คำพูดของพลเอกประยุทธ์ที่อ้างเหตุยังไม่ปลดล็อกพรรคการเมืองว่า ขอเอาเรื่องประชาชนก่อนการเมืองเอาไว้ทีหลัง ทำให้ผมสิ้นสงสัยถึงระดับสติปัญญาและพฤติกรรมที่กลับกลอกของท่านผู้นำ ท่านคงไม่ทราบว่าการเมืองเป็นเรื่องของประชาชน การจำกัดสิทธิทางการเมืองคือการละเมิดสิทธิมนุษยชน ทั้งที่ท่านผู้นำเพิ่งไปทำแถลงการณ์ร่วมกับสหรัฐตกลงจะปกป้องและสนับสนุนสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐาน (ตามข้อ 8)ไม่ทันไรท่านผู้นำก็ทำตรงข้ามกับที่พูดไว้อันเป็นนิสัยถาวรของท่าน
พลเอกประยุทธ์ไปพูดที่โรงเรียนเก่าของตัว อวดอ้างความกล้าหาญที่ยอมเสี่ยงชีวิตเข้ายึดอำนาจ ความจริงคือการขนกำลังทหารพร้อมอาวุธมายึดอำนาจจากรัฐบาลมือเปล่าที่มีผู้นำเป็นหญิง เกือบสี่ปีที่บริหารประเทศมีแต่เรื่องฉาวโฉ่ของตัวและพวกพ้อง เริ่มจากการอนุมัติให้องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกรับงานโดยไม่ต้องประกวดราคาแล้วเอางานไปขายชักหัวคิวแบ่งกัน อุทยานราชภักดิ์ แอบซื้อเรือดำน้ำช่วงสงกรานต์ อนุมัติงบกลางจัดซื้อเครื่องตรวจจับความเร็ว ที่เสียหายมากคือการใช้อำนาจเผด็จการสั่งปิดเหมืองทองจนอาจถูกเรียกค่าไร้สติปัญญาถึง 30,000 ล้าน แต่ท่านผู้นำกลับอ้างว่าตนไม่ต้องรับผิดชอบเพราะมีมาตรา 44 จะทำอะไรก็ได้โดยไม่มีใครทำอะไรท่านได้
พลเอกประยุทธ์มักยกย่องตัวเอง แต่ชอบกล่าวหานักการเมืองที่มาจากประชาชนว่าทำบ้านเมืองเสียหาย ถ้าพลเอกประยุทธ์กล้าไปเดินตลาดคนเดียวจะทราบว่าประชาชนยากลำบากเพราะการยึดอำนาจและการบริหารที่ไร้ประสิทธิภาพเพียงใด หรือหากอยากรู้ความจริงลองกำหนดการเลือกตั้งให้เร็วขึ้นและประกาศว่าท่านจะวางมือจากการเมือง ถ้าหุ้นตกแปลว่าท่านเป็นที่ต้องการของประชาชน แต่ถ้าหุ้นขึ้นและสัญญาณทางเศรษฐกิจดีขึ้นนั่นคือคำตอบว่าใครเป็นตัวถ่วงความเจริญของบ้านเมือง อยากรู้มั้ยท่านผู้นำ
วัฒนา เมืองสุข
สมาชิกพรรคเพื่อไทย
5 พฤศจิกายน 2560
วัฒนา เมืองสุข
สมาชิกพรรคเพื่อไทย
5 พฤศจิกายน 2560
No comments:
Post a Comment