนาในการปฏิบัติ (ผู้ชายมีเมีย 4 คน เพื่อขยายศาสนาตัวเอง)  ชาวพุทธก็ไม่มีผลกระทบใดๆ  แต่ปัจจุบันอิสลามมุสลิม พยายามพลักดัน จารีต ของศาสนา ให้เป็นกฎหมาย ออกมาบังคับใช้ ซึ่งเป็นอันตรายร้ายแรงมาก ต่อชาวพุทธทุกคน...  เพราะถ้าขึ้นชื่อว่ากฎหมาย  ถ้าไม่ปฏิบัติก็มีความผิด ติดคุก ...ดัง พรบ.ฮัจย์ 2524
-ปลัดกระทรวงมหาดไทย  , อธิบดีกรมการศาสนา , อธิบดีกรมการปกครอง , และอธิบดี อื่นๆ อีกเกือบ 10 กระทรวง ต้องอำนวยความสะดวก ต่อกิจการฮัจย์ ถ้าไม่อำนวยความสะดวกต้องติดคุก 5 ปี... (ใช้กฎของป่าล้อมเมือง ต่อไปพระมหากษัตริย์ไทย ก็จะถูกคนอิสลามมุสลิมบีบ) รู้หรือยัง ทำไม อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัด... ถึงหลั่งน้ำตา เป็นห่วงลูกหลานไทย..
12 ส.ค.2559 เวลา 0110
              วอน คสช.ใช้สติ นำ  ม.44 ที่นำมาปิดปากชาวพุทธ  เอาไปล้างกฎหมายของมุสลิมหลาย ๆ ฉบับที่กำลังอยู่ในการพิจารณาของ สนช. เพราะ กฏหมายเหล่านี้เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาวไทยทั้งแผ่นดินอย่างรุนแรง ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในแผ่นดินนี้ เป็นกฏหมายขายชาติ ทำลายวัฒนธรรมประเพณี เปิดช่องให้ยึดแผ่นดินทั้งประเทศอย่างแท้จริง ตื่นเถิดชาวไทยทั้งหลายภัยจากลัทธิอิสลามกำลังรุกคืบกลืนแผ่นดินไทยเรื่อย ๆ ให้เป็นแผ่นดินมหาวินาศและวิบัติอย่างสมบูรณ์แบบในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้

อำมาตย์เตรียมเอามีดจ่อคอหอย ตู่-ป้อม เพื่อควบคุมเบ็ดเสร็จ --สาวคดีแดกแบบย่ามใจของทหารในสังกัด

เรื่อง เล่าจากสมาชิกผู้รักประชาธิปไตย!
ฟ้าเดียวกัน วรรณเลิศ
เรื่องวงเล่าเช้านี้
"ประยุทธ์-ประวิทย์" อ่วม ทหารสายตัวเอง มีสิทธิ์เจอดี จัดกิจกรรมโครงการใช้ชื่อสารพัดแอบอ้าง โหนสถาบันเข้าขั้นหมิ่นเบื้องสูง !!
            
29 สิงหาคม 2559 
ลือลั่นทั่วกองทัพบก เด็กนายจัดงานหากินแปลกๆ มีทั้งเอาโครงการพระราชดำริ โครงการเทิดสถาบัน จนถึงสิ่งศักดิ์ที่คนไทยนับถือ ผุดเป็นโครงการออกมาให้สังคมกังขามากมาย ในยุคสังคมทหารใหญ่ นายพล นายพันถ้าเป็นเด็กนาย ประยุทธ์-ประวิทย์ จะได้เป็นนักจัดกิจกรรม ปลูกป่า, สร้างพระ,สร้างวัตถุโบราณ สร้างตึก สร้างแฟลต ลามไปถึงส่วนการศึกษา อ้างเป็นหลาน เป็นเพื่อนลูกพลเอกประยุทธ์ พลเอกประวิทย์ออกของานตามมหาวิทยาลัย มีตัวมีตนเป็นลูกหลาน จริงเท็จไม่มีใครกล้าเช็ค กลัวเจอตอ เลยได้เห็นคนสวมรอยเป็นญาติของสองนายพลนี้มาขอส่วนแบ่งหากินทุกวงการ หนทางทำมาหากินไม่ใช่ของยากพวกทหารสมัยนี้ เล่นเป็นรวย มีชั้นเชิงอยู่ว่า ขอทำทีเบิกเงินหลวงไปสร้างก่อน แต่ยังเปิดรับเงินบริจาคจากห้างร้าน บริษัทเอกชนได้เงินเข้ากระเป๋ากันเองฟรีๆด้วยเทคนิคที่นิยมใช้คือการสั่งซื้อของผ่านหน่วยงาน มีการการออกเช็คในนามหน่วยงานทหารถูกต้อง จะได้เห็นว่าเอาเงินมาจ่ายจริง แต่ดันไปขอเงินทอนครึ่งหนึ่งทีหลัง จากบริษัทห้างร้าน บอกช่วยๆพวกพี่หน่อยนะ พี่มีภาระเลี้ยงดูปูสื่อพวกนายๆเยอะ เป็นวิธีการหากินสุดสกปรกของพวกเหล่าทหารทำดีเพื่อชาติ มีแต่ต้มตุ๋นภาษีคนไทย พวกห้างร้านบ้างก็ว่าสุดจะทน บ้างก็เต็มใจให้ทหารหลอกหลายต่อ ขอให้มีกะลาคุ้มหัวยามมีเรื่องมีราง ขอภาพนายพลมาติดเบ่งหน้าร้าน ไม่ปริปากพูดเรื่องเงินทอนเรื่องไม่ดีทุกเรื่องกลัวปืนจ่อหัวกันที่สุด กลัวแล้วจ้าาาา ์ 
 •ทหารบอนไซ

อำมาตย์เตรียมเอามีดจ่อคอหอย ตู่-ป้อม เพื่อควบคุมเบ็ดเสร็จ --สาวคดีแดกแบบย่ามใจของทหารในสังกัด

เรื่อง เล่าจากสมาชิกผู้รักประชาธิปไตย!
ฟ้าเดียวกัน วรรณเลิศ
เรื่องวงเล่าเช้านี้
"ประยุทธ์-ประวิทย์" อ่วม ทหารสายตัวเอง มีสิทธิ์เจอดี จัดกิจกรรมโครงการใช้ชื่อสารพัดแอบอ้าง โหนสถาบันเข้าขั้นหมิ่นเบื้องสูง !!
            
29 สิงหาคม 2559 
ลือลั่นทั่วกองทัพบก เด็กนายจัดงานหากินแปลกๆ มีทั้งเอาโครงการพระราชดำริ โครงการเทิดสถาบัน จนถึงสิ่งศักดิ์ที่คนไทยนับถือ ผุดเป็นโครงการออกมาให้สังคมกังขามากมาย ในยุคสังคมทหารใหญ่ นายพล นายพันถ้าเป็นเด็กนาย ประยุทธ์-ประวิทย์ จะได้เป็นนักจัดกิจกรรม ปลูกป่า, สร้างพระ,สร้างวัตถุโบราณ สร้างตึก สร้างแฟลต ลามไปถึงส่วนการศึกษา อ้างเป็นหลาน เป็นเพื่อนลูกพลเอกประยุทธ์ พลเอกประวิทย์ออกของานตามมหาวิทยาลัย มีตัวมีตนเป็นลูกหลาน จริงเท็จไม่มีใครกล้าเช็ค กลัวเจอตอ เลยได้เห็นคนสวมรอยเป็นญาติของสองนายพลนี้มาขอส่วนแบ่งหากินทุกวงการ หนทางทำมาหากินไม่ใช่ของยากพวกทหารสมัยนี้ เล่นเป็นรวย มีชั้นเชิงอยู่ว่า ขอทำทีเบิกเงินหลวงไปสร้างก่อน แต่ยังเปิดรับเงินบริจาคจากห้างร้าน บริษัทเอกชนได้เงินเข้ากระเป๋ากันเองฟรีๆด้วยเทคนิคที่นิยมใช้คือการสั่งซื้อของผ่านหน่วยงาน มีการการออกเช็คในนามหน่วยงานทหารถูกต้อง จะได้เห็นว่าเอาเงินมาจ่ายจริง แต่ดันไปขอเงินทอนครึ่งหนึ่งทีหลัง จากบริษัทห้างร้าน บอกช่วยๆพวกพี่หน่อยนะ พี่มีภาระเลี้ยงดูปูสื่อพวกนายๆเยอะ เป็นวิธีการหากินสุดสกปรกของพวกเหล่าทหารทำดีเพื่อชาติ มีแต่ต้มตุ๋นภาษีคนไทย พวกห้างร้านบ้างก็ว่าสุดจะทน บ้างก็เต็มใจให้ทหารหลอกหลายต่อ ขอให้มีกะลาคุ้มหัวยามมีเรื่องมีราง ขอภาพนายพลมาติดเบ่งหน้าร้าน ไม่ปริปากพูดเรื่องเงินทอนเรื่องไม่ดีทุกเรื่องกลัวปืนจ่อหัวกันที่สุด กลัวแล้วจ้าาาา ์ 
 •ทหารบอนไซ

ในเวลานี้ ประเทศไทย เป็นประเทศเดียวในโลกที่มีการปกครองจากรัฐบาลเผด็จการทหาร (Military Dictatorship หรือ Military Junta)

Credit: Unknown

ในเวลานี้ ประเทศไทย เป็นประเทศเดียวในโลกที่มีการปกครองจากรัฐบาลเผด็จการทหาร (Military Dictatorship หรือ Military Junta)

เมื่อนำเอาสถิติตั้งแต่ปี ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543) ขึ้นมา จะเห็นว่ามีไม่กี่ประเทศในโลก (ส่วนใหญ่อยู่ในทวีปอัฟริกา) ที่มีการปกครองระยะหนึ่ง โดยฝ่าย Military Dictatorship

ถ้าไม่รวมประเทศไทย ครั้งสุดท้ายที่มีการรัฐประหารสำเร็จและยึดอำนาจการปกครองได้ คือที่ประเทศเบอร์กิน่า ฟาโซ่ (Burkina Faso) ในทวีปอัฟริกา และการรัฐประหารสิ้นสุดลงภายในระยะเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์ เมื่อปี พ.ศ. 2558 คือปีที่แล้วนั่นเอง (เกือบหนึ่งปีเต็ม ถ้านับจากวันนี้)

ส่วนในเอเซีย-แปซิฟิค ก็คงมีแต่ประเทศฟิจิ ซึ่งออกไปเกือบสองปีแล้ว ส่วนประเทศเพื่อนบ้านอย่างเมียนม่าร์ ก็หมดไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว นั่นคือปี พ.ศ. 2554

-------------------

เหตุผลของการก่อการรัฐประหาร ที่ทุกๆ ประเทศอ้างเสมอมาคือ  ต้องเข้ามากอบกู้ประเทศชาติ จากกลุ่มนักการเมืองผู้ฉ้อโกงหรือรัฐบาลพลเรือนผู้มีวิสัยทัศน์อันคับแคบ (Myopic)  กลุ่มเผด็จการทหารจะสร้างความชอบธรรมด้วยการอ้างถึง สถานะตำแหน่งของพวกตนว่า เป็นผู้ตัดสินใจอย่าง "เป็นกลาง" จากรากฐานของตนเองที่เป็นสมาชิกในกองทัพทหาร  และฝ่ายเผด็จการทหารเหล่านี้ จะตั้งชื่อกลุ่มของตนเอง เพื่อสร้างความชอบธรรม เป็นต้นว่า "สภากอบกู้ประเทศชาติ " (National Redemption Council) หรือไม่ก็ "คณะกรรมการฟื้นฟูประเทศชาติ" (Committee of National Restoration) เป็นต้น

การสร้างความชอบธรรมในการยึดอำนาจโดยกองทัพ จะพยายามอ้างถึงเรื่อง เสถียรภาพทางการเมืองของประเทศชาติ หรือไม่ก็ทำการกู้ภัยจากการคุกคามจากลัทธิคตินิยมอันเป็นอันตราย  (Dangerous Ideologies)  ในสมัยอดีตนั้น ประเทศทางอเมริกากลางหรือละตินอเมริกา ก็ใช้เหตุผลของ การคุกคามจากลัทธิคอมมิวนิสต์มาสร้างความชอบธรรม

-------------------

ฝ่ายกองทัพจะสวมบทบาทให้ตนเองดูว่า เป็นพวกที่ไม่ฝักใฝ่ข้างหนึ่งข้างใด (non-partisan) และเป็นกลาง (Neutral Party) ซึ่งสามารถทำหน้าที่การนำประเทศชาติได้อย่างชั่วคราวในเหตุการณ์ของความยุ่งเหยิง และทำการพรรณาให้เห็นกันอยู่เสมอว่า นักการเมืองของประเทศตนนั้น ทำการฉ้อโกงและไม่มีประสิทธิ์ภาพในการบริหารประเทศแต่อย่างใด

ลักษณะอีกอย่างหนึ่งของ Military Dictatorship ในเกือบ ทุกๆ ประเทศ ก็คือ รัฐบาลทหารจะต้องออกกฎในการใช้กฎอัยการศึก หรือไม่ก็ใช้มาตรการในการประกาศเรื่องสภาวะฉุกเฉินกันอย่างถาวร

------------------

และไม่ว่าจะเป็นกรณีใดๆ หรือประเทศไหนในโลก สุดท้ายแล้ว มันก็ต้องหา "ความชอบธรรม" ป่าวประกาศให้คนทั่วโลกได้ทราบกัน ด้วยการ "จัดการการเลือกตั้ง" เท่านั้นเอง.. (ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไร ก็อยู่ที่การจัดการของแต่ละประเทศกันเอง)....

และถ้าระบบของ Military Dictatorship มันดีจริง ก็น่าจะมีประเทศต่างๆ หันมากระทำการแบบนี้กันมากขึ้น 

แต่ในเวลาที่ผ่านมาสองปี มีแค่สองประเทศที่ยังคิดว่า มันเป็นเรื่องที่สามารถแก้ปัญหาภายในได้  (Lesotho และ Burkina Faso)  (แต่เราก็คงจะเห็นกันแล้วว่า กระแสโลกในเรื่องแบบนี้ มีการตอบร้บกันอย่างไรบ้าง ตั้งแต่ปี 2014 เป็นต้นมา)

------------------

เรื่องที่น่าสนใจอีกเรื่องหนึ่งคือ ถ้าบุคคลมีโอกาสเลือกสถานที่ที่สามารถใช้ชีวิตความเป็นอยู่ หรือทำมาหากินกันได้  ท่านคิดว่า พลเมืองเหล่านั้น ต่างมีความต้องการที่จะอยู่ภายใต่้การปกครองในรูปแบบไหนกัน?

ลองไปขบคิดเล่นๆ กันนะคะ

Happy Tuesday ค่ะ

ในเวลานี้ ประเทศไทย เป็นประเทศเดียวในโลกที่มีการปกครองจากรัฐบาลเผด็จการทหาร (Military Dictatorship หรือ Military Junta)

Credit: Unknown

ในเวลานี้ ประเทศไทย เป็นประเทศเดียวในโลกที่มีการปกครองจากรัฐบาลเผด็จการทหาร (Military Dictatorship หรือ Military Junta)

เมื่อนำเอาสถิติตั้งแต่ปี ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543) ขึ้นมา จะเห็นว่ามีไม่กี่ประเทศในโลก (ส่วนใหญ่อยู่ในทวีปอัฟริกา) ที่มีการปกครองระยะหนึ่ง โดยฝ่าย Military Dictatorship

ถ้าไม่รวมประเทศไทย ครั้งสุดท้ายที่มีการรัฐประหารสำเร็จและยึดอำนาจการปกครองได้ คือที่ประเทศเบอร์กิน่า ฟาโซ่ (Burkina Faso) ในทวีปอัฟริกา และการรัฐประหารสิ้นสุดลงภายในระยะเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์ เมื่อปี พ.ศ. 2558 คือปีที่แล้วนั่นเอง (เกือบหนึ่งปีเต็ม ถ้านับจากวันนี้)

ส่วนในเอเซีย-แปซิฟิค ก็คงมีแต่ประเทศฟิจิ ซึ่งออกไปเกือบสองปีแล้ว ส่วนประเทศเพื่อนบ้านอย่างเมียนม่าร์ ก็หมดไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว นั่นคือปี พ.ศ. 2554

-------------------

เหตุผลของการก่อการรัฐประหาร ที่ทุกๆ ประเทศอ้างเสมอมาคือ  ต้องเข้ามากอบกู้ประเทศชาติ จากกลุ่มนักการเมืองผู้ฉ้อโกงหรือรัฐบาลพลเรือนผู้มีวิสัยทัศน์อันคับแคบ (Myopic)  กลุ่มเผด็จการทหารจะสร้างความชอบธรรมด้วยการอ้างถึง สถานะตำแหน่งของพวกตนว่า เป็นผู้ตัดสินใจอย่าง "เป็นกลาง" จากรากฐานของตนเองที่เป็นสมาชิกในกองทัพทหาร  และฝ่ายเผด็จการทหารเหล่านี้ จะตั้งชื่อกลุ่มของตนเอง เพื่อสร้างความชอบธรรม เป็นต้นว่า "สภากอบกู้ประเทศชาติ " (National Redemption Council) หรือไม่ก็ "คณะกรรมการฟื้นฟูประเทศชาติ" (Committee of National Restoration) เป็นต้น

การสร้างความชอบธรรมในการยึดอำนาจโดยกองทัพ จะพยายามอ้างถึงเรื่อง เสถียรภาพทางการเมืองของประเทศชาติ หรือไม่ก็ทำการกู้ภัยจากการคุกคามจากลัทธิคตินิยมอันเป็นอันตราย  (Dangerous Ideologies)  ในสมัยอดีตนั้น ประเทศทางอเมริกากลางหรือละตินอเมริกา ก็ใช้เหตุผลของ การคุกคามจากลัทธิคอมมิวนิสต์มาสร้างความชอบธรรม

-------------------

ฝ่ายกองทัพจะสวมบทบาทให้ตนเองดูว่า เป็นพวกที่ไม่ฝักใฝ่ข้างหนึ่งข้างใด (non-partisan) และเป็นกลาง (Neutral Party) ซึ่งสามารถทำหน้าที่การนำประเทศชาติได้อย่างชั่วคราวในเหตุการณ์ของความยุ่งเหยิง และทำการพรรณาให้เห็นกันอยู่เสมอว่า นักการเมืองของประเทศตนนั้น ทำการฉ้อโกงและไม่มีประสิทธิ์ภาพในการบริหารประเทศแต่อย่างใด

ลักษณะอีกอย่างหนึ่งของ Military Dictatorship ในเกือบ ทุกๆ ประเทศ ก็คือ รัฐบาลทหารจะต้องออกกฎในการใช้กฎอัยการศึก หรือไม่ก็ใช้มาตรการในการประกาศเรื่องสภาวะฉุกเฉินกันอย่างถาวร

------------------

และไม่ว่าจะเป็นกรณีใดๆ หรือประเทศไหนในโลก สุดท้ายแล้ว มันก็ต้องหา "ความชอบธรรม" ป่าวประกาศให้คนทั่วโลกได้ทราบกัน ด้วยการ "จัดการการเลือกตั้ง" เท่านั้นเอง.. (ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไร ก็อยู่ที่การจัดการของแต่ละประเทศกันเอง)....

และถ้าระบบของ Military Dictatorship มันดีจริง ก็น่าจะมีประเทศต่างๆ หันมากระทำการแบบนี้กันมากขึ้น 

แต่ในเวลาที่ผ่านมาสองปี มีแค่สองประเทศที่ยังคิดว่า มันเป็นเรื่องที่สามารถแก้ปัญหาภายในได้  (Lesotho และ Burkina Faso)  (แต่เราก็คงจะเห็นกันแล้วว่า กระแสโลกในเรื่องแบบนี้ มีการตอบร้บกันอย่างไรบ้าง ตั้งแต่ปี 2014 เป็นต้นมา)

------------------

เรื่องที่น่าสนใจอีกเรื่องหนึ่งคือ ถ้าบุคคลมีโอกาสเลือกสถานที่ที่สามารถใช้ชีวิตความเป็นอยู่ หรือทำมาหากินกันได้  ท่านคิดว่า พลเมืองเหล่านั้น ต่างมีความต้องการที่จะอยู่ภายใต่้การปกครองในรูปแบบไหนกัน?

ลองไปขบคิดเล่นๆ กันนะคะ

Happy Tuesday ค่ะ

เป้าหมายของเผด็จการราชาธิปไตยไทย วันนี้ คืออะไร? แล้วเราจะสู้ต่อไปอย่างไร?

เป้าหมายของเผด็จการราชาธิปไตยไทย วันนี้ คืออะไร?
แล้วเราจะสู้ต่อไปอย่างไร?




ในความเป็นไปได้ เผด็จการราชาธิปไตย น่าจะรุกคืบบนเส้นทางเผด็จการต่อไปดังนี้

- ยึดอำนาจบงการกองทัพไปรวมศูนย์ไว้ เพื่อเตรียมการปราบแดงและรักษาฐานอำนาจไว้ให้มั่นคงที่สุด

- ตัดเส้นใยทางอำนาจของ ดร. ทักษิณ และเตรียมเล่นงานนักการเมืองฝั่ง ดร.​ทักษิณ และทำการยึดทรัพย์หรือดำเนินคดีกับคุณยิ่งลักษณ์ให้ถึงที่สุด   หากมีการต่อรอง ก็แปลว่า ดร. ทักษิณ ต้องสยบยอมโดยแทบไม่มีเงื่อนไขใด ๆ มาต่อรอง (สำเร็จเกือบ 100% แล้ว)  ต่อจากนี้ เราจะให้เห็นฤทธิ์พยาบาทของเผด็จการเฒ่าทั้งหลาย ผ่านกระบวนการตุลาการวิบัติ ยกเว้นเสียแต่ว่า จะมีคนขอกราบเป็นข้าพระบาทฯ ของจักรี โดยไม่มีเงื่อนไขคือยอมทุกอย่าง อีกสี่ห้าตระกูลนั่นแหละ 

- หลอกใช้ประยุทธ์ไปให้ถึงที่สุด จนหมดสภาพแล้ว ก็จะเตรียมเชือดทิ้ง อย่าเชื่อว่า พวกมันจะยอมให้ประยุทธ์อยู่ถึงสิบปี  และตาอยู่ที่จ้องอยู่ตาเป็นมัน ก็จะรอโอกาสนี้อยู่ การสร้างสถานการณ์ความรุนแรง ระเบิด และการกดดันด้วยกลไกต่าง ๆ รวมถึงการขัดผลประโยชน์ต่าง ๆ พร้อมกับการรุกกลับของฝั่งปชต.​และโลกเสรีนิยม จะนำไปสู่จุดจบของเผด็จการทหารในที่สุด  โดยเฉพาะหากประยุทธ์และคสช. ยังยืนยันจะสืบทอดอำนาจต่อแบบย่ามใจ

- ขณะที่ทำการบีบและกดผู้ต่อต้านในทุกทาง และจะยิ่งทำหนักขึ้นกว่าเดิม  ก็จะมีการให้สินจ้างรางวัลแก่คนที่สยบยอม และยอมเป็นศัตรูกับฝั่งแดงใต้ (มวลชนทักษิณ...ฮา) เพื่อสร้างชัยชนะที่เบ็ดเสร็จเด็ดขาดเหนือพลังประชาชน  การละเมิดสิทธิมนุษยชน จะยิ่งหนักกว่าช่วงสองปีกว่า ๆ ที่ผ่านมา

- เมื่อได้รัฐธรรมนูญฉบับในฝันในมือแล้ว เขาจะเร่งเขียนกฎหมายลูกชนิดที่ทำให้การข่มขืนประชาชนทำได้แบบไม่มีรูโหว่ แล้วให้มีการเลือกตั้ง เพื่อลดกระแสกดดันจากชาวโลก แล้วเตรียมการจัดระเบียบอำนาจที่ยั่งยืนต่อไป

- เมื่อกระแสแดงปฏิวัติ หรือปฏิวัติประชาชนไม่ยอมฝ่อ เขาจะเน้นการอวยสถาบัน มอมเมาประชาชน และปลุกมวลชนขวาพิฆาตซ้าย ขณะที่ทหารจะใช้ยุทธการปราบศัตรูของเจ้าอย่างหนัก เลียนแบบจีนชัดเจนยิ่งขึ้น และจะมีการป้ายสีฝั่งประชาธิปไตยว่าเป็นผู้หวังร้ายต่อประเทศชาติ ผู้ก่อการร้าย คนทรยศชาติ ฯลฯ

นี่คือสิ่งที่เผด็จการจะต้องทำ ถึงจะไม่ตรงเป๊ะ แต่ไม่หนีไปจากทิศทางนี้
แล้วขบวนประชาธิปไตย จะทำอย่างไรล่ะ? 
  • ท้อถอย และสยบยอม?
  • สู้ไปบ่นไป? โทษกันไปมาในหมู่เพื่อนพ้องน้องพี่ร่วมชะตากรรม?
  • หมดความอดทน ใช้ความรุนแรง เพื่อสนองความคับแค้น?
  • ทำมาแบบไหน ก็ทำแบบนั้นต่อไป?
  • รอคอยพระเอกขี่ม้าขาว อย่างใจจดใจจ่อ?

หรือจะจัดทัพปฏิวัติปวงชนในทุกแนวรบ ช่วยกันรบด้วยความจริงจับ ด้วย ปัญญา และด้วยอารยวิถีจากทุกจุดที่ตนอยู่?
__________________
ดร. เพียงดิน รักไทย 29 ส.ค. 2559 จะล้ม คสช.​และ ระบอบเจ้า อย่างไร? ตอน 5 แนวรบอำนาจมืดของวัง

---------------------
***Download ร่างจดหมาย เพื่อส่งผู้นำนานาชาติต่าง ๆ ที่ http://tinyurl.com/gsetacg
***โปรดช่วยกันกระจายและส่งให้มากที่สุดนะครับ ขอบคุณครับ
สนับสนุนแนวทางมดแดงล้มช้าง ของ คณะราษฎรเสรีไทย กับ ดร. เพียงดิน
ส่งข้อมูลลับผ่านช่องทางที่ปลอดภัยทางลิ้งค์ต่อไปนี้
หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt
****ลิ้งค์ล่าสุด  http://tinyurl.com/gssuvm2
และรายงานการปฏิบัติงานและความคืบหน้าเครือข่าย ได้ที่ 4everche@gmail.com
----------------------
สนับสนุนการเผยแพร่โดย ภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน และมหาวิทยาลัยประชาชน เพื่อสาธารณะประโยชน์ ในการสร้างจิตสำนึกทางประชาธิปไตย สันติวิธี และการเคารพหลักสิทธิมนุษยชน



เป้าหมายของเผด็จการราชาธิปไตยไทย วันนี้ คืออะไร? แล้วเราจะสู้ต่อไปอย่างไร?

เป้าหมายของเผด็จการราชาธิปไตยไทย วันนี้ คืออะไร?
แล้วเราจะสู้ต่อไปอย่างไร?




ในความเป็นไปได้ เผด็จการราชาธิปไตย น่าจะรุกคืบบนเส้นทางเผด็จการต่อไปดังนี้

- ยึดอำนาจบงการกองทัพไปรวมศูนย์ไว้ เพื่อเตรียมการปราบแดงและรักษาฐานอำนาจไว้ให้มั่นคงที่สุด

- ตัดเส้นใยทางอำนาจของ ดร. ทักษิณ และเตรียมเล่นงานนักการเมืองฝั่ง ดร.​ทักษิณ และทำการยึดทรัพย์หรือดำเนินคดีกับคุณยิ่งลักษณ์ให้ถึงที่สุด   หากมีการต่อรอง ก็แปลว่า ดร. ทักษิณ ต้องสยบยอมโดยแทบไม่มีเงื่อนไขใด ๆ มาต่อรอง (สำเร็จเกือบ 100% แล้ว)  ต่อจากนี้ เราจะให้เห็นฤทธิ์พยาบาทของเผด็จการเฒ่าทั้งหลาย ผ่านกระบวนการตุลาการวิบัติ ยกเว้นเสียแต่ว่า จะมีคนขอกราบเป็นข้าพระบาทฯ ของจักรี โดยไม่มีเงื่อนไขคือยอมทุกอย่าง อีกสี่ห้าตระกูลนั่นแหละ 

- หลอกใช้ประยุทธ์ไปให้ถึงที่สุด จนหมดสภาพแล้ว ก็จะเตรียมเชือดทิ้ง อย่าเชื่อว่า พวกมันจะยอมให้ประยุทธ์อยู่ถึงสิบปี  และตาอยู่ที่จ้องอยู่ตาเป็นมัน ก็จะรอโอกาสนี้อยู่ การสร้างสถานการณ์ความรุนแรง ระเบิด และการกดดันด้วยกลไกต่าง ๆ รวมถึงการขัดผลประโยชน์ต่าง ๆ พร้อมกับการรุกกลับของฝั่งปชต.​และโลกเสรีนิยม จะนำไปสู่จุดจบของเผด็จการทหารในที่สุด  โดยเฉพาะหากประยุทธ์และคสช. ยังยืนยันจะสืบทอดอำนาจต่อแบบย่ามใจ

- ขณะที่ทำการบีบและกดผู้ต่อต้านในทุกทาง และจะยิ่งทำหนักขึ้นกว่าเดิม  ก็จะมีการให้สินจ้างรางวัลแก่คนที่สยบยอม และยอมเป็นศัตรูกับฝั่งแดงใต้ (มวลชนทักษิณ...ฮา) เพื่อสร้างชัยชนะที่เบ็ดเสร็จเด็ดขาดเหนือพลังประชาชน  การละเมิดสิทธิมนุษยชน จะยิ่งหนักกว่าช่วงสองปีกว่า ๆ ที่ผ่านมา

- เมื่อได้รัฐธรรมนูญฉบับในฝันในมือแล้ว เขาจะเร่งเขียนกฎหมายลูกชนิดที่ทำให้การข่มขืนประชาชนทำได้แบบไม่มีรูโหว่ แล้วให้มีการเลือกตั้ง เพื่อลดกระแสกดดันจากชาวโลก แล้วเตรียมการจัดระเบียบอำนาจที่ยั่งยืนต่อไป

- เมื่อกระแสแดงปฏิวัติ หรือปฏิวัติประชาชนไม่ยอมฝ่อ เขาจะเน้นการอวยสถาบัน มอมเมาประชาชน และปลุกมวลชนขวาพิฆาตซ้าย ขณะที่ทหารจะใช้ยุทธการปราบศัตรูของเจ้าอย่างหนัก เลียนแบบจีนชัดเจนยิ่งขึ้น และจะมีการป้ายสีฝั่งประชาธิปไตยว่าเป็นผู้หวังร้ายต่อประเทศชาติ ผู้ก่อการร้าย คนทรยศชาติ ฯลฯ

นี่คือสิ่งที่เผด็จการจะต้องทำ ถึงจะไม่ตรงเป๊ะ แต่ไม่หนีไปจากทิศทางนี้
แล้วขบวนประชาธิปไตย จะทำอย่างไรล่ะ? 
  • ท้อถอย และสยบยอม?
  • สู้ไปบ่นไป? โทษกันไปมาในหมู่เพื่อนพ้องน้องพี่ร่วมชะตากรรม?
  • หมดความอดทน ใช้ความรุนแรง เพื่อสนองความคับแค้น?
  • ทำมาแบบไหน ก็ทำแบบนั้นต่อไป?
  • รอคอยพระเอกขี่ม้าขาว อย่างใจจดใจจ่อ?

หรือจะจัดทัพปฏิวัติปวงชนในทุกแนวรบ ช่วยกันรบด้วยความจริงจับ ด้วย ปัญญา และด้วยอารยวิถีจากทุกจุดที่ตนอยู่?
__________________
ดร. เพียงดิน รักไทย 29 ส.ค. 2559 จะล้ม คสช.​และ ระบอบเจ้า อย่างไร? ตอน 5 แนวรบอำนาจมืดของวัง

---------------------
***Download ร่างจดหมาย เพื่อส่งผู้นำนานาชาติต่าง ๆ ที่ http://tinyurl.com/gsetacg
***โปรดช่วยกันกระจายและส่งให้มากที่สุดนะครับ ขอบคุณครับ
สนับสนุนแนวทางมดแดงล้มช้าง ของ คณะราษฎรเสรีไทย กับ ดร. เพียงดิน
ส่งข้อมูลลับผ่านช่องทางที่ปลอดภัยทางลิ้งค์ต่อไปนี้
หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt
****ลิ้งค์ล่าสุด  http://tinyurl.com/gssuvm2
และรายงานการปฏิบัติงานและความคืบหน้าเครือข่าย ได้ที่ 4everche@gmail.com
----------------------
สนับสนุนการเผยแพร่โดย ภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน และมหาวิทยาลัยประชาชน เพื่อสาธารณะประโยชน์ ในการสร้างจิตสำนึกทางประชาธิปไตย สันติวิธี และการเคารพหลักสิทธิมนุษยชน



เป้าหมายของเผด็จการราชาธิปไตยไทย วันนี้ คืออะไร? แล้วเราจะสู้ต่อไปอย่างไร?

เป้าหมายของเผด็จการราชาธิปไตยไทย วันนี้ คืออะไร?
แล้วเราจะสู้ต่อไปอย่างไร?




ในความเป็นไปได้ เผด็จการราชาธิปไตย น่าจะรุกคืบบนเส้นทางเผด็จการต่อไปดังนี้

- ยึดอำนาจบงการกองทัพไปรวมศูนย์ไว้ เพื่อเตรียมการปราบแดงและรักษาฐานอำนาจไว้ให้มั่นคงที่สุด

- ตัดเส้นใยทางอำนาจของ ดร. ทักษิณ และเตรียมเล่นงานนักการเมืองฝั่ง ดร.​ทักษิณ และทำการยึดทรัพย์หรือดำเนินคดีกับคุณยิ่งลักษณ์ให้ถึงที่สุด   หากมีการต่อรอง ก็แปลว่า ดร. ทักษิณ ต้องสยบยอมโดยแทบไม่มีเงื่อนไขใด ๆ มาต่อรอง (สำเร็จเกือบ 100% แล้ว)  ต่อจากนี้ เราจะให้เห็นฤทธิ์พยาบาทของเผด็จการเฒ่าทั้งหลาย ผ่านกระบวนการตุลาการวิบัติ ยกเว้นเสียแต่ว่า จะมีคนขอกราบเป็นข้าพระบาทฯ ของจักรี โดยไม่มีเงื่อนไขคือยอมทุกอย่าง อีกสี่ห้าตระกูลนั่นแหละ 

- หลอกใช้ประยุทธ์ไปให้ถึงที่สุด จนหมดสภาพแล้ว ก็จะเตรียมเชือดทิ้ง อย่าเชื่อว่า พวกมันจะยอมให้ประยุทธ์อยู่ถึงสิบปี  และตาอยู่ที่จ้องอยู่ตาเป็นมัน ก็จะรอโอกาสนี้อยู่ การสร้างสถานการณ์ความรุนแรง ระเบิด และการกดดันด้วยกลไกต่าง ๆ รวมถึงการขัดผลประโยชน์ต่าง ๆ พร้อมกับการรุกกลับของฝั่งปชต.​และโลกเสรีนิยม จะนำไปสู่จุดจบของเผด็จการทหารในที่สุด  โดยเฉพาะหากประยุทธ์และคสช. ยังยืนยันจะสืบทอดอำนาจต่อแบบย่ามใจ

- ขณะที่ทำการบีบและกดผู้ต่อต้านในทุกทาง และจะยิ่งทำหนักขึ้นกว่าเดิม  ก็จะมีการให้สินจ้างรางวัลแก่คนที่สยบยอม และยอมเป็นศัตรูกับฝั่งแดงใต้ (มวลชนทักษิณ...ฮา) เพื่อสร้างชัยชนะที่เบ็ดเสร็จเด็ดขาดเหนือพลังประชาชน  การละเมิดสิทธิมนุษยชน จะยิ่งหนักกว่าช่วงสองปีกว่า ๆ ที่ผ่านมา

- เมื่อได้รัฐธรรมนูญฉบับในฝันในมือแล้ว เขาจะเร่งเขียนกฎหมายลูกชนิดที่ทำให้การข่มขืนประชาชนทำได้แบบไม่มีรูโหว่ แล้วให้มีการเลือกตั้ง เพื่อลดกระแสกดดันจากชาวโลก แล้วเตรียมการจัดระเบียบอำนาจที่ยั่งยืนต่อไป

- เมื่อกระแสแดงปฏิวัติ หรือปฏิวัติประชาชนไม่ยอมฝ่อ เขาจะเน้นการอวยสถาบัน มอมเมาประชาชน และปลุกมวลชนขวาพิฆาตซ้าย ขณะที่ทหารจะใช้ยุทธการปราบศัตรูของเจ้าอย่างหนัก เลียนแบบจีนชัดเจนยิ่งขึ้น และจะมีการป้ายสีฝั่งประชาธิปไตยว่าเป็นผู้หวังร้ายต่อประเทศชาติ ผู้ก่อการร้าย คนทรยศชาติ ฯลฯ

นี่คือสิ่งที่เผด็จการจะต้องทำ ถึงจะไม่ตรงเป๊ะ แต่ไม่หนีไปจากทิศทางนี้
แล้วขบวนประชาธิปไตย จะทำอย่างไรล่ะ? 
  • ท้อถอย และสยบยอม?
  • สู้ไปบ่นไป? โทษกันไปมาในหมู่เพื่อนพ้องน้องพี่ร่วมชะตากรรม?
  • หมดความอดทน ใช้ความรุนแรง เพื่อสนองความคับแค้น?
  • ทำมาแบบไหน ก็ทำแบบนั้นต่อไป?
  • รอคอยพระเอกขี่ม้าขาว อย่างใจจดใจจ่อ?

หรือจะจัดทัพปฏิวัติปวงชนในทุกแนวรบ ช่วยกันรบด้วยความจริงจับ ด้วย ปัญญา และด้วยอารยวิถีจากทุกจุดที่ตนอยู่?
__________________
ดร. เพียงดิน รักไทย 29 ส.ค. 2559 จะล้ม คสช.​และ ระบอบเจ้า อย่างไร? ตอน 5 แนวรบอำนาจมืดของวัง

---------------------
***Download ร่างจดหมาย เพื่อส่งผู้นำนานาชาติต่าง ๆ ที่ http://tinyurl.com/gsetacg
***โปรดช่วยกันกระจายและส่งให้มากที่สุดนะครับ ขอบคุณครับ
สนับสนุนแนวทางมดแดงล้มช้าง ของ คณะราษฎรเสรีไทย กับ ดร. เพียงดิน
ส่งข้อมูลลับผ่านช่องทางที่ปลอดภัยทางลิ้งค์ต่อไปนี้
หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt
****ลิ้งค์ล่าสุด  http://tinyurl.com/gssuvm2
และรายงานการปฏิบัติงานและความคืบหน้าเครือข่าย ได้ที่ 4everche@gmail.com
----------------------
สนับสนุนการเผยแพร่โดย ภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน และมหาวิทยาลัยประชาชน เพื่อสาธารณะประโยชน์ ในการสร้างจิตสำนึกทางประชาธิปไตย สันติวิธี และการเคารพหลักสิทธิมนุษยชน