Saturday, July 11, 2015

ผู้ประสานงานยุโรป ขององค์การเสรีไทยฯ​ ประนามการส่งผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ให้จีน



11th July 2015

Dear Friends of Human Rights


It has been confirmed by recent news announcements that the ruling Military regime in Thailand, in full cooperation with the Royal Thai Army, have forcibly repatriated 109 Uighur refugees back to China. We, Thai people living aboard, would like to convey our distress at this abhorrent behaviour, against all international norms, and hope you will realise that the ruling military Junta in Thailand are not representative of the views of the majority of the Thai people.

The leader of the current military regime in Thailand is Dictator Prayut Chan-o-cha, in a news conference on July 10 he confirmed that the 107 Uighur refugees had been repatriated and unbelievably excused this deportation by stating that they had to be removed before they "started breeding like animals". This is the caliber of person that the ruling military regime have imposed on the Thai people, a buffoon, lacking in basic intellect, with no respect or humanity towards his fellow man.

We would like to reiterate that we, Thai people living aboard, are not represented by the current ruling military regime and completely oppose the actions taken by the regime in forcibly repatriating the Uighur refugees. We would like to confirm our support for all peaceful protests that highlight the abuse of human rights by the ruling military junta, of which sadly this is only the latest example. The ruling military Junta in Thailand have no respect for Human rights or indeed the basic tenets of International Law.

Finally, we, Thai people living abroad, would like to stand with our international and Islamic friends, in condemning the Thai Military Government for their inhumanity towards the Uighur refugees and can only hope that the Chinese government respects the human rights of the repatriated Uighur refugees better than the Thai Military Government.

Yours Sincerely,

 Jaran Ditapichai

European coordinator of the Organization of Free Thais for Human Rights and Democracy.


PIANGDIN ACADEMY: นักศึกษาอเมริกัน Rachel & Jude วิพากษ์ การเมืองแล...







นักศึกษาอเมริกัน Rachel & Jude วิพากษ์ การเมืองและ"ประชาธิปไตย" ไทย











นักศึกษาอเมริกัน Rachel & Jude วิพากษ์ การเมืองและ"ประชาธิปไตย" ไทย

นักศึกษาอเมริกัน Rachel & Jude วิพากษ์ การเมืองและ"ประชาธิปไตย" ไทย

ประเด็น ชาวอุยกูร์ คสช.​ทำผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่ เรื่องเหมือนเล็ก แต่โทษมหันต์นัก

เรื่อง การส่งคนชาวอุยกูร์ ในแคว้นซินเจียง ที่หนีร้อนมาพึ่งเย็นในประเทศไทย คืนกลับไปให้จีนแผ่นดินใหญ่ เป็นเรื่องราวระหว่างประเทศ ที่เล็กๆ จริงหรือ?
นี่คือ คำตอบของผมในฐานะ ที่เป็นนักเรียนกฏหมายระหว่างปรเทศ จากมหาวิทยาลัย นิวยอร์ค หรือ New York University Law School หรือ NYU
๑. คำว่า "Condemn" กับคำว่า "Convicted' ให้คุณค่าในทางความหมายของภาษากฏหมาย ที่เท่ากัน คือ แปลว่า "พิพากษาเพื่อลงโทษ"
๒.การที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา บรรยายความมา ในหนังสือฉบับนี้ พี่น้องประชาชนชาวไทย ต้องไปอ่านให้รอบคอบ และ ต้องระมัดระวังให้ดีๆ เพราะนั่น เป็นการออกมาบอกแบบแบไต๋ ว่า
๓. "ประเทศไทย ได้ไปปฏิบัติการละเมิดต่อ พันธกรณีที่ประเทศนี้มีอยู่ ในสนธิสัญญาใหญ่ และ สำคัญของโลก นั่น ก็คือ สนธิสัญญา กรุงเจนีวา ปีค.ศ.๑๙๔๙ (ทั้ง ๔ ฉบับ) หรือ the Geneva Conventions, 1949
๔. ที่ไทย มีพันธกรณี เพราะประเทศไทย ไปประกาศ ขอเข้าร่วมเป็นภาคีของสนธิสัญญาทั้ง ๔ ฉบับนี้ในวันที่ ๒๔ ธันวาคม ปีค.ศ.๑๙๕๔ หรือ ปีพ.ศ.๒๔๙๗
๕. โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สนธิสัญญากรุงเจนีวา, ปีค.ศ.๑๙๔๙ และบทบัญญัติที่ ๓ ร่วม หรือ ที่เรียกในภาษาอังกฤษว่า "the Fourth Geneva Convention, 1949 including the Common Article 3"

๖. ที่ห้าม ไม่ให้ขนส่งคนด้วย การบีบบังคับ เพื่อไปรับโทษ หรือ เพื่อไปรับการทรมาน ซ้ำ ต้องปฏิบัติต่อเขาเหล่านั้น อย่างมี "มนุษยธรรม"
๗. ที่กินความกว้างกว่า คำว่า "สิทธิมนุษยชน" หรือ คำว่า "Human Rights" ในภาษาอังกฤษ และ กินความครอบคลุมคำว่า "สิทธิมนุษยชน" เอาไว้ภายใต้คำว่า "มนุษยธรรม" หรือ คำว่า "Humanitarian" ด้วย

๘. การปฏิบัติการใดๆ โดยฝ่ายไทย ที่ฝ่าฝืนต่อความตามสนธิสัญญากรุงเจนีวา (ทั้ง ๔ ฉบับ) ปีค.ศ.๑๙๔๙ นั้นนำไปสู่การพิจารณาความผิด

๙. ตามสนธิสัญญากรุงเฮก ปีค.ศ.๑๘๙๙ - ๑๙๐๗ หรือ the Hague Conventions, 1899 - 1907 และ สนธิสัญญาที่เกี่ยวข้องอีกหลายฉบับ อาทิเช่น Genocide, 1951; Rome Statue, 1998 และ CAT, 1984 ฯลฯ เป็นต้น

๑๐. ซึ่งเป็น ความผิดทางอาญาระหว่างประเทศ หรือ International Crimes ตามสนธิสัญญาทั้งสองฉบับนี้ และ the London Charter, 1938 (สนธิสัญญาที่ก่อตั้งศาลนูเรมเบริกร์ และ มีโทษ ที่จะลงแก่จำเลยทั้งหลายสถานเดียว ก็คือ "การแขวนคอ"

๑๑. ให้ผู้อ่านทั้งหลายไปดู การพิจารณาคดี เมื่อสงครามโลกครั้งที่ ๒ เสร็จสิ้นลง บรรดานายพลในกองทัพของ นาซีเยอรมันนี และ ญี่ปุ่น ถูกประหารชีวิต โดยการแขวนคอ เป็นแถวๆ

๑๒. ท่านผู้ใดอยากดู ภาพการประหารในกรณีนี้่ ให้เข้าไปดูใน YouTube เขายังคงเก็บไฟล์ เป็นภาพยนต์ ให้เราดู เพื่อเตือนใจกันจนถึง ทุกวันนี้

๑๓. การละเมิดต่อสนธิสัญญา กรุงเจนีวา ปีค.ศ.๑๙๔๙ (ทั้ง ๔ ฉบับ) เป็นการละเมิดต่อพันธกรณีตาม กฏบัตรสหประชาชาติ ปีค.ศ.๑๙๔๕ - ๑๙๔๖ และสนธิสัญญาอื่นๆ ที่ออกตามความในกฏบัตรสหประชาชาติ ปีค.ศ. ๑๙๔๕ - ๑๙๔๖ หรือ the Charter of United Nations, 1945 - 1946 อยู่ในตัวเอง

๑๔. อนึ่ง ในวันนี้สนธิสัญญากรุงเจนีวา (ทั้ง ๔ ฉบับ) ปีค.ศ.๑๙๔๙ ดำรงสถานะเป็น Customary Rules of International Law

๑๕. กล่าวคือ ให้ผลบังคับทันที ไปทั่วโลก ผู้ใดจะไม่ปฏิบัติตาม หรือ ปฏิบัติโดยล่วงละเมิดต่อความตาม ที่บัญญัติไว้ในสนธิสัญญา กรุงเจนีวา (ทั้ง ๔ ฉบับ) ปีค.ศ.๑๙๔๙ ไม่ได้เลย

๑๖. จึงเป็นเรื่องที่คณะ คสช. ต้องไปเสกเป่ามนต์ เอาเอง เพื่อการเอาตัวรอด เป็นรายบุคคล

๑๗. นี่ไงใครๆที่คิดว่า เรื่องชาวอุยกูร์ เป็นเรื่องเล็ก โดยเนื้อหาสาระ เป็นเรื่องใหญ่ เกินกว่าที่ คณะ คสช. จะรับไหว

๑๘. ขั้นต่อไปใคร ที่อยู่ในคณะนี้ เดินทางออกต่างประเทศ ก็ต้องระวังการจับตัวไปดำเนินคดี ตามหมายจับ ที่อาจออกมาจาก ศาลนานาชาติในที่ หรือประเทศต่างๆ ให้ดีๆ

๑๙. นี่คำเตือนของผม ด้วยความบริสุทธิ์ใจ และ ด้วยความหวังดี รวมทั้งมิตรไมตรี ในฐานะ ที่ท่านเป็นเพื่อร่วมชาติ ผมหน้าบาง ไม่อยากเสียเกียรติภูมิ ในตัวผม ในฐานะ "เป็นคนไทย" ด้วยกัน

เอวัง ก็มีด้วยประการ ฉะนี้.


จดหมายถึงนกพิราบ เขียนถึงรินดา

จดหมายถึงนกพิราบ
เขียนถึงรินดา

พี่หลินถูกทหารใช้มาตรา 44 อุ้มตัวเข้าไปราบ 11 หนึ่งคืน ก่อนนำตัวมาส่งให้กองปราบ

พี่หลินเพิ่งสูญเสียสามีไปเมื่อไม่กี่ปีก่อน พี่หลินเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ต้องแบกภาระครอบครัวทั้งลูกวัย 13 และ 7 ปี ด้วยตัวคนเดียว
ตอนนี้สภาพจิตใจอยู่ในอาการที่ย่ำแย่มาก

ในการแถลงข่าวเธอยืนยัน

"ไม่ได้มีเจตนาสร้างความปั่นป่วนวุ่นวายแก่ชาติบ้านเมือง เพียงแต่เห็นว่าในฐานะเป็นประชาชนคนหนึ่งมีสิทธิที่จะวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลหรือผู้นำรัฐบาลได้ไม่ว่าจะมาจากการเลือกตั้งหรือไม่เพราะเป็นบุคคลสาธารณะ แต่ข้อความอาจจะมีข้อเท็จจริงที่ไม่เป็นจริงอยู่ จึงอยากเตือนให้ประชาชนระวังการแสดงออกที่หมิ่นเหม่ต่อการผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ แต่ก็ยังเชื่อว่าประชาชนยังคงต้องมีสิทธิในการแสดงออกอยู่"

นอกจากนี้เธอยังถูกฝ่ายความมั่นคงนำไปโยงกับคดีอเนกซานฟรานและกรณีคดีมีผู้โพสต์รัฐประหารซ้อนในครั้งก่อนทั้งๆ ที่เธอยืนยันว่าไม่ได้รู้จัก แค่แชร์ข่าวจากกลุ่มไลน์ตามปกติคนทำธุรกิจที่ต้องดูแนวโน้มการเมืองประกอบการลงทุน

คืนนี้เธอต้องนอนอยู่หลังลูกกรง ในความผิด"หมิ่นประมาทนายกรัฐมนตรี" ซึ่งในยุครัฐบาลเผด็จการทหาร ถูก"ศาลทหาร"ตีความกลายเป็น"ความผิดต่อความมั่นคงของรัฐ" ไปได้อย่างไรก็มิทราบได้

เธอเป็นแค่แม่เลี้ยงเดี่ยวหาเช้ากินค่ำ จะเป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐไปได้อย่างไร

#‎พลเรือนต้องไม่ขึ้นศาลทหาร

ร่วมลงชื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวคุณรินดา หรือขั้นต่ำสุดให้เธอได้รับสิทธิประกันตัวสู้คดีที่นี่

https://www.change.org/p/พลเมือง-เรียกร้องให้สิทธิประกันตัว-รินดา-ผู้ต้องหาในคดีโพสต์-ต่อ-พล-อ-ประยุทธ์-โอนเงินไปสิงคโปร์

ข้อแย้ง คำแก้ตัวของ คสช.​กรณีอุยกูร์!!!

Wasu Khamhom
19 mins · Edited ·
โฆษกคสช. แก้ตัวได้ทุเรศ และแถมากๆ เรื่องการส่งชาวอุยกูร์กลับจีน อ้างว่า ชาวอุยกูร์เหล่านั้นทำผิดกฎหมายจีน และจำเป็นต้องส่งตัวให้จีน ถ้าอ้างแบบนี้ก็ตกม้าตาย และสมควรถูกต่างประเทศประณามเสียหมาจริงๆ เพราะ
- ประเทศจีนเป็นประเทศที่ไม่ได้ลงนามสนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนตามกฎหมายสากล ไทยไม่มีจำเป็นต้องส่งชาวอุยกูร์ตามคำร้องของจีนแต่อย่างใด ถ้าไทยไม่ทราบว่าข้อหาที่ชาวอุยกูร์เหล่านี้ทำความผิดนั้นคืออะไร ยิ่งไม่มีเหตุผลที่จะส่งกลับจีน การส่งตัวชาวอุยกูร์โดนอ้างว่าทำผิดกฎหมายจีนนั้นเป็นเรื่องที่ไม่มีเหตุผลสมควร ฟังไม่ขึ้น
- ชาวอุยกูร์เหล่านี้ได้รับการประสานงานกับรัฐบาลตุรกี ในการขอลี้ภัยไว้เรียบร้อยแล้ว โดยอาศัยประเทศไทยเป็นทางผ่านในการรับตัวชาวอุยกูร์เหล่านี้ไว้ชั่วคราว เพื่อส่งไปลี้ภัยในประเทศตุรกี ประเทศมีความจำเป็นต้องรับผิดชอบในความปลอดภัยของชาวอุยกูร์เหล่านี้ในฐานะ ประเทศที่ให้การพักพิงแก่ผู้ที่ดำเนินการลี้ภัยตามหลักสิทธิมนุษยชนสากล

- ประเทศไทยมีหน้าที่ต้องทำตามข้อตกลงภาคีระหว่างประเทศ เรื่องการให้ผู้ที่ร้องขอลี้ภัยทางการเมือง มีสิทธิ์ได้รับความคุ้มครอง และจะต้องไม่ดำเนินการใดๆ ที่เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนของผู้ลี้ภัยทางการเมืองเหล่านี้ รวมถึงไม่ส่งตัวผู้ลี้ภัยเหล่านี้ไปยังประเทศที่ไม่ได้อยู่ในสนธิสัญญา ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ลี้ภัยเหล่านี้ไม่ได้รับการลี้ภัย ถูกดำเนินคดีทางการเมืองอย่างไม่ยุติธรรม หรือต้องตกอยู่ในอันตรายที่ถึงแก่ชีวิต

