Bright TV ได้สรุปสถานการคลังของประเทศไทย ใต้การบริหารของประยุทธ์ จันทร์โอชาและคณะฯ ดังนี้
สถานะและประมาณการการคลัง
1.ประมาณการรายได้รัฐบาลสุทธิปีงบประมาณ 2565 – 2568 เท่ากับ 2,400,000 2,490,000 2,619,500 และ 2,750,500 ล้านบาท ตามลำดับ ทั้งนี้ การจัดทำประมาณการรายได้รัฐบาลสุทธิดังกล่าวมีสมมติฐานด้านนโยบายทางภาษีที่สำคัญ ได้แก่ การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากผู้ให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์จากต่างประเทศ (e-service) รายได้จากค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อประกอบกิจการโทรคมนาคม รวมทั้งผลจากการปรับเปลี่ยนระบบสัญญาสัมปทานปิโตรเลียมเป็นระบบสัญญาแบ่งปันผลผลิต (Production Sharing Contract: PSC)
2.ประมาณการงบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ 2565 – 2568 เท่ากับ3,100,000 3,200,000 3,310,000 และ 3,420,000 ล้านบาท ตามลำดับ ซึ่งมีสมมติฐานที่สำคัญ เช่น สัดส่วนงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นร้อยละ 2.0 – 3.5 ของวงเงินงบประมาณ รายจ่ายชำระคืนต้นเงินกู้มีสัดส่วนร้อยละ 2.5 – 4 ของวงเงินงบประมาณ ค่าใช้จ่ายบุคลากรมีอัตราเพิ่มโดยเฉลี่ยไม่เกินร้อยละ 3.5 โดยใช้มาตรการให้หน่วยรับงบประมาณที่มีเงินรายได้นำมาสมทบ เป็นต้น
3.จากประมาณการรายได้รัฐบาลสุทธิและงบประมาณรายจ่ายดังกล่าวในปีงบประมาณ 2565 – 2568 รัฐบาลจะขาดดุลงบประมาณจำนวน 700,000 710,000 690,500และ 669,500 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.0 3.9 3.6 และ 3.4 ต่อ GDP ตามลำดับ
4.ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นปีงบประมาณ 2563 มีจำนวน 7,848,156 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 49.3 ต่อ GDP และประมาณการสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP สำหรับปีงบประมาณ 2565 – 2568 เท่ากับร้อยละ 57.6 58.6 59.0 และ 58.7 ตามลำดับ
(Source: https://www.brighttv.co.th/news/politics/public-debt-2020)
หากท่านสนใจความหมายของคำว่า หนี้สาธารณะและข้อมูลที่เกี่ยวข้อง สามารถไปดูที่เว็บไซต์สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ที่ https://www.pdmo.go.th/th/faq-debt. ซึ่งเว็บไซต์แห่งนี้ได้สรุปหนี้สินในประเทศและต่างประเทศดังแผนภาพข้างล่าง ว่า 98.26% เป็นหนี้ในประเทศ คิดเป็นเงิน 7, 787,183.20 ล้านบาท และที่เหลือเป็นหนี้ต่างประเทศ อีก 138,194.49 ล้านบาท
No comments:
Post a Comment