ซึ่งตอนนี้เห็นชัดว่าประเทศไทยทำผิดกฎหมายสากลทั้ง 3 ข้อนี้จนโดนทั้ง UN, HRW, ตุรกี และสหรัฐ ประณาม จนเสียหมาไปเรียบร้อย ซึ่งสื่อทั่วโลกเค้าก็คงเข้าใจแล้วว่า รัฐบาลเผด็จการไทย (Thai Junta military) ที่ส่งชาวอุยกูร์ให้จีน เพื่อหวังเงินกู้ และส่วนลดซื้อเรือดำน้ำจากจีนเท่านั้น ไม่ได้สนใจเรื่องสิทธิมนุษยชน หรือคิดจะปฎิบัติตามข้อตกลงด้านการลี้ภัย หรือภาคีสากลระหว่างประเทศเลย
อีกหน่อยคนไทยจะขอวีซ่าไปประเทศสหรัฐ และยุโรปยากมากขึ้น นักท่องเที่ยวไทยอาจจะไปเหยียบประเทศตุรกีไม่ได้อีกนาน และประเทศไทยอาจจะต้องเผชิญหน้ากับการก่อการร้ายกลุ่มต่างๆ ที่เป็นคู่ขัดแย้ง เพราะรัฐบาลประยุทธ์ปากเสีย ปากหมา สร้างศัตรูไว้รอบด้าน
ที่สำคัญคือ รัฐบาลไทยชุดนี้อย่าดัดจริตไปขอความร่วมมือเรื่องส่งผู้ร้ายข้ามแดน ขอความช่วยเหลือคนไทยที่ต้องโทษในต่างประเทศ หรือขอตัวผู้ต้องหาคดี 112 ที่ลี้ภัยจากต่างประเทศอีก เพราะนอกจากจะโดนเค้าเมินไม่ให้ความร่วมมือแล้ว อาจจะโดนตอกหน้า ด่ากลับมาว่าทำไมเค้าต้องปฎิบัติตาม ในไทยยังละเมิดข้อตกลงเรื่องสิทธิมนุษยชน และการลี้ภัย
สลิ่มคงดีใจที่มีนายกปากหมา วุฒิภาวะต่ำที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์การเมืองไทย และดำเนินนโยบายต่างประเทศ แบบเลียจีนสุดโต่ง และสร้างศัตรูไว้ทั่วโลก เพราะสลิ่มชอบอยู่ในกะลาเมืองไทย มากกว่าโผล่ออกนอกกะลานั่นเอง

ชมคลิปหลุด..พลเอกประยุทธ์พูดตอนท้ายดูถูกชาวกุยอูร์

ชมคลิปหลุด..พลเอกประยุทธ์พูดตอนท้ายดูถูกชาวกุยอูร์ ว่า จะให้แก้ปัญหายังไง จะให้เลี้ยงชาวกุยอูร์ให้ออกลูมาอีก 3 ครอกหรือ? เป็นคพูดที่รุนแรงมากหากจะเปรียบการเกิดของหมาเป็นครอกๆ ซึ่งต้องรู้ชาวกุยอูร์ หรือชาวโรฉิวยาเป็นชาวมุสลิม เอามาเปรียบของหมาเป็นครอกๆแบบนี้ไม่ได้เลย นายกตู่ปากเสียท่านรู้ตัวหรือเปล่าครับ

เครดิต มติชน

ด่วน ข่าวลับประยุทธ์และหลังบ้าน แตกอีกแล้ว และการครอบงำของจีน (น่ากลัวมาก)

เป็นข่าวลือส่งมาทางไลน์  โปรดใช้วิจารณญาณ

ด่วน ข่าวลับประยุทธ์และหลังบ้าน แตกอีกแล้ว และการครอบงำของจีน (น่ากลัวมาก)

ด่วน ..ข่าวลับบิ๊กตู่หลุดอีกแล้ว คราวนี้นั่งประชุมหัวโต๊ะด่ายับบรรยากาศลูกน้องสุดเครียด จวกแหลกทั้งชาติฝรั่งเศส เยอรมัน นิวซีแลนด์และประเทศเพื่อนบ้านที่ไม่ยอมส่งคืนเสื้อแดงที่หนีออกนอกประเทศกลับมาเข้าคุกไทย บอกไม่สนใจนานาชาติจะประท้วงว่าตนละเมิดกฎหมายสากล เพราะไม่สนใจชาติไหนอยู่แล้ว ทุกวันนี้คบกับจีนสบายดี ไทยมีมีคน 67 ล้านประเทศจีนมีเกือบ1300 ล้านเดี๋ยวจีนก็มากลืนชาติไทยเอง เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้แล้วตอนนี้ เมื่อตกลงกันมาก่อนยึดอำนาจแล้ว เปลี่ยนไปเลือกตั้ง อำนาจทหารก็จะเปลี่ยน ทหารไม่โง่แล้วยัง ของขึ้นด่าสื่อเรื่องซื้อเรือดำน้ำ ทางรัฐบาลจีนเห็นว่าไทยต้องมีเรือดำน้ำเพื่อทำงานประสานกันทางด้านความมั่งคงร่วมกับจีนใต้น้ำได้ ทุกวันนี้ไม่มีใครมาทำอะไรประเทศเราได้ เพราะจีนดูแลเราดี เราเลือกจะเดินไปกับจีนด้วยกัน พลเอกประยุทธ์ตอนหนึ่งในระหว่างบรีฟกับลูกน้องใกล้ชิด                            ทางข่าวลึกอีกด้านรายงานกันมาว่าเสธวินธัยถอนตัวจากทีมทำงานด้านโฆษกไปเงียบๆ เนื่องจากพลเอกประยุทธ์จับได้ว่าวินธัยเอาเรื่องของตนและภรรยานางนราพรไปด่าบ่นๆกับเพื่อนๆของเสธวินธัย เรื่องขาดความเป็นผู้นำของพลเอกประยุทธ์และความจุ้นจ้านสั่งการบีบบังคับลูกน้องของนางนราพรมักให้ทำอย่างโน้นอย่างนี้อย่างที่นางนราพรต้องการเสมอ นางนราพรคลั่งติดโซเซี่ยลมีเดีย จึงขอพลเอกประยุทธ์ตั้งทีมงานล่าคนในโลกโซเซี่ยลที่ด่าครอบครัว สั่งให้พลเอกประยุทธ์ต้องจับคนเข้าคุกสองคนแล้ว เรื่องไม่พอใจข่าวปูดปฎิวัติซ้อนและข่าวเงินหมื่นล้านไปสิงคโปร์ กลายเป็นนางนราพรคือผู้สั่งการให้จับเสื้อแดงมาขังคุกเองหมด ให้เน้นไปที่เสื้อแดงที่เป็นผู้หญิง จึงไม่ใช่พลเอกประยุทธ์เป็นคนสั่งให้จับ  จนลูกน้องทีมปฎิวัติการส่ายหัวและเริ่มทนเห็นหายนะจากความเครียดของนางนราพรไม่ได้แล้ว เพราะวันๆอยู่กับคนใกล้ชิดที่ไม่สันทัดทางกฎหมายและการเมืองจึงขออำนาจจากพลเอประยุทธ์มาจับคนเข้าคุกแบบจิตใจคับแคบ จะยิ่งสร้างความเกลียดชังให้ครอบครัวจันทร์โอชามากขึ้น ทั้งที่พลเอกประยุทธ์ก็ต้องการสร้างความปรองดองให้แต่ละฝ่ายมากขึ้น แต่เบื้องหลังนางนราพรกลับกระทำสิ่งที่ตรงข้ามอย่างเมียสิ้นคิด สมแล้วที่พลเอกประยุทธ์เบื่อจนมีเมียน้อย
==


Friday, July 10, 2015

กินีดำเนินคดีเอาผิดกับอดีต "หัวหน้าคณะรัฐประหาร" ฐานสังหารหมู่ผู้ต่อต้านรัฐบาล

กินีดำเนินคดีเอาผิดกับอดีต "หัวหน้าคณะรัฐประหาร" ฐานสังหารหมู่ผู้ต่อต้านรัฐบาล

วันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 เวลา 06:20:00 น.


จากรายงานของเอเอฟพี เมื่อวันพุธที่ผ่านมา คณะตุลาการของกินีได้มีมติดำเนินคดีเอาผิดกับอดีตหัวหน้าคณะรัฐประหารของกินีที่หลบหนีไปอยู่บูร์กินาฟาโซ จากการสังหารหมู่เมื่อปี 2009 ในสนามกีฬาโคนากรี ซึ่งทำให้ผู้ประท้วงเสียชีวิต 157 ราย
http://www.matichon.co.th/online/2015/07/14365049801436504998l.jpg

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 กันยายน ปี 2009 เมื่อเจ้าหน้าที่เปิดฉากยิงใส่ผู้ประท้วงที่มารวมตัวกันที่สนามกีฬาหลักของประเทศ เพื่อต่อต้านการปกครองโดยคณะทหารซึ่งนำโดย นายมุสซา ดาดิส คามารา ซึ่งนอกจากจะมีผู้เสียชีวิตแล้วยังมีผู้หญิงหลายคนถูกข่มขืน ประชาชนจำนวนมากได้รับบาดเจ็บ และยังมีผู้สูญหายอีกหลายสิบคน

นายฌอง-บาปติซ โจคามี ฮาบา หนึ่งในผู้ให้การสนับสนุนนายคามารา กล่าวกับเอเอฟพีว่า คณะตุลาการได้เดินทางมาสอบปากคำนายคามาราถึงบูร์กินาฟาโซ ถึงความเกี่ยวโยงของนายคามารากับเหตุการณ์สังหารหมู่เมื่อวันที่ 28 กันยายน ปี 2009 ก่อนมีมติดำเนินคดีกับนายคามารา

นายอับดุล กาดิรี ดิอัลโล นักสิทธิมนุษยชนจากองค์กรเพื่อคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในกินี (OGDH) กล่าวว่า ในฐานะประธานาธิบดี นายคามารา เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของกองทัพ การอ้างว่าเขาไม่มีส่วนรู้เห็นในเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการพูดขณะที่เขาหมดจากอำนาจแล้ว และหากเขาไม่ได้เป็นผู้ควบคุมกองทัพในช่วงเวลาดังกล่าวจริงก็ถือเป็นความผิดเช่นกัน

Wednesday, July 8, 2015

รัฐบาล,ธปท. จับตาฟองสบู่จีนเเตก



Download





สถานะผืนป่ามรดกโลกเมืองไทย



Download






เพลงที่อยากให้คนไทยฟัง โดยเฉพาะ... อิ ๆ...

18+ เพลง..."มันหนักหัวพ่อมึงเหรอ" ?..............................................................................ระดับ...

Posted by พิสิษฐ์ ไชยศิระปกรณ์ on Wednesday, July 8, 2015

คนจนต้องหมดไปจากแผ่นดินไทย










สื่อนอก











Srebrenica: Russia vetoes UN resolution to recognise massacre as genocideSrebrenica: Russia vetoes UN resolution to recognise massacre as genocide










นายกของวัง ประยุทธ์ แนะปลูกหมามุ่ยอินเดียแทนข้าว ...

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แนะปลูกหมามุ่ยอินเดียแทนข้าว ส่งขายราคากิโลกรัมละ 800 บาท แต่เมื่อไปทำเป็นยาเเล้วสามารถกลับมาขายได้กก.ละ 8 หมื่นบาท แถมยังบอกโง่ปลูกอย่างอื่นอยู่ได้ไร่ละพันบาท คลิปข่าวจาก Voice TV

Posted by ฅนใต้ไม่เอาประชาธิปัตย์ on Wednesday, July 8, 2015








ทางออกประเทศไทย อ.ชูพงศ์ เปลี่ยนระบอบ: รู้ทันประชาธิเปรต หวังเกาะกระแส "...






Download









กสม.จี้คสช.ใช้อำนาจให้เป็นธรรม










PIANGDIN ACADEMY: สงครามโลก สงครามเศรษฐกิจ กับ BRICS

เรียนดร.
          กลุ่มประเทศกำลังพัฒนาสูงที่เรียกว่าบริกนั้น มีการรวมตัวน่าจะประมาณปี 44 ตอนแรกที่คุยกันนั้นเพื่อถ่วงดุลการเงินโลกที่ IMF องค์กรเดียวแบกภาระไม่ไหว แม้จะพยายามใช้ FED ในการทำ QE  แล้วก็ตาม กลุ่ม G7 (ตอนนั้นน่าจะเป็น8อยู่ตอนหลังตัดรัสเซีย) เมื่อมีความพร้อมปี53 จึงได้แอฟริกาใต้เข้าร่วม แต่เหตุการ์ณกลับไม่เป็นอย่างที่คิด เมื่อท่านสี จิ้นผิง  มีความสัมพันธ์อันดีกับท่านปูติน ไม่เหมือนในยุคท่านเหมาที่ ท่านสตาลิน ไม่ค่อยมีความสัมพันธ์อันดีนัก 
           ชนวนเกิดเมื่อมีการดึงยูเครนแหล่งทางการทหารออกจากอียูทำให้เกิดสงครามเกิดขึ้น อเมริกาตัดสินใจทุบค่ารูเบิล และขอความร่วมมือ โอเปคกดราคาน้ำมันเพื่อลดสภาวะเงินเฟ้อโลกลง เพื่อให้ตนเองมีกำลังที่มากขึ้น แต่แล้วระเบิดลูกที่สองก็เกิดเมื่อรัสเซียเข้าทาบทามกรีซให้ออกจากยูโรโซนอีก เป็นที่แน่ชัดว่าการจัดตั้งกลุ่ม บริกนั้นคงไม่ใช่เพื่อช่วยควบคุมการเงินสองซีกโลกเสียแล้ว นี่ได้ข่าวว่าถึงขั้นจะใช้เงินหยวนเป็นเงินสกุลหลักของโลกไม่ใช่ของเอเชีย เนื่องจากอเมริกาติดหนี้จีนถึง1ล้านล้านดอลล่า ถ้าเอาหนี้สาธารณะคำนวนเงินหยวนคงแข็งกว่าเงินดอลล่าเป็นแน่ 


                                                                                                                                                
ด้วยความเคารพอย่างสูง









สงครามโลก สงครามเศรษฐกิจ กับ BRICS

เรียนดร.
          กลุ่มประเทศกำลังพัฒนาสูงที่เรียกว่าบริกนั้น มีการรวมตัวน่าจะประมาณปี 44 ตอนแรกที่คุยกันนั้นเพื่อถ่วงดุลการเงินโลกที่ IMF องค์กรเดียวแบกภาระไม่ไหว แม้จะพยายามใช้ FED ในการทำ QE  แล้วก็ตาม กลุ่ม G7 (ตอนนั้นน่าจะเป็น8อยู่ตอนหลังตัดรัสเซีย) เมื่อมีความพร้อมปี53 จึงได้แอฟริกาใต้เข้าร่วม แต่เหตุการ์ณกลับไม่เป็นอย่างที่คิด เมื่อท่านสี จิ้นผิง  มีความสัมพันธ์อันดีกับท่านปูติน ไม่เหมือนในยุคท่านเหมาที่ ท่านสตาลิน ไม่ค่อยมีความสัมพันธ์อันดีนัก 
           ชนวนเกิดเมื่อมีการดึงยูเครนแหล่งทางการทหารออกจากอียูทำให้เกิดสงครามเกิดขึ้น อเมริกาตัดสินใจทุบค่ารูเบิล และขอความร่วมมือ โอเปคกดราคาน้ำมันเพื่อลดสภาวะเงินเฟ้อโลกลง เพื่อให้ตนเองมีกำลังที่มากขึ้น แต่แล้วระเบิดลูกที่สองก็เกิดเมื่อรัสเซียเข้าทาบทามกรีซให้ออกจากยูโรโซนอีก เป็นที่แน่ชัดว่าการจัดตั้งกลุ่ม บริกนั้นคงไม่ใช่เพื่อช่วยควบคุมการเงินสองซีกโลกเสียแล้ว นี่ได้ข่าวว่าถึงขั้นจะใช้เงินหยวนเป็นเงินสกุลหลักของโลกไม่ใช่ของเอเชีย เนื่องจากอเมริกาติดหนี้จีนถึง1ล้านล้านดอลล่า ถ้าเอาหนี้สาธารณะคำนวนเงินหยวนคงแข็งกว่าเงินดอลล่าเป็นแน่ 

                                                                                                                                                
ด้วยความเคารพอย่างสูง


ข่าวในพระราชสำนัก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี 08/07/2015










Monday, July 6, 2015

ทางออกประเทศไทย -อ.ชูพงศ์-ดร.เพียงดิน 6 กรกฎาคม 2558 "ระบอบราชาธิปไตย และระบบสมมุติเทพ กำลังทำลายประเทศไทย"


ทางออกประเทศไทย -อ.ชูพงศ์-ดร.เพียงดิน  6 กรกฎาคม  2558 "ระบอบราชาธิปไตย และระบบสมมุติเทพ กำลังทำลายประเทศไทย"

- การเลือกตั้ง ทางเลือกของฝ่ายใด? ทำไม?
- ทำอย่างไร ถึงเกิดการเปลี่ยนระบอบ?
-ใครที่เป็นผู้ที่ทำให้การเปลี่ยนระบอบเกิดขึ้นจริง?
-คบกับจีน. วันนี้ มีผลดีผลเสียอย่างไร?
-ซื้อเรือดำน้ำ ซื้อเครื่องบินรบ เพื่อประเทศ. จริงหรือ.หรือเพื่อใคร?
-ข่าวว่ามันจะจัดการยิ่งลักษณ์จริงหรือ แล้วจะมีคนออกมาคัดค้านเยอะไหม และเรื่องจะแรงแค่ไหน
-อื่น ๆ




"ดร.เพียงดิน คิดเป็นศัตรู กับ ดร.ทักษิณ​และแย่งชิงการนำจากเสรีไทย หรือ?"



Download







Sunday, July 5, 2015

“จุดอ่อน” ของคนไทยและประเทศไทย 10 ข้อ.. คนไทยทุกคนควรอ่าน



“จุดอ่อน” ของคนไทยและประเทศไทย 10 ข้อ....

1 . คนไทยรู้จักหน้าที่ของตัวเองต่ำมาก
โดยเฉพาะ หน้าที่ต่อสังคม เป็นประเภทมือใครยาวสาวได้สาวเอา เกิดเป็น ธุรกิจการเมือง ธุรกิจราชการ ธุรกิจการศึกษา ทำให้ประเทศชาติล้าหลังไปเรื่อยๆ

2. การศึกษายังไม่ทันสมัย

คนไทยจะเก่งแต่ภาษาของตัวเอง ทำให้ขาดโอกาสในการแข่งขันกับต่างชาติในเวทีต่างๆ ไม่กล้าแสดงออก ขี้อายไม่มั่นใจในตัวเอง เราจึงตามหลังชาติอื่น จะเห็นว่าคนมีฐานะจะส่งลูกไปเรียนเมืองนอกเพื่อโอกาสที่ดีกว่า

3. มองอนาคตไม่เป็น
คนไทยมากกว่า 70% ทำงานแบบไร้อนาคตทำแบบวันต่อวัน แก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปวันๆ น้อยคนนักที่จะทำงานแบบเป็นระบบ เป็นขั้นเป็นตอ มีเป้าหมายในอนาคตที่ชัดเจน

4. ไม่จริงจังในความรับผิดชอบต่อหน้าที่

ทำแบบผักชีโรยหน้าหรือทำด้วยความเกรงใจ ต่างกับคนญี่ปุ่นหรือยุโรปที่จะให้ความสำคัญกับสัญญาหรือข้อตกลงอย่างเคร่ง ครัด เพราะหมายถึงความเชื่อถือในระยะยาว ปัจจุบันคนไทยถูกลดเครดิตความน่าเชื่อถือด้านนี้ลงเรื่อยๆ

5. การกระจายความเจริญยังไม่เต็มที่
ประชากรประมาณ 60-70% ที่อยู่ห่างไกลจะขาดโอกาสในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของตัวเองและชุมชนซึ่งเป็น หน้าที่ของภาครัฐที่ต้องส่งเสริม

6. การบังคับกฎหมายไม่เข้มแข็ง และดำเนินการไม่ต่อเนื่อง

ทำงานแบบลูบหน้าปะจมูก ปราบปรามไม่จริงจัง การดำเนินการตามกฎหมายกับผู้มีอำนาจหรือบริวารจะทำแบบเอาตัวรอดไปก่อน ไม่มีมาตรฐาน ต่างกับประเทศที่เจริญแล้ว ข้อนี้กระบวนการยุติธรรมจะต้องปรับปรุง

7. อิจฉาตาร้อน
สังคมไทยไม่ค่อยเป็นสุภาพบุรุษ เลี่ยงเป็นศรีธนญชัยยกย่องคนมีอำนาจ มีเงิน โดยไม่สนใจภูมิหลัง โดยเฉพาะคนที่ล้มบนฟูกแล้วไปเกาะผู้มีอำนาจ เอาตัวรอด คนพวกนี้ร้ายยิ่งกว่า ผู้ก่อการร้ายดีแต่พูด มือไม่พายเอาเท้ารานํ้า ทำให้คนดีไม่กล้าเข้ามาเพราะกลัวเปลืองตัว

8. เอ็นจีโอค้านลูกเดียว
เอ็น จีโอ บางกลุ่มอิงอยู่กับผลประโยชน์เอ็นจีโอดีๆ ก็มี แต่บ้านเรามีน้อย บ่อยครั้งที่ประเทศเราเสียโอกาสอย่างมหาศาลเพราะการค้านหัวชนฝา เหตุผลจริงๆ ไม่ได้พูดกัน

9. ยังไม่พร้อมในเวทีโลก
การสร้างความน่าเชื่อถือในเวทีการค้าระดับโลกของเรายังขาดทักษะและทีม เวิร์ค ที่ดี ทำให้สู้ประเทศเล็กๆ อย่างสิงคโปร์ไม่ได้

10. เลี้ยงลูกไม่เป็น
ปัจจุบัน เด็กไทยขาดความอดทน ไม่มีภูมิคุ้มกันเป็นขี้โรคทางจิตใจ ไม่เข้มแข็ง เพราะเราเลี้ยงลูกแบบไข่ในหิน ไม่สอนให้ลูกช่วยตัวเอง ต่างกับชาติที่เจริญแล้ว เขาจะกระตือรือร้นช่วยตนเองขวนขวาย แสวงหา ค้นหาตัวเอง และเขาจะสอนให้สำนึกรับผิดชอบต่อสังคมข้อสุดท้าย! อ่านแล้วอาจต้องแปะติดข้างฝาไว้เลย!

ขอบคุณ http://talk.mthai.com/topic/409090

July 6th "Freedom for Thailand" across USA.



Download






เบื้องหลังเบื้องลึก และความจริง เรื่อง การค้าข้าวไทย

เรียน ดร.





           ระบบการค้าข้าวไทยมีการพยายามเปลี่ยนโครงสร้างในสมัยปี51(นายกสมัคร)ถึงขั้น คุณมิ่งขวัญลั่นวาจาว่าถ้าข้าวไม่ถึงเกวียนละ18,000ห้ามขาย รัฐเริ่มมีแนวคิดที่จะขายข้าวตรงโดยดึงสัดส่วนออกจากมือโรงสีซึ่งข้าวส่วนที่ขายตรงเป็นข้าวจากผลผลิตส่วนเกิน สร้างความไม่พอใจให้กับระบบขายข้าวข้ามชาติเป็นอย่างมากถึงขั้นยกชุดไปคุยเจรจากับคุณยรรยง ถึงกระทรวง แต่ตอนนั้นเป็นแค่การต่อรองราคาซึ่งไม่เป็นที่พอใจเนื่องจากรัฐต้องการขายตรง (ต่อมาเรียกติดปากกันว่าจีทูจี) จึงเป็นส่วนหนึ่งที่รัฐบาลคุณสมัครล้มและคุณมิ่งขวัญเลิกเล่นการเมือง  
           ข้าวได้มีการค้างสต๊อตตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเนื่องจากยุคคุณสมชายไม่ได้เข้าบริหารเต็มที่ต้องหนีไปหนีมาจากม๊อป เมื่อเข้าสู่ยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ได้หยิบชูนโยบายนี้กลับขึ้นมาเป็นที่ไม่พอใจอย่างมากกับผู้ค้าข้าวระหว่างประเทศ(ไม่ใช่สมาคมชาวนาไทย) และเจ้าของโรงไซโล(ไม่ใช่โรงสี) ถึงขั้นสั่งว่าต้องทำประกันราคาไม่ใช่รับจำนำ เพื่อที่เขาจะกำหนดต้นทุนการผลิตได้ แต่รัฐบาลตัดสินใจแถลงเป็นนโยบายถ้าไม่ปฏิบัติก็ผิดกฏหมายถ้าปฏิบัติมีศัตรูตัวใหญ่รอชนอยู่  สุดท้ายเลือกที่จะชน โดยติดต่อการค้าข้าวแบบจีทูจีต่อไป ทำให้เกิดการชัตดาว์นระบบข้าวไทยทั้งระบบไม่ให้ซื้อไม่ให้ขายไม่ให้ขยับไม่เบิกจ่ายเงิน  ตอนนี้คงถึงเวลาสั่งสอนผู้ที่ไม่เชื่อฟังแล้วหล่ะครับ
(ปล.ข้าวสาร1ตันใช้ข้าวเปลือกประมาณ1.6ตัน ส่วนราคาที่จะกำหนดนั้นคงต้องให้ชาวนาได้รู้ราคาตลาดโลก จริงแบบเรียลทามจึงจะแก้ปัญหาได้ ถ้ามีสต๊อคมาร์เกตวิ่งแบบไทม์สแควได้คงดีไม่น้อย ส่วนรัฐมีหน้าที่คอยพยุงในขณะที่เกิดความผันผวนทางตลาดซึ่งรัฐจะต้องรู้ก่อนอยู่แล้วจากกระทรวงต่างประเทศ ส่วนเรื่องคลิปที่ส่งมานั้นเกิดจากราคาข้าวตลาดโลกตกลงมากทำให้ต้องหาคนรับกรรม จะเอาบริบทและเงื่อนเวลาที่ต่างกันมาใช้กับสิ่งเดียวกันคงเป็นไปไม่ได้ครับ เพราะถ้าเอาราคาข้าวยุคคุณสมัครมาพูดตอนนั้นตันละสามหมื่นกว่าตอนนี้รัฐจากทำขาดทุนคงกลายเป็นกำไรมหาศาลมันไม่ใช่การทำเพื่อชาติแต่เป็นการทำลายล้างจากความแค้นส่วนกลุ่มบุคคลมากกว่าครับ)
     หมายเหตุ  ผมได้ดูที่ดร.วางในบลอคแล้วครับถ้าไม่รบกวนเกินไปช่วยเซนเซอร์ตัวบุคคลเชิงคู่สนทนาได้จะเป็นพระคุญอย่างสูง 
    ***เช่น"น้องชายเหล่าธรรมทัต  ทำงานให้เจ้าสัว "หรือ"ผก TMB"  นี่เป็นการระบุคู่สนทนาทันทีเลยครับ        
    ส่วนถ้าเป็นชื่อคนในเชิงข้อมูลคงไม่มีปัญหาอะไรครับ(มีความกังวลเล็กน้อย)                                                                                                                  


                                                                                                                                             
ด้วยความเคารพอย่างสูง

แถลงการณ์ของกลุ่มคนไทยรักประชาธิปไตยในสหราชอาณาจักร เรียกร้อง "ปล่อยนักศึกษา 14 คน และ นักโทษทางการเมือง"

แถลงการณ์ของกลุ่มคนไทยรักประชาธิปไตยในสหราชอาณาจักร เรียกร้อง
"ปล่อยนักศึกษา 14 คน และ นักโทษทางการเมือง"

พวกเราคนไทยที่พำนักอาศัยอยู่ในสหราชอณาจักร ไม่รับอำนาจรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร มีความกังวลกับรัฐบาลเผด็จการที่อ้างว่ากำลังคืนความสุขให้กับสังคม แต่แท้จริงแล้ว ความสุขที่พวกเขาหยิบยื่นให้เป็นเพียงความสุขจากการเห็นคนคิดต่างต้องอยู่อย่างหวาดกลัว ความสุขจากคำโฆษณาชวนเชื่อ ความสุขจากการเอาหูไปนา เอาตาไปไร่ ทั้งที่สิ่งเดียวที่พวกเขาทำเป็นการกำราบปราบปรามประชาชนคนเห็นต่าง

พวกเราถือว่าการจับกุมนักศึกษากลุ่มประชาธิปไตยใหม่ ภายใต้เหตุผลการขัดคำสั่ง คสช.ที่ 3/2558 ซึ่งออกตามความในมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญฯ อันเป็นกฎหมายที่ออกมาโดยอาศัยอำนาจที่ได้จากการลิดรอนสิทธิและเสรีภาพของ ประชาชนผ่านการรัฐประหารนั้น ไม่ถือว่าเป็นกฏหมาย เนื่องจากเป็นอำนาจที่ได้มาโดยมิชอบ

พวกเราขอยกย่องความกล้าหาญของนักศึกษาทั้ง 14 คน พวกเขาไม่เพียงเป็นตัวแทนของปัญญาชน ที่คิด เขียน วิพากษ์วิจารณ์ แต่ยังเป็นตัวแทนของประชาชนคนธรรมดาที่ออกมาแสดงออกเพื่อยืนยันในสิทธิที่ตนพึงมี โดยยอมแลกกับเสรีภาพอันน้อยนิดที่มีอยู่ภายใต้รัฐเผด็จการทหารไทย

โดยในวันนี้พวกเขาถูกกักขัง พวกเขาถูกปฏิบัติราวกับอาชญากร เพราะพวกเขาคิดและแสดงออกอย่างสันติ ตามสิทธิขั้นพื้นฐานของพลเมืองในระบอบประชาธิปไตยที่ สอดรับกับหลักการและทฤษฎีอันเป็นสากล พวกเราเห็นว่าประชาชนทุกคนมีสิทธิ์ที่จะมีส่วนร่วมทางการเมือง ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะคิด พูด เขียน และแสดงความคิดเห็นของตนโดยสันติ

พวกเรามีข้อเรียกร้อง 4 ข้อดังต่อไปนี้ :
1) ปล่อยตัวนักศึกษาทั้ง 14คนทันทีอย่างไม่มีเงื่อนไข และยุติการดำเนินคดีอาญาต่อนักศึกษาและประชนผู้รักประชาธิปไตยที่ชุมนุมในที่สาธารณะทุกคน
2) หยุด คุกคาม ครอบครัวของนักศึกษาที่ถูกจับกุม ทั้ง 14 คน รวมทั้งอาจารย์ และประชาชนในสังคมผู้รักประชาธิปไตที่สนับสนุนการเคลื่อนไหวของนักศึกษาดังกล่าว
3) ปล่อยนักโทษทางการเมืองทั้งหมดโดยไม่มีเงื่อนไข
4) สุดท้ายให้รัฐบาลเผด็จการทหาร คสช. เคารพสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของพลเมืองไทย โดยยุติการนำพลเรือนขึ้นศาลทหาร

เผด็จการจงพินาศ ประชาชนจงเจริญ
กลุ่มคนไทยรักประชาธิปไตยในสหราชอาณาจักร
5 กรกฎาคม 2558





คม ตรง และแสบถึงกระดองใจ จาก ประชาชน RED W อยากจะขอแนะนำไปยังไอ้ประยุตว่า.....

เครดิตจากเฟสบุ๊ค

จาก ประชาชน RED W
อยากจะขอแนะนำไปยังไอ้ประยุตว่า.....


ถ้ามึงจะไม่ให้ตระกูลมึง ต้องถูกตราหน้า และบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ว่า เป็นนายทหารผู้มักใหญ่ใฝ่สูงที่ คิดคตทรยศต่อประชน และประเทศชาติแล้วล่ะก็.....
มึงยังมีเวลากลับตัวทัน นั่นก็คือ ล้มล้างระบอบกบฏนรกนี้ออกไปเลย แล้วจัดการกวาดล้าง สมุนชั่วของอำมาตย์ทั้งหลายให้สิ้นชาก ตั้งแต่ องค์มนตรีส้นตีน. พรรคประชาธิเปรต ศาล ตุลาการ องกรค์ที่ไม่อิสระ ทั้งหลายเหล่านี้ ให้หมดสิ้น และประกาศยึดทรัพย์สินและทรัพยากรณ์ทั้วหลายจากระบอบ อำมาตย์ชั่ว กลับมาเป็นของรัฐ ........ แล้วคืนอำนาจให้กับประชาชน
ปล่อยให้ประชาชนเขาร่างรัฐธรรมนูญของเขาขึ้นมาเอง โดยปราศจากการแทรกแชงใดๆ ทั้งจากทหาร และฝ่ายอำมาตย์ อำนาจมืด........

แล้วมึงจะได้เป็นวีระบุรุษของประเทศนี้ไปตลอดกาล ...... และที่สำคัญ นี่คือการ คืนความสุขกลับคืนสู่คนทั้งชาติ อย่างแท้จริง.... มิใช่ การคืนความสุขแค่เพียงลมปาก พาจนของมึงไปวันๆ อย่างที่พวกมึงได้กระทำอยู่ในขณะนี้.....

เลิกแกล้งโง่ และคิดว่า คนในประเทศนี้มันโง่เง่าเต่าตุ่นเสียจน หลงเชื่อและคล้อยตามลมปาก(หมา) ของมึง ไปอย่างสุดลิ่มทิ่มประตู ......

จริงๆแล้ว....

ทางลงง่ายๆมีครับ แต่พวกมึงไม่เลือก และพวกมันดูถูกพลังฝ่ายประชาธิปไตย ว่าไม่สามารถที่จะล้มพวกมันลงได้ เพราะพวกมันมีอำนาจ และผลประโยชน์อยู่ในมือ..... ขอเตือนไปยัง ไอ้เหี้ยยุต และอีขันทีเฒ่า ไปด้วยว่า..... พวกมึงทั้งสอง กำลังเดินทางมาสู่หนทางแห่งหายนะและจุดจบที่ไม่สวยแน่นอน

เอาเป็นว่างานนี้มีได้เสียครับ

และระเบิดเวลาที่ตั้งเอาไว้ มันใกล้ถึงจุดที่จะระเบิดเต็มทีแล้วครับ.... ระบอบอำมาตย์นรกมันจะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป แต่..... ปัญหาที่แท้จริงที่กำลังจะเกิดขึ้น ก็คือ การสืบทอดอำนาจของทหารครับ......

เพราะผลประโยชน์อันมหาศาลจากกองทัพ และในประเทศนี้ และที่สำคัญ พวกมันกำลังมัวเมาในอำนาจ และหาทางลงไม่ได้.....

ไอ้ประยุต์ มึงก็น่าจะรู้กำพืดของมึงเองนะว่า.....

แค่คุณสมบัติเบื้องต้นของมึง ก็ไม่ผ่านและไม่สามารถที่จะเป็นทหารได้แล้ว.... ไอ้ตาเหล่...... การที่มึงไต่เต้าขึ้นมาจากอำนาจ ก็มาจากการเป็นข้าหมารับใช้ ปรนเปรอความใคร่ทางอำนาจ ด้วยการเข่นฆ่า ประชาชน เมื่อปี 2552 – 53 และยอม ฆาตกรอย่างเต็มตัว ด้วยการ ทำ รัฐประหาร ที่ผ่านมา จนได้ไปเป็นประธานกรรมการเช็นต์ขาดน้ำมัน ทำสัญญาทาส ชื้อขายน้ำมัน 99 ปี ให้เมกา...... คอยให้การสนับสนุนม็อบถ่อย เถื่อน กปปส. เพื่อที่จะล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง
จนได้ขึ้นมาเป็นหัวหน้า คสช. ส้นตีน.....อย่างทุกวันนี้


มึงถึงกับลืมกำพืดโคตรเหง้าของมึงเลยหรือ.... ตอนนี้มึงรู้หรือไม่ว่า คนไทยทั้งชาติ และตลอดจนถึงผู้นำต่างชาติ เขาได้มองถึงการกระทำ และคำพูดของมึง ..... เป็นผู้นำที่ไร้ชึ่งวุฒิภาวะ พูดจา แบบไม่ต้องคิด พูดเรื่อยเปื่อย พูดไปเรื่อย เห่าไปวันๆ .... พูดแบบปากพาจน ลมปากของมึงไม่ต่างไปจาก ลมที่ออกมาจากก้น. และที่สำคัญพวกมึงและทหารไทยทั้งกองทัพ บ้าและมัวเมาในอำนาจและผลประโยชน์ เข้ามาเพื่อสร้างปัญหา..... ไม่ได้เข้ามาเพื่อแก้ปัญหาส้นตีนอะไรเลย ไอ้สัตว์!
มึงน่าจะรู้นะว่า

ตอนนี้ต่างชาติพร้อมที่จะให้การช่วยเหลือ ฝ่ายประชาธิปไตยของไทยอย่างเต็มที่..... เพียงแต่ พวกเขากำลังรอฟังสัณญาณการลุกฮือขึ้นมาขับไล่พวกมึงของคนในชาติ เท่านั้นเอง เขาพร้อมที่จะเขามาช่วยเหลือและแทรกแซงได้ในทันที..... และศึกในครั้งนี้ ฝ่ายประชาธิปไตยของไทย จะไม่ตายฟรีๆอีกต่อไป และถ้าจะต้องตาย ก็เป็นการตายที่คุ้มค่า เพื่อชำระล้างระบอบเผด็จการอุบาทว์ในประเทศนี้ และพวกมึงจะได้รับการตอบแทนอย่างสาสม..... คนที่จะไม่มีแผ่นดินที่จะอยู่อีกต่อไป คือ.... พวกมึงเอง มิใช่ทักษิณ .... เพราะความชั่วช้าเลวร้ายในประเทศนี้ มันได้เดินทางมาถึงจุดจบหรือจุดสุดท้ายที่ยอมและหลีกเลี่ยงไม่ได้แล้ว นั่นเอง.
ระบอบเผด็จการทั้งหลาย....

ในอคีต ไม่ว่าจะเป็บแบบอำมาตย์ชั่ว หรือ เผด็จการทหาร ไม่ว่าจะยิ่งใหญ่ขนาดไหนก็ตาม ต่างก็ล่มสลายมาแล้วด้วยกันทั้งสิ้น..... เพราะอะไร
เพราะพวกเขาเหล่านั้น มันคิดไม่ต่างไปจากพวกมึงกำลังคิดนั้นเอง ......
สิ่งที่มึงคิดว่า มึงมีอำนาจและอาวุธอยู่ในมือ แล้วจะ สามารถรักษาอำนาจไว้ได้..... ถ้ามึงยังมีความคิดที่เลวทรามชั่วเลวทรามแบบนี้แล้วล่ะก็. ทหารไทย และระบอบอำมาตย์ชั่วของไทย..... มันจะพังพินาศไปพร้อมๆกัน ในไม่ช้านี้ ......

มันเป็นวัฎจักรและกฎเกณฑ์ของธรรมชาติ นั่นก็คือ ทุกอย่างบนผืนโลกใบนี้ ย่อมจะต้องมีการเปลี่ยนแปลง. ในที่สุดไม่มีพลังใดและอำนาจใดที่จะเอาชนะฝ่ายก้าวหน้า และ พลังมหาประชาชนฝ่ายประชาธิปไตยไปได้....... และที่สำคัญ ไอ้ทหารไทยหน้าตัวเมียทั้งหลาย มึงจงฟังไว้ให้ดี......
วันใดที่พวกมึงไม่มีอำมาตย์ ชั่วคอยคุ้มกะลาหัวให้พวกมึง วันนั้น พวกมึงก็ขะเหมือนกับ หมาขี้เรื้อนข้างถนน เพราะ ประชาชน ก็จะไม่เอาพวกมึงเช่นกัน
ถามหน่อย…


ตั้งแต่พวกมึงปล้นอำนาจเขามา ประชาชนต้องอดอยากยากไร้ ทุกระทมอย่างแสนสาหัส ประเทศชาติฉิบหาบยับเยินอย่างกู่ไม่กลับ .... สิ่งเหล่านี้แหละจะเป็นตัวช่วยให้ประชาชนลุกฮือกันขึ้นมาขับไล่เผด็จทั้งสอง ฝ่ายอย่างมึดฟ้ามัวดินและล่มสลายในที่สุด.....

ถ้าพวกมึงยังดื้อด้าน และมีความคิดอันคับแคบที่คิดที่จะใช้อำนาจอันป่าเถื่อนชั่วร้าย บีบบังคับ และกระทำต่อคนในชาติเดียวกันเสมือนหนึ่งว่า..... คนในประเทศนี้คือขี้ข้าของพวกมึง พวกมึงก็จงเตรียมพบกับจุดจบที่จะต้องได้รับการตอบแทนอย่างสาสมอันเจ็บปวด เช่นเดียวกัน ใครเขาจะยอม และทนให้พวกมึงกดหัวหมดสิ้นซึ่งอิสระและเสรีภาพไปชั่วชีวิต.
หนึ่งปีที่พวกมึงเข้ามา พวกเขาได้รับรู้ถึงรสชาดอับเจ็บปวดนี้แล้ว. พวกเขาจะไม่หวนกลับไปยอมรับระบอบอุบาทว์นี้ได้อีกต่อไป หาทางลงให้ดีก็แล้วกัน นะ.....

ระบอบทักษิณกำลังจะได้รับการยอมรับ และหวลกลับคืนสู่ประเทศนี้อีกครั้งหนึ่ง...... และในขณะเดียวกัน ระบอบเผด็จการอำมาตย์ชั่วและทหารอันเก่าแก่ ที่แสนชั่วร้าย กดขี่ โกหกหลอกลวง กำลังเดินทางมาถึงจุดจบสุดท้ายอีกเช่นเดียวกัน และจะไม่มีวันที่จะฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้อีกเลยชั่วนิจนิรันดร์..........
เพราะว่า อำมาตย์ก็ไม่แตกต่างไปจากฮิตเลอร์ ....... มันจะไม่มีตัวตายตัวแทนกันอีกต่อไป.
จากนี้ต่อไป....

ในเมื่อ การใส่ร้ายป้ายสี ให้กับคนแดนไกล การโกหกมดเท็จ และการโฆษณาชวนเชื่อ มันใช้ไม่ได้ผลกันอีกต่อไป ....
เพราะตลอดการย่างก้าวขึ้นสู่อำนาจของอำมาตย์ชั่ว ครั้งแล้วครั้งเล่า ที่ทหารไทยได้เข้ามาปล้นอำนาจประชาชนและยึดกุมประเทศ มันได้พิสูจน์ให้คนทั้งชาติได้เห็น เปรียบเทียบ และตระหนักดีแล้วว่า.....
ใครกันแน่คือศตรูของชาติ อย่างแท้จริง
ระหว่างเผด็จการ ทหาร หรือระบอบทักษิณ......

 แล้วพวกมึงจะหลอกตัวเองกันไปถึงไหน จะหลอกลวงคนในชาติไปได้อีกสักกี่น้ำ...... 
และความฉิบหายต่างๆที่เกิดขึ้นในประเทศนี้อย่างเหลือคณานับ ใครจะเป็นคนรับผิดชอบ...?
และในที่สุดแล้ว พวกมึงทั้งหลายจะรับกับมันไหวหรือ...????????
การขึ้นเหยียบหลังหมาแล้วหาทางลงไม่ได้....

( ไม่ใช่หลังเสือ อย่างที่พวกมึงเข้าใจ ไอ้ประยุทธ์ จันทรโอชา )
จึงจำต้องดันทุรังไปให้ถึงที่สุด เพราะยอมรับความจริงไม่ได้ ถ้ายอมให้ประชาธิปไตย ก็กลัวฝ่ายตัวเองจะต้องเดือดร้อนเพราะจะต้องถูกคิดบัญชีย้อนหลังอย่างแน่น นอน การทำชั่วและคดโกงไปมากมายมาอย่างยาวนานทั้งกองทัพ ไหนจะคดีเข่นฆ่าประชาชน มานับหลายครั้ง .....
และที่สำคัญ ทหารไทย เมื่อไม่มีอำมาตย์ชั่ว ให้ยึดเกาะและคอยเซนต์ลบล้างความผิดความชั่วทั้งหลายให้ได้ต่อไปอีกแล้ว

หรือถ้ามอบอำนาจทั้งหมดไปให้ฝ่ายขันทีเฒ่าเจ้าเล่ ก็กลัวว่า ฝ่ายตัวเองจะถูกหักหลัง....... แต่ความฉิบหายทั้งหมดที่พวกมันได้กระทำกันมา มันมาตกอยู่ที่ประชาชนคนไทยทั้งชาติ.....
จากนี้ต่อไป จะเดินหน้าก็ลำบาก จะถอยก็ไม่ได้...... แล้วจะมีๆ อะไรที่จะดีไปกว่า การรอวันที่จะระเบิดและทำลายตัวมันเอง......


ก็ขอบอกว่า พวกมึงเสือกเลือกเดินเข้ามาในกับดักมรณะ ที่อำมาตย์ชั่วไทยมันได้ตั้งเอาไว้นี่เองอย่างช่วยไม่ได้ จงรักภักดี หรือ ผลประโยชน์ต่างตอบแทน สุดท้ายมันก็แค่ การหาแดกบนความทุกข์ยากของประชาชนคนในชาติด้วยกันทั้งสิ้น.....
เมื่อสิ้นไร้จุดรวมอำนาจ คืออำมาต์ชั่วลงนรก ก็เท่ากับว่า หายนะของกองทัพไทย ก็ใกล้ถึงจุดสุดท้ายแล้วเช่นกัน

วันอังคารที่ 7 นี้ ขอเชิญชวนพวกเราทั้งหลายช่วยกันส่งข้อความถึงเพื่อนๆ บอกต่อๆกันไป ให้พวกเราไปแสดงพลังกันที่ศาลทหาร ให้มึดฟ้ามัวดินครับ.....
อย่าไปกลัวมัน. ถ้ามันใช้กำลังกับพวกเรา จะเป็นหนทางให้ต่างชาติเข้ามาแทรกแทรงและให้การสนับสนุนฝ่ายประชาธิปไตยใน ประเทศทันทีครับ.....
ตอนนี้ไอ้พวกทหารมันปากดี แต่ที่จริงพวกมันกลัวลนลาน จน ทำอะไรไม่ถูก และหาทางลงไม่เจอแล้วครับ........ มาช่วยกันกดดันมันให้ถึงที่สุดครับ
ขอให้พวกเรารอฟังสัญญาณการลุกขึ้นมาขับไล่เผด็จการ พร้อมๆกันในไม่ช้านี้ครับ......
ขอขอบคุณ ชัยชนะอยู่ไม่ไกล ......

โปรดติดตาม ตอนต่อไป สวัสดีครับ

นโยบายยึดครองประเทศไทย (ปูเนาะออกันซีแย ปูเนาะไทยแลนด์): เป็นจริง และเป็นไปได้แค่ไหน???


มีพี่ชายท่านหนึ่งส่งมาให้พิจารณา  สำหรับผม ไม่ได้กลัวว่าศาสนาใดจะยึดครองประเทศไทย และไม่เชื่อว่าศาสนาอิสลามจะกลืนศาสนาพุทธในยุคนี้ได้  อีกหลายร้อยปีข้างหน้า เราอาจจะทำนายไม่ได้ แต่มันอาจจะเป็นไปได้  แต่มันไม่ได้สำคัญอะไร เพราะทุกอย่างที่เป็นไปในโลกนี้ หนีกฏไตรลักษณ์ไม่ได้อยู่ดี  และหากศาสนาพุทธดีจริง ก็ไม่มีทางที่จะมีหลักใด ๆ ที่ไม่เป็นความจริงมาทำลายตัวศาสนาได้  

ขอให้พิจารณากันนะครับ  แล้วจะคิด คุย และทำอะไรกัน ก็เป็นเรื่องที่พี่น้องแต่ละคนทำได้นะครับ แต่ที่แน่ ๆ วันนี้ คนไทยถูกข่มขืน ข่มเหง และปล้นกลางแดด โดยระบอบราชาธิปไตยครับ



นโยบายยึดครองประเทศไทย
(ปูเนาะออกันซีแย ปูเนาะไทยแลนด์)

      กลยุทธ   อัลกอฮ์ ฮู ฮัค บั๊ค ลาอีลลา ฮะ อีลลัลลอย์ (ไม่มีพระเจ้าอื่นใด มีอัลเลาะฮ์องค์เดียว)
      การฆ่าคนเพื่ออิสลามไม่ผิด
     เราทำเพื่ออัลลอย์ดังต่อไปนี้
1.   การทำ มีเด๊าะ มาอ๊ะ (การขอโทษ) ของพวกมันไม่ต้องไปสนใจ เพราะมันทำเหมือนพวกมากันซูซู (เด็กกินนม) ดูแล้วโจ๊ก สรุปความเห็นของมุสลิมเราคือ เดาะเซาะ มีเด๊าะมาอ๊ะ (ไม่ต้องมาขอโทษ) ยิ่งทำอย่างนี้มากเท่าไร พวกเราต้อง บูวะ วีซียะ (เก็บมันให้เรียบ) พื้นที่ใด ที่มันไม่ยอมให้  ดาวะจากจังหวัดอาเจะ ประเทศอินโดนีเซียเข้าไปปกป้องอยู่ด้วย ก็เตรียมจัดการเมื่อมันออกมาจากพื้นที่ เหมือนเก็บพวกอำเภอเบตง จังหวัดยะลา เก็บมันทั้งรถตู้เลยง่ายดี แต่ต้องส่งสัญญาณให้มุสลิมเรารู้ตัว ถ้าเป็นมุสลิมนอกกรอบก็เก็บไปพร้อมกันเลย
2.   การเสนอให้ปลดย้ายซะคาดู(ตำรวจ) และพวกกาเฟรซียัม(ข้าราชการ) ทหาร ให้มันย้ายที่ทำงานใหม่ มันจะไม่ชำนาญพื้นที่ จะทำให้เราฆ่ามันได้เพิ่มขึ้น อีกประการหนึ่ง เป็นธรรมชาติของไทยพุทธ มันไม่รักกัน ชอบแย่งชิงอำนาจ อิจฉาริษยากันเองอยู่แล้ว ถ้าเรารีบแต่งตั้งทหาร ตำรวจ ข้าราชการอื่นขึ้นมาใหม่ จะได้หลอกใช้พวกมัน เพราะมันได้ตำแหน่งใหม่ๆ จะเหิมเกริม เราก็หลอกว่าจะให้ตำแหน่งมัน เพราะพวกมันบ้าอำนาจเห็นกันอยู่แล้ว ส่วนคนที่ถูกปลดไปก็จะน้อยใจ ก็จะเกิดการต่อต้าน จะทำให้มันไม่มีสติ จะทะเลาะกัน แตกแยกกันเอง
3.   บอกคนของเราและคนไทยพุทธที่เราซื้อไว้แล้วให้ช่วยกันเสนอคุณสมบัติของผู้ที่จะเป็น ส.ส. โดยให้กำหนดคุณสมบัติให้ต่ำกว่าปริญญาตรี พยายามต่อรองให้ใช้วุฒิ ม.3 หรือ ม.6 ก็ได้ เพราะวุฒินี้สามารถซื้อได้จากกระทรวงศึกษาธิการ เพียงหัวละ 5 พันบาท การณ์นี้คิดเผื่อไว้ให้คนมุสลิมในพื้นที่ และมุสลิมที่มาจากนอกประเทศมาอยู่ในไทย 4 ปี 5 ปี พอพูดภาษาไทยได้ เมื่อซื้อวุฒิแล้ว ก็ลงเลือกตั้งได้และต้องได้แน่นอนเพราะมีเงินซื้อเสียงมากพอ ฉะนั้นที่นั่งในสภาจะตกเป็นของมุสลิมเรามากที่สุดโดยขั้นแรก เราต้องพูดกรอกหูไทยพุทธว่า เพื่อช่วยคนจนต่างจังหวัดให้ได้ลงเลือกตั้ง ให้ดูว่าทำเพื่อคนไทยไม่ใช่ทำเพื่อมุสลิมเรา
4.   เรื่องปิดกั้น โค่นล้มศาสนาพุทธ ต้องทำต่อเนื่อง ให้จ้างคนพุทธและอาจารย์มหาวิทยาลัยและซื้อตัวผู้มีอำนาจทางการเมืองให้ช่วยเชียร์อิสลาม ปิดกั้นพุทธศาสนา ไม่ให้ศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ อย่าลืม ขณะนี้อำนาจอยู่ในมือมุสลิมเรา ต้องรีบทำโดยจ่ายเงินซื้อคนพุทธ ทหาร ตำรวจ ข้าราชการ นักหนังสือพิมพ์ เลือกผู้มีฝีปากดี ๆ ให้พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่เอาศาสนาพุทธ ไม่ต้องบัญญัติในรัฐธรรมนูญ เพราะจะสร้างความแตกแยก เราต้องใช้ความขี้เกรงใจของคนพุทธให้เป็นประโยชน์กับเรา
5.   กรอกหูคนมุสลิมทุกคนที่นับถือศาสนาอิสลามและพูดภาษายาวีว่า เวลาพูดภาษาไทยต้องพูดให้เป็นเสียงเดียวกันว่า รัฐบาลไทยมาถูกทางแล้ว ให้สมานฉันท์กันต่อไป อดทนต่อไป ทั้งนี้     เพื่อดึงเวลาให้เราฆ่าคนพุทธและมุสลิมนอกกรอบให้สิ้นเสี้ยน ขณะเดียวกันเราก็ไปแทรกซึมทุกหมู่บ้าน ทุกตำบล ทุกอำเภอใน 6 จังหวัดภาคใต้ของไทย และจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวทุกจังหวัด เพื่อมุสลิมเราจะได้เปรียบเชิงยุทธศาสตร์และเศรษฐกิจอีกด้วย
6.   ให้แกนนำบอกกันเหล่านักรบมุสลิม เราแต่งกายเลียนแบบทหาร ตำรวจ แล้วไปก่อการโจมตีกับพวกไทยพุทธและมุสลิมในพื้นที่บ้าน เพื่อสร้างความเข้าใจผิด เราก็โยนความผิดให้ทหาร ตำรวจ จากนั้นให้แกนนำมุสลิมลงไปในหมู่บ้าน จัดกลุ่มสตรี เด็ก ออกประท้วง ด่าตำรวจ ทหาร     ในการประท้วงทุกครั้ง ต้องเขียนข้อความลงในแผ่นกระดาษแข็ง หรือเขียนลงบนผ้าขาว แล้วถ่ายลง CD หรือโทรศัพท์มือถือและส่งไปทั่วโลกว่า มุสลิมโดนรังแก
7.   ทุกครั้งที่คนมุสลิมโดนจับ ไม่ว่าเขาผู้นั้นจะผิดหรือไม่ ให้ร่วมกันออกมาประท้วง โดยให้ผู้หญิงและเด็กออกมาประท้วงให้ปล่อยตัวผู้ถูกจับ ถ้าไม่ปล่อยก็ให้ก่อวินาศกรรม เผาสถานที่ราชการให้เสียหาย
8.   การส่งคนอาหรับมาช่วยเราทำพาสปอร์ตปลอม เพื่อให้กลุ่มตาลีบันได้เข้ามาหลบซ่อนตัวในประเทศไทย เลือกดูจังหวัดที่สงบ เช่น สตูล เชียงราย อยุธยา สระบุรี นครสวรรค์นั่นแหละ เพราะพวกคนไทยมันโง่ มันไม่รู้หรอกว่าเป็นมุสลิมในพื้นที่หรือมุสลิมที่มาจากอัฟกานิสถาน อาหรับฯลฯ พวกคนไทยมันฟังภาษายาวียังไม่ได้เลย นับประสาอะไรจะไปฟังภาษาอื่น พวกมุสลิมที่มาจากนอก  จะช่วยวางแผนด้านการก่อวินาศกรรมและโค่นประเทศไทยด้วย
9.   เร่งประสานไปยังแกนนำควนโดนที่จังหวัดสตูล ให้หาคนกลุ่มหนึ่งไปประสานเรื่องโครงการแลกเปลี่ยนด้านความร่วมมือระหว่าง อาหรับกับสถาบันราชภัฏทั่วประเทศ เราจะต้องอาศัยสถาบันราชภัฏเป็นที่ฝึกครูของพวกเรา ในทางกลับกัน เราก็ล้างสมองพวกอาจารย์ราชภัฏให้เห็นฝ่ายเดียวกับมุสลิมเรา ให้ซื้อตัวอธิการบดี แล้วเราจะได้ทุกอย่าง คิดดูว่าถ้าทุกราชภัฏในประเทศไทยมีคนมุสลิมได้เข้าเรียนมากและดำเนินตาม แผนที่วางไว้ ประเทศไทยก็จะตกอยู่ในมือเราง่ายดาย มหาเดย์  สั่งว่า ให้เลือกไปติดต่อสถาบันราชภัฏในวันหยุดราชการ เพื่อพบอธิการบดีคนเดียว มุสลิมเราได้     ลงพื้นที่วางคนไว้ด้วย ตอนนี้ที่ราชภัฏ อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรีได้ผลดี อธิการบดีตกหลุมเราแล้วในโครงการธุรกิจการศึกษากับสถาบันในรัฐซาบา ประเทศมาเลเซีย
10. มหาเดย์ (มหาเดย์ โมฮัมหมัด นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย) ชมเชยกลุ่มนักรบฟาตอนีว่าทำงานได้ผลดีมาก จะได้เป็นใหญ่ทุกคน ให้เลือกแกนนำที่เข้มแข็งไปฝึกอาวุธ ให้คนมุสลิมเขมรช่วยเข้ามาจัดการกับคนพุทธที่จันทบุรีและตราด เราต้องการพื้นที่ 2 จังหวัดนี้เอาไว้ก่อการในเขมร เมื่อเรายึดไทยได้แล้ว เราจะยึดเขมร เราทำให้เหมือนทาง 3 จังหวัดใต้ของไทย คือเอาพวกมุสลิมจากอาเจะห์ ประเทศอินโดนีเซียและมุสลิมมาเลเซียมาก่อการร้ายในไทย เอามุสลิมเขมร,พม่าเข้ามาช่วยก่อการร้ายในไทย เมื่อได้ประเทศไทยแล้ว เราก็เอามุสลิมไทยที่เราฝึกไว้ไปรวมกับมุสลิมจากอาเจะห์, มุสลิมเขมร เข้าไปก่อการร้ายในพม่า เราก็ได้พม่า
11. มหาเดย์ ให้เลือกจังหวัดราชบุรีเป็นที่บัญชาการของเหล่านักรบ เพราะขณะนี้ทาง 3 จังหวัดใต้ อยู่ในมือเราแล้ว แย่งให้พวกแกนนำฟาตอนีลงมาแทรกซึมและแต่งงานกับคนไทยราชบุรี เพื่อดึงคนมาเป็นพวกมุสลิมในจังหวัดราชบุรี เราจะไม่ให้มีเหตุการณ์ร้าย แต่เราจะไปก่อการในจังหวัดนครปฐมและจังหวัดใกล้เคียงรวมทั้งในกรุงเทพฯ ขอสำทับว่าอย่าก่อการร้ายในจังหวัดราชบุรีเด็ดขาด เพราะใช้เป็นที่ซ่องสุมขุมกำลังและจะเอาเยาวชนมุสลิมมาลงที่ราชภัฏจอมบึง เหมือนกับที่เราไม่ก่อการร้ายในจังหวัดสตูล เพราะเราจะได้มีที่พบปะวางแผนกันในอำเภอควนโดนจังหวัดสตูล มหาเดย์จะมาพบพวกเราที่ จ.สตูล และพบกับเยาวชนกลุ่มหนึ่งที่เรียนดี จะให้รางวัลด้วยมือมหาเดย์เอง ไม่มีใครรู้หรอกว่า ชายแดนประเทศมาเลเซียที่ติดกับจังหวัดสตูลนั้น เราขนวัสดุและอาวุธกันมานาน ตั้งแต่ท่านอารีย์เป็นผู้ว่าฯ
12. ให้แกนนำที่มีสมองโต ไปบอกพวกมุสลิมกรุงเทพฯทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ให้ไปตีสนิทกับพวกหัวคะแนน ทั้งที่เป็น สก. สข. ถ้ามีโอกาสก็แต่งงานเอามาเป็นพวกเสียเลย เพื่อการเลือกตั้งในครั้งต่อไปมุสลิมกรุงเทพฯ จะได้รับเลือก ส่วนในต่างจังหวัดเลือกเอาจังหวัดที่มีเศรษฐกิจดี เป็นแหล่งท่องเที่ยวก่อน ให้มุสลิมแต่งงานกับพวก อบต. หรืออดีตผู้เคยเป็น ส.ส. ให้เลือกดูหนุ่ม ๆ อนาคตดีเหมือนที่เราได้อภิรักษ์มาเป็นพวก
13. การวางกำลังมุสลิมไว้ชายแดนไทย โดยกองบัญชาการในเขตภาคกลางของเราจะอยู่ที่จังหวัดราชบุรี เราจะวางคนมุสลิมเราไว้ 16 จุด เพราะราชบุรีเป็นจังหวัดเล็ก แต่เราจะเอาคนมุสลิมเราไปวางไว้ที่แหล่งท่องเที่ยวทั้งหมด 40 จุด เช่น อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เพื่อแพร่เข้าไปในพม่าด้วย โชคดีที่พระอุตมะที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของกระเหรี่ยงพุทธ มอญพุทธ เสียชีวิตแล้ว เอาคนของเราเข้าแต่งงานกับพวกนี้ แล้วย้ายกระจายไปที่อื่นด้วย กลืนมาเป็นมุสลิมให้หมด บริเวณไทรโยคให้เอาไปวาง 3 ครอบครัว อ.ทองผาภูมิ 3 ครอบครัว อ.ศรีสวัสดิ์ 5 ครอบครัว อ.สวนผึ้ง 5 ครอบครัว อ.บ้านคา 3 ครอบครัว อ.หนองปรือ 5 ครอบครัว อ.บ่อพลอย 5 ครอบครัว อ.พนมทวน 5 ครอบครัว อ.ท่าม่วง 3 ครอบครัว อ.ท่ามะกา 3 ครอบครัว  จังหวัดสมุทรสาครและสมุทรสงคราม วางไว้ 42 จุด ตามชายฝั่งทะเล รายละเอียดดูตามแผนที่ประกอบ จังหวัดชลบุรี เน้นแหล่งท่องเที่ยวด้วย โดยเฉพาะศรีราชา หาดจอมเทียน บางละมุง แม้แต่ที่เกาะสีชัง เกาะยายเท้า เกาะค้างคาว เกาะขามเล็ก เกาะขามใหญ่ ฯลฯ คนมุสลิมที่จะเอาไปวางไว้ชายฝั่งทะเล ให้เลือกผู้ที่ชำนาญการประมงจาก อ.ปานาเระ อ.มายอ จ.ปัตตานี อ.เมือง จ.นราธิวาส และพวกเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อเขาเหล่านี้จะได้ออกทะเล หาปลาด้วย     คุมพื้นที่ด้วย   จังหวัดจันทบุรี ให้วางไว้ 34 จุด และจังหวัดตราด 31 จุด จุดใหญ่ที่จะประสานคือ         ที่ อ.แก่งหางแมว เป็นที่รู้กัน มุสลิมเราซื้อที่ดินไว้นานแล้ว นอกนั้นวางมุสลิมให้อยู่รอยต่อตะเข็บชายแดนเพื่อฝึกอาวุธในเขตเขมร
                  แกนนำมุสลิมในอยุธยา สระบุรี ลพบุรี ให้ช่วยจัดมุสลิมไปวางไว้ที่ จ.นครนายก                จ.ปราจีนบุรี ให้วางไว้ 25 จุดพอ เพราะไม่ใช่ตะเข็บชายแดน แต่ให้ทำธุรกิจท่องเที่ยวด้วย จ.สระแก้ว ให้วางไว้ อ.โรงเกลือ เพื่อทำการค้าและแพร่ไปในเขมรได้ง่าย ทั่วจังหวัดสระแก้ว วางไว้ 28 จุด        อ.กบินทร์บุรี วางไว้ 25 จุด ส่งคนทำงานในโรงงาน ๆ ละ 2-3 คน อย่าให้มาก คนพุทธจะไหวตัว     เขตนครราชสีมาวางไว้ 32 จุด
                  ในภาคอีสานทั้งหมด เน้นจังหวัดท่องเที่ยวและรอยต่อตะเข็บชายแดน เพื่อซื้อคนเขมร      มาฝึกและคนเขมรให้ลงใต้ ช่วยก่อการร้ายใน 4 จังหวัดภาคใต้ของไทย
                  ภาคเหนือ แหล่งใหญ่อยู่ที่เชียงราย 7 พันกว่าคน ให้ถอนผู้ที่สมรสใหม่ ไม่มีบุตร เอาไปวางไว้อำเภอดอยปุย จ.เชียงใหม่ 5 จุด ทำร้านขายโรตี 1 ร้าน ร้านขายกาแฟ 1 ร้าน ขายเสื้อผ้า 2 ร้าน     ขายของที่ระลึก 1 ร้าน เป็นที่น่ายินดีที่ร้านนี้ได้แต่งกับผู้หญิงชาวม้งพื้นที่ และหญิงม้งผู้นี้กำลังตั้งครรภ์แล้ว นอกจากนี้ได้ติดต่อผู้หญิงม้งอื่น ๆ ให้กับมุสลิมเราด้วย เป็นการเพิ่มมุสลิมดีจัง ให้มุสลิมเราไปก่อเหตุฆ่าม้งพื้นที่ ให้ออกไปหาเรื่องครอบครองร้านค้าของคนม้งให้หมด คนไทยพุทธมันไม่รู้หรอกว่าดอยปุยใกล้พระตำหนักภูพิงค์ฯ ไม่ถึง 3 กิโลเมตร หรือเพราะพวกมันไม่คิดว่าเราจะล้วงคอ   งูจงอาง ฐานกำลังฐานเสียงของเราส่วนใหญ่อยู่ใกล้พระราชฐานทั้งนั้น รอเวลาอีกนิด เมื่อเลือกตั้งอีก 2 ครั้ง มุสลิมเราจะได้ที่นั่งมากกว่าไทยพุทธที่เคยได้แน่นอน
14. เรื่องเงินสำหรับคนมุสลิมที่ย้ายไปตั้งถิ่นฐานใหม่ในจังหวัดต่าง ๆ มหาเดย์บอกว่า ท่านมอบเงินให้ท่านวันนอร์มาแล้ว ให้จ่ายให้รายละ 3 แสน รวม 76 จังหวัด ถัวเฉลี่ยจังหวัด 30 ครอบครัว รวมเป็น 2,280 ครอบครัว รวม 684 ล้าน แต่ท่านวันนอร์ได้รับ 700 ล้าน ไม่เป็นไรส่วนที่เหลือเก็บไว้ก่อน เพราะเราจะเอามุสลิมไปวางไว้เพื่อทำการค้าที่เชียงแสนเพิ่มอีก เพราะมีร้านป้าเด๊ะร้านเดียว คนมาท่องเที่ยวมากมาย ต้องทำรายได้ทั้งหมดอยู่ในมือมุสลิมเราเท่านั้น
15. ในการประชุมที่เกาะลังกาวี ดร.วันกาเดร์ เข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย ท่านพูดว่าคนไทย      มันโง่จัง เราพูดอะไรมันเชื่อหมด ให้มัน compromise (สมานฉันท์) มันก็ทำลูกเดียว ไม่กล้าแม้แต่จะแตะโจรมุสลิม ถูกจับตัวได้ ให้ดูว่าไทยมันโง่ขนาดไหน ดูมันปล่อยพวกที่จับได้เหมือนปล่อยเสือเข้าป่าไม่มีผิด นี่ถ้าเป็นประเทศมาเลเซียเราคงฆ่าทิ้งทั้งหมด อย่างดีก็จำคุกตลอดชีวิตฐานปรานี ท่านยังบอกเลยว่า ท่านวันนอร์ประสานงานในประเทศไทยดีมากตั้งแต่ปี พ.ศ.2510 เป็นต้นมา ประสานดึงนักศึกษามุสลิมทั้งประเทศมาประชุมกันที่จังหวัดสตูล ให้มารับเอาความรู้และโดนล้างสมองให้เกลียดประเทศไทย ต่อไปให้นักศึกษาไปประสานพ่อแม่ ญาติพี่น้องให้เดินทางมารู้จักแกนนำ จากสตูล ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และแกนนำประเทศมาเลเซีย ดูแล้วคนไทยมันโง่มาก ท่าน ดร.วันกาเดร์และมหาเดย์ (ดูสถิติ 2529-2530 จากรายชื่อนักศึกษามุสลิมในประเทศไทยที่ท่านวันนอร์หลอกลวงมาล้างสมองเพิ่ม มากขึ้นระหว่างที่นายอารีย์ วงศ์อารยะ คุมกระทรวงมหาดไทย) ท่านชมว่าเก่งมาก ที่ท่าน วันนอร์ขอทุนจากรัฐบาลไทยได้ส่งเด็กมุสลิมเราจบด๊อกเตอร์จากอเมริกาหลายคน ตอนนี้อยู่ในมหาวิทยาลัยดัง ๆ ของไทย เป็นกำลังสำคัญช่วยเราวางแผนแบ่งแยกดินแดน เช่น อาจารย์ใน มหาวิทยาลัยศิลปากรใน ม.บางมด และม.อื่น ๆ ที่มากที่สุดที่ ม.สงขลานครินทร์โชคเข้าข้างมุสลิมดีจัง
16. ดร.วันกาเดร์และมหาเดย์ ขอให้แกนนำสมองโตไปเร่งให้ท่านสุรินทร์พิศสุวรรณ เร่งซื้อที่ดินชายทะเลเพิ่มมากขึ้น ที่ดินที่ซื้อไว้ที่ อ.ท่าศาลา ท่าแซะและอื่น ๆ รวมทั้งที่จะแนะ ให้รีบกั้นรั้วไว้ก่อน เพราะเมื่อลงมือทำโรงงานอาหารสัตว์และอาหารฮาราลจะได้รวดเร็ว ท่าน ดร.วันกาเดร์บอกว่า ให้ ดร.สุรินทร์ นำเงินส่วนที่เหลือจากซื้อที่ดินไปสร้างธนาคารอิสลาม (สาขา) เพิ่ม และเงินอีก 500 ล้าน ท่านให้แจกแกนนำมุสลิมในกรุงเทพฯ พวกเขายังไม่ได้รับ เพราะกลุ่มพิราบขาวไปสืบถามมุสลิมทุ่มครุ หนองจอก มีนบุรี คลองตัน อิสรภาพ รวมทั้งกลุ่มมุสลิมที่ อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ และมุสลิมเชียงราย 7,200 คน ยังไม่ได้รับเงินเพื่อสร้างสุเหร่า ท่านสุรินทร์ พิศสุวรรณ เดินทางไปเชียงรายจริง มุสลิมเชียงรายบอกว่า ท่านเดินทางไปก่อนที่มกุฎราชกุมารประเทศไทยจะขับเครื่องบินไปเชียงราย 2 วัน ท่านไปสั่งการแบบเร็ว ๆ คร่าว ๆ และงานก็ทำไม่สำเร็จ ขอให้รู้ว่า มหาเดย์รู้ทุกอย่าง ก่อนท่านสุรินทร์ฯ จะขึ้นเครื่องบินกลับกรุงเทพฯ ยังแวะไปเที่ยวที่อูบคำใช่ไหม อูบคำเป็นที่แสดงวัตถุโบราณของคนไทยพุทธภาคเหนือ ท่านไปจริงไหม มหาเดย์ยังบอกว่าห่างกันเพียงอาทิตย์เดียว ท่านวันมูฮัมหมัด นอร์มะทา ได้ไปพบกับมุสลิมที่ อ.หางดง จังหวัดเชียงใหม่ และให้เงินไว้ 100 ล้านแรก เพื่อสร้างสุเหร่าให้ทั่วเชียงใหม่และ จ.ลำพูน แต่ท่านวันนอร์ก็ไม่ให้ครบ และเงินที่ให้จ้างคนพุทธโค่นล้มรัฐบาลก่อนก็ยังให้เขาไม่หมด ระวังเรื่องจะแดงขึ้นมา คนของท่านวันนอร์ก็ไปหลอกลวงขอเด็กหางดงลงไปปัตตานี ไม่สำเร็จเช่นกัน ขอให้เปลี่ยนตัวแกนนำโดยด่วน อย่าทำให้ไก่ไทยตื่น เพราะการณ์ข้างหน้ายังต้องทำต่อไป
17. ควรเพิ่มเงินในการซื้อฐานเสียงในภาคเหนือให้หมด คนภาคเหนือจะกลัวซะดาคู(ตำรวจ) จึงต้องซื้อตำรวจในภาคเหนือ อย่าลืมไปยุแหย่ผู้มีฐานะทางการเงินและ owner (เจ้าของกิจการ)      ใหญ่ ๆ ให้เกลียดชังคนพุทธด้วยกัน และให้โค่นล้มรัฐบาลคนพุทธทุกครั้ง เช่น พูดให้เจ้าของ Outlet จ.เชียงใหม่ ซึ่งมี 4 สาขา เอาหนุ่มมุสลิมเข้าไปขอแต่งงานกับลูกสาว Outlet โดยด่วนแล้วดึงมาเป็นพวก เพราะเจ้าของ Outlet ฝีปากดีมาก คนเชื่อถือ ส่วนใหญ่ใน จ.ภูเก็ตและจังหวัดใหญ่ ๆ และต้องพูดให้เจ้าของโรมแรม เจ้าของกิจการไข่มุก เจ้าของกิจการภูเก็ตแฟนตาซี และกิจการก่อสร้างบ้านจัดสรรอื่น ๆ ให้เกลียดชังตำรวจ ทหาร เช่น ขณะนี้ ทหารไทยยึดอำนาจ และวางทหารเข้ามาสืบทอดอำนาจในทุกกิจการ เช่น เข้ามาเป็นบอร์ดในกิจการท่าอากาศยาน เป็นบอร์ดในการไฟฟ้า การประปา องค์การโทรศัพท์ บอร์ดในการสื่อสารโทรคมนาคม และอื่น ๆ ต้องกำจัดทหารออกไป ยุให้มันทะเลาะกัน แต่ตอนนี้อย่าเพิ่งพูดอะไร เพราะทหารมุสลิมของเราเป็นใหญ่ ไม่เช่นนั้นเราจะไม่รู้อะไรในกองทัพไทย แต่ถ้าเมื่อใดที่มุสลิมเราไม่ได้เป็นใหญ่ ก็ยุแหย่ให้มันทะเลาะกัน
18. มหาเดย์ สั่งให้แกนนำสมองโต (พวกฉลาดมาก) ไปพบทหารมุสลิมที่ใหญ่ที่สุดของไทย ให้สร้างความหวัง และหลอกใช้อัศวินของไทย ทั้งตำรวจ ทหาร เป็นกระบอกเสียงให้ แต่เมื่อเวลาเสนอชื่อจริง ๆ ให้เป็นแม่ทัพทหารหรือเป็นอธิบดีต่าง ๆ ในเดือนตุลาคม 2550 ก็ให้เสนอชื่ออัศวินผู้อื่นที่มีอายุน้อยและถ้าเป็นมุสลิมก็ดีหรือที่ใกล้ชิด King Queen เป็นผู้รับตำแหน่งใหญ่สืบทอด (และให้โทษว่า King หรือ Queen เป็นผู้เลือก) เพื่อหวังการณ์ข้างหน้า เราจะได้พึ่งในการได้ข่าว และการดักโจมตีก่อการร้ายในจังหวัดอื่นๆของเรา ขณะนี้ได้ข่าวว่ามีอัศวิน 3-4 คน กำลังบ้าอำนาจมาก และเต้นตามลมปากของมุสลิมผู้เป็นใหญ่ของเรา ขอให้ผู้ประชุมทุกคนเก็บความลับ คอยดูคนไทยบ้าอำนาจตีกัน
19. เรื่อง Public Health Center (สถานีอนามัย) ใน 3 จังหวัดภาคใต้ เมื่อเผาแล้ว เรียกร้องให้ไทยมันสร้างใหม่ ให้มันเสียเงินมาก ๆ เราจะได้สถานีใหม่ ๆ และให้เลี้ยงเด็กมุสลิมเป็นอย่างดี ดูเรื่องอาหารการกิน ของคาวหวาน นม ต้องมีให้พร้อม จากการส่งสายลับไปดูเปรียบเทียบแล้ว เด็กมุสลิมเรากินอยู่ดีกว่าเด็กไทยพุทธมาก เด็กไทยพุทธกินข้าวราดแกงจืดอย่างเดียวไม่มีขนม เรื่องโรงเรียนก็เช่นกัน เมื่อเผาไปแล้ว เรียกร้องให้มันสร้างใหม่ให้ได้ ให้บอกว่าเพื่อเอาใจมุสลิมพื้นที่
20. ขอให้ผู้มีอำนาจของพวกมุสลิมเราส่งสัญญาให้กลุ่มแกนนำที่ไทยมันเรียกว่า โจรก่อการร้าย ได้รู้ว่า ทหารไทยมันมีจุดอ่อนอย่างไรบ้าง เช่น ไม่มีเสื้อเกราะ ไม่มีความชำนาญภาคสนามรบ จำนวนคนน้อย และไม่มีการวางแผนการสู้รบ โดยเฉพาะเมื่อเด็กมุสลิมเราถูกเกณฑ์ทหารไป ก็ขอให้มีการบรรยายพิเศษเรื่องยุทธศาสตร์การสู้รบของไทยมัน และหรือให้ผู้มีอำนาจของเราซื้อทหารคนพุทธ ให้มันเล่าวิธีการสู้รบของมัน เรารู้วิธีของมันมากแล้วก็จริง แต่มันอาจหลุดอะไรใหม่ ๆ ก็ได้ และการให้ข่าวทำลายขวัญของมัน เช่น มีทหารในพื้นที่ขอย้าย 6,000 นาย มีครู ข้าราชการอื่น ๆ ขอย้ายหมื่นคน และผู้สื่อข่าวที่เราซื้อตัวไว้นั่นแหละให้เป็นผู้ถามนำให้ประชาชนมุสลิมเราเป็นผู้ตอบ ดีต่อกลุ่มนักรบเรา แต่ผลเสียต่อนักรบไทย
                  ต้องพยายามผลักดันให้มุสลิมเรา โดยเฉพาะอารีย์ วงศ์อารยะ ได้ลงพื้นที่แล้วพูดให้สับสน ไม่ให้ทหารฟังแม่ทัพของไทยมัน เพราะตอนนี้มันเริ่มรู้ทางเรา ขอให้แกนนำใหญ่สุดของกลุ่มสมองโตลงประกบตัวแม่ทัพภาค 4 คนนี้ด้วย พยายามพูดให้มันไขว้เขวอีกคน และให้คนของเรา ไปบอกข่าวเท็จกับมัน เพื่อดึงความสนใจก่อนที่มันจะรู้ที่ซ่อนอาวุธของเรา สุดท้าย มหาเดย์ ตรีมอกาเซะ(ขอบคุณ) มาให้กับมุสลิมที่ดีทุกคน พร้อมย้ำคำว่า อาเมะ วีซียะ ซะลาลู (เก็บมันให้เรียบ)
21. เร่งให้ฝ่ายหญิงมุสลิมที่แต่งกายชุดสีดำให้หมดทุกคน ผู้ชายสวมหมวกทุกคน ไม่ให้ซ่อเกะหลุดจากหัว แม้แต่เวลาละหมาด ผู้หญิงสวมผ้าตาละโก่ง ผ้าฮิญ๊าบสำหรับโพกหัวก็ให้เป็นสีดำ เพราะสีดำเป็นสัญลักษณ์ของศาสนาอิสลามนิยายซีอะของเรา ให้เข้ากับความดุร้าย ให้พิราบข่าวไปแจ้งผู้นับถือนิกายสุหนี่ให้ทั่วด้วยว่า มหาเดย์ สั่งมา ใครไม่ปฏิบัติ ให้ประสานไปที่ลูกเขยสกุลหิมะทองคำ    เขารับเรื่องการแต่งกายที่เป็นเอกภาพอยู่ และเราต้องการให้ประเทศไทยที่นับถือศาสนาอิสลาม เปลี่ยนเป็นนิกายชีอะทุกคน ให้เหมือนกับมุสลิมในประเทศอินโดนีเซีย บรูไนและมาเลเซีย เพราะเราต้องเอาใจผู้ให้เงินนิกายซีอะ และตอนนี้ มหาเดย์เองก็เปลี่ยนเป็นชีอะแล้ว
22. มหาเดย์ ขอให้แกนนำช่วยกันคิดในการสร้างปัญหาต่าง ๆ ให้เกิดกับทุกภูมิภาคของไทย เพราะการเสริมกำลังจากจังหวัดอาเจะ ประเทศอินโดนีเซีย จะหาช่องทางมาสมทบกับกลุ่มอาเจะเดิมในไทย ซึ่งถูกฆ่าตายไปบ้างนั้นยากขึ้น เพื่อให้การก่อการร้ายต่อเนื่อง จำเป็นต้องเคลื่อนกำลังจากอาเจะเข้ามา แต่ทหารไทยตรึงกำลังหนาแน่น ทำให้เคลื่อนเข้ามาไม่ได้ จะมาทางเรือจากเกาะลังกาวี มาเลเซีย เข้าจังหวัดสตูลก็ไม่ได้ เพราะทหารเรือและตำรวจจับตา ฉะนั้นขอให้เปิดฉากอะไรก็ได้ในจังหวัดอื่น ๆ หรือใน 3,4 จังหวัดของไทย เพื่อดึงความสนใจไปที่อื่น และอีกประการหนึ่ง ให้สร้างความเสียหายให้ประเทศไทยให้มากที่สุด ให้มันใช้จ่ายเงินในเรื่องที่ไม่สมควรจ่าย จะทำให้เงินที่มันจะให้ค่าเบี้ยเลี้ยงทหาร ค่าซื้ออาวุธปืน ลูกปืนไม่มีเงินซื้อ ต้องทำให้ไทยมันเลือดไหลหมดตัว ขอย้ำว่า ถ้าไม่มีอะไร ก็ให้เผาป่าก็ยังดี หรือทำให้น้ำเกิด pollution (เป็นพิษ) ทางน้ำ ทางอากาศ บอกมุสลิม     ผู้เป็นใหญ่ของเรา อย่าเพิ่งจ่ายเงินพิเศษค่าตำแหน่งให้ครู เพราะเราจะยุยงให้พวกครูประท้วง ถ้ามุสลิมผู้เป็นใหญ่ของเราไม่ได้เป็นใหญ่ต่อไป ทุกอย่างต้องดึงเกมส์ไว้ก่อน
23. บริษัทเชฟรอนของเรา ได้สำรวจปิโตรเลียมในอ่าวไทยและอ่าวพม่า ยังมีทรัพยากรน้ำมันและก๊าซธรรมชาติมากมาย รวมทั้งแร่อีกหลายชนิด ถ้ามุสลิมเราได้ 3 จังหวัดใต้ คือ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ยังไม่พอ เราคนเอาคนมุสลิมเราไปวางไว้ในระนอง พังงา กระบี่ พัทลุง ตรังและสงขลา เพิ่มให้มากขึ้น แต่เดิม มหาเดย์ บอกว่าเอา 3 จังหวัด แต่ตอนนี้เปลี่ยนใหม่แล้วว่า เอาด้ามขวานประเทศไทยทุกจังหวัดก่อน และจะคืบคลานให้คนไทยเป็นมุสลิมทั้งประเทศ
24. แกนนำด้านการวางแผนเชิงกลยุทธ์ทุก ๆ ด้านของมุสลิมเราได้ผลดีเยี่ยมทุก ๆ กลยุทธ และขอเน้นย้ำว่า กลยุทธใดที่มุสลิมเราจะเพลี่ยงพล้ำ ก็ให้ joint venture (เข้าร่วมเป็นมิตร) ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ไป อย่าให้คนไทยพุทธรู้ตัว แต่ในทำนองเดียวกัน ก็บรรจุสิ่งที่มุสลิมเราต้องการลงในรัฐธรรมนูญของประเทศไทยให้เต็มที่ให้มากที่สุด เราได้เปรียบไว้ก่อนหลาย ๆ ด้าน สมองของคนไทยพุทธเทียบเท่ากับสมองลือมูและกูบา (วัว ควาย) เท่านั้น จะสู้สมองนักวางแผนของมุสลิมเรา 300 กว่าคนได้อย่างไร เมื่อรวมสมองของ ดร.มหาเดย์และ ดร.วันกาเดร์ เข้าไปด้วยแล้ว การเข้าครอบครองไทยง่ายนิดเดียว เหมือนกระพริบตา
25. การเพิ่มคนมุสลิมให้เร็วและจำนวนมาก ต้องให้มุสลิมแต่งกับพม่า เขมร ลาวที่เข้ามาในประเทศไทย เป็นโอกาสดีของมุสลิมเราที่มีพวกนี้มากมายเข้ามาทำงานในประเทศไทย ให้มุสลิมชาย 1 คนแต่งกับพวกนี้ ภายในปีเดียวชายมุสลิม 1 คน จะมีลูกได้ถึง 4 คน รวมแม่อีกหนึ่งเป็น 5 คน ใน 1 ปี มุสลิม 1 ล้านคนจะเพิ่มพลเมืองได้ 5 ล้านคน ภายใน 10 ปี จะเพิ่มเป็น 50 ล้านคน หลังจากนั้น เร่งให้เด็กอายุครบ 12 ปี แต่งงาน เพิ่มเป็น 60 ล้านคน ภายใน 12 ปีเท่านั้น เราจะเพิ่มมุสลิมได้มากกว่าไทยพุทธอีกเท่าตัว เรื่องนี้เก็บเป็นความลับอย่าให้รั่วไหล ไม่ต้องจดบันทึกก็ได้ให้รู้กันในหมู่มุสลิมเท่านั้น
26. อาวุธปืนที่ได้จากอำเภอเจาะไอร้อง ทางเราได้กระจายกับครบ 4 จังหวัด แต่ที่ให้จังหวัดสงขลาน้อยเพียง 30 กระบอก เพราะมหาเดย์บอกว่า ทางปัตตานี 90 กระบอก นราธิวาส 90 กระบอก และยะลา 90 กระบอก มีความจำเป็นต้องใช้ และถ้าทางสงขลาต้องการอะไร ทั้ง 3 จังหวัดจะร่วมด้วยทันที เร็ว ๆ นี้แหละคงถึงเวลาที่มุสลิมใน จ.สงขลา จะได้แสดงให้เห็นว่า พื้นที่ของเราก็มีความเข้มแข็ง ให้เร่งสร้างคนเพิ่มให้มาก ๆ ขอให้สงขลาใจเย็น ๆ อาวุธจะเข้าทาง จ.สตูล รวมที่สะสมไว้ที่ อ.ควนโดน จะส่งมาให้พร้อม ๆ กับส่งไปจอมบึง จ.ราชบุรี
27. มหาเดย์ ขอแสดงความชื่นชมแกนนำมุสลิมในจังหวัดสงขลาที่เร่งสร้างสุเหร่าได้ถึง 145 สุเหร่า ภายในเวลาอันรวดเร็ว ดีมากที่ทำให้คนพุทธนึกว่า เรามีประชากรมุสลิมเยอะดี จริง ๆ แล้วสุเหร่า 1 สุเหร่า ต่อมุสลิมเราเพียง 20 คนเท่านั้น ขอให้เร่งขยายการสร้างสุเหร่าไปยังจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวให้ทั่วไทย
28. ส่วนการเงินในการสร้างสุเหร่า มหาเดย์ จะมอบให้บุคคล 3 คน ที่มีอำนาจในประเทศไทยเป็นผู้นำไปมอบให้ เรื่องสร้างสุเหร่านี้ เงินช่วยจากยุโรปมีมาก โดยเฉพาะผู้นำมุสลิมในประเทศนอร์เวย์ สวีเดน ให้มาคราวละ 1,000 ล้านเหรียญมาเลเซีย หรือราว 10,000 ล้านบาท โดย ดร.วันกาเดร์แห่งรัฐกลันตัน เป็นผู้ดูแลเงิน โดยมอบหมายให้ท่านวันมูฮัมหมัดนอร์มะทา และท่านสุรินทร์         พิศสุวรรณ เป็นผู้นำมาให้แกนนำสร้างสุเหร่าในประเทศไทย เรื่องนี้คนใกล้ชิดของผู้ว่าราชการที่มีนามสกุล มินทราศักดิ์ ได้เงินเกินกว่าครึ่ง ในการสร้างสุเหร่าและที่ละหมาดทั่วประเทศไทย แสดงให้เห็นว่า ใครเป็นมุสลิมที่ดีอยู่ในโอวาทมหาเดย์แล้ว จะได้รับการสนับสนุนให้มีเงินและมีอำนาจในประเทศไทย
29. ให้ลงมืออุ้มฆ่าอาจารย์มหาวิทยาลัยที่เป็นมุสลิม เลือกดูอาจารย์มุสลิมที่มีนักศึกษารักและเคารพมาก และ (ทูวอ) มีอายุหน่อย แล้วโยนความผิดให้รัฐบาลไทย ขอให้ผู้ที่จะไปปฏิบัติการแต่งชุดตำรวจหรือทหารเข้าไป เพื่อจะให้ดูเสมือนว่ารัฐบาลไทยส่งคนมาอุ้มฆ่า นำศพเข้าไปไว้ในที่มิดชิด เช่น กูโบ แล้วจึงเคลื่อนย้ายเข้ามาในมาเลเซียต่อไป จะได้ไม่พบศพ อย่าลืมว่าก่อนเข้าไปชวนอาจารย์มุสลิมออกมา ให้ไปถามอาจารย์คนไทยพุทธและอาจารย์มุสลิมในมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ให้พูดภาษาไทยอย่าพูดภาษายาวีเด็ดขาด ในขณะที่ถามให้มีพยานเห็นสัก 3-4 คน ระวังตัวด้วย พอลับตาพยาน 3-4 คนนั้น จึงดำเนินการตามการฝึกมาและเคยทำมาบ้างแล้ว
30. มหาเดย์สั่งว่า ขอให้มุสลิมเราที่เป็นนายอำเภอ ปลัดอำเภอ รองผู้ว่าฯ และผู้ว่าราชการจังหวัด เมื่อสบช่องโอกาสให้เปลี่ยนชื่อถนน ตรอก ซอก ซอย หมู่บ้าน ตำบล อำเภอ เป็นภาษายาวี    ให้หมด และถ้ามีการจัดสร้างอาคารร้านค้า สถานที่ท่องเที่ยวใหม่ ๆ ให้ใช้ชื่อเป็นภาษายาวีเท่านั้น
31. ให้เรียกร้องให้ใช้ภาษายาวีเป็นภาษาทางราชการ จริงอยู่ ถึงแม้ภาษายาวีเป็นภาษาที่ไม่มีตัวอักษรเป็นภาษายาวี ก็ให้แจ้งรัฐบาลไทยไปว่า สามารถใช้อักษรภาษาอังกฤษแทนได้ แล้วมุสลิมเราจะใช้คำภาษายาวีทั้งหมด มาจากประเทศมาเลเซีย ขอให้เตือนพวกที่ทำใบปลิวแจกด้วย ให้ทำการเขียนเรียกร้องสนับสนุนให้มีการใช้ภาษายาวีควบคู่กับภาษาไทยไปก่อน ยังไงรัฐบาลต้องให้อยู่แล้ว เพราะเกรงใจบิ๊กสนธิ บุญยรัตกลินของเรามาก
32. เป็นที่ยินดีที่สุดของชาวมุสลิมมลายูที่เรามีองค์รัชทายาทขึ้นครองรัฐฟาตอนีของเราแล้ว   อีกไม่นานองค์รัชทายาทที่เราเตรียมการกันไว้ เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของมุสลิมแท้ ๆ ที่เกิดจากธิดาสาวของ ส.ส.ปัตตานี และเกิดจากเลือดเนื้อเชื้อไขของสุลต่านรัฐกลันตันของพวกเราไง สุตต่านเราจะอบรมให้ท่านอยู่ในศาสนาอิสลามยึดอัลเลาะเพียงองค์เดียว และจะให้ท่านมีจริยวัตรงดงาม นอบน้อมถ่อมตน ไม่เย่อหยิ่งกับประชาชนมุสลิม เพราะถือตนว่าเป็นลูกเจ้า
33. แผนที่ประเทศไทยใหม่รัฐฟาตอนีดารุสซารามที่แจกให้ในวันนี้ เพื่อให้กลุ่มแกนนำได้นำไปแจกจ่ายให้มุสลิมทั่วประเทศไทยได้ดูกันไว้เป็นกำลังใจ กำชับพวกมุสลิมว่าเก็บเป็นความลับอย่างสุด ๆ ไม่เช่นนั้นถ้าเรื่องแตก การครอบครองประเทศไทยของเราจะช้าออกไปอีกมา
34. เรื่องปั๊มน้ำมันปิโตรนาสของมุสลิมเรา เราต้องช่วยกันสนับสนุนการข่าวบางอย่าง ก็ให้ติดต่อได้ที่ปั๊มปิโตรนาสของเรา แจ้งให้มุสลิมทุกคนรับรู้ อย่าเติมน้ำมันปั๊มอื่น ๆ
35. เรื่องการใช้ลำโพงและหอกระจายข่าวในสุเหร่าทุกแห่ง ขอให้ทำให้เหมือนกันทุกสุเหร่า ให้เปิดเสียงดังให้สุด ๆ ก่อกวนให้คนพุทธมันขายที่ดินย้ายไปที่อื่น ๆ มันทนไม่ได้แน่ ๆ เพราะเราทำละหมาดกันวันละ 5 เวลา ในตอนนี้มันยิ่งไม่กล้าพูดเพราะบิ๊กบังสนธิเราเป็นใหญ่ และโชคดีที่ประเทศไทยไม่มีกฎหมายห้ามส่งเสียงดังรบกวนเพื่อนบ้านเหมือนประเทศยุโรป อเมริกา ญี่ปุ่นและจีน ประเทศไทยมันยังโง่มาก กฎหมายการสร้างสุเหร่าก็ยังไม่มี มหาเดย์สั่งว่า ให้มุสลิมที่เป็นใหญ่ออกกฎหมายห้ามสร้างวัดไทยเพิ่ม
36. เรื่องการสร้างโรงเรียนเอกชนของมุสลิมเราในกรุงเทพฯและจังหวัดใหญ่ ๆ ให้รีบสร้าง เพราะถ้าไทยมันปิดปอเนาะเราก็สอนตาดีกา ในโรงเรียนเอกชนของเราได้ตอนนี้ มหาเดย์ ชมมากเรื่องปอเนาะ ในอำเภอลาดบัวหลวง จังหวัดอยุธยาที่ดึงเด็กพุทธและปลุกมุสลิมได้เก่งจริง ๆ และคนของเราได้เป็นครูใหญ่ อาจารย์ใหญ่ ผู้อำนวยการโรงเรียนกันมากมายในอยุธยา สระบุรี ลพบุรี ราชบุรี และจังหวัดอื่น ๆ อีกมากในกระทรวงศึกษาธิการมายาวนาน แต่เป็นที่น่าเสียดายที่เกษียณราชการไปแล้ว แต่ก็ไม่เป็นไร เราค่อยหาทางเดินหมากวางคนของเราคุมกระทรวงอื่นต่อไป
37. ในกรณีที่คนไทยมันรู้ทางเรา รู้ไส้เรา ให้มุสลิมผู้เป็นใหญ่ของเราพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นแผนการ discredit (ทำให้เสื่อมเสีย) จะได้ดูว่าเป็นแผนการของกลุ่มอำนาจเก่าและทำให้มันรวมกันไม่ติดด้วยซ้ำ ทำอย่างไรก็ได้ให้มันแตกกันมาก ๆ การทำเช่นนี้จะเป็นผลดีกับอิสลามเรา โดยเฉพาะให้เงินปิดปากผู้มีอำนาจที่เป็นพุทธและให้เงินพรรคการเมือง ซื้อของกำนัลให้เจ้าใหญ่   นายโตของประเทศไทย เพื่อเก็บมาเป็นคนข้างเราให้หมด การเดินหมากใกล้ชิดคนมีฐานะและมีอำนาจเข้าไว้ดีที่สุด
38. เร่งส่งเด็กจบใหม่ของเราเข้าไปสู่วงการสื่อมวลชน โทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ เราจะได้ลดวงเงินในการซื่อสื่อเพื่อเป็นกระบอกเสียงของเราให้ลดลง และจะได้เพิ่มการกระพือข่าวที่ไม่ดีของประเทศไทย ของราชวงศ์ไทย ก่อการร้ายในไทย การเขียนข่าวบิดเบือนว่ามุสลิมโดนรังแกให้เพิ่มมากขึ้น เป็นการตัดเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงไทยอยู่ทุกวันนี้คือการท่องเที่ยวจะ ได้เปลี่ยนนักท่องเที่ยวให้เข้าไปมาเลเซียและอินโดนีเซีย
39. ให้เข้าขัดขวางการร่วมมือสร้างถนนเชื่อมต่อประเทศจีนกับไทย ให้ไปยุแหย่ประเทศพม่า ลาว กัมพูชา ให้ทะเลาะกับไทย ขอให้ทำลายไทยทุกวิถีทาง
40. ต้องให้อาจารย์มุสลิมในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ของไทย เปลี่ยนประวัติศาสตร์ โดยการเรียกร้องให้เปิดโครงการจัดตั้งสถาบันสมุทรรัฐเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา แล้วบิดเบือนประวัติศาสตร์ของประเทศไทยให้แสดงให้เห็นว่า เดิมดินแดนแถบนี้เป็นของมลายู ที่ต้องตั้งโครงการนี้เพราะต่อ ๆ ไป เมื่อเวลาผ่านไปนาน ๆ มันจะเป็นเรื่องจริงที่ปรากฏเป็นหลักฐาน เพราะคนไทยมันไม่เขียนหลักฐาน เราเขียนไว้ผู้อ่านเขาจะเชื่อเรา เมื่อมีชาวต่างชาติอื่น ๆ มาอ่าน ก็จะพากันเชื่อว่าเราถูกไทยรุกราน โกงแผ่นดิน ทั้ง ๆ ที่เราจะโกงมัน ถ้ามันมีหลักฐานอะไรก็ให้นักศึกษาเรายืมหนังสือประวัติศาสตร์นั้น ๆ ไปทำลายทิ้งเสีย ทุก ๆ ที่ที่มีประวัติศาสตร์ไทย
41. เรื่องอิหม่ามและอุสต๊าส ในไทยจะต้องมีวิชาความรู้ โดยส่งไปเรียนที่สถาบันราชภัฏจอมบึง ให้อุสต๊านและอิหม่ามทุกคนไปฝึกภาษามลายูที่รัฐซาบา ประเทศมาเลเซีย เพราะเป็นโครงการร่วมมือกัน อิหม่ามจะได้มีความรู้เอาไว้สู้กับพระสงฆ์ของไทย ถึงอย่างไรเสียพระสงฆ์ไทยก็มีช่องให้เราโจมตีอยู่แล้ว เพราะอิหม่ามของเรามีภรรยาได้ พระสงฆ์มีจุดอ่อนตรงนี้
42. วัดใดที่โดนเผาและทำลายไปแล้ว ให้ต่อต้านไม่ให้สร้างขึ้นใหม่ ให้เพิ่มการสร้างสุเหร่าของมุสลิมเราแทนที่วัดเท่านั้น ส่วนบริเวณที่ดินเดิมให้สร้างกูโบ (ที่ฝังศพของมุสลิม) ลงแทนที่วัดเดิม
43. การจ้างคนพุทธแต่งกายเป็นมุสลิมโดยเฉพาะในวันพิธีสำคัญของไทย โดยจ่ายค่าจ้างไปคนละ 2,000 บาท เพราะภาพที่ออกมาทางสื่อโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์ จะทำให้เห็นว่าประเทศไทยก็เป็นมุสลิมทั้งประเทศ เป็นการข่มขู่คนไทยและประเทศที่เป็นคริสต์ศาสนาไว้ก่อน สำหรับเสื้อผ้าที่จะแต่งกาย ขอให้มุสลิมกลุ่มกรุงเทพฯและในจังหวัดต่าง ๆ ช่วยกันจัดหาให้ไปก่อนเพื่อดูดี การเงินเบิกได้ที่แกนนำมุสลิมประจำจังหวัด การจ้างคนเขมร ลาว พม่า มาทำงานในร้านอาหารของมุสลิมเรา      ก็ให้แต่งกายแบบมุสลิม
44. ให้ทำวุฒิบัตร Transcript ปลอมให้กับผู้ที่จะเป็นอาจารย์อัตราจ้างหรืออัตราประจำ เน้นให้บรรจุลงใน 3 จังหวัดที่ขาดแคลนก่อน เพราะผู้ที่พิจารณาเป็นพวกเรา เสร็จแล้วก็ให้ขอย้ายไปประจำในมหาวิทยาลัยอื่น ๆ ทั่วประเทศเพื่อช่วยมุสลิมเรา และเพื่อการเปลี่ยนแปลงข้อมูลในสถาบันและจังหวัด
45. ให้ลงมือฆ่าผู้ที่ไปให้ความร่วมมือกับข้าราชการในโครงการต่าง ๆ ของรัฐบาล หรือพวกที่ให้ความร่วมมือกับท่านผู้หญิงและทหาร ข้าราชการไทย ทำอย่างไรก็ได้ให้ Queen และ King ของประเทศไทย เดาะ ซูกอ ฮาดี (ไม่ชอบใจ, ไม่สบายใจ) จะทำให้ มหาเดย์ ซูกอ ฮาตี และเป็นการสกัดกั้นคนมุสลิมพื้นที่ให้ด้อยโอกาส ด้อยพัฒนาไปด้วย จะได้เชื่อฟังกลุ่มเราหมด
46. ให้แกนนำของเราไปควบคุมคนงานในโรงงานปลาป่น โรงงานอุตสาหกรรมอื่น ๆ บังคับให้จ่ายให้กลุ่มแกนนำเราคนละ 200 บาทต่อเดือน ห้ามมันเปิดปากบอกกับฟาร์ซิยัม และซะคาดู ไม่เช่นนั้นจะโดนเก็บและแกนนำบังคับให้ทุกคนแต่งกายด้วยเครื่องแบบมุสลิม คือผู้ชายสวมหมวกซอเกะ ส่วนผู้หญิงให้โพกผ้าฮิญ๊าบ ถ้าเป็นพวกพม่า เขมร บอกด้วยว่าเสื้อผ้ามุสลิมเป็นเกราะป้องกันตำรวจ ทหารและข้าราชการไทยได้ ตำรวจไม่กล้าจับ และเงินที่ได้ในส่วนนี้จะเก็บรวบรวมไว้ก่อการร้ายต่อไป
47. ขอให้แกนนำด้านการศึกษา ไปลบชื่อ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานีออกไป ขอให้ใช้ชื่อว่า มหาวิทยาลัยปัตตานีเฉย ๆ ถึงแม้จะเปิดเป็นมหาวิทยาลัยมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2510 แล้วก็ตาม คณาจารย์เก่า ๆ ก็ตายไปหมดแล้ว และเพื่อให้ชื่อสมเด็จพระราชบิดาหมดไป ขอให้คณาจารย์มุสลิมแสดงท่าทีแข็งแกร้าว อย่างไรเสียไทยมันไม่กล้าแน่นอนต้องยอมเรา ที่เราต้องทำอย่างนี้เพราจะให้ต่างชาติเห็นว่า เราเป็นมุสลิมเก่งเป็นเอกภาพเดียวกัน คนไทยมันไม่รู้แผนการของเราหรอก เราซื้อท่านวิจิตร ศรีสะอ้านได้แน่ ๆ
48. ขอให้คณาจารย์มุสลิมทุกมหาวิทยาลัย ทำลายงานวิจัยและประวัติศาสตร์ของประเทศไทย เน้นมากที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ให้เขียนและบิดเบือนประวัติศาสตร์รัฐปัตตานี ถึงแม้จริง ๆ มันเป็นของประเทศไทย เราต้องบิดเบือนให้ได้แล้วลง Internet ให้คนได้ได้อ่านกันให้ทั่วว่า ประเทศไทยโกงดินแดนของพวกเรา โดยให้เขียนประวัติราชอาณาจักรมลายูปัตตานี เรียกเป็นภาษายาวีว่า   สยาเราะกือราญาอันมลายู-ปัตตานีขึ้นมา และให้แปลเป็นภาษาไทยด้วย โดยให้ผู้เขียนเป็นคนมุสลิมเรา ผู้แปลก็เป็นคนมุสลิมเรา ส่วนงานวิจัยทั้งเชิงประวัติศาสตร์ที่คณาจารย์ไทยทำไว้เดิมให้ทำลายทิ้ง เช่นเรื่อง 1) เหตุใดคนตากใบ จ.นราธิวาสและคนปานาเระ จ.ปัตตานี จึงพูดใช้คำราชาศัพท์เหมือนกัน 2) งานวิจัยเรื่องสาเหตุใดคนไทยในตำบลโต๊ะโมะ อำเภอแว้ง จ.นราธิวาส จึงรู้เรื่องการทำเหมืองทองเป็นอย่างดี 3) งานวิจัยเรื่องคนไทยในรัฐไทรบุรี ปะริด กลันตัน และตรังกานู รู้สึกอย่างไรเมื่อถูกแบ่งแยกดินแดนมาอยู่กับประเทศมาเลเซีย และงานวิจัยอื่น ๆ อย่าให้มีเหลือไว้ แม้แต่เล่มเดียวในหอสมุดเคเนดี้ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
49. ในการลง Internet ทุกเรื่องให้มุสลิมเราที่มีความรู้ภาษาอังกฤษดี เขียนเป็นภาษาอังกฤษกำกับด้วย เพื่อให้ต่างชาติอ่านจะได้เคลือบแคลงและต่อว่าไทยว่า ยึดครองแผ่นดินเราจริง ๆ เมื่อมีการตัดสินหลักฐานทุกอย่างแสดงว่าเป็นของมุสลิมเรา เราก็ได้เป็นเจ้าของ ตอนนี้ต้องหลอกล่อมันทุกวิถีทาง ว่าทำเพื่ออัลลอฮ์ มันจะได้มีกำลังใจ จำไว้ว่า เราจะรับไว้กลุ่มเดียวเท่านั้นในดินแดนไทยคือ ธิดาของ ส.ส.ปัตตานีผู้ให้กำเนิดรัชทายาท ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกับนายวันนอร์ นายเด่น โต๊ะมีนา              นายนิฮูเซ็ม สุไลมาน กลุ่มมุสลิมกรุงเทพไม่เคร่ง เราไม่เอา แต่เราหลอกใช้มันไว้ก่อน
อัสลามูอาลัยกุม วาเราะห์ มาดุลลอ ฮีวา บารอกาคุหุ อัลฮัมคุลิยาฮุ
แท้จริงการสรรเสริญเป็นลัทธิของอัลลอฮ์เพียงผู้เดียว เราขอสรรเสริญพระองค